ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1643

ตอนที่ 1643 สงครามเริ่มขึ้น
เย่จิ่วโจวส่ายหัวเบาๆ และกล่าวว่า “ท่านเจ้าเมือง ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัดถึงร่องรอยของท่านอาจารย์ ท่านอยู่อย่างสมรรถะ ล่องลอยไร้จุดหมาย ข้าก็ไม่สามารถตามหาท่านได้”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกัน!”จื่อชุ่ยหนิงกล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “พรรคเซียนเหินอยากมาก็ให้พวกเขามา เมืองหมิงจูใช่จะให้ใครรังแกได้ง่ายๆ”

เย่จิ่วโจวทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ท่านเจ้าเมือง การมาครั้งนี้ของพรรคเซียนเหินใช่ทำกันเล่นๆ พรรคเซียนเหินต้องการทำการใหญ่ อีกทั้งไม่เพียงมีผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นบรรพบุรุษหลงที่ลงมือ ยังมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ลงมืออีก หากพรรคเซียนเหินยกกำลังออกมาทั้งหมด ต่อให้เมืองหมิงจูแข็งแกร่งมากกว่านี้เกรงว่ายังคงต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป”

“ที่จะมา อย่างไรเสียก็ต้องมา” จื่อชุ่ยหนิงกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ไม่ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร เมืองหมิงจูได้พร้อมเผชิญกับโชคชะตาของมันเอาไว้แล้ว!”

“เพื่อเผ่าปีศาจ ปีศาจทะเลเพียงไม่กี่คน ท่านเจ้าเมืองคิดว่าแลกกับเมืองหมิงจูทั้งเมืองมันคุ้มกันหรือ? จะต้องมีคนตายมากมาย” เย่จิ่วโจวกล่าว

จื่อชุ่ยหนิงจ้องมองดูเย่จิ่วโจว จากนั้นพูดน่าเกรงขามออกมาว่า “บรรพบุรุษเย่ เจ้ากับข้ารู้อยู่แก่ใจ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเผ่าปีศาจ ปีศาจทะเลเพียงไม่กี่คนสักเท่าไร เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ต่อให้ไม่มีพวกเผ่าปีศาจและปีศาจทะเลเหล่านี้ ยังคงมีข้ออ้างอื่นๆ อีก…”

เมื่อจื่อชุ่ยหนิงกล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อว่า “การกระทำของพรรคเซียนเหินในครั้งนี้เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้! เรื่องนี้ในใจของบรรพบุรุษเย่เข้าใจมากกว่า ต่อให้ไม่มีพรรคเซียนเหิน หรือว่าบรรพบุรุษเย่ไม่ต้องการครอบครองเมืองหมิงจูรึ ต่อให้บรรพบุรุษเย่ไม่คิดครอบครองเมืองหมิงจู แล้วอาจารย์ของท่านไม่คิดครอบครองเมืองหมิงจูรึ?”

เย่จิ่วโจวถึงกับนิ่งเงียบไปนิดหนึ่งกับการซักถามของจื่อชุ่ยหนิง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขากล่าวช้าๆ ว่า “ท่านเจ้าเมือง ไม่ว่าท่านกับข้าจะมองเรื่องอำนาจอย่างไร แต่ ความตั้งใจของข้าคือหวังให้ศิษย์เมืองสมุทรสยบฟ้าได้รับอันตรายน้อยลง ความตั้งใจของข้าหวังให้เมืองสมุทรสยบฟ้า รุ่งเรืองแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน เรื่องนี้ข้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง”

“บรรพบุรุษเย่ ท่านยินดีเสียสละให้กับสำนักตลอดมา การที่เมืองสมุทรสยบฟ้ามีวันนี้ท่านนับว่ามีผลงาน ผลงานของท่านนั้น ท่านปรมาจารย์หลู่เคยเอ่ยถึงบ่อยครั้ง” จื่อชุ่ยหนิงกล่าวหนักแน่นจริงจังว่า “แต่ว่า ถ้าหากบรรพบุรุษเย่หวังดีต่อเมืองสมุทรสยบฟ้าจริง ขอให้บรรพบุรุษเย่โน้มน้าวกู้จุนให้ได้ให้เขาวางมือ บรรพบุรุษเย่รู้ดีมากกว่าข้าว่าเขาควบคุมสั่งการเมืองสมุทรสยบฟ้าจากระยะไกลตลอดมา ภายในเมืองสมุทรสยบฟ้ามีบรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกจำนวนเท่าไร ระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่หวั่นเกรงเขา และเชื่อฟังเขา!”

เย่จิ่วโจวทำท่าจะพูดอะไรออกมา แต่ เขาได้แต่ทอดถอนใจเบาๆ อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดในเมืองสมุทรสยบฟ้า แต่ทว่า อาจารย์ของเขาคอยกำกับเมืองสมุทรสยบฟ้าทั้งหมดจากระยะไกล ต่อให้ไม่มีเขา อาจารย์ของเขาก็สามารถควบคุมเมืองสมุทรสยบฟ้าได้อยู่ดี

ไม่รู้ว่ามีบรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกจำนวนเท่าไร ระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรภายในเมืองสมุทรสยบฟ้าที่หวั่นเกรงอาจารย์ของเขา ไม่รู้ว่ามีบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่ต้องขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ของเขาอยู่เสมอๆ

เนื่องเพราะสาเหตุนี้เอง กู้จุนสามารถควบคุมเมืองสมุทรสยบฟ้าเอาไว้ ยกเว้นระดับบรรพบุรุษส่วนน้อยที่ไม่ยอมฟังคำสั่งของกู้จุน บรรพบุรุษและบรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกส่วนใหญ่ล้วนได้รับผลกระทบจากกู้จุน

สุดท้าย เย่จิ่วโจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาได้ตัดสินใจเด็ดขาด กัดฟันกล่าวหนักแน่นจริงจังว่า “ท่านเจ้าเมือง งั้นให้ข้าได้พบคุณชายหลี่จะได้ไหม? ข้าต้องการปรึกษาบางอย่างกับคุณชายหลี่”

จื่อชุ่ยหนิงส่ายหัวเบาๆ กล่าวว่า “บรรพบุรุษเย่ คุณชายหลี่ไม่อยู่ที่นี่ หากต้องการพบให้มาวันหลังก็แล้วกัน”

“ท่านเจ้าเมือง ที่ข้ามาพบคุณชายหลี่เรียกว่ามีความเสี่ยงไม่น้อย รบกวนท่านเจ้าเมืองสามารถช่วยเรียนให้ที” เย่จิ่วโจวรีบกล่าว

จื่อชุ่ยหนิงส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “ใช่ว่าข้าไม่ให้ท่านได้พบกับคุณชายหลี่ คุณชายหลี่ไม่ได้อยู่ในเมือง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน”

คำพูดนี้ทำเอาสีหน้าของเย่จิ่วโจวแปรเปลี่ยนไปมาก เขาถึงกับกล่าวด้วยความตระหนกว่า “ถ้าหากคุณชายหลี่ไม่ได้อยู่ในเมือง แล้วเมืองหมิงจูเอาอะไรมาต่อต้านพรรคเซียนเหิน !”

“บรรพบุรุษเย่ หากท่านห่วงใยต่อเมืองหมิงจูจริงล่ะก็ ให้พรรคเซียนเหินถอยทัพสิ ไม่ว่าเรื่องนี้ใครชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่ว่า บรรพบุรุษเย่อย่าลืมสิ ครั้งนั้นสัญญาเป็นพันธมิตรต่อกันระหว่างเมืองสมุทรสยบฟ้า กับพรรคเซียนเหิน บรรพบุรุษเย่เป็นผู้ลงนามเอง หากบอกว่าใครเหมาะสมที่สุดที่จะให้พรรคเซียนเหินถอนทัพคงไม่มีใครเกินบรรพบุรุษเย่แล้ว” จื่อชุ่ยหนิงกล่าวท่าทีหนักแน่นจริงจัง

เย่จิ่วโจวทำท่าจะพูด แต่ว่า เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว เหมือนดั่งที่จื่อชุ่ยหนิงพูดเอาไว้อย่างนั้น ครั้งนี้ พรรคเซียนเหินส่งกำลังมาที่เมืองหมิงจูไม่ได้ต้องการกองกำลังที่ยังหลงเหลืออยู่ของเผ่าปีศาจ และปีศาจทะเลที่ว่า พรรคเซียนเหินพุ่งเป้าไปที่หลี่ชิเย่

พรรคเซียนเหินต้องการบีบบังคับมือมืดที่อยู่เบื้องหลังออกมา พวกเขาต้องการลงมือต่อผู้ดำรงอยู่ในตำนาน

“บรรพบุรุษเย่เชิญกลับไปได้” สุดท้าย จื่อชุ่ยหนิงได้ออกปากไล่แขก กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ศิษย์ของเมืองหมิงจูต้องต่อต้านผู้รุกราน เกรงว่าคงไม่มีเวลาต้อนรับท่านแล้ว”

เวลานี้ เย่จิ่วโจวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว เว้นแต่เขาต้องฝ่าฝืนปณิธานของอาจารย์เขา แต่ว่า กล่าวสำหรับเย่จิ่วโจวแล้วเขาจะทรยศใครก็ได้ แต่จะไม่ทรยศกู้จุนอาจารย์ของเขาเด็ดขาด

สุดท้าย เย่จิ่วโจงทอดถอนใจออกมาเบาๆ คารวะแบบจีนกับจื่อชุ่ยหนิง และข่งเชียะหมิงหวาง กล่าวว่า “ท่านเจ้าเมือง หมิงหวาง รักษาตัวด้วย หวังว่าพวกท่านสามารถรักษาเมืองหมิงจูเอาไว้” จากนั้น ล่องลอยจากไป

หลังจากที่เย่จิ่วโจวจากไปได้ไม่นาน เสียง “ตูม” ดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง พรรคเซียนเหินได้เตรียมพร้อมแล้ว ในเวลานี้ ศิษย์ของพรรคเซียนเหินล้วนแล้วแต่สวมเสื้อเกราะมือถืออาวุธแหลมคม เตรียมบุกโจมตีต่อเมืองหมิงจู

ขณะที่ศิษย์ทั้งหมดของเมืองหมิงจูก็สวมเสื้อเกราะมือถืออาวุธแหลมคมเช่นกัน เตรียมพร้อมรับมือกับศัตรู เพื่อตัดสินชี้ขาดกับศัตรู!

“ตูม…ตูม…ตูม…” ในเวลานี้เอง เสียงตูมตามดังขึ้น เห็นทางสายหนึ่งพาดผ่านเข้ามา ขนานไปกับฟ้าดิน ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่บนทางสายนั้น บุคลิกลักษณะท่าทางโอหังอวดดี หมางเมินทั่วหล้า

“หลงอ้าวเทียน เขายังมีชีวิตอยู่” บรรดายอดฝีมือจำนวนมากที่ดูชมอยู่ในระยะห่างไกลต่างรู้สึกตกใจและรู้สึกเหนือความคาดคิดเป็นอันมาก

วันนั้น หลงอ้าวเทียนถูกคนโหดอันดับหนึ่งอาศัยสวรรค์ทำลายแต่ละครั้งซัดเข้าหาอย่างรุนแรงจนร่างของเขาปลิวไปยังอีกมิติหนึ่ง ทุกคนเข้าใจว่าหลงอ้าวเทียนคงตายแน่นอน ไม่นึกเลยว่าหลงอ้าวเทียนยังคงมีชีวิตอยู่ ทั้งยังกระโดดโลดเต้นได้เหมือนเดิม

“นับว่าฝืนลิขิตยิ่งนัก” เมื่อมองเห็นหลงอ้าวเทียนยังคงมีบุคลิกลักษณะท่าทางโอหังอวดดี ยังคงหมางเมินทั่วหล้า ผู้คนจำนวนมากต่างทอดถอนใจออกมา

ทุกคนต่างรู้ดีว่า ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม การที่ถูกสวรรค์ทำลายซัดใส่ร่างนั้นหากไม่ตายก็คงต้องพิการ เฉกเช่นหลงอ้าวเทียนที่ถูกสวรรค์ทำลายมากมายซัดใส่ หากเป็นคนอื่นก็คงกลายเป็นเถ้าสธุลีไปนานแล้ว แต่ว่า เวลานี้หลงอ้าวเทียนยังคงกระโดดโลดเต้นได้ ไม่อาจไม่ยอมรับถึงความฝืนลิขิตของหลงอ้าวเทียน แม้แต่สวรรค์ทำลายก็ไม่สามารถฆ่าเขาให้ตายได้

“จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรยังคงมั่นคงนะเนี่ย ดูท่าการศึกระหว่างเขากับคนโหดอันดับหนึ่งไม่ได้มีร่องรอยความเจ็บปวดในใจมากมายนัก” เมื่อผู้ยิ่งใหญ่รุ่นอาวุโสที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์มองออกถึงร่องรอยอะไรบางอย่าง มองเห็นหลงอ้าวเทียนที่ยังคงบุคลิกลักษณะท่าทางโอหังอวดดี ยังคงหมางเมินทั่วหล้า ไม่ว่าพลังลมปราณหรือท่าทียังไม่แปรเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

“การที่เขาสามารถกลายเป็นผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหินได้ใช่จะไม่มีเหตุผล ถูกคนโหดอันดับหนึ่งทำร้ายจนสาหัส แต่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรยังคงไม่เหลือร่องรอยความเจ็บปวดเอาไว้ ยังคงมีความมั่นคงเสมือนดั่งหยดน้ำที่กลิ้งผ่านก้อนหินที่เรียบและรื่นอย่างนั้น นับว่าเป็นที่เลื่อมใสโดยแท้จริง

คนโหดอันดับหนึ่งพลันลงมือก็สำแดงสวรรค์ทำลายออกมานับไม่ถ้วน ต่อให้กายเซียนขั้นสมบูรณ์ก็คงได้แต่ตั้งรับเพียงอย่างเดียว! หากเป็นผู้อื่นเมื่อเผชิญกับคนโหดอันดับหนึ่ง และหลังจากถูกคนโหดอันดับหนึ่งอาศัยสวรรค์ทำลายมากมายเช่นนี้ถล่มใส่แล้ว เกรงว่าคงเหลือความเจ็บปวดภายในใจตลอดชีวิต กระทั่งไม่กล้าเข้าสู่ยุทธภพอีกเลย

แต่ทว่า นับแต่อดีตเป็นต้นมา ดาวรุ่งที่ยโสโอหังจำนวนเท่าไรเมื่อประสบความพ่ายแพ้แล้ว ก็ทรุดลงอย่างชนิดที่ไม่มีวันฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก ทำตัวตกต่ำซึมเศร้า และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนับแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่ว่า หลงอ้าวเทียนถูกสวรรค์ทำลายของคนโหดอันดับหนึ่งเล่นงานจนยับเยินขนาดนี้ เขาไม่เพียงยังคงกระโดดโลดเต้นกลับมาได้อีก ทั้งยังคงมีบุคลิกลักษณะท่าทางโอหังอวดดี ยังคงหมางเมินทั่วหล้า เป็นการบ่งบอกชัดเจนว่า การพ่ายแพ้อย่างยับเยินในครั้งนี้ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดฝังอยู่ในใจของเขาได้มากมายนัก

“คนที่สามารถเป็นราชันเซียนได้ล้วนแล้วแต่มีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ไม่มีวันดับนะเนี่ย” แม้แต่ระดับอ๋องเทพรุ่นอาวุโสก็ต้องชื่นชมว่า “มีเพียงคนที่ไม่เกรงกลัวต่อความล้มเหลว มีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ไม่มีวันดับ จึงจะหัวเราะจนสุดท้าย แม้ว่าหลงอ้าวเทียนจะพ่ายไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่า เขายังคงมีโอกาส”

เวลานี้ ไม่มีใครไปหัวเราะเยาะหลงอ้าวเทียน ต่อให้หลงอ้าวเทียนไม่ได้มีชาติกำเนิดมาจากพรรคเซียนเหิน ก็ไม่มีใครไปหัวเราะเยาะเขา

แม้ว่า หลงอ้าวเทียนพ่ายแพ้ให้กับคนโหดอันดับหนึ่ง ถูกคนโหดอันดับหนึ่งอัดเสียยับเยิน แต่ว่า เมื่อก้าวเดินมาถึงจุดนี้แล้ว ในสายตาของผู้คนใต้หล้ามองว่ามันไม่มีอะไรต้องอับอายอีก เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว

จะอย่างไรเสีย พันล้านปีที่ผ่านมา ได้มีราชันเซียนถือกำเนิดขึ้นมาองค์แล้วองค์เล่า มีราชันเซียนองค์ไหนบ้างที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในวัยหนุ่ม? ที่ไม่เคยพ่ายแพ้เลยชั่วชีวิตมีเพียงราชันเซียนเจียวเหิงเท่านั้น สำหรับราชันเซียนองค์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นราชันเซียนหญิงหงเทียนที่อำนาจสยบทั่วโลก หรือราชันเซียนเฟยที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งปราศจากผู้เทียบเทียม ในขณะที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวก็เคยพ่ายแพ้มาก่อน! แม้แต่ราชันเซียนท่าคงที่ใกล้ที่สุดก็ผ่านการพ่ายแพ้มาครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายจึงได้กลายเป็นราชันเซียน!

การพ่ายแพ้ของหลงอ้าวเทียนในครั้งนี้ อย่างมากแค่ทำให้ผลงานการต่อสู้ชั่วชีวิตของเขาไม่สมบูรณ์แบบเท่านั้นเอง ความเป็นเจ้าแห่งผู้ชนะเลิศสิบรายการของเขา ท้ายที่สุดแล้วยังคงไม่สามารถยืนหยัดได้ว่าไม่พ่ายแพ้ตลอดชีวิต สุดท้ายยังคงต้องพบกับความพ่ายแพ้

“ป้องกัน…” ขณะที่หลงอ้าวเทียนปรากฏตัวขึ้นมา ข่งเชียะหมิงหวางร้องออกมาคำหนึ่ง สั่งการให้ศิษย์ทั้งหมดของเมืองหมิงจูพร้อมรบ

ขณะเดียวกัน จี้ที่อยู่บนหน้าอกของข่งเชียะหมิงหวางสว่างไสวขึ้นมา เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ทันใดนั้นเอง เจดีย์หมิงจูที่อยู่ภายในเมืองหมิงจูพลันพวยพุ่งประกายที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา

เดิมประกายที่ดั่งน้ำพุพวยพุ่งขึ้นไป จากนั้นก็ได้เทลงมาดั่งน้ำตกจากสวรรค์อย่างนั้น เสียง “แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” ดังขึ้น ในเวลานี้เองภายในเมืองหมิงจูได้ปรากฎเป็นเส้นรุ้งเส้นแวงแต่ละเส้นขึ้นมา และเส้นรุ้งเส้นแวงเหล่านั้นพลันเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับประกายที่ตกลงมา

เวลานี้ ประกายที่เปล่งออกมาจากเจดีย์หมิงจูกลับกลายเป็นม่านแสง ม่านแสงที่มีขนาดใหญ่โตมีอักขระยันต์ที่วิ่งวนอยู่ มันคล้ายดั่งเป็นกระดองของเต่ายักษ์ที่ครอบเมืองหมิงจูเอาไว้ทั้งเมือง ทำหน้าที่ป้องกันเมืองหมิงจูเอาไว้

บรรดาศิษย์ทั้งหมดภายในเมืองหมิงจูถึงกับหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อมองเห็นม่านแสงที่เหมือนเปลือกขนาดยักษ์ที่คุ้มครองเมืองหมิงจูทั้งเมืองเอาไว้ ศิษย์จำนวนมากไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจดีย์หมิงจูมีประโยชน์เช่นนี้

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ศิษย์จำนวนมากของเมืองหมิงจูและประชาขนที่อาศัยอยู่เข้าใจว่า เจดีย์หมิงจูเป็นเพียงสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้เท่านั้น เป็นจุดชมวิวแห่งหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่เคยคิดว่าเจดีย์หมิงจูจะมีความมหัศจรรย์เช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล