ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1614

ตอนที่ 1614 ยิงถล่ม
เกรงว่านี่คือการเข่นฆ่าที่อหังการ โหดเหี้ยม แปลกประหลาดที่สุดที่เคยเห็นในชั่วชีวิตของคนๆ หนึ่ง ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าแปลกประหลาดจนไม่สามารถบรรยายได้อีกแล้ว

ตั้งแต่ต้นจนจบ หลี่ชิเย่ไม่ปรากฏพลังลมปราณ ไม่ได้สำแดงกระบวนท่าใดๆ แม้กระบวนท่าเดียว จากการยิงถล่มด้วยปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องไปรอบหนึ่ง บรรดาศิษย์พรรคเซียนเหินถูกยิงสังหารจนชิ้นส่วนมือเท้ากระจายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมดทุกแห่งหน

ทุกคนต่างรู้สึกขนลุกขนพอง มองดูปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องทีอยู่ในมือหลี่ชิเย่ด้วยความหวาดกลัว ขนาดศิษย์พรรคเซียนเหินที่กลับกลายเป็นเสมือนดั่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังถูกยิงสังหารโดยพลัน หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นยิ่งไม่สามารถต้านได้เลย

“ฆ่า…” บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินอดที่จะคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่ได้! เมื่อการเข่นฆ่าจากปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องเกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกิน กระทั่งชั่วชีวิตของจักรพรรดิเทพโลกาอย่างเขายังไม่เคยพบเห็นเรื่องราวที่สยองมากถึงเพียงนี้มาก่อน

ครั้นเห็นศิษย์พรรคเซียนเหินถูกสังหารในลักษณะเช่นนี้ เขาจึงอดคำรามอย่างบ้าคลั่งออกมาไม่ได้ อาวุธราชันเซียนในมือคำรามก้องไปเก้าชั้นฟ้า อานุภาพราชันอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทันใดนั้น ปรากฏหลักกฎเกณฑ์แต่ละสายที่ลงมาจากฟากฟ้าดั่งน้ำตกสวรรค์ หลักกฎเกณฑ์ที่น่ากลัวบดขยี้ลงมา ดวงดาวถูกทำลาย น้ำทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลแห้งขอด ความน่ากลัวของอานุภาพเช่นนี้ ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกขนพอง

แม้จะกล่าวว่า อาวุธราชันเซียนที่อยู่ในมือของบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินจะไม่ใช่สัจอาวุธราชันเซียน แต่ว่า ต่อให้เป็นแค่อาวุธราชันเซียนเมื่อถูกสำแดงพลังของมันจากจักรพรรดิเทพโลกาแล้วก็มีความน่ากลัวยิ่งนัก และสร้างความขนลุกขนพองให้กับผู้คนยิ่ง

“มาได้จังหวะ” หลี่ชิเย่หัวเราะออกมา เมื่อต้องเผชิญกับกฎเกณฑ์ราชันเซียนที่โจมตีเข้ามา ปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องพลันล็อกเป้าหมายที่เป็นหลักกฎเกณฑ์ราชันเซียนเอาไว้ทั้งหมด

“ตับ ตับ ตับ…” ทันใดนั้น กระบอกปืนทั้งสิบแปดพลันหมุนอย่างรวดเร็ว และร้อนจนกระบอกทั้งสิบแปดกลายเป็นสีแดง อนุภาพลำแสงถูกยิงสาดออกไปยังหลักกฎเกณฑ์ราชันเซียนทุกสายเหมือนดั่งพายุฝนที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง

ทันใดนั้น ได้ยินเสียงดัง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ต่อให้เป็นหลักกฎเกณฑ์ราชันเซียนก็ไม่สามารถต้านทานพลังทำลายที่รุนแรงเอาไว้ได้ ถูกยิงจนทะลุในทันที!

แม้ว่าอาวุธราชันเซียนที่อยู่ในมือของบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินจะมีความยอดเยี่ยมเป็นอันมาก แต่ทว่า ปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า ปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องที่อยู่ในมือของเขาไม่เพียงเป็นการลงมือหลอมสร้างโดยราชามังกรดำ และราชันเซียนหยินเทียนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้สูญเสียพลังกายใจของหลี่ชิเย่ ไปจำนวนนับไม่ถ้วน วัตถุดิบที่ใช้สร้างยังเป็นผลึกเซียนที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองในหล้า ซึ่งมาจากเหมือนแร่เซียนปีศาจระกาอีกด้วย

สำหรับมังกรไฟที่ใช้เป็นพลังทำลายล้างนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ละลูกถูกหลอมกลั่นขึ้นมาจากดวงอาทิตย์ พลานุภาพของมันไม่อาจจินตนาการได้อย่างสิ้นเชิง

“ตึง ตึง ตึง…” ทันใดนั้นเอง เสียงที่เกิดจากการยิงโจมตีดังขึ้นเป็นระลอก ภายใต้การระดมยิงของปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องไปแล้ว ต่อให้เป็นระดับบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินก็ทำได้แค่เปลี่ยนจากการรุกเป็นรับ อาศัยอาวุธราชันเซียนปกป้องกายของตนเอาไว้

เมื่อเป็นเช่นนี้ อนุภาคลำแสงที่ถูกระดมยิงเข้ามาอย่างรุนแรงจึงไม่ได้ยิงทะลุร่างของเขา แม้ว่าอาวุธราชันเซียนสามารถต้านการระดมยิงของปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องเอาไว้ได้ แต่ทว่า บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินในเวลานี้ก็ไม่สามารถโจมตีต่อหลี่ชิเย่ได้ เนื่องจากพลังโจมตีของปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องรุนแรงเหลือเกิน

ผู้คนที่ยืนดูจากระยะห่างไกลถึงกับเสียวสันหลังวาบบ เมื่อเห็นภาพของจักรพรรดิเทพโลกาซึ่งมีอาวุธราชันเซียนในมือยังคงตั้งรับอย่างเดียว อานุภาพของอาวุธนี้มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

“เสียดาย อาวุธราชันเซียนชิ้นนี้ของเจ้าด้อยไปนิดหนึ่ง ถ้าหากเจ้านำเอาสัจอาวุธราชันเซียนมาล่ะก็ อาศัยความสามารถของเจ้ายังพอได้ เมื่อไม่ใช่สัจอาวุธราชันเซียนคงได้แต่ทนโดนเล่นงานอย่างเดียวแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว

สีหน้าของบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินดูไม่จืดถึงที่สุด เมื่อถูกหลี่ชิเย่เยาะเย้ยเช่นนี้ แม้ว่าพรรคเซียนเหินจะมีอาวุธราชันเซียนอยู่มากมาย แต่ว่า ยอดฝีมือของพรรคเซียนเหินก็มีอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน พรรคเซียนเหินของพวกเขามีอยู่ด้วยกันห้าสาย จำนวนผู้ที่อยู่ในระดับจักรพรรดิเทพมีมากจนบุคคลภายนอกไม่อาจจินตนาการได้

ขณะที่อาวุธราชันเซียนที่อยู่ในมือของเขานั้น ในบรรดาอาวุธราชันเซียนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุดิบหรือว่าการหลอมสร้าง นับได้ว่าอยู่ในระดับกลางสูงแล้ว เวลานี้กลับถูกหลี่ชิเย่เปรียบจนย่ำแย่ขนาดนั้น สร้างความอับอายและโกรธแค้นให้เขายิ่งนัก อย่างไรก็ตาม ภายใต้การสยบของปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องแล้ว เขาเองก็ต้องจนด้วยเกล้า

“คร๊ากก…” ทันใดนั้นเอง หลี่ชิเย่ได้ทำการเปลี่ยนมังกรไฟลูกใหม่เข้าไปแทนที่ลูกเก่าด้วยท่วงท่าที่ต่อเนื่องและชำนาญ ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ฉับพลันนั้นก็ได้เปลี่ยนเอามังกรไฟลูกใหม่จนเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินได้สติก็พลาดโอกาสไปเสียแล้ว เขาเองนึกไม่ถึงว่าอาวุธชนิดนี้ต้องมีการเปลี่ยนมังกรไฟด้วย

“คร๊ากก…” ในเวลานี้เอง ปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องหาใช่เป็นการหมุนของหลอดลำแสงสิบแปดหลอดอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นหกหลอดรวมเป็นหนึ่ง หลอดลำแสงสิบแปดหลอดพลันกลายเป็นหลอดลำแสงขนาดเขื่องเรียงตามลำดับสามหลอด

“ฟ่าวว…” หลอดลำแสงที่เรียงตามลำดับสามหลอดพลันยิงกระสวยบินที่มีขนาดเท่ากำปั้นออกมาสามอัน จากนั้น ได้ยินเสียงดัง “ปัง” กระสวยบินทั้งสามได้เข้าล็อกช่องว่างที่บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินยืนอยู่โดยพลัน

“ตูม…ตูม…ตูม…” ทันใดนั้นเอง กระสวยบินทั้งสามได้ระเบิดขึ้นมาพร้อมๆ กัน จัดการระเบิดช่องว่างที่บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินอยู่นั้นแหลกเป็นจุณ กลายเป็นหลุมดำขนาดเล็กหลุมหนึ่ง

มันเป็นการระเบิดทำลายช่องว่าง ต่อให้บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินคิดจะหลบหนีไปโดยอาศัยช่องว่างนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ร่างของบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินถูกแรงระเบิดจนตัวปลิว และกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง

อาวุธราชันเซียนที่คอยคุ้มกายของเขานั้นไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่ว่า ภายใต้พลังกระแทกที่น่ากลัวเช่นนี้ ต่อให้เป็นอาวุธราชันเซียนก็ไม่สามารถคุ้มครองให้เขาปลอดภัยจากการบาดเจ็บ

พลังกระแทกนี้รุนแรงเหลือเกิน หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ต่อให้มีอาวุธราชันเซียนคอยคุ้มครอง ก็ต้องถูกพลังกระแทกจนกระดูกแตกละเอียด หรือกระทั่งเสียชีวิต

“ฟ่าวว ฟ่าวว ฟ่าวว…” ทันใดนั้นเอง ปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องได้ทำการยิงโจมตีเป็นชุดอีกครั้ง ทุกครั้งจะยิงกระสวยบินสามลูกออกมา แล้วจัดการล็อคช่องว่างเอาไว้ทันที จากนั้นก็จะเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

“ตูม…ตูม…ตูม…” เสียงดังดั่งฟ้าถล่มดินทลาย หลังจากที่ระเบิดเป็นชุดแล้ว ช่องว่างนี้ถูกระเบิดจนแหลกลาญไม่เหลือชิ้นดี คงเหลือไว้ซึ่งร่องรอยที่น่ากลัว ด้วยอานุภาพการระเบิดเช่นนี้ เกรงว่าช่องว่างแถบนี้คงยากที่จะฟื้นฟูกลับไปดังเดิมภายในระยะเวลาอันสั้น

ภายใต้การคุ้มครองของอาวุธราชันเซียน บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินถูกแรงระเบิดจนตัวลอยครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระอักเลือดออกมาอย่างแรง หากไม่ใช่เพราะมีอาวุธราชันเซียนในมือคงถูกระเบิดจนเสียชีวิตไปนานแล้ว

บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินในเวลานี้ถูกทำให้ตกใจจนใบหน้าขาวซีด แม้ว่าเขาจะเป็นถึงระดับจักรพรรดิเทพโลกา แต่ก็ตกใจไม่เบาเลย

ดังนั้น เขาจึงถือโอกาสที่หลี่ชิเย่ลงมือช้าลงนิดหนึ่ง หันหลังหลบหนีไปทันที โดยก้าวข้ามช่องว่างในฉับพลันทันที เพื่อหนีไปไห้พ้นจากพื้นที่ทะเลบริเวณนี้

“ข้ารอให้เจ้าหนีอยู่นี่แหละ” อย่างไรก็ตาม ขณะบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินกำลังจะก้าวข้ามช่องว่างไปนั้น หลี่ชิเย่พลันล็อคตำแหน่งเป้าหมายของเขาเอาไว้ “ฟ่าวว” กระสวยบินสามลูกถูกยิงออกไป “ตูม” เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับช่องว่างดังกล่าวถูกทำลาย

“อ๊ากก…” เสียงร้องน่าเวทนาได้ดังขึ้น บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินถูกระเบิดจนร่างแหลกเหลวไปโดยพลัน เลือดสดๆ ลอยคละคลุ้ง เขาคิดจะอาศัยอาวุธราชันเซียนมาคุ้มครองตนในเสี้ยววินาทีสุดท้าย แต่ ไม่ทันกาลเสียแล้ว

บรรพบุรุษพรรคเซียนเหินถูกทำให้ตกใจจนลนลานไปหมด แล้วหลี่ชิเย่ก็แกล้งเปิดโอกาสให้เขาได้หนี เมื่อเขาหนีจึงเข้าแผนหลี่ชิเย่ ในทันที แต่ถ้าหากเขารอจนกว่าจังหวะที่หลี่ชิเย่ต้องเปลี่ยนมังกรไฟลูกใหม่แล้วหนีไปในจังหวะนั้น ไม่แน่นักเขาอาจหลบหนีไปได้สำเร็จจริงๆ

ในเวลานี้ ปลายปากกระบอกปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องยังคงเปลวไฟที่ปะทุแลบออกมา หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ ความร้อนแรงตรงนั้นจึงค่อยจางหายไป หลี่ชิเย่ใช้ปากเป่าลมเบาๆ เห็นเป็นควันที่ลอยขึ้นมา

“เฮ่อ คำว่าไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ แม้แต่ระดับจักรพรรดิเทพโลกายังทำไม่ได้ ดูท่าคงผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายน้อยเกินไป จังหวะระหว่างความเป็นความตายจึงยังไม่นิ่งพอ” หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้เป่าให้ควันจากปลายกระบอกปืนจางหายไปแล้ว ได้พูดขึ้นด้วยท่าทีเอ้อระเหยออกมา

ในเวลานี้ บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับนิ่งเงียบ ทุกคนที่ยืนดูเหตุการณ์จากระยะห่างไกลถึงกับขนลุกขนพอง โดยเฉพาะเมื่อมองไปที่ปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่แล้ว ยิ่งทำให้ถึงกับต้องร่างสั่นเทิ้มขึ้นมา

นี่มันคือพรรคเซียนเหินนะเนี่ย เพียงชั่วพริบตาเดียว ฐานที่มั่นของพรรคเซียนเหินก็ถูกหลี่ชิเย่ทำลายทิ้งไป แม้แต่ระดับจักรพรรดิเทพโลกายังไม่สามารถหนีจากความตายไปได้ อาวุธลักษณะเช่นนี้ดูจะสยดสยองมากเหลือเกิน

เป็นความจริงที่ปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องนั้นน่ากลัวมาก จุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของมันก็คือ หากมีสักวันมังกรไฟถูกใช้จนหมด มันก็จะไม่เหลือพลังอำนาจอะไรอีกเลย ใช้ได้เพียงชื่นชมเท่านั้น

ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือที่ยืนดูอยู่ระยะห่างไกลต่างรู้สึกหนาวสะท้านภายในใจ ก่อนหน้านั้นเผ่าปีศาจ และปีศาจทะเลเคยรอบรวมกำลังเพื่อรุกกลับมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่สามารถตีอาณาจักรแห่งนี้ให้แตกได้ ตรงกันข้าม กลับถูกพรรคเซียนเหินตีจนแตกพ่ายดั่งใบไม้ร่วง

เป็นไงล่ะตอนนี้ หลี่ชิเย่กลับทำลายฐานที่มั่นของพรรคเซียนเหินจนสิ้นอย่างง่ายดายเสียนี่ ช่างน่าสยองเหลือเกิน ไม่ว่าใครที่เห็นแล้วก็ต้องรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้ากันและกัน รู้สึกหวาดกลัวยิ่งกับอาวุธที่อยู่ตรงหน้าชิ้นนี้

“อา อาวุธนี้มาจากที่ไหนกัน?” มีผู้เอ่ยถามขึ้นเบาๆ

หลายคนล้วนแล้วแต่ส่ายหัวไม่รู้ว่าอาวุธชิ้นนี้มาจากที่ไหน มีเพียงระดับบรรพบุรุษที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกับตระกูลยวีจึงนึกถึงตำนานเรื่องหนึ่ง เป็นตำนานที่เกี่ยวกับตระกูลยวี นาทีนี้ พวกเขาพอจะรู้ลางๆ แล้วว่า อาวุธที่น่ากลัวชิ้นนี้มาจากที่ใดกันแน่แล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิเทพที่แข็งแกร่งมาก ต่างรู้สึกหวาดกลัวต่อตระกูลยวียิ่งนัก เมื่อมีอาวุธนี้อยู่ในมือ ใครกล้าเป็นศัตรูกับตระกูลยวี

“เวลานี้ควรถึงตาเจ้าแล้วสินะ” หลี่ชิเย่กล่าว พร้อมกับมองยิ้มแต้กับเมิ่งหลงหวาง

ใบหน้าของเมิ่งหลงหวางพลันซีดเผือด เขาถูกทำให้ตระหนกเช่นกัน อาวุธลักษณะเช่นนี้น่ากลัวเหลือเกิน ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้เห็นอาวุธที่น่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อน!

“ไม่ต้องให้เจ้าต้องลงมือ ข้าจัดการเองได้!” เมิ่งหลงหวางรู้ว่าตัวเองหนีไม่รอดอยู่แล้ว เขามีความแข็งกร้าวพอที่จะจัดการตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้หลี่ชิเย่ลงมือ

เสียงดัง “ปัง” เมิ่งหลงหวางหงายหลังตึง เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด เสียชีวิตไปในทันที

จื่อชุ่ยหนิงได้แต่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว แม้ว่าเมิ่งหลงหวางเป็นศิษย์ของเย่จิ่วโจว เป็นแนวหน้าที่ก่อการชิงอำนาจในครั้งนี้ แต่ทว่า ในฐานะที่เป็นศิษย์ของเมืองสมุทรสยบฟ้าคนหนึ่ง ถึงตายก็ไม่ยอมร้องขอชีวิต นับว่าไม่ทำให้ความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเมืองสมุทรสยบฟ้าต้องเสียหาย! ไม่ทำให้เมืองสมุทรสยบฟ้าพวกเขาต้องเสียหน้า

“เอาล่ะ ภารกิจของข้าได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เสียดาย ไม่พบผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหิน” หลี่ชิเย่เก็บปืนจิงหวู่สิบแปดลำกล้องขึ้น กล่าวพร้อมกับทำท่าให้ฝ่ามือทั้งสองสัมผัสขึ้นลง

แน่นอนที่สุด ผู้บำเพ็ญตนที่ยืนดูอยู่ระยะห่างไกลย่อมไม่กล้าพูดอะไรออกมา ทุกคนต่างนิ่งเงียบ ผลงานการสู้รบเช่นนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว มันน่ากลัวมากเหลือเกิน

ผลงานการสู้รบเช่นนี้ทำให้พวกเขาอดที่จะตั้งคำถามขึ้นมาในใจไม่ได้ว่า หากหลงอ้าวเทียนได้พบกับคนโหดอันดับหนึ่งเข้าให้จริงๆ หลงอ้าวเทียนมีสิทธิ์เอาชนะได้จริงหรือ?

นับตั้งแต่พรรคเซียนเหินปรากฏตัวขึ้นที่มหาสมุทรอุดรแล้ว ความโดดเด่นของหลงอ้าวเทียนนั้นเรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้ ท้าสู้ไปทั่วหล้า ต่อสู้สิบวันสิบคืนโดยไม่พ่ายแพ้ ฉายาจ้าวแห่งชนะเลิศสิบรายการ

เวลานี้ คนโหดอันดับหนึ่งได้มีการลงมืออีกครั้ง จึงทำให้ผู้คนอดที่จะเริ่มสงสัยไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล