“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกัน!”จื่อชุ่ยหนิงกล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “พรรคเซียนเหินอยากมาก็ให้พวกเขามา เมืองหมิงจูใช่จะให้ใครรังแกได้ง่ายๆ”
เย่จิ่วโจวทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ท่านเจ้าเมือง การมาครั้งนี้ของพรรคเซียนเหินใช่ทำกันเล่นๆ พรรคเซียนเหินต้องการทำการใหญ่ อีกทั้งไม่เพียงมีผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นบรรพบุรุษหลงที่ลงมือ ยังมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ลงมืออีก หากพรรคเซียนเหินยกกำลังออกมาทั้งหมด ต่อให้เมืองหมิงจูแข็งแกร่งมากกว่านี้เกรงว่ายังคงต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป”
“ที่จะมา อย่างไรเสียก็ต้องมา” จื่อชุ่ยหนิงกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ไม่ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร เมืองหมิงจูได้พร้อมเผชิญกับโชคชะตาของมันเอาไว้แล้ว!”
“เพื่อเผ่าปีศาจ ปีศาจทะเลเพียงไม่กี่คน ท่านเจ้าเมืองคิดว่าแลกกับเมืองหมิงจูทั้งเมืองมันคุ้มกันหรือ? จะต้องมีคนตายมากมาย” เย่จิ่วโจวกล่าว
จื่อชุ่ยหนิงจ้องมองดูเย่จิ่วโจว จากนั้นพูดน่าเกรงขามออกมาว่า “บรรพบุรุษเย่ เจ้ากับข้ารู้อยู่แก่ใจ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเผ่าปีศาจ ปีศาจทะเลเพียงไม่กี่คนสักเท่าไร เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ต่อให้ไม่มีพวกเผ่าปีศาจและปีศาจทะเลเหล่านี้ ยังคงมีข้ออ้างอื่นๆ อีก…”
เมื่อจื่อชุ่ยหนิงกล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อว่า “การกระทำของพรรคเซียนเหินในครั้งนี้เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้! เรื่องนี้ในใจของบรรพบุรุษเย่เข้าใจมากกว่า ต่อให้ไม่มีพรรคเซียนเหิน หรือว่าบรรพบุรุษเย่ไม่ต้องการครอบครองเมืองหมิงจูรึ ต่อให้บรรพบุรุษเย่ไม่คิดครอบครองเมืองหมิงจู แล้วอาจารย์ของท่านไม่คิดครอบครองเมืองหมิงจูรึ?”
เย่จิ่วโจวถึงกับนิ่งเงียบไปนิดหนึ่งกับการซักถามของจื่อชุ่ยหนิง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขากล่าวช้าๆ ว่า “ท่านเจ้าเมือง ไม่ว่าท่านกับข้าจะมองเรื่องอำนาจอย่างไร แต่ ความตั้งใจของข้าคือหวังให้ศิษย์เมืองสมุทรสยบฟ้าได้รับอันตรายน้อยลง ความตั้งใจของข้าหวังให้เมืองสมุทรสยบฟ้า รุ่งเรืองแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน เรื่องนี้ข้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
“บรรพบุรุษเย่ ท่านยินดีเสียสละให้กับสำนักตลอดมา การที่เมืองสมุทรสยบฟ้ามีวันนี้ท่านนับว่ามีผลงาน ผลงานของท่านนั้น ท่านปรมาจารย์หลู่เคยเอ่ยถึงบ่อยครั้ง” จื่อชุ่ยหนิงกล่าวหนักแน่นจริงจังว่า “แต่ว่า ถ้าหากบรรพบุรุษเย่หวังดีต่อเมืองสมุทรสยบฟ้าจริง ขอให้บรรพบุรุษเย่โน้มน้าวกู้จุนให้ได้ให้เขาวางมือ บรรพบุรุษเย่รู้ดีมากกว่าข้าว่าเขาควบคุมสั่งการเมืองสมุทรสยบฟ้าจากระยะไกลตลอดมา ภายในเมืองสมุทรสยบฟ้ามีบรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกจำนวนเท่าไร ระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่หวั่นเกรงเขา และเชื่อฟังเขา!”
เย่จิ่วโจวทำท่าจะพูดอะไรออกมา แต่ เขาได้แต่ทอดถอนใจเบาๆ อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดในเมืองสมุทรสยบฟ้า แต่ทว่า อาจารย์ของเขาคอยกำกับเมืองสมุทรสยบฟ้าทั้งหมดจากระยะไกล ต่อให้ไม่มีเขา อาจารย์ของเขาก็สามารถควบคุมเมืองสมุทรสยบฟ้าได้อยู่ดี
ไม่รู้ว่ามีบรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกจำนวนเท่าไร ระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรภายในเมืองสมุทรสยบฟ้าที่หวั่นเกรงอาจารย์ของเขา ไม่รู้ว่ามีบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่ต้องขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ของเขาอยู่เสมอๆ
เนื่องเพราะสาเหตุนี้เอง กู้จุนสามารถควบคุมเมืองสมุทรสยบฟ้าเอาไว้ ยกเว้นระดับบรรพบุรุษส่วนน้อยที่ไม่ยอมฟังคำสั่งของกู้จุน บรรพบุรุษและบรรพบุรุษรุ่นบุกเบิกส่วนใหญ่ล้วนได้รับผลกระทบจากกู้จุน
สุดท้าย เย่จิ่วโจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาได้ตัดสินใจเด็ดขาด กัดฟันกล่าวหนักแน่นจริงจังว่า “ท่านเจ้าเมือง งั้นให้ข้าได้พบคุณชายหลี่จะได้ไหม? ข้าต้องการปรึกษาบางอย่างกับคุณชายหลี่”
จื่อชุ่ยหนิงส่ายหัวเบาๆ กล่าวว่า “บรรพบุรุษเย่ คุณชายหลี่ไม่อยู่ที่นี่ หากต้องการพบให้มาวันหลังก็แล้วกัน”
“ท่านเจ้าเมือง ที่ข้ามาพบคุณชายหลี่เรียกว่ามีความเสี่ยงไม่น้อย รบกวนท่านเจ้าเมืองสามารถช่วยเรียนให้ที” เย่จิ่วโจวรีบกล่าว
จื่อชุ่ยหนิงส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “ใช่ว่าข้าไม่ให้ท่านได้พบกับคุณชายหลี่ คุณชายหลี่ไม่ได้อยู่ในเมือง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน”
คำพูดนี้ทำเอาสีหน้าของเย่จิ่วโจวแปรเปลี่ยนไปมาก เขาถึงกับกล่าวด้วยความตระหนกว่า “ถ้าหากคุณชายหลี่ไม่ได้อยู่ในเมือง แล้วเมืองหมิงจูเอาอะไรมาต่อต้านพรรคเซียนเหิน !”
“บรรพบุรุษเย่ หากท่านห่วงใยต่อเมืองหมิงจูจริงล่ะก็ ให้พรรคเซียนเหินถอยทัพสิ ไม่ว่าเรื่องนี้ใครชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่ว่า บรรพบุรุษเย่อย่าลืมสิ ครั้งนั้นสัญญาเป็นพันธมิตรต่อกันระหว่างเมืองสมุทรสยบฟ้า กับพรรคเซียนเหิน บรรพบุรุษเย่เป็นผู้ลงนามเอง หากบอกว่าใครเหมาะสมที่สุดที่จะให้พรรคเซียนเหินถอนทัพคงไม่มีใครเกินบรรพบุรุษเย่แล้ว” จื่อชุ่ยหนิงกล่าวท่าทีหนักแน่นจริงจัง
เย่จิ่วโจวทำท่าจะพูด แต่ว่า เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว เหมือนดั่งที่จื่อชุ่ยหนิงพูดเอาไว้อย่างนั้น ครั้งนี้ พรรคเซียนเหินส่งกำลังมาที่เมืองหมิงจูไม่ได้ต้องการกองกำลังที่ยังหลงเหลืออยู่ของเผ่าปีศาจ และปีศาจทะเลที่ว่า พรรคเซียนเหินพุ่งเป้าไปที่หลี่ชิเย่
พรรคเซียนเหินต้องการบีบบังคับมือมืดที่อยู่เบื้องหลังออกมา พวกเขาต้องการลงมือต่อผู้ดำรงอยู่ในตำนาน
“บรรพบุรุษเย่เชิญกลับไปได้” สุดท้าย จื่อชุ่ยหนิงได้ออกปากไล่แขก กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ศิษย์ของเมืองหมิงจูต้องต่อต้านผู้รุกราน เกรงว่าคงไม่มีเวลาต้อนรับท่านแล้ว”
เวลานี้ เย่จิ่วโจวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว เว้นแต่เขาต้องฝ่าฝืนปณิธานของอาจารย์เขา แต่ว่า กล่าวสำหรับเย่จิ่วโจวแล้วเขาจะทรยศใครก็ได้ แต่จะไม่ทรยศกู้จุนอาจารย์ของเขาเด็ดขาด
สุดท้าย เย่จิ่วโจงทอดถอนใจออกมาเบาๆ คารวะแบบจีนกับจื่อชุ่ยหนิง และข่งเชียะหมิงหวาง กล่าวว่า “ท่านเจ้าเมือง หมิงหวาง รักษาตัวด้วย หวังว่าพวกท่านสามารถรักษาเมืองหมิงจูเอาไว้” จากนั้น ล่องลอยจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...