ตอนที่ 1601 บรรพบุรุษยวี
หลังจากที่ยวีจู่ได้สติกลับมาแล้ว สั่งการบรรดาศิษย์ที่อยู่ในจวนว่า “ห้ามทุกคนออกจากจวนเป็นการชั่วคราว ข้าจะไปพบท่านปู่เดี๋ยวนี้”
บรรดาศิษย์ทั้งหมดถึงกับหวั่นไหวในใจ รู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไร
ยวีจู่เดินลึกเข้าไปด้านในบ้านตระกูลยวี มาถึงด้านหน้าห้องที่แคบและทรุดโทรมหลังหนึ่ง เขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ไม่กล้าที่จะไม่ให้ความเคารพแม้แต่น้อย เขายืนอยู่หน้าประตู แสดงคารวะแล้วกล่าวว่า “หลานคาระท่านปู่”
“เข้ามา” เวลานี้ ภายในห้องที่แคบและทรุดโทรมปรากฏเสียงที่ดังกังวานเสียงหนึ่ง
ยวีจู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เดินเข้าไปภายในห้องที่แคบและทรุดโทรม ห้องที่แคบและทรุดโทรมมีความเรียบง่ายมาก นอกจากหนึ่งเสื่อหนึ่งโต๊ะแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอีก บนเสื่อผืนนั้นมีผู้เฒ่าที่นั่งขัดสมาธิอยู่คนหนึ่ง
ผู้เฒ่าผู้นี้มีรูปร่างที่สูงใหญ่ สวมชุดป่านที่เรียบง่าย บนตัวไม่มีสิ่งอื่นใดประดับประดา มีผมสีเงินทั้งหัวสามารถมองเห็นเป็นประกายสีเงิน เขานั่งตัวตรงอยู่ตรงนั้น เสมือนเป็นหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง
ผู้เฒ่าผู้นี้คือบรรพบุรุษยวีของบ้านตระกูลยวี ส่วนชื่อของเขานั้น ชนรุ่นหลังไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้อีก ทุกคนรู้แต่เพียงว่าเขาคือบุตรของยวีไท่จวิน บุตรเพียงคนเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม บรรพบุรุษยวีก็คือระดับจักรพรรดิเทพคนที่สองที่ยังคงเหลืออยู่ของบ้านตระกูลยวี เป็นจักรพรรดิเทพชั้นเก้าแดนที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง
ความจริงแล้ว ในอดีตบ้านตระกูลยวีมีระดับจักรพรรดิเทพถึงห้าคน นอกจากยวีไท่จวินที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้แล้ว ยังมีปฐมบรรพบุรุษของบ้านตระกูลยวี หรือก็คือสามีของยวีไท่จวิน เขาเป็นระดับจักรพรรดิเทพที่น่ากลัวยิ่งคนหนึ่ง
ระดับจักรพรรดิเทพอีกคนก็คือบิดาของยวีจู่ หรือก็คือบุตรชายของบรรพบุรุษยวี เขาก็เป็นระดับจักรพรรดิเทพที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งเช่นกัน
น่าเสียดาย ระดับจักรพรรดิเทพทั้งสองคนนี้ไม่ได้อยู่บนโลกอีกแล้ว เลือดวัฒนะแห้งเหือด เสียชีวิตท่ามกลางวิถีทางอันยาวไกล
ลองคิดดู ตระกูลขุนนางที่ไม่ใช่สายสำนักราชันเซียน กลับมีระดับจักรพรรดิเทพถึงห้าคน อีกทั้งยังมีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ ตระกูลขุนนางเช่นนี้ แม้ว่าขนาดของมันจะไม่ใหญ่มากนัก แต่ความแข็งแกร่ง ความมีชื่อเสียง กำลังความสามารถก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่ง เนื่องเพราะการมีระดับจักรพรรดิเทพเช่นนี้นี่เอง เป็นการวางรากฐานให้บ้านตระกูลยวีมีฐานะที่สูงส่งในมหาสมุทรอุดร
หลังจากที่ยวีจู่พบกับผู้เป็นปู่แล้ว แสดงคารวะแล้วกล่าวว่า “ท่านปู เกรงว่าตระกูลยวีพวกเราจะพบเจอกับศัตรูที่กล้าแข็งเสียแล้ว มีผู้ขึ้นไปบนบันไดเสียงสิบสองขั้นของพวกเรา ควบคุมพลังบันไดสิบสองขั้นของพวกเรา”
“ข้ารู้แล้ว” บรรพบุรุษยวีพยักหน้าและกล่าวช้าๆ ว่า “คนผู้นี้มีประวัติความเป็นมาเช่นใด? ”
“คนผู้นี้เป็นผู้เยาว์คนหนึ่ง ชื่อหลี่ชิเย่ ชาติกำเนิดมาจากสำนักโบราณสี่เหยียน มีผู้ยิ่งใหญ่มากมายคอยให้การสนับสนุนอยู่เบ้องหลังของเขา”
หลี่ชิเย่ สำนักโบราณสี่เหยียน “ บรรพบุรุษยวีพึมพำชื่อทั้งสองนี้ เหมือนว่าได้ตกอยู่ในห้วงความคิดไป
“คนผู้นี้มีเจตนาไม่ดี เริ่มจากทำให้ลูกหลานพวกเราบาดเจ็บสาหัส และทรมานเขา ขณะเดียวกันก็หักแขนหลานด้วยความโหดร้ายยิ่งนัก เวลานี้ เขาได้ขึ้นไปบนบันไดเสียงสิบสองขั้น ทำลายเรือรบเพลิงสวรรค์ของพรรคเซียนเหิน ท่าทีน่าเกรงขาม เกรงว่าคงเจาะจงพุ่งเป้ามาที่บ้านตระกูลยวีพวกเรา” ยวีจู่กล่าวด้วยท่าทีเป็นกังวลมาก
เรื่องนี้จะโทษยวีจู่ที่กังวลใจยิ่งก็ไม่ถูก การที่หลี่ชิเย่มาด้วยท่าทีที่น่าเกรงขาม ท่าทางไม่ได้มาดี เป็นการแสดงเจตนาพุ่งเป้ามาที่บ้านตระกูลยวีของพวกเขา อีกทั้งชื่อคนโหดอันดับหนึ่งเขาเคยได้ยินมาแล้วก่อนหน้า แล้วจะไม่ให้เขาต้องกังวลได้อย่างไร
“ไหนลองเล่าเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย” บรรพบุรุษยวีกล่าวขึ้นมาช้าๆ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้
ยวีจู่รีบเร่งรายงานเรื่องเกี่ยวกับยวีจั่นให้ฟัง สืบเนื่องจากหลังจากที่ยวีจั่นและอาของเขาถูกหลี่ชิเย่สั่งสอนแล้ว พวกเขาได้รายงานเรื่องนี้ต่อเจ้าบ้านยวี และเจ้าบ้านยวีก็ได้รายงานเรื่องนี้ต่อยวีจู่
หลังจากที่บรรพบุรุษยวีได้ฟังรายงานเรื่องนี้จบแล้ว เพียงโบกมือเบาๆ กล่าวเรียบเฉยว่า “เรื่องของผู้เยาว์ให้ผู้เยาว์ไปแก้ไข การพ่ายแพ้ให้กับผู้อื่นต้องโทษตัวเขาเองที่ฝีมือไม่ดี พยายามฝึกฝนให้หนักต่อไปเถอะ สิ่งเดียวที่เป็นกังวลก็คือเรื่องของบันไดเสียงสิบสองขั้น” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว เขาขมวดคิ้วทีหนึ่ง
“เรื่องนี้…” ยวีจู่เองก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เขารู้สึกเหนือความคาดคิดอยู่บ้างที่ท่านปู่ของเขาไม่ออกหน้าแทนผู้เยาว์ แต่ว่า เขาไม่กล้ากล่าวมากความ เนื่องจากความรู้ประสบการณ์ของปู่มีมากกว่าเขา และมีวิสัยทัศน์มากกว่าเขา การที่ปู่ของเขาพูดเช่นนี้ย่อมต้องมีเหตุผลของเขา
“หากว่าคนโหดอันดับหนึ่งสามารถควบคุมบันไดเสียงสิบสองขั้นได้จริง นับว่าเป็นภัยต่อบ้านตระกูลยวีของเรายิ่งนัก หากเป็นจริงดังว่า จำเป็นต้องกำจัดเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง” ยวีจู่กล่าวด้วยความกังวล
บรรพบุรุษยวีไตร่ตรองนิดหนึ่ง เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินมีเรื่องแปลกมากมาย ผู้ประหลาดและผู้มีวรยุทธสูงส่งมีอยู่มากมาย แต่ หากจะพูดถึงในเวลานี้ ในแดนมนุษย์กษัตรา ผู้ที่สามารถบรรลุบันไดเสียงสิบสองขั้นได้ เกรงว่าคงมีเพียงสองคนเท่านั้น”
“สองคนไหน? ”
“คนแรก กู้จุนแห่งเมืองสมุทรสยบฟ้า พรสวรรค์ของเขาสูงมาก ยากจะมีผู้ใดเทียบเทียม” บรรพบุรุษยวีกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “หากกู้จุนตั้งใจบรรลุจริงๆ เขาต้องสามารถบรรลุถึงความลึกซึ้งพิสดารที่อยู่ภายในได้แน่ เพียงแต่ ท่านแม่ยังอยู่ ไม่เห็นว่ากู้จุนอยากจะสร้างศัตรูไปรอบทิศ”
“คนที่สองเป็นใคร? ” ยวีจู่ไม่สงสัยในเรื่องพรสวรรค์ของกู้จุน จะอย่างไรเสียกู้จุนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสิบยอดอัจฉริยะบุคคลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...