ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1598

ตอนที่ 1598 ไห่หลิน

ปีศาจทะเลอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ แรกเริ่มเดิมทีนั้น ปีศาจทะเลไม่ได้มีสติปัญญา แต่ว่า จากการสั่งสมมาเป็นเวลานาน ทำให้ปีศาจทะเลเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยทีเดียว

โดยเฉพาะในภายหลัง ปรากฏเผ่าปีศาจได้สมรสกับปีศาจทะเล ท้ายที่สุดได้ส่งผลให้ปีศาจทะเลจำนวนมากมีการพัฒนาขึ้น พวกเขาเริ่มมีสติปัญญา พวกเขาเริ่มก่อตั้งเป็นแคว้นของตนเองขึ้นมา

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อมีการเอ่ยถึงปีศาจทะเลในมหาสมุทรอุดร มักจะหมายถึงทายาทรุ่นหลังที่เกิดจากการสมรสระหว่างเผ่าปีศาจกับปีศาจทะเล

แม้ว่าปีศาจทะเลจะสมรสกับเผ่าปีศาจก็ตาม พวกเขายังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปีศาจทะเลเอาไว้ ต่อให้เวลาผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม ความเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาก็ไม่มีวันหายไป

เนื่องจากในแง่มุมหนึ่งปีศาจทะเลคือทายาทรุ่นหลังของเผ่าปีศาจกับปีศาจทะเล ดังนั้น ผู้คนจำนวนมากในมหาสมุทรอุดรจึงได้จัดให้ปีศาจทะเลเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ แต่ทว่า เมื่ออออกจากพื้นที่ของมหาสมุทรอุดรแล้ว เผ่าปีศาจจำนวนไม่น้อยกลับไม่ยอมรับว่าปีศาจทะเลคือเผ่าปีศาจเดียวกันกับพวกตน เมื่อเป็นเช่นนี้ ปีศาจทะเลกลับกลายเป็นชื่อเรียกที่เฉพาะ พวกเขาไม่นับเป็นเผ่าพันธุ์

เผ่าปีศาจและปีศาจทะเลในมหาสมุทรอุดรมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากพวกเขากระทั่งร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ด้วยเพราะเหตุนี้เอง การมาของพรรคเซียนเหินในครั้งนี้ เผ่าปีศาจและปีศาจทะเลจึงได้สามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ต่อต้านพรรคเซียนเหินร่วมกัน

ไห่หลินที่อยู่ตรงหน้าก็คือผู้ที่มีชาติกำเนิดเป็นปีศาจทะเล ลือกันว่า บรรพบุรุษของเขาคือมังกรยักษ์ที่หลับไหลอยู่ใต้ทะเลลึก ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรชนรุ่นหลังไม่มีใครรู้ แต่ว่า ตั้งแต่แรกเกิดไห่หลินก็มีเกล็ดสีมังกรทองทั้งตัว และมีเขาสีฟ้าครามคู่หนึ่ง

บางทีอาจเป็นเพราะไห่หลินมีชาติกำเนิดที่สูงส่ง มีสายเลือดที่สูงส่งยิ่งนัก ดังนั้น ไห่หลินจึงมีความแข็งแกร่งมาตั้งแต่เยาว์วัยปราศจากผู้เทียบเทียม สามารถอาศัยมือเปล่าฉีกสังหารสัตว์และวิหคดุร้ายได้

ครั้นไห่หลินเติบใหญ่ขึ้นทุกวัน ทักษะยุทธของเขาก็แก่กล้าขึ้นทุกวันเช่นกัน เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม เขาจึงได้กลายเป็นผู้นำหนุ่มของปีศาจทะเลโดยปราศจากการคัดค้าน

ขณะที่พรรคเซียนเหินเข้ายึดครองพื้นที่ทะเลเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวนั้น ไห่หลินเป็นผู้นำทัพอยู่ด้านหน้าจับทวนสามง่ามต่อต้านพรรคเซียนเหิน ไห่หลินเคยท้าสู้กับหลงอ้าวเทียน เสียดายเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงอ้าวเทียน เกือบต้องตายด้วยน้ำมือของหลงอ้าวเทียน ภายหลังถูกผู้อาวุโสช่วยเอาไว้ได้ จึงรอดพ้นเคราะห์กรรมไปได้

ต่อมา พรรคเซียนเหินที่บุกตีทะลวงได้ราวกับผ่ากระบอกไม้ไผ่ไม่มีใครสามารถต้านทานเอาไว้ได้ ไห่หลินจึงพาปีศาจทะเลจำนวนมากสู้พลางล่าถอยไปพลาง หนีลงไปอยู่ใต้ทะเลลึก ขณะที่หลงอ้าวเทียนไม่ยอมละเว้นไห่หลิน จึงไล่ติดตามลงไปยังใต้ทะเลลึก แต่ทว่า หลงอ้าวเทียนตามล่าลงไปใต้ทะเลลึก แต่ไห่หลินกลับมาปรากฏตัวที่นี่

เวลานี้ ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหิน กล่าวเยาะเย้ยว่า “ผู้ที่พ่ายแพ้ให้กับนายน้อยข้าคนหนึ่งเท่านั้น จะฆ่าเจ้าใยต้องรอให้นายน้อยกลายเป็นราชันเซียนเสียก่อน!”

“อย่างนั้นรึ?” ไห่หลินหัวเราะก๊ากออกมา กล่าวน่าเกรงขามว่า “หลงอ้าวเทียนสามารถฆ่าข้าได้หรือไม่ข้าไม่รู้ แต่ว่า วันนี้ข้ากลับสามารถสังหารสุนัขรับใช้ตัวนี้เช่นเจ้า!”

พลันที่ไห่หลินพูดคำๆ นี้ออกมา ผู้คนจำนวนมากต่างหันไปสบตากันและกัน นี่ระดับผู้อาวุโสของพรรคเซียนเหินนะเนี่ย ณ วันนี้มีสักกี่คนที่หาญกล้าด่าเขาว่าเป็นสุนัขรับใช้

สีหน้าของผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินแดงก่ำ เขาตะโกนเสียงดังออกไปทันทีว่า “ไห่หลิน เจ้าอย่าอวดดีให้มากนัก กล้าประจานพรรคเซียนเหินของข้า วันนี้ไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย!”

ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินไหนเลยจะกล้ำกลืนได้ เมื่อถูกผู้เยาว์ด่าว่าเป็นสุนัขรับใช้ ตำแหน่งเขาคือระดับผู้อาวุโสพรรคเซียนเหิน ไม่ว่าจะย่างกรายที่ใดบรรดาผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากล้วนแล้วแต่ ให้ความเคารพเขายิ่งนัก

เวลานี้ถูกคนเขาทำให้ต้องอับอายขายหน้าเพียงนี้ ในฐานะเป็นระดับผู้อาวุโสของพรรคเซียนเหินจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไร ต่อให้รู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไห่หลินเขาก็ต้องสู้ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมา

“ดี ข้าคิดเช่นนี้อยู่พอดี รับทวนสามง่ามจากข้า!” ไห่หลินนับเป็นคนดุร้ายคนหนึ่ง ไม่เปลืองน้ำลายมากนัก คำรามเสียงดัง ขณะที่ทวนสามง่ามในมือพุ่งตรงเข้าหาผู้อาวุโสพรรคเซียนเหิน

“เปิด…” ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินร้องคำรามออกมา สำแดงเคล็ดราชันออกมา เสมือนหนึ่งเงาราชันเซียนที่ผงาดฟ้าอย่างนั้น โล่ยักษ์ของเขาสูงตระหง่านดั่งภูเขายักษ์ บนโล่ยักษ์มีการสลักอักษรราชันเซียนเอาไว้เป็นจำนวนมาก เสียงราชันเซียนดังก้อง ด้วยท่าทีที่สยบผู้คน

กล่าวได้ว่า ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินนับเป็นยอดฝีมือระดับหัวแถวเหมือนกัน พลันที่เขาลงมือก็สามารถทำให้ขาทั้งสองข้างของกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องอ่อนแรง ภายใต้กลิ่นอายราชันเซียนลักษณะเช่นนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนเท่าไรที่ถูกสยบโดยพลัน

แต่ทว่า มาวันนี้ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินกลับโชคร้ายต้องมาพบกับคนดุร้ายเช่นไห่หลินเข้า จากการที่ไห่หลินร้องคำราเสียงยาวออกมา ท่าทีองอาจกล้าหาญเสมือนมังกรแท้จริงบนท้องฟ้า ทวนสามง่ามในมือคล้ายกลับกลายเป็นกรงเล็บมังกร ตะปบใส่โล่ขนาดยักษ์อย่างดุดัน

“ปัง” จากกรงเล็บมังกรที่ตะปบเข้าไปเช่นนี้ ทำให้โล่ยักษ์แหลกละเอียด ร่างของผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินถูกพลังกระแทกจนตัวลอยออกไป หลินเฮ่าตกใจยิ่งนัก รีบเร่งวิ่งเข้าไปพยุงให้เขาลุกขึ้นมา

หลายคนรู้สึกสะดุ้ง เมื่อเห็นผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินต้านไห่หลินไม่ได้แม้กระบวนท่าเดียว ไม่นึกเลยว่าไห่หลินจะมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ มิน่าล่ะ เขาถึงได้มีชีวิตรอดจากหลงอ้าวเทียนมาได้

“เสียดาย เจ้าไม่ได้มีอาวุธราชันอยู่ในมือ ไม่เช่นนั้นล่ะก็เจ้าอาจพอดิ้นรนไปได้” เวลานี้ ไห่หลินได้กล่าวน่าเกรงขามออกมา พร้อมกับทวนสามง่ามในมือได้ชี้ไปที่ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหิน

ไห่หลินไม่เพียงมีความแข็งแกร่งในตัวของเขาเองอยู่แล้ว ต่อให้ไม่เท่าหลงอ้าวเทียน แต่ก็ยากจะมีผู้ต่อกรในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกัน เขายังมีสายเลือดที่สูงส่งล้ำค่ายิ่งนัก เป็นเครื่องลิขิตว่าเขามีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่ากับผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ทวนสามง่ามในมือของเขานับเป็นสมบัติประจำเผ่ามาแต่ยุคดึกดำบรรพ์!

กำเนิดมาจากใต้ทะเลลึกเหมือนกัน เฉกเช่นไห่หลินที่มีชาตพันธุ์สูงส่งเช่นนี้ แม้ว่าจะไม่เหมือนดั่งบรรพบุรุษของว่อหลงเสวียนที่เป็นเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพที่หลงเหลือมา แต่ว่า ชาตพันธุ์ของไห่หลิน ความสูงส่งของสายเลือด ก็นับว่าเป็นหนึ่งไม่มีสองเหมือนกัน

“จะฆ่าจะแกงสุดแล้วแต่เจ้า” ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินนับว่ามีจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรียิ่งนัก แม้รู้ดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไห่หลินแต่ไม่วิ่งหนี กล่าวด้วยท่าทีที่หยิ่งทระนง

“ดี วันนี้ข้าจะตัดหัวสุนัขของเจ้า แก้แค้นให้กับเผ่าของข้า” ดวงตาทั้งสองของไห่หลินดูน่ากลัว ทวนสามง่ามจ่อที่คอหอยของผู้อาวุโสพรรคเซียนเหิน

“คุณชายไห่ โปรดยั้งมือด้วย” ในเวลานี้เอง ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว นำหน้าโดยผู้เฒ่าผู้หนึ่ง โดยที่ผู้เฒ่าได้ร้องเสียงอันดังออกมาแต่ไกล

“เจ้าบ้านยวีมาแล้ว “ มีผู้ร้องเสียงดังออกมา เมื่อเห็นผู้เฒ่าที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ผู้เฒ่าผู้นี้ก็ได้วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ เขารีบเร่งพูดออกมาว่า “คุณชายไห่ เมืองฟงเหวินคือดินแดนแห่งความสงบสุขและมงคล ไฉนจึงต้องก่อเกิดสงครามให้เลือดนองแผ่นดินกันเล่า”

ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าก็คือเจ้าบ้านยวีนั่นเอง ทุกคนล้วนแล้วแต่เรียกเขาว่าเจ้าบ้านยวี

เวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างจ้องมองไปที่ไห่หลิน แม้ว่าทักษะยุทธของเจ้าบ้านยวีหาใช่อยุ่ในอันดับต้นๆ แต่ทว่า เขามีสายสัมพันธ์ที่กว้างมากในมหาสมุทรอุดร อาศัยฐานะของบ้านตระกูลยวี กล่าวได้ว่า พ่อบ้านตระกูลยวีมีฐานะที่สูงส่งมาก

“ทำสงครามรึ?” ไห่หลินหัวเราะเยาะทีหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เรื่องนี้หาใช่ข้าไม่ให้เกียรติกับท่าน และไม่ใช่ข้าไม่ให้เกียรติบ้านตระกูลยวี นี่เป็นบุญคุณความแค้นระหว่างข้ากับพรรคเซียนเหิน พรรคเซียนเหินสังหารพี่น้องของข้า ข้าสังหารศิษย์ของพรรคเซียนเหิน ถือว่าหนี้เลือดล้างด้วยเลือด”

“คุณชายไห่ ศัตรูผูกง่ายคลายยาก วันนี้ ตระกูลยวีของข้าขอเป็นเจ้าภาพดีมั้ย? คุณชายไห่ปล่อยผู้อาวุโสพรรคเซียนเหิน เงื่อนไขคุณชายไห่เสนอมาได้” เจ้าบ้านยวีเอ่ยขึ้นมาช้าๆ

เจ้าบ้านยวีไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินต้องมาตายอยู่ที่เมืองฟงเหวิน จะอย่างไรเสีย คราวนี้พรรคเซียนเหินมาเพื่ออวยพรให้กับตระกูลยวี ในฐานะเจ้าบ้าน หากปล่อยให้ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินตายอยู่ที่นี่ล่ะก็ ทำให้ตระกูลยวีของพวกเขาต้องเสียหน้า

“เจ้าบ้านยวี ขณะอยู่ที่สนามรบไม่ปรากฏเงาของตระกูลยวี ขณะที่พรรคเซียนเหินยึดครองพื้นที่ของพวกเรา ไม่เห็นท่านก้าวออกมาให้ความเป็นธรรม ช่วยพูดให้กับปีศาจทะเลพวกเรา” คุณชายไห่พูดน้ำเสียงจริงจังว่า “เวลานี้ คนของพรรคเซียนเหินตกอยู่ในมือของข้า เจ้าบ้านยวีกลับก้าวออกมาพูดให้กับพรรคเซียนเหิน”

คำพูดของไห่หลินทำให้เจ้าบ้านยวีมีท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่พูดว่า “สนามรบส่วนสนามรบ เมืองฟงเหวินคือเมืองฟงเหวิน ไม่สามารถนำมารวมกันได้”

“เจ้าบ้านยวี เกรงว่าคงไม่อาจทำตามได้ วันนี้ คนของพรรคเซียนเหินข้าสังหารแน่” ไห่หลินพูดน่าเกรงขามออกมา โดยไม่ให้เกียรติต่อบ้านตระกูลยวี

คำพูดของไห่หลินทำให้เจ้าบ้านตระกูลยวีดูผะอืดผะอมยิ่งนัก เวลานี้เขาเหมือนขี่หลังเสือ ขึ้นก็ไม่ได้ลงก็ไม่ได้ ไม่ก็ต้องเป็นศัตรูกับไห่หลิน ทุ่มสุดกำลังช่วยเหลือผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินเอาไว้ ไม่ก็มองดูผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินถูกสังหาร

“ขอเพียงท่านปล่อยผู้อาวุโสพรรคเซียนเหิน เผ่าพันธุ์ของเจ้าจะได้รับการดูแลระดับเดียวกันขณะอยู่ที่เมืองฟงเหวิน” ในเวลานี้เอง เสียงหนึ่งดังขึ้น ปรากฏคนผู้หนึ่งอยู่หน้าเจ้าบ้านตระกูลยวี คำพูดของเขาทรงพลังและมีน้ำหนัก!

หลังจากที่คนผู้นี้ได้ปรากฏตัว เขากล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “เผ่าของท่านขอเพียงอยู่นเมืองฟงเหวิน จะไม่มีใครแตะต้องพวกเขา แม้แต่พรรคเซียนเหิน !”

“ท่านพ่อ…” เจ้าบ้านตระกูลยวีรีบเร่งโค้งคำนับ เมื่อเห็นผู้ที่ปรากฎตัวออกมาอย่างกะทันหัน

ผู้ที่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนทุกคนเป็นชายวัยกลางคนๆ หนึ่ง ดูไปแล้วอ่อนกว่าเจ้าบ้านตระกูลยวีมาก แต่ เวลานี้เจ้าบ้านตระกูลยวีกลับเรียกเขาว่า “ท่านพ่อ” ซึ่งทำให้ผู้คนจำนวนมากตกใจอย่างยิ่ง

“ยวีจู่ (บรรพบุรุษยวี)…….”ผู้ที่รู้ประวัติความเป็นมาของชายวัยกลางคน กล่าวด้วยความตระหนกว่า “หนึ่งในสามจักรพรรดิเทพบ้านตระกูลยวี”

สามจักรพรรดิเทพบ้านตระกูลยวี ยกเว้นยวีไท่จวินแล้ว ก็คือยวีจู่ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า ยังมีอีกคนคือยวีจู่จง (ทวดบรรพบุรุษยวี) หรือปูของยวีจู่ แต่ว่า น้อยคนนักที่เคยพบเห็นยวีจู่จง

ยวีจู่ที่อยู่ตรงหน้าคือระดับจักรพรรดิเทพเอก มีชื่อเสียงมานาน เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ยุคราชันเซียนท่าคง

บ้านตระกูลยวีมีขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่ว่า กลับมีระดับจักรพรรดิเทพถึงสามคน ด้วยกำลังเช่นนี้ แม้แต่สายสำนักราชันเซียนจำนวนไม่น้อยยังต้องสลดและอับแสง และสิ่งนี้ก็คือเหตุผลที่ตระกูลยวีมีชื่อเสียงโด่งดังในมหาสมุทรอุดร

ฟังว่า ในอดีตบ้านตระกูลยวีมีจักรพรรดิเทพถึงห้าคน เสียดาย ภายหลังได้ตายไปถึงสองคน ไม่เช่นนั้นล่ะก็ บ้านตระกูลยวีในวันนี้ยังเจริญรุ่งเรืองสุดขีดดั่งดวงตะวันที่อยู่กลางฟ้า!

“ยวีจู่ คำพูดนี้ท่านพูดเองนะ” ดวงตาทั้งสองของไห่หลินถึงกับเพ่งไปข้างหน้าและเอ่ยขึ้นช้าๆ เมื่อได้ยินคำพูดของยวีจู่

“ข้าพูดคำไหนคำนั้น” ยวีจู่กล่าวว่า “ขอเพียงตระกูลยวีข้ายังอยู่ คนในเผ่าของเจ้าหากปรากฎตัวที่เมืองฟงเหวิน ให้วางใจได้”

“ดี เมื่อยวีจู่รับรองเช่นนี้ ข้าเองก็พูดได้ทำได้เช่นกัน” ไห่หลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ชักทวนสามง่ามกลับมา มองดูผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินทีหนึ่ง กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “วันนี้ นับว่าดวงชะตาสุนัขของเจ้าแข็ง”

การกระทำของไห่หลินนับวาฉลาด บางทีสักวันเผ่าของพวกเขาอาจจะไม่มีที่ไป เมื่อถึงเวลานั้น เมืองฟงเหวินอาจเป็นที่หลบภัยของพวกเขา

แน่นอน ไห่หลินก็ไม่กลัวว่ายวีจู่จะไม่รักษาคำพูด จะอย่างไรเสีย คำพูดของคนในระดับนี้นับว่ามีน้ำหนักมากอยู่

ผู้อาวุโสพรรคเซียนเหินทั้งโมโหทั้งโกรธ เมื่อถูกผู้เยาว์คนหนึ่งทำให้อับอายขายหน้าถึงเพียงนี้ ทำให้เขาโกรธจนแทบคลั่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล