“พี่หลี่ หวังว่าท่านจะเข้าใจ” จื่อชุ่ยหนิงย่อมเข้าใจดี การที่หลี่ชิเย่จะพานางไปนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรักหญิงชาย ยิ่งไม่ใช่เป็นดั่งที่ลือกัน เขาไม่ได้มาเพื่อแย่งเจ้าสาว เขาพุ่งเป้าที่กู้จุน
ในเรื่องนี้ จื่อชุ่ยหนิงมีความเข้าใจเป็นอย่างดี นางเองก็ต้องการต่อต้านกู้จุน แต่ว่า พร้อมกับการต่อต้านกู้จุนในขณะเดียวกันของนาง ยังต้องมั่นใจในความปลอดภัยของเหล่าบรรพบุรุษของสำนัก และยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของศิษย์สำนักเมืองสมุทรสยบฟ้า
ที่สมควรได้รับการแก้ไข ข้าจะแก้ไขเอง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “เจ้าต้องการให้ข้าเข่นฆ่าพรรคเซียนเหิน หรือต้องการให้ข้าเข่นฆ่าเมืองสมุทรสยบฟ้าล่ะ?”
พลันที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นศิษย์พรรคเซียนเหิน หรือยอดฝีมือเมืองสมุทรสยบฟ้าที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นสำนักปราศจากผู้ต่อกรในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เวลานี้เมื่อออกจากปากของคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว เสมือนหนึ่งกลายเป็นมดปลวกที่พร้อมถูกคนเขาบดขยี้ แล้วจะไม่ให้พวกเขารู้สึกโกรธได้อย่างไร
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้จื่อชุ่ยหนิงถึงกับนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คนอื่นไม่รู้จักหลี่ชิเย่ แต่นางรู้จักนางเข้าใจ หลี่ชิเย่หาใช่ประเภทคนบ้าที่พูดจาอวดดี หลี่ชิเย่ไม่ใช่ประเภทอวดดีและโง่เขลา เขาพูดได้ย่อมทำได้ เขาบอกว่าจะเลือดล้างก็ต้องเลือดล้างแน่นอน ถ้าเขาบอกว่าจะเข่นฆ่าก็ต้องเข่นฆ่าแน่นอน เพราะว่าเขาคือหลี่ชิเย่!
“ตกลง ในเมื่อพี่หลี่ร้องขอเช่นนี้ ข้าติดตามพี่หลี่ไปก็แล้วกัน” สุดท้าย จื่อชุ่ยหนิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจัง
ในเวลานี้ นางจำต้องปรับแผนการต่อต้านกู้จุน และเย่จิ่วโจว เมื่อหลี่ชิเย่ลงมือ บางทีอาจสามารถทำลายการครอบครองเมืองสมุทรสยบฟ้าของกู้จุน และเย่จิ่วโจวจากทิศทางอีกทางหนึ่ง!
“คนโหดอันดับหนึ่งมีความอหังการเช่นนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ตาม ล้วนแล้วแต่ยินดีติดตามผู้ชายแบบนี้” สิ่งนี้ได้ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ยืนอยู่ในระยะห่างไกลถึงกับทอดถอนใจออกมา เมื่อเห็นจื่อชุ่ยหนิงถึงกับยินดีไปกับคนโหดอันดับหนึ่ง
พลันที่จื่อชุ่ยหนิงพูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้สีหน้าของเมิ่งหลงหวางเปลี่ยนไปทันที หน้าที่ของเขาคือห้ามบุคคลภายนอกติดต่อกับจื่อชุ่ยหนิง เวลานี้หากจื่อชุ่ยหนิงไปจากที่นี่ล่ะก็ เขาใช่เพียงแค่ทำให้ผู้เป็นอาจารย์ต้องผิดหวังที่มอบหมายหน้าที่ให้กับเขาเท่านั้น
“ท่านเจ้าเมือง เมืองสมุทรสยบฟ้าของพวกเราจะไม่ก้มหัวให้กับใครเด็ดขาด!” เมิ่งหลงหวางพูดด้วยเสียงอันดังออกมาทันที
“จื่อชุ่ยหนิงเพียงมองดูเมิ่งหลงหวางเมินเฉยทีหนึ่ง แน่นอนย่อมรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ นางพูดเรียบเฉยออกมาว่า “ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชายหลี่!”
“ต่อให้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ เมืองสมุทรสยบฟ้าพวกเรายังคงจะสู้ ในฐานะศิษย์ของเมืองสมุทรสยบฟ้า จะไม่ยอมถอยหนีอย่างเด็ดขาด…” เมิ่งหลงหวางกล่าวด้วยท่าทีหนักแน่น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถปล่อยให้คนโหดอันดับหนึ่งพาตัวจื่อชุ่ยหนิงไปโดยไม่ขัดขืน มิฉะนั้นแล้ว เขาไม่สามารถอธิบายต่อผู้เป็นอาจารย์ได้
“เช่นนั้นแล้วก็สงเคราะห์เจ้า ฆ่าพวกเขาเสีย” หลี่ชิเย่พูดตัดบทคำพูดที่หนักแน่นของเมิ่งหลงหวาง สั่งการกับข่งเชียะหมิงหวางที่ปลอมตัวเป็นคนรับใช้อยู่ข้างกาย
“เตรียมต่อสู้…” เมิ่งหลงหวางรู้ว่าไม่สามารถจบได้ด้วยดี เขาร้องเสียงดังออกไป ตัวเขาเองมีเพียงสู้ทางเดียวเท่านั้น เขาจะไม่สามารถสู้หน้าอาจารย์ของตนได้หากหนีโดยไม่ทันได้ต่อสู้!
“ตึง ตึง ตึง…” ทันใดนั้น บรรดายอดฝีมือที่เฝ้าอยู่ที่หอโบราณทั้งหมดต่างชักดาบและกระบี่ออกจากฝัก ลมปราณดั่งสายรุ้ง กลิ่นอายการฆ่าอบอวลไปทั่วบริเวณในทันที
“ฆ่า…” เวลานี้ ข่งเชียะหมิงหวางไม่มีท่าทีที่ลังเลแม้แต่น้อย ร้องเสียงดังออกมาพร้อมกับเหินฟ้าขึ้นไป เสมือนหนึ่งหงส์ฟ้าที่โผบินเข้ากลีบเมฆ พลันลงมือด้วยกระบวนท่ามากมาย ทุกท่วงท่าที่ฟาดฟันลงมานั้น ประหารสุริยาอัสดง ยิงจันทราสุกสกาว ประกายเจิดจรัส อานุภาพสะเทือนแปดทิศ องอาจห้าวหาญดุดันยิ่งนัก
“ปัง ปัง ปัง…” เสียงแตกหักดังขึ้นเป็นระลอก ตามมาด้วยเสียงร้องอันน่าเวทนา บรรดายอดฝีมือที่สวมเสื้อเกราะในมือถืออาวุธคมกริบเหล่านั้นไม่สามารถต้านรับกับข่งเชียะหมิงหวางได้เลย ถูกนางสังหารจนแตกพ่ายภายในระยะเวลาอันสั้น
ข่งเชียะหมิงหวางมีฐานะเป็นเจ้าเมืองเมืองหมิงจู ได้รับการยอมรับจากเมืองหมิงจู ทั้งยังได้รับการชี้แนะจากหลู่ฉางซุน ทักษะของนางนับว่ามีอันดับในเมืองสมุทรสยบฟ้าอย่างแน่นอน
ภาพนี้ได้สร้างความตระหนกแก่ผู้คนจำนวนมาก เมื่อเห็นลำพังแค่คนรับใช้คนหนึ่งก็สามารถจัดการสังหารยอดฝีมือเมืองสมุทรสยบฟ้าจนยับเยินดั่งใบไม้ร่วง แม้แต่คนรับใช้ยังแข็งแกร่งขนาดนี้ คนข้างกายของคนโหดอันดับหนึ่งเรียกได้ว่าออกจะเป็นพยัคฆ์หมอบมังกรเร้นกายเกินไปแล้วกระมัง ด้วยความสามารถเช่นนี้ไม่ว่าไปอยู่ ณ แห่งหนใดก็ต้องเป็นบุคคลระดับเจ้าถิ่นแน่นอน เวลานี้กลับมาอยู่ในฐานะคนรับใช้ข้างกายของคนโหดอันดับหนึ่ง ดูจะอหังการเกินไปแล้ว!
“อย่าได้กำเริบเสิบสาน!” เวลานี้ เมิ่งหลงหวางไม่อาจไม่ลงมือด้วยตนเอง เขาตวาดเสียงดังและเหินฟ้าขึ้นไป พลันปรากฏทั่วทั้งร่างพวยพุ่งเป็นประกายออกมา ประกายที่เจิดจ้าละลานตาพลันจะเข้าครอบคลุมตัวของข่งเชียะหมิงหวางเอาไว้
ประกายทั้งหมดที่ถูกยิงเข้าใส่สามารถยิงทะลุทุกอย่าง สามารถทำให้ร่างของคนๆ หนึ่งกลายเป็นรูพรุนเหมือนดั่งตะแกรง แต่ว่า ข่งเชียะหมิงหวางร้องเสียงดังออกมา ปรากฎวงแหวนเทวะครอบคลุมกาย ได้ยินเสียงดัง “ตูม” ต้านประกายที่ยิงเข้ามาโดยเมิ่งหลงหวางเอาไว้ได้
แต่ทว่า ได้ยินเสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ประกายบนตัวของเมิ่งหลงหวางกลับเจิดจ้ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก ดูยิ่งละลานตากว่าเดิม พลันประกายที่ไม่มีสิ้นสุดไร้ขอบเขตได้เข้าปกคลุมตัวของข่งเชียะหมิงหวางเอาไว้ทั้งหมด ร่างของข่งเชียะหมิงหวางจมหายเข้าไปในทะเลแสงนี้ในทันที
ประกายที่เปล่งออกมาจากตัวของเมิ่งหลงหวางนับว่าเจิดจ้ามากเหลือเกิน ยามที่ผู้คนจำนวนมากมองเห็นทะเลแสงนั้น พลันรู้สึกเหมือนวิญญาณในตัวหวั่นไหวโอนเอนไปมา เหมือนหนึ่งวิญญาณจะออกไปจากร่างตนเองอย่างนั้น
“นี่คือเคล็ดวิชาจิตเคลิบเคลิ้มของเมืองสมุทรสยบฟ้า อย่าไปจ้องประกายนั่น มิฉะนั้นล่ะก็มันจะทำให้เจ้ามึนงงได้” ผู้อาวุโสรีบกล่าวเตือนผู้เยาว์และคอยคุ้มกันให้กับผู้เยาว์ของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...