หลี่ชิเย่ไม่ถือสา หยิบขวดหยกพิสุทธิ์ที่ลอยน้ำอยู่ในแอ่งน้ำ จากนั้นเอาผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองม้วนแล้วค่อยๆ หย่อนลงไปในขวดหยกพิสุทธิ์
ทันทีที่ผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองถูกหย่อนลงไปในขวดหยกพิสุทธิ์ ได้ยินเสียงดัง “จี๊ดจี๊ดจี๊ด” ขึ้นมา เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังถูกละลาย จากนั้น เห็นปากขวดหยกพิสุทธิ์มีควันลอยม้วนตัวขึ้นมา เหมือนว่าควันที่ลอยขึ้นมาเป็นควันพิษอย่างนั้น
หลี่ชิเย่มองดูควันที่ม้วนตัวลอยขึ้นมา ยิ้มกล่าวว่า “ช่างเป็นคำสาปที่น่ากลัวเหลือเกิน กาลเวลาที่ผ่านไปอย่างยาวนาน เคยผนึกเพื่อชำระล้างมาช้านาน พิษที่หลงเหลืออยู่ยังคงน่ากลัวขนาดนี้”
ครั้งนั้น ผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองนี้ถูกผนึกเอาไว้ในกระปุกดินเผาเคลือบโบบราณ ผ่านการผนึกและชำระล้างมาอย่างยาวนาน แต่ว่า ยังคงมีพลังคำสาปที่น่ากลัวเช่นนี้ ย่อมประเมินได้ว่าคำสาปลักษณะเช่นนี้ในครั้งนั้นมันน่ากลัวและน่าตกใจเพียงใด
หลังจากที่หลี่ชิเย่ผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองถูกใส่เอาไว้ในขวดหยกพิสุทธิ์แล้วได้เก็บมันเอาไว้ จากนั้นมองดูน้ำแก่นผลึกที่สะสมอยู่จนเป็นแอ่งนั่นถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา และกล่าวว่า “แม้ว่าจะเป็นของเสียแต่ก็อย่าให้พลาดโอกาส ควรใช้มันให้เกิดประโยชน์”
แม้ว่าส่วนที่เป็นแก่นทั้งหมดของน้ำแก่นผลึกที่อยู่ในแอ่งน้ำนั้นจะถูกขวดหยกพิสุทธิ์ดูดเอาไปจนหมดสิ้น แต่ว่าผลึกพิสุทธิ์กาลเวลาเป็นของวิเศษเซียนที่พบได้ยากมาก ผู้คนในโลกไม่สามารถได้สิ่งของเช่นนี้อยู่แล้ว ที่ล้ำค่ามากไปกว่านั้นก็คือ ผลึกพิสุทธิ์กาลเวลากว่าจะมีน้ำแก่นผลึกซึมออกมาได้หยดหนึ่งต้องใช้เวลานานถึงหนึ่งหมื่นปี ย่อมประเมินได้ว่าน้ำแก่นผลึกล้ำค่าเพียงใดแล้ว
แอ่งน้ำที่อยู่ตรงหน้าถูกดูดเอาส่วนที่เป็นแก่นไปจนหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ซึ่งหลี่ชิเย่เรียกมันว่าเป็นน้ำเสียนั้น ความจริงแล้ว กล่าวสำหรับ มนุษย์ปุถุชนต่อให้เป็นน้ำเสียยังคงเป็นน้ำทิพย์ที่ล้ำค่ายิ่งนัก!
“ข้ามีของสิ่งหนึ่งต้องการล้างเอาสิ่งเจือปนออกไปอยู่พอดี ต้องการทำให้มันบริสุทธิ์” หลี่ชิเย่ ยิ้มพร้อมกับเปิดลัคนาออก และปล่อยสิ่งหนึ่งออกจากแปลงสมุนไพร
สิ่งที่หลี่ชิเย่ปล่อยออกมาจากแปลงสมุนไพรเซียนในลัคนาก็คือเถาวัลย์สุริยัน มันถึงกับร้องออกมาด้วยความดีใจเมื่อถูกหลี่ชิเย่ปล่อยออกมา
เมื่อเถาวัลย์สุริยันมองเห็นน้ำแก่นผลึกที่สะสมจนกลายเป็นแอ่งน้ำถึงกับตื่นเต้นยิ่งนัก อดที่จะร้องออกมาด้วยความดีใจ จากนั้น “ตูม” กระโดดปักลงไปในแอ่งน้ำนั่น
ความจริงแล้ว สิ่งที่หลี่ชิเย่เรียกว่า “น้ำเสีย” ในแอ่งน้ำนั่น มันคือน้ำทิพย์ที่ล้ำค่ายิ่งนัก โดยเฉพาะในด้านการชำระล้างยากที่จะมีน้ำทิพย์ใดๆ สามารถเทียบเคียงกันมันได้
หลังจากที่เถาวัลย์สุริยันได้หยั่งรากลงในแอ่งน้ำ ได้ทำการดูดซึมน้ำแก่นผลึกอย่างบ้าคลั่ง แทบอยากจะดูดน้ำในแอ่งให้หมดในคำเดียว ดังนั้น เวลานี้จึงได้ยินเสียงดัง “จ๊าบ จ๊าบ จ๊าบ” คล้ายวัวดื่มน้ำ
เวลานี้ เถาวัลย์สุริยันมีสีดั่งทองคำไปทั้งต้น ทั้งกิ่งและใบทั้งหมดล้วนแล้วแต่เหมือนหล่อขึ้นมาจากทองคำ ภายในกายของเถาวัลย์สุริยันมีประกายสีแดงที่ไหลริน เหมือนว่าในกายของเถาวัลย์สุริยันมีไฟที่ร้อนแรงหลั่งไหลอยู่ และดูเหมือนว่าไฟร้อนแรงที่หลั่งไหลอยู่ในกายของเถาวัลย์สุริยันมีความรุนแรงยิ่งนัก สามารถเผาผลาญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างได้
เถาวัลย์สุริยันคือเถาวัลย์เซียนที่พบเห็นได้ยากมากชนิดหนึ่ง ภายในกายของมันได้เก็บเพลิงแก่นที่น่ากลัวเอาไว้ ซึ่งเพลิงแก่นชนิดนี้มีชื่อว่าเพลิงแก่นสุริยันเขียว เพลิงแก่นชนิดนี้มีอานุภาพสูงมาก
เถาวัลย์สุริยันได้ติดผลน้ำเต้ามาลูกหนึ่ง ผลน้ำเต้าลูกนี้นับว่าสุกงอมแล้ว ดูไปแล้วน่าจะได้เวลาที่ต้องร่วงหล่นจากต้น แต่มันกลับห้อยอยู่บนต้นเถาวัลย์สุริยัน ไม่ยอมร่วงหล่นลงมาสักที
ผลน้ำเต้าลูกนี้ของเถาวัลย์สุริยันติดอยู่อย่างนั้นมานานมากแล้ว มันได้ผ่านการล้างกายาด้วยกาลเวลาที่ยาวนาน ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้สามารถได้ยินเสียงฟ้าร้องดังเป็นระลอกจากผลน้ำเต้าลูกนี้ เนื่องจากผลน้ำเต้าลูกนี้มีพลังที่ดึกดำบรรพ์แฝงอยู่ภายใน
ถ้าหากนับตามระยะเวลา มันสมควรหลุดออกจากขั้วของมันนานแล้ว แต่ มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากมันยังไม่สมบูรณ์แบบ
ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่ได้ทุ่มเทพลังกายใจเพื่อผลน้ำเต้าลูกนี้ไปไม่น้อย เคยรดด้วยน้ำอมฤทธิ์และน้ำทิพย์จำนวนไม่น้อย แต่ว่า จะเป็นหลี่ชิเย่ก็ดี หรือเถาวัลย์สุริยันก็ช่าง ต่างก็ฝากความหวังกับผลน้ำเต้านี้มากทีเดียว แต่จนแล้วจนรอดผลน้ำเต้าลูกนี้ยังคงขาดอยู่แค่นั้น ดังนั้น มันจึงไม่ยอมหลุดออกจากขั้วเสียที
“จ๊าบ จ๊าบ จ๊าบ…” เถาวัลย์สุริยันดูดเอาน้ำแก่นผลึกเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง จนน้ำแก่นผลึกหมดเกลี้ยงภายในระยะเวลาอันสั้น เวลานี้ เถาวัลย์สุริยันทำท่าเหมือนเรอออกมาอย่างนั้น
เวลานี้ เสียง “ปัง” ดังขึ้น ทุกๆ กิ่งก้านและใบของเถาวัลย์สุริยันล้วนแล้วแต่ปรากฎเป็นควันและไอน้ำออกมา เวลานี้ปรากฏไอน้ำที่ปกคลุมหนาทึบ
บนกิ่งไม้ทุกกิ่ง ใบไม้ทุกใบของเถาวัลย์สุริยันปรากฎเชื้อไฟที่มีสีเขียวอ่อนๆ วิ่งไปมา ที่แท้เถาวัลย์สุริยันอาศัยเพลิงเขียวสุริยันที่อยู่ภายในกายของตนมากลั่นน้ำแก่นผลึกที่ดูดซึมเข้าไป มันจะรีดกลั่นเอาแก่นที่อยู่ในน้ำแก่นผลึกออกมา
สุดท้าย ได้ยินเสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้นมาแผ่วเบา เวลานี้สามารถมองเห็นทางน้ำเล็กๆ ที่ไหลไปยังผลน้ำเต้า ในเวลานี้เองผลน้ำเต้าเหมือนถูกหุ้มด้วยฟิล์มบางๆ และฟิล์มบางๆ ดังกล่าวค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในผลน้ำเต้า
จากเวลาที่เคลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก ได้ยินเสียงหนึ่งดังขี้น ผลน้ำเต้ากลับมีบางสิ่งที่ซึมออกมาเป็นหยด
สิ่งที่ซึมออกมาแต่ละหยดนั้นดูเป็นสีแดงชาด แต่มองดูให้ละเอียดมันเหมือนเป็นเศษทองมากกว่า เหมือนเป็นเศษทองที่เหลือจากการกลั่นทองคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...