ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1648

สรุปบท ตอนที่ 1648 ยุทธวิธีของหลงอ้าวเทียน: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 1648 ยุทธวิธีของหลงอ้าวเทียน จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1648 ยุทธวิธีของหลงอ้าวเทียน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1648 ยุทธวิธีของหลงอ้าวเทียน
หลงอ้าวเทียนยืนอยู่บนท้องฟ้า ดวงตาทั้งสองของหลงอ้าวเทียนดูแหลมคมยิ่งนัก สามารถมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง ขณะที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีเอ้อระเหย เหมือนว่าที่เขาเผชิญหน้าอยู่เป็นเพียงนาย ก. นาย ข. ที่เดินสวนทางมาเท่านั้น

ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่มองดูอยู่ในระยะห่างไกลถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนต่างรู้ว่าการศึกครั้งยิ่งใหญ่กำลังมาเยือนแล้ว การศึกรอบนี้ฝ่ายไหนเป็นผู้แพ้ผู้ชนะ หลายคตนมีการคาดเดาอยู่ในใจแล้ว

“หลี่ชิเย่…” หลงอ้าวเทียน จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “เจ้าจะต้องกลายเป็นกองกระดูกบนเส้นทางที่ข้าก้าวไปสู่ราชันเซียนเท่านั้น!”

เวลานี้ คำพูดของหลงอ้าวเทียนดูจะหนักแน่นและมีพลัง ทุกๆ คำพูดของเขาแทนความตั้งใจที่มั่นคงยิ่ง ล้วนแล้วแต่แทนความปณิธานมุ่งมั่นที่ต้องสังหารหลี่ชิเย่ให้ได้

หลี่ชิเย่ส่ายหน้ามองดูหลงอ้าวเทียนทีหนึ่งและยิ้มกล่าวว่า “อาศัยเจ้า? ยังไม่ไหว แม้ว่าเจ้าจะสำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ เสียดาย ความสามารถของเจ้าเมื่อเทียบกับผู้ที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้อย่างแท้จริงนั้นยังห่างชั้นอยู่ไม่น้อย!”

“ไม่น่าเป็นไปได้กระมัง” ยอดฝีมือที่ยืนดูอยู่ในระยะห่างไกลถึงกับกล่าวด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ รู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ไม่น่าเป็นไปได้ ทุกคนต่างรู้ว่าขอเพียงสำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ก็จะกลายเป็นผู้ที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ เวลานี้ คนโหดอันดับหนึ่งกลับบอกว่าหลงอ้าวเทียนไม่สามารถเป็นผู้ที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ผู้สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ต้องเป็นผู้ที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ มันคือความรู้รอบตัวอย่างหนึ่งในสายตาของผู้บำเพ็ญตนจำนวนมาก

“ฮึ…” หลงอ้าวเทียนส่งเสียงออกมาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของหลี่ชิเย่ แต่ว่า เขากลับไม่ได้โต้กลับคำพูดของหลี่ชิเย่

“ไม่ต้องทำเป็นไม่ยอมรับ” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้กล่าวว่า “ไตรอริยะสมบัติ จุดเด่นของห้าราชันเซียน นับว่าผลงานของเจ้าน่าตกใจโดยแท้ เสียดาย เจ้าใจร้อนเกินไป สัจธรรมของเจ้ายังไม่ทันสมบูรณ์กลับแข็งขืนก้าวขึ้นสู่กายเซียนขั้นสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลให้กายเซียนของเจ้ามีจุดตำหนิ ต่อให้วันหนึ่งเจ้าได้เป็นราชันเซียนแล้วก็ไม่สามารถเสริมแต่งรอยตำหนินี้ได้ ด้วยกำลังของเจ้าในเวลานี้ หากเผชิญราชันเซียนไม่สามารถยืนหยัดได้หนึ่งพันกระบวนท่าอยู่แล้ว ห้าร้อยกระบวนท่ายังยากเลย”

เมื่อบรรดาผู้ชมอยู่ในระยะห่างไกลได้ยินคำพูดนี้ของหลี่ชิเย่แล้วต่างมองหน้ากันและกัน ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากจึงได้เข้าใจว่ายังมีการแยกแยะให้ความสำคัญเช่นนี้ ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากเข้าใจว่าการสำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ก็คือผู้ที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ ที่แท้หาได้เป็นเช่นนี้ไม่

“ต่อให้เป็นเช่นนี้แล้วไง?” หลงอ้าวเทียนกลับไม่ได้รับผลกระทบ กล่าวน่าเกรงขามว่า “สัจธรรมมีหมื่นพัน ต่อให้กายเซียนมีจุดตำหนิข้าก็สามารถชดเชยกันได้ ชาตินี้ข้าต้องเป็นราชันเซียนแน่!”

หลงอ้าวเทียนมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ต่อให้เขาพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่ แต่การตัดสินใจมุ่งไปให้ถึงราชันเซียนยังคงไม่ได้สั่นคลอนแม้แต่น้อย กล่าวสำหรับเขาแล้ว ชาตินี้จะต้องเป็นราชันเซียนให้ได้ ไม่ว่าใครก็ตามหากขวางทางของเขา เขาจะฆ่าไม่มีการยกเว้น เขามีความมั่นใจในตนเอง มีผลสำเร็จที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง

“มีความมั่นใจหาใช่เป็นเรื่องไม่ดี” หลี่ชิเย่หัวเราะออกมา และยิ้มกล่าวว่า “มองออกได้ว่าเจ้าเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน เจ้าคิดจะก้าวล้ำหน้าคนก่อนหน้า ต้องการก้าวแซงหน้าปรมาจารย์ของพรรคเซียนเหิน เป็นต้นว่าราชันเซียนทุนเย่อ หรือบรรพบุรุษของเจ้าราชันเซียนเหรินเสียน เจ้าเข้าใจว่าตัวเองจะได้เป็นราชันเซียนที่ยิ่งใหญ่มากกว่าพวกเขา กระทั่งสามารถเทียบเคียงราชันเซียนเฟยปฐมาจารย์ของพรรคเซียนเหิน…”

“ใช่แล้วไง!” หลงอ้าวเทียนกล่าวน่าเกรงขามออกมา เวลานี้เขากลับไม่รีบร้อนที่จะลงมือ กล่าวสำหรับเขาแล้ว ศัตรูที่แข็งแกร่งนั้นหายาก ศัตรูเฉกเช่นหลี่ชิเย่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง เวลานี้เขากลับไม่อยากรีบร้อนสังหารเขาให้ตาย

“…ใช่ว่าข้าจะดูถูกเจ้า” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและยิ้มกล่าวว่า “ต่อให้ข้าให้เจ้าได้เป็นราชันเซียน เฉกเช่นลักษณะเช่นนี้ของเจ้า เจ้าก็ไม่สามารถแซงหน้าราชันเซียนทุนเย่อ ล้ำหน้าราชันเซียนป้าเมียดได้ บางทีพรสวรรค์ของเจ้าอาจสูงกว่าราชันเซียนทุนเย่อ แต่เจ้าร้อนรนเกินไป ไม่สามารถทำให้ใจนิ่งได้ ต่อให้วันหน้าเจ้าสามารถเป็นราชันเซียนได้ มันก็แค่ราชันเซียนทั่วไปเท่านั้นเอง!”

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกผิดคาด เมื่อเห็นคนโหดอันดับหนึ่งกับหลงอ้าวเทียนที่เป็นศัตรูคุ่อาฆาตกลับพูดคุยเช่นนี้ ทุกคนเข้าใจว่าพวกเขาพลันพบหน้าจะต้องสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง เวลานี้กลับพูดคุยกันด้วยหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับเรื่องของราชันเซียนขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากนึกไม่ถึง บางทีอาจจะมีเพียงผู้ที่ก้าวถึงระดับเช่นนี้แล้วจึงสามารถเข้าใจได้ว่าความคิดในใจของพวกเขาเป็นเช่นใด

“แหะ เกรงว่าเจ้าคงไม่ได้เห็นวันนั้น” คำพูดของหลี่ชิเย่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหลงอ้าวเทียน เขายิ้มเยาะว่า “เมื่อข้าเหยียบย่ำบนศพของเจ้าไปแล้ว เจ้าก็จะรู้ว่าข้าจะได้เป็นราชันเซียนแบบไหน!”

“ดูท่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรยังมั่นคง ไม่เกรงกลัวต่อความล้มเหลว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “เอาเถอะ ให้ข้ายัดเยียดความพ่ายแพ้ให้เจ้าอีกสักครั้ง ดูว่าเจ้าต้องพ่ายแพ้กี่ครั้งถึงจะทำให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรสั่นคลอน!”

“จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรสั่นคลอน!” หลงอ้าวเทียนเผยให้เห็นการเยาะเย้ยที่เต็มใบหน้า กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “หลี่ชิเย่ ถึงเวลาที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเจ้าสมควรสั่นคลอนได้แล้ว!”

“ตูม…ตูม…ตูม…” เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก จังหวะที่หลงอ้าวเทียนกล่าวขาดคำ บนท้องฟ้าปรากฏประตูขนาดยักษ์สุดเปรียบเปรยออกมา ปรากฏคนจำนวนมากในประตูนั่น

มันคือกองทัพที่มีไพร่พลจำนวนหนึ่งแสน ขนาดของกองทัพสร้างความหวาดผวาในใจกับผู้ที่พบเห็น!

เมื่อทอดสายตามองไปเห็นเสื้อเกราะทวนยาวจำนวนมากมาย ทหารที่ยืนตัวตรงจำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งกองทัพแลดูกลิ่นอายการฆ่าที่ดั่งคลื่นยักษ์ ภายใต้ปณิธานการฆ่าที่น่ากลัว ทำให้ทั่วทั้งมหาสมุทรต้องเข่าอ่อนสั่นเทา นี่คือกองทัพเหล็กกล้า เหมือนว่ามันพร้อมจะบดขยี้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

ผู้คนจำนวนมากได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ กับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของคนโหดอันดับหนึ่ง ความยโส ความอหังการ ความอวดดีของคนโหดอันดับหนึ่งใช่ว่าทุกคนเพิ่งเคยพบเจอ

“เวลานี้ คนเดียวสู้ไม่ได้คิดจะอาศัยคนมากใช่หรือไม่?” หลี่ชิเย่จ้องมองหลงอ้าวเทียนและยิ้มกล่าว

“ไม่ใช่ ข้าเพียงต้องการให้เจ้าได้เห็นผู้ที่ยืนอยู่ข้างเดียวกับเจ้าต้องตายอนาถเท่านั้นเอง!” หลงอ้าวเทียนกล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ในเมื่อพวกเขาเลือกที่จะยืนอยู่ข้างเจ้า ก็ให้พวกเขาได้ตายอย่างสมใจ และข้าจะให้เจ้าได้แต่มองตาปริบๆ คอยดูพวกเขาที่เคยสนับสนุนเจ้าถูกสังหารทีละคน โดยที่เจ้ากลับต้องยืนอยู่ตรงนี้ทำอะไรไม่ได้ เจ้าได้แต่มองดูพวกเขาไปตาย!”

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกขนลุกขนพองเมื่อได้ยินคำพูดของหลงอ้าวเทียน ยอดฝีมือทั้งหมดที่ดูชมการศึกครั้งนี้พลันสามารถจินตนาการถึงนาทีต่อไปว่า เมืองหมิงจูจะต้องเลือดไหลนองเป็นธาร ศพและกองกระดูกกองสุมดั่งภูเขา เสียงร้องโหยหวนดังก้องฟ้าดิน!

ผู้คนจำนวนมากต้องร่างสั่นเทิ้มเมื่อนึกถึงภาพนี้แล้ว นี่คือการเชือดไก่ให้ลิงดูของพรรคเซียนเหิน เป็นการเตือนไปทุกคนทั่วหล้า และสำนักทั้งหมดใต้หล้า ใครกล้ายืนอยู่ข้างคนโหดอันดับหนึ่งจะต้องนำมาซึ่งภัยถูกเข่นฆ่าอย่างทารุณโหดร้ายแน่นอน!

เมื่อผู้คนจำนวนมากนึกถึงจุดนี้แล้วก็ต้องรู้สึกขนลุกฃนพอง ถ้าหากใครเวลานี้จะต้องเลือกล่ะก็ เกรงว่าล้วนแล้วแต่ไม่กล้ายืนอยู่ข้างฝ่ายของคนโหดอันดับหนึ่ง

“ข้าจะดูว่าเจ้าสามารถทนได้สักกี่น้ำ ข้าต้องการดูว่าภายใต้การเข่นฆ่าเช่นนี้แล้ว จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้ายังคงมั่นคงอยู่หรือไม่” หลงอ้าวเทียนยิ้มเยาะออกมา ดวงตาเปล่งเป็นประกาย เผยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวยิ่งออกมา!

ที่หลงอ้าวเทียนทำเช่นนี้ไม่เพียงต้องการทำลายสิ้นเมืองหมิงจู ไม่เพียงต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู ขณะเดียวกันยังต้องการกระทบต่อหลี่ชิเย่ และนี่คือเหตุผลที่เหตุใดเขาต้องให้จักรพรรดิเทพชั้นมหัศจรรย์ห้าคนมาล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้

กระทั่งกล่าวได้ว่า หลงอ้าวเทียนไม่รีบร้อนที่จะสังหารหลี่ชิเย่ เขาต้องการสร้างความกระทบกระเทือนต่อหลี่ชิเย่ ต้องการทรมานหลี่ชิเย่ ต้องการให้หลี่ชิเย่มองตาปริบๆ เห็นคนข้างกายของตนตายอย่างอนาถ เพื่ออาศัยสิ่งนี้มากระทบจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขา

เมื่อผู้คนจำนวนมากได้ยินคำพูดของหลงอ้าวเทียนแล้วถึงกับขนลุกขนพอง การเป็นศัตรูกับหลงอ้าวเทียนนับเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล