ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1650

ตอนที่ 1650 เทพแท้จริงสยบโลกา
ทุกคนต่างงุนงงเมื่อได้เห็นภาพที่สะเทือนใจเช่นนี้ จักรพรรดิเทพทั้งห้าคนของพรรคเซียนเหินบทจะฆ่าก็ฆ่าเลย แม้แต่หลงอ้าวเทียนที่สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว ช่างเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะที่น่ากลัวเช่นใด

นาทีนี้ทุกคนต่างบังเกิดมโนภาพขึ้นมา ต่างเข้าใจว่าผู้ลงมือคือราชันเซียนองค์หนึ่ง

เวลานี้ ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของผู้คนคือผู้เฒ่าคนหนึ่ง ผู้เฒ่าที่มีลักษณะท่าทางเย็นชา โครงหน้าของเขาเหมือนผ่านการเจียระไนจากกาลเวลาอันยาวนาน จนเส้ฟนโครงร่างบนใบหน้ากลายเป็นสิ่งใดที่จะขัดเกลาได้อีกต่อไป ยังคงมีมุมและขอบที่ชัดเจน เหมือนว่าต่อให้กาลเวลาอันยาวนานผ่านไปก็ไม่สามารถลบมุมเหล่านั้นของเขาได้อีกแล้ว

ม้าศึกที่ผู้เฒ่าขี่อยู่นั้นเป็นม้าทองสัมฤทธิ์ ลักษณะของม้าศึกนับเป็นม้าที่ดีมากตัวหนึ่ง แม้ว่ามันจะเป็นเพียงม้าทองแดงแต่เปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา ทุกๆ เส้นโค้งบนตัวล้วนแล้วแต่เน้นให้เห็นถึงกล้ามเนื้อที่กำยำแข็งแรงของมัน

ผู้เฒ่าปราศจากอำนาจที่สะเทือนฟ้า และไม่มีพลังลมปราณที่ดั่งคลื่นยักษ์ ขณะที่เขาขี่อยู่บนหลังม้าที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าโดยมีทวนวางขวางกับตัว เพียงเท่านี้เขาก็เสมือนหนึ่งกลายเป็นนิรันดร์ ขอเพียงตัวเขาที่ประทับม้ายืนอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าผู้ดำรงอยู่ในฐานะใดอย่าหวังได้ก้าวข้ามหรือล้มเขาไปได้ เหมือนว่าเขาคือแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของฟ้าดินอย่างนั้น

มองดูผู้เฒ่าลักษณะเช่นนี้แล้ว ไม่มีใครรู้ถึงประวัติความเป็นมาของเขา ต่อให้ระดับจักรพรรดิเทพที่มีประสบการณ์มากที่สุดก็ดูเขาไม่ออก ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขาคือใคร

“เจ้าเด็กน้อย ทักษะไม่เลว” ผู้เฒ่าที่วางทวนขวางลำตัวนั่งอยู่บนหลังม้าที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า จ้องมองหลงอ้าวเทียน แล้วกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เสียดาย ผู้ที่สามารถสู้กับข้าได้ในพรรคเซียนเหินมีเพียงอสุราเท่านั้น นอกนั้นไม่ได้เรื่อง!”

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของผู้เฒ่าทำให้ผู้คนทั่วหล้าต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ไม่มีใครรู้ว่าอสุราคือใคร แต่ว่าการที่ผู้เฒ่าพูดออกมาเช่นนี้ถือว่าน่ากลัวยิ่งนักแล้ว

ทอดสายตาไปในใต้หล้า จะมีสักกี่คนที่กล้าพูดว่าพรรคเซียนเหินที่เหลือไม่ได้เรื่อง!

แม้แต่หลงอ้าวเทียนก็ต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป คนอื่นอาจไม่รู้จัก “อสุรา” แต่เขารู้จัก บรรพบุรุษรุ่นดึกดำบรรพ์อสุรา เคยเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษรุ่นดึกดำบรรพ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพรรคเซียนเหิน เคยมีบรรพบุรุษอาวุโสของพรรคเซียนเหินเคยกล่าวไว้ว่า ในประวัติศาสตร์พรรคเซียนเหิน นอกจากราชันเซียนแล้ว ความแข็งแกร่งของบรรพบุรุษรุ่นดึกดำบรรพ์อสุราหากไม่สามารถจัดให้อยู่ในอันดับหนึ่งก็ต้องอยู่ในอันดับสองอย่างแน่นอน!

เนื่องเพราะมีบรรพบุรุษรุ่นดึกดำบรรพ์อสุราที่แข็งแกร่งนี่เอง เป็นผู้คุ้มครองให้กับราชันเซียนเหรินเสียนบรรพบุรุษของพวกเขา ช่วยขจัดความเห็นต่างของทุกคน สุดท้าย ราชันเซียนเหรินเสียนบรรพบุรุษของพวกเขาจึงมีโอกาสผงาดขึ้นมาในยุทธภพ และกลายเป็นราชันเซียนในที่สุด

น่าเสียดาย ท้ายที่สุดแล้วต่อให้บรรพบุรุษรุ่นดึกดำบรรพ์อสุราที่แข็งแกร่งจนปราศจากผู้ต่อกรก็ไม่สามารถทนต่อภัยพิบัติของกาลเวลาไปได้ และสิ้นอายุขัยในที่สุด จากโลกนี้ไปเนื่องจากพลังลมปราณแห้งเหือดและเสื่อมโทรม!

เวลานี้ ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้ากลับบอกว่า พรรคเซียนเหินของพวกเขามีเพียงบรรพบุรุษรุ่นดึกดำบรรพ์อสุราเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเขาได้ ย่อมสามารถประเมินได้ว่าผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้ามีความแข็งแกร่งเพียงใด

“ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร?” หลงอ้าวเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ควบคุมพลังลมปราณให้เป็นปรกติ กล่าวด้วยลักษณะท่าทางที่หนักแน่นจริงจัง

“เทพแท้จริงสยบโลกา” ผู้เฒ่ากล่าวท่าทีเฉยเมย เป็นคำกล่าวที่เรียบเฉยมาก ไม่ค่อยมีความรู้สึกอะไร กล่าวสำหรับเขาแล้วนี่เป็นเรื่องที่ปรกติธรรมดามาก

เทพแท้จริงสยบโลกา! บรรดายอดฝีมือจำนวนมากเมื่อได้ยินชื่อนี้แล้วต่างมองหน้ากันและกัน เนื่องจากไม่มีใครเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แม้แต่ระดับจักรพรรดิเทพรุ่นอาวุโสก็ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

แต่ว่า เมื่อชื่อนี้ถูกเอ่ยขึ้นมา มีผู้ที่อยู่ในร่องน้ำลึกของสายสำนักราชันเซียนลืมตาขึ้น มีตาแก่ที่ดึกดำบรรพ์ยิ่งถูกทำให้ตกใจจนลุกขึ้นมานั่งโดยพลัน รู้สึกตื่นตระหนกยิ่งนัก พึมพำออกมาว่า “ไม่นึกเลยว่าเทพแท้จริงสยบโลกายังคงมีชีวิตอยู่ นี่คือเทพแท้จริงที่ร่วมการศึกพิฆาตเซียนแล้วยังคงมีชีวิตอยู่! เป็นความมหัศจรรย์ที่ดึกดำบรรพ์นะเนี่ย โลกหล้านี้ผู้ที่สามารถเรียกหาเขาได้มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น!

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้แล้ว ประเภทแก่ง่ายตายยากที่ดึกดำบรรพ์ยิ่งถึงกับสั่นเทิ้ม รีบนอนลงไปในโลงโบราณตามเดิม ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป

“เทพแท้จริงสยบโลกา!” แม้แต่หลงอ้าวเทียนที่มีชาติกำเนิดมาจากพรรคเซียนเหิน เมื่อได้ยินชื่อนี้แล้วก็ต้องตกใจจนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวและมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาก

คนอื่นอาจไม่เคยได้ยิน “เทพแท้จริงสยบโลกา” แต่ในฐานะของผู้สืบทอดพรรคเซียนเหินเขาเคยได้ยินชื่อนี้ เป็นชื่อที่เปี่ยมด้วยสีสันมหัศจรรย์

สยบโลกา! นับแต่โบราณกาลเป็นต้นมาจะมีสักกี่คนที่กล้าตั้งฉายาว่าสยบโลกา และมีกี่คนที่กล้าเรียกว่าเป็นเทพแท้จริง! มีไม่กี่คนกล้าตั้งฉายาว่าสยบโลกา และมีไม่กี่คนกล้าเรียกว่าเทพแท้จริง แต่ เวลานี้ฉายานี้กลับปรากฏอยู่บนตัวของคนๆ หนึ่ง เทพแท้จริงสยบโลกา!

บุคคลที่ดำรงอยู่ในฐานะมีสายเลือดที่สูงส่งยิ่ง ขุนพลเฒ่าผู้หนึ่งที่เคยผ่านสมรภูมิพิฆาตเซียนมา ขุนพลที่ห้าวหาญที่ยังคงรอดชีวิตมาได้ภายใต้ศึกพิฆาตเซียนที่โหดร้ายทารุณสุดเปรียบเปรย ย่อมประเมินได้ว่าผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นนี้ช่างน่ากลัวเพียงใดแล้ว!

“ชีวิตของพวกเจ้าไม่ใช่ข้าเป็นผู้เก็บเกี่ยว วันนี้ข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าต้องลำบากใจ” เทพแท้จริงสยบโลกามองดูหลงอ้าวเทียนทีหนึ่ง จากนั้นมองดูผู้ที่หลบซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้าและไม่ปรากฎตัวออกมา กล่าวเรียบเฉยว่า “หากชาตินี้พรรคเซียนเหินพวกเจ้ายังคงมีโอรสราชันอะไรที่คิดว่าตัวเองยอดเยี่ยมล่ะก็ รีบๆ ลงมือได้เลย ชาตินี้ กองทัพมังกรเขียวของข้าได้รับคำบัญชาจากใต้เท้าจะปราบพรรคเซียนเหินพวกเจ้าให้ราบแน่นอน!”

เป็นคำพูดที่ราบเรียบแต่หนักแน่นจริงจัง ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อได้ยินแล้วก็ต้องรู้สึกขนลุกขนพอง ในโลกจะมีสักกี่คนที่กล้าทำลายพรรคเซียนเหินจนราบคาบ แต่ว่า ผู้เฒ่าผู้นี้กลับพูดออกมาแล้ว

“อ๊ากก…” เวลานี้ปิดฉากลงด้วยเสียงร้องที่น่าเวทนา กองทัพนี้ได้ทำการกวาดล้างสมรภูมิรบแห่งนี้จนราบเรียบภายในระยะเวลาอันสั้น กองทัพเรือนแสนของพรรคเซียนเหินถูกทำลายสิ้นหมดทั้งกองทัพภายในเวลาอันสั้น ไม่มีรอดชีวิตแม้แต่รายเดียว

ขณะที่กองทัพนี้รั้งอยู่ที่เมืองหมิงจูในเวลานี้ ศิษย์เมืองหมิงจูที่เฝ้ารักษาเมืองมองเห็นพวกเขาแล้วก็ต้องขาสั่นทั้งสองข้าง โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นท่าทีที่เย็นชาของทหารเก่าแล้ว ศิษย์ของเมืองหมิงจูถึงกับก้าวถอยหลังและไม่กล้าจ้องตากับพวกเขา เนื่องจากสายตาของพวกเขาคมกริบจนสามารถแทงทะลุหัวใจคนได้ เมื่อถูกพวกเขาจ้องมองแวบหนึ่งล่ะก็ เกรงว่าคงต้องนอนฝันร้ายเป็นเวลานานมาก

“ตูม…” ทันใดนั้น กองทัพทั้งหมดได้ออกไปจากเมืองหมิงจู พลันขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า ด้วยขบวนที่เป็นระเบียบยิ่งนัก โดยกองทัพนี้ได้ตั้งขบวนอยู่หน้าหลี่ชิเย่ รอให้หลี่ชิเย่ตรวจพล

หลงอ้าวเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เวลานี้เขารู้แล้วว่าที่ตนเผชิญอยู่คือกองทัพลักษณะเช่นใด ต่อให้กองทัพเรือนแสนของพรรคเซียนเหินพวกเขาพ่ายอย่างราบคาบให้กับกองทัพนี้ก็ใช่เป็นเรื่องน่าอับอาย เนื่องจากเป็นกองทัพที่ผ่านศึกพิฆาตเซียนมาแล้ว พวกเขาเคยเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัวที่สุดในโลกมาแล้ว นั่นคือ…เผ่าอเวจี!

กองทัพนี้คือกองทัพในตำนาน พวกเขาร่วมมือกับปรัชญาเมธีของเก้าแดน ทำลายราชวงศ์อเวจี ทำให้ยุคสมัยปกครองของอเวจีล่มสลาย!

“ดี พวกเราคงได้พบกันอีก วันหน้าพรรคเซียนเหินพวกเราจะต้องทวงคืนความพ่ายแพ้ในครั้งนี้!” หลงอ้าวเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กล่าวหนักแน่นจริงจัง จบคำหันหลังจากไปทันทีโดยไม่รีรอ เพียงพริบตาเดียวก็หายไปในเส้นขอบฟ้า

กล่าวสำหรับหลงอ้าวเทียนแล้ว สงครามครั้งนี้พวกเขาพ่ายแพ้แล้ว เป็นการพ่ายแพ้อย่างราบคาบ! แต่ทว่า พรรคเซียนเหินพวกเขายอมรับได้ พรรคเซียนเหินพวกเขายังมีกองทัพที่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้อีก!

เวลานี้ เทพแท้จริงสยบโลกาได้กระโดดลงมาจากม้าศึก เดินไปอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่ ไม่พูดไม่จา “ซ่วบบ” คุกเข่าลงอยู่ตรงนั้น

“ซ่วบบ” ทหารทั้งหมดของกองทัพมังกรเขียวคุกเข่าลงตรงด้านหน้าของหลี่ชิเย่อย่างพร้อมเพรียง

ผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวั่นไหว รู้สึกเลือดอุ่นในกายพลุ่งพล่านเมื่อได้เห็นภาพนี้ นี่คือกองทัพที่ปราศจากผู้ต่อกร เวลานี้ กลับสยบตรงหน้าหลี่ชิเย่ กล่าวสำหรับบุรุษผู้หนึ่งแล้ว มันช่างเป็นเกียรติยศเพียงใด บุรุษใดก็ตาม หากสามารถยืนอยู่ตรงจุดนี้ เลือดในกายก็ต้องพลุ่งพล่านอยู่แล้ว

บุรุษควรเป็นเยี่ยงนี้ เมื่อยืนอยู่ตรงตำแหน่งนี้แล้ว ชาตินี้ยังจะต้องการสิ่งใดอีก!

“มังกรเขียวปกฟ้า รบร้อยครั้งฆ่าเซียน!” เวลานี้ คำพูดของเทพแท้จริงสยบโลกาดังก้องไปทั่วแดนมนุษย์กษัตรา เสียงของเขาสยบผู้ที่ดำรงอยู่ในแดนมนุษย์กษัตรา เมื่อคำขวัญของกองทัพถูกร้องประกาศออกมา เก้าแดนสมควรสั่นเทาอีกครั้ง!

“มังกรเขียวปกฟ้า รบร้อยครั้งฆ่าเซียน!” นักรบทุกคนที่อยู่ในกองทัพมังกรเขียวต่างเปล่งเสียงดังออกมา เสียงของพวกเขาสะเทือนหวั่นไหวไปเก้าแดน สยบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินเอาไว้ ไม่ว่าผู้นั้นจะดำรงอยู่ในสถานะเช่นใดก็ตาม เมื่อได้ยินคำขวัญของกองทัพนี้แล้วก็ต้องสั่นเทา!

เมื่อเสียงเขาควายกองทัพมังกรเขียวถูกเป่าให้ดังขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้โลกหล้าต้องสลด เก้าแดนต้องสั่นเทา!

ภาพเช่นนี้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต้องทุกๆ คน ทุกคนที่มองเห็นทหารทั้งกองทัพที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น ถึงกับทำให้ภายในใจรู้สึกสั่นเทา ไม่รู้ว่านี่คือความหวาดหวั่นพรั่นพรึง หรือตื่นเต้นดีใจกันแน่

มองดูกองทัพที่อยู่ตรงหน้า มองดูทหารเก่าที่อยู่ในกองทัพ ทหารเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากศึกพิฆาตเซียนในครั้งนั้น หลี่ชิเย่ถึงกับรู้สึกได้ถึงหางตาที่เปียกแฉะ

“มังกรเขียวปกฟ้า รบร้อยครั้งฆ่าเซียน!!” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ทหารเก่าไม่ตายมังกรเขียวไม่สูญสลาย!” ประโยคสุดท้ายออกมาจากปากของหลี่ชิเย่ที่ร้องออกมา

“ทหารเก่าไม่ตาย มังกรเขียวไม่สูญสลาย!” ทหารลูกหลานของกองทัพมังกรเขียวต่างอดที่จะร้องออกมาไม่ได้ในเวลานี้ โดยเฉพาะบรรดาทหารเก่าที่มีลักษณะท่าทางเย็นชา พวกเขาล้วนแล้วแต่ร้องเสียงดังออกมา ทำให้คำพูดที่เย็นชาถึงกับทำให้หางตาต้องเปียกแฉะ!

หวนระลึกถึงครั้งครานั้น พวกเขาหลั่งเลือดต่อสู้กับอเวจี ร่วมเป็นร่วมตาย ผ่านมากี่ปีแล้ว พวกเขาได้กลับมาอยู่ใต้ร่มธงทิวของกองทัพมังกรเขียวอีกครั้ง พวกเขาได้กลับมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของใต้เท้าอีกครั้ง! ในชาตินี้จะได้ประกาศเกียรติยศของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง

ชาตินี้ กองทัพมังกรเขียวพวกเขาจะต้องสะเทือนหวั่นไหวและสยบเก้าแดนอีกครั้งอย่างแน่นอน ชาตินี้พวกเขาจะเฝ้าปกปักษ์รักษาท้องฟ้าแห่งนี้ เฝ้าพิทักษ์เก้าแดนนี้เอาไว้!

หลี่ชิเย่มองเห็นใบหน้าของทหารเก่าแต่ละคนแล้ว แม้ว่าหัวใจดวงนี้ของเขาได้ด้านชาและเยือกเย็นไปแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันอุ่นๆ หางตาที่เปียกแฉะ เขาได้แอบปาดน้ำตาออกไปเงียบๆ ไม่อยากให้มีการหลั่งน้ำตาต่อหน้าคนอื่น

หลี่ชิเย่วางมือไว้บนศีรษะของเทพแท้จริงสยบโลกา เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “พวกเจ้าคือเกียรติยศชั่วชีวิตของข้า เป็นความภูมิใจของข้า! ไม่ต้องมากพิธี ลุกขึ้น”

สุดท้าย “ซ่วบบ” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทหารลูกหลานทั้งหมดของกองทัพมังกรเขียวลุกขึ้นยืนตามเทพแท้จริงสยบโลกา พวกเขายืนตรงแน่วอยู่หน้าหลี่ชิเย่ ทหารเก่าจ้องมองหลี่ชิเย่ เพื่อสลักเขาเอาไว้ในใจ

หลี่ชิเย่ก็มองดูใบหน้าแต่ละคน และทำการสลักเอาไว้ในใจเช่นกัน นี่คือพี่น้องผู้ที่เคยร่วมเป็นร่วมตาย หลั่งเลือดต่อสู้อย่างทรหดมาก่อน!

เขาเคยฝังร่างของทหารเก่ามาแล้วมากมายเท่าไร เคยส่งพี่น้องไปจากมาจำนวนเท่าไร เคยมองเห็นเลือดสดๆ ของพวกเขาที่ไหลนองย้อมผืนแผ่นดินจนแดงฉาน…

ในยุคมืดของอเวจี พวกเขาร่วมเป็นร่วมตาย พวกเขาได้ผ่านวันเวลาที่ยากเข็ญที่สุด พวกเขาร่วมฝ่าฟันสงครามที่โหดร้ายทารุณที่สุดมา พวกเขาเคยร่วมหัวเราะเสียงดังด้วยความยินดี พวกเขาเคยหลั่งน้ำตาอย่างเงียบๆ ด้วยกันมา…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล