แม้ว่าหลงอ้าวเทียนในเวลานี้จะมีท่าทีที่หมางเมินใต้หล้า ปณิธานการต่อสูงสูงยิ่ง แต่เขายังคงเตรียมพร้อมรับมือเต็มที่ จ้องมองหอกโลหิตเซียนที่อยู่ในมือของจื่อชุ่ยหนิงชนิดไม่กระพริบตา
ก่อนหน้านั้นขณะต่อสู้ชี้ขาดกับพวกของไห่หลินสามคน แม้ว่าในมือของหลงอ้าวเทียนยังคงเป็นอาวุธราชันเซียน แต่ก็เป็นเพียงอาวุธราชันเซียนธรรมดาเท่านั้น
ในเวลานั้น แม้ว่าหลงอ้าวเทียนจะอาศัยลำพังคนเดียวสู้กับสามคน แต่เขาก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขามั่นใจว่าอาศัยอาวุธราชันยังคงสามารถเอาชนะพวกของไห่หลินสามคนได้!
แต่ว่าเวลานี้ทำเช่นนั้นไม่ได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจื่อชุ่ยหนิง เผชิญกับหอกโลหิตเซียน ทำให้หลงอ้าวเทียนไม่อาจไม่หยิบเอากระบี่เหรินเสียนขึ้นมา ถ้าหากเขาประมาทคู่ต่อสู้ล่ะก็ เกรงว่าเขาจะต้องหาเรื่องใส่ตัวแน่นอน!
“เทพธิดาสยบฟ้า เจ้าเมืองเมืองสมุทรสยบฟ้า!” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน จำนวนมากเมื่อได้สติคืนกลับมาแล้ว เมื่อมองเห็นจื่อชุ่ยหนิงแล้วล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าเหนือความคาดคิดยิ่งนัก
ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้ากันและกัน ผู้ที่ไม่รู้เบื้องหลังของเรื่องนี้มาก่อนต่างรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก กระทั่งรู้สึกแปลกประหลาด
เรื่องที่พรรคเซียนเหินเป็นพันธมิตรกับเมืองสมุทรสยบฟ้าเป็นเรื่องที่รู้กันทั่วหล้า เมืองหมิงจูกลับเป็นศัตรูกับพรรคเซียนเหิน ถ้าหากจะกล่าวว่า ฐานะของเมืองหมิงจูมีฐานะความเป็นเอกเทศในเมืองสมุทรสยบฟ้า เช่นนั้นแล้ว เทพธิดาสยบฟ้าในฐานะเจ้าเมืองเมืองสมุทรสยบฟ้าก็เป็นศัตรูกับพรรคเซียนเหินเช่นกัน
ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ก่อนหน้านั้นหลงอ้าวเทียนกับเทพธิดาสยบฟ้ายังมีการเกี่ยวดองสมรสกันเลย เรื่องการแต่งงานเป็นการตกลงระหว่างผู้อาวุโสระดับสูงของทั้งสองสำนักที่บรรลุข้อตกลงกัน
เมื่อมองเห็นจื่อชุ่ยหนิงจะตัดสินชี้ขาดกับหลงอ้าวเทียน พลันทำให้ผู้คนจำนวนมากนึกถึงเรื่องที่ก่อนหน้านั้นคนโหดอันดับหนึ่งแย่งชิงตัวเจ้าสาวขึ้นมา ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีวิญญาณความเป็นผู้สอดเรื่องของผู้อื่นโหมลุกไหม้ขึ้นมาทันที
“เห็นท่าเทพธิดาสยบฟ้าคงจะติดตามคนโหดอันดับหนึ่งอย่างสุดจิตสุดใจแล้วล่ะ ดังนั้น แม้จะเป็นเรื่องการเกี่ยวดองสมรสของสำนักก็ไม่นำพา สิ่งนี้ไม่โทษที่เทพธิดาสยบฟ้าเป็นศัตรูกับหลงอ้าวเทียน และไม่โทษที่เมืองหมิงจูกล้าท้าสู้กับพรรคเซียนเหิน ที่แท้เบื้องหลังมีคนโหดอันดับหนึ่งคอยหนุนหลังอยู่นะเนี่ย” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่อดที่จะยุ่งกับเรื่องคนอื่นขึ้นมา
“คนโหดอันดับหนึ่งย่อมเป็นคนโหดอันดับหนึ่ง การแย่งชิงเมียชาวบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ ระดับการเกี่ยวดองสมรสของสำนักเจ้าลัทธิเป็นเรื่องที่สะเทือนฟ้า ใครหาญกล้าแย่งชิงตัวเจ้าสาว แต่คนโหดอันดับหนึ่งกลับทำได้อย่างสมเหตุสมผล ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ แม้แต่เทพธิดาสยบฟ้าก็หลงรักคนโหดอันดับหนึ่งอย่างสุดหัวใจ คนโหดอันดับหนึ่งเสน่ห์แรงไม่มีสิ้นสุดเลยนะ” กระทั่งมีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มศรัทธาในตัวคนโหดอันดับหนึ่งขึ้นมาแล้ว
มีผู้บำเพ็ญตนที่เคยเดินทางไปเมืองร้อยเมืองบูรพา และดินแดนภาคกลางก็พูดขึ้นมาด้วยความอิจฉาว่า “คนโหดอันดับหนึ่งไม่เพียงโหดเหี้ยมเท่านั้น ขณะเดียวกันก็เสน่ห์ไม่เบาทีเดียว ได้ยินว่าเทพธิดาเหมยแห่งเมืองร้อยเมืองบูรพา ไป๋เจี้ยนเจินแห่งทุ่งรกร้างตะวันตกก็รักเขาอย่างสุดจิตสุดใจ กระทั่งธิดาศักดิ์สิทธิ์ องค์หญิง อื่นๆ ยิ่งพร้อมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนโหดอันดับหนึ่ง
เวลานี้ แม้แต่เทพธิดาสยบฟ้าก็หลงรักจุดสุดจิตสุดใจเช่นนี้ บุรุษที่อยู่บนโลกนี้หากสามารถเสพสุขวาสนาทางความรักเช่นนี้ พอแล้วสำหรับชีวิตนี้!”
คำพูดลักษณะเช่นนี้สร้างความอิจฉากระทั่งริษยาให้กับผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมาก กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่แล้ว หากสามารถแต่งงานกับสุดยอดผู้หญิงอย่างเทพธิดาเหมย หรือไป๋เจี้ยนเจินแล้ว นับว่าเป็นวาสนาที่สั่งสมกันมาสามชาติเลยทีเดียว เวลานี้คนโหดอันดับหนึ่งกลับได้ครอบครองสาวงามหลายคน แล้วจะไม่ให้ผู้คนอิจฉาริษยาและแค้นเคืองได้อย่างไรหละ!
“น้องหญิงอย่าลืมสิ เจ้ากับข้าทั้งสองสำนักต่างมีข้อตกลงร่วมกัน” หลงอ้าวเทียนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ขณะจ้องมองดูจื่อชุ่ยหนิง
แม้ว่าครานั้นได้ถูกคนโหดอันดับหนึ่งชิงตัวเจ้าสาวไป แต่หลงอ้าวเทียนไม่ได้ถือเอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องโกรธแค้น และเขาไม่ต้องการเอ่ยถึงเรื่องนี้ให้มากความ เนื่องจากการแต่งงานครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของทั้งสองสำนัก ซึ่งหลงอ้าวเทียนมองว่าไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ และเรื่องนี้กล่าวสำหรับหลงอ้าวเทียนแล้วในนั้นไม่ได้เกี่ยวพันถึงความรักระหว่างชายหญิง
“โอรสราชันหลง นับแต่วินาทีที่บุกโจมตีเมืองหมิงจู ข้อตกลงระหว่างพวกเราก็ไม่มีผลอีกต่อไป อย่างน้อยที่สุดในมุมมองของฝ่ายข้า ข้อตกลงระหว่างเมืองสมุทรสยบฟ้าและพรรคเซียนเหินในวันนั้นก็ไม่มีผลอีกต่อไป!”
“แต่ เมืองสมุทรสยบฟ้ายังคงเป็นพันธมิตรพรรคเซียนเหินของพวกเรา” หลงอ้าวเทียนยังคงพูดจาแข็งกร้าว
“ท่าทีของกู้จุนไม่สามารถแทนท่าทีเมืองสมุทรสยบฟ้าของข้า” จื่อชุ่ยหนิง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สิ่งนี้พูดได้เพียงเป็นการกระทำของกู้จุนเพียงคนเดียวเท่านั้น! ถ้าหากโอรสราชันหลงต้องการให้เมืองสมุทรสยบฟ้าพวกเรามีท่าทีออกมา งั้นโอรสราชันหลงต้องถอนทัพทันที! มิฉะนั้นแล้ว เมืองสมุทรสยบฟ้า และพรรคเซียนเหินเป็นเพียงศัตรู ไม่ใช่พันธมิตรอย่างเด็ดขาด”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก” หลงอ้าวเทียนส่ายหน้า กล่าวด้วยท่าทีที่มั่นคงว่า “ในเมื่อเรื่องนี้หาใช่น้องหญิงสามารถตัดสินใจได้ และก็หาใช่สิ่งที่ข้าจะบงการได้ แต่ว่า น้องหญิง เส้นทางที่มุ่งไปยังราชันเซียนนั้นปราศจากเมตตา หากน้องหญิงขวางทางของข้า ยังคงฆ่าไม่มีละเว้น!”
หลงอ้าวเทียนก็ใช่เป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป กล่าวสำหรับเขาแล้วสัจธรรมเป็นอันดับหนึ่ง ความรักระหว่างชายหญิงไม่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นจื่อชุ่ยหนิงที่ตนชอบหรือไม่อย่างไร แต่ว่า ขอเพียงเป็นศัตรูกับเขาบนเส้นทางที่มุ่งไปยังราชันเซียน ไม่ว่าคนนั้นเป็นใคร เขาจะฆ่าไม่มีการละเว้น
สิ่งนี้ถือเป็นสภาพจิตใจที่ต้องมีของผู้ที่จะเป็นราชันเซียนในอนาคต จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรมั่นคง เส้นทางที่มุ่งไปยังราชันเซียนต้องก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่หันหลังอย่างเด็ดขาด
“ดี งั้นข้าขอคำชี้แนะเคล็ดห้าราชันเซียนของโอรสราชัน และท่าโจมตีเซียนเหิน” กล่าวสำหรับจื่อชุ่ยหนิงแล้ว คำพูดที่มีต่อสุดยอดดาวรุ่งแห่งยุคเช่นหลงอ้าวเทียนก็หนักแน่นจริงจัง เปี่ยมด้วยความมั่นใจ ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย ไม่หวั่นที่ต้องต่อสู้!
“ดี…” หลงอ้าวเทียนคำรามเสียงยาวออกมา เปี่ยมด้วยความอหังการและกล่าวว่า “วันนี้ ไม่ว่าใครก็ขวางข้าไม่ได้ ข้าจะทำลายเมืองหมิงจูพวกเจ้าแน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...