ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1662

ตอนที่ 1662 กองทัพใหญ่สิบล้าน
พรรคเซียนเหินไม่รีบเร่งที่จะพุ่งเป้าไปที่แดนมนุษย์กษัตรา หลังจากที่พวกเขาก่อสร้างเวทีแต่งตั้งแม่ทัพเสร็จแล้ว พายุทอร์นาโดสีดำได้เริ่มส่งเสียงคำรามขึ้นมาอีกครั้ง จากการที่พายุทอร์นาโดสีดำส่งเสียงคำรามไม่ขาดสาย ได้ทำให้ทั่วมหาสมุทรอุดรเกิดการสั่นไหวโคลงแคลงขึ้นมา

บรรดาผู้บำเพ็ญตนของมหาสมุทรอุดรล้วนแล้วแต่สามารถรับรู้ได้ว่า จังหวะที่พายุทอร์นาโดสีดำส่งเสียงคำรามขึ้นมานั้น พวกมันได้ดูดเอาพลังแก่นฟ้าดินจากเส้นชีพจรใต้ดินขึ้นมาอย่างขนานใหญ่ เหมือนปั๊มน้ำขนาดยักษ์ที่ต้องการดูดเอาพลังแก่นฟ้าดินใต้ดินจนแห้งอย่างนั้น

พายุทอร์นาโดสีดำจำนวนสิบสาย กระจายคุมพื้นที่สิบทิศด้วยการมุดลงใต้พื้นดินจนถึงเส้นชีพจรใต้ดินผ่านพื้นที่บรรพชนของสำนักเจ้าลัทธิต่างๆ สิบแห่ง การวางกลยุทธในลักษณะเช่นนี้นับว่าได้รวบเอาเส้นชีพจรใต้ดินทั่วทั้งมหาสมุทรอุดรมาไว้กับมือทั้งหมด

ขณะที่พายุทอร์นาโดสีดำทั้งสิบสายทำการดูดเอาพลังแก่นฟ้าดินจากเส้นชีพจรใต้ดินไปยังเวทีแต่งตั้งแม่ทัพนั้น ทำให้เวทีแต่งตั้งแม่ทัพเปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์รุนแรงขึ้นมาจนส่องสว่างไสวไปทั่วแดนมนุษย์กษัตรา ในเวลานี้ บนเวทีแต่งตั้งแม่ทัพเห็นเงาคนตะคุ่ม เงากองทัพอาชาที่แลดูวับแวมเหมือนว่าพรรคเซียนเหินพร้อมที่จะส่งกองทัพไปยังทุกๆ ที่ในเก้าแดน

จังหวะที่พรรคเซียนเหินนำเอาพลังแก่นฟ้าดินใส่ลงไปในเวทีแต่งตั้งแม่ทัพอยู่นั้น กองทัพพันธมิตรของไห่หลินก็ขยายกำลังพลเพิ่มมากขึ้นทุกวัน มีสำนักต่างๆ ที่เข้าร่วมในกองทัพพันธมิตรของไห่หลินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งสายสำนักราชันเซียนจากเมืองร้อยเมืองบูรพา แดนชาดทักษิณ ดินแดนภาคกลาง ทุ่งรกร้างประจิมต่างก็เข้าร่วมในกองทัพพันธมิตร

ชาตินี้พรรคเซียนเหินยังไม่ได้มีราชันเซียนกำเนิดขึ้นมาก็ได้สร้างเวทีแต่งตั้งแม่ทัพขึ้นที่มหาสมุทรอุดรแล้ว มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนหวั่นเกรงยิ่งนัก ทุกคนย่อมเข้าใจได้ว่าหลังจากเสร็จสิ้นการสร้างเวทีแต่งตั้งแม่ทัพแล้ว เป็นการบ่งบอกว่าสามารถส่งกองทัพไปได้ทุกที และกดดันพุ่งไปที่แดนมนุษย์กษัตรา!

สิ่งที่ทำให้สายสำนักราชันเซียนในแดนมนุษย์กษัตรากังวลก็คือ การปรากฏตัวของพรรคเซียนเหินอย่างเต็มรูปแบบโดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด คิดจะทำลายใครก็ทำลายใคร ไม่เว้นแม้แต่สายสำนักราชันเซียน บทจะทำลายก็ทำลายทิ้งทันทีโดยปราศจากเหตุผลล และไม่เคยมีความแค้นกันมาก่อน

เนื่องเพราะเหตุนี้เอง ในระหว่างที่ไห่หลินเรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองทัพพันธมิตรขึ้นมา และเริ่มมีสายสำนักราชันเซียนที่เข้าร่วม ต่อมาภายหลัง จากการที่มีสำนักต่างๆ ขอเข้าร่วมในกองทัพพันธมิตรเพิ่มมากขึ้น บวกกับการพูดหว่านล้อมของสายสำนักราชันเซียนก่อนหน้า จึงทำให้มีสายสำนักราชันเซียนจำนวนไม่น้อยต่างเข้าร่วมด้วย

ย่อมไม่เป็นที่สงสัย สงครามในครั้งนี้กล่าวสำหรับแดนมนุษย์กษัตราแล้วไม่มีทางที่จะถอยอีกแล้ว ไม่ก็ขับไล่พรรคเซียนเหินไปให้พ้น ไม่ก็ปล่อยให้ถูกปกครองโดยพรรคเซียนเหิน ดังนั้น จากการที่มีสำนักและแคว้นเจ้าลัทธิเข้าร่วมในกองทัพพันธมิตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สำนักต่างๆ ในแดนมนุษย์กษัตราได้ตัดสินใจแน่วแน่มากขึ้นเรื่อยๆ ต้องการต่อสู้ชี้ขาดกับพรรคเซียนเหินให้ตายไปข้างหนึ่ง

พรรคเซียนเหินไม่ได้แสดงท่าทีหวั่นไหวแม้แต่น้อยกับการที่ต้องเผชิญกับกองทัพพันธมิตรที่เติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ส่งศิษย์ใดๆ ไปเจรจา หรือแสดงท่าทีของตน ดูท่าพรรคเซียนเหินได้ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะทำการใหญ่ในครั้งนี้แล้ว ไม่ขออยู่ร่วมโลกกับแดนมนุษย์กษัตราให้จงได้

การที่พรรคเซียนเหินทำเช่นนี้ไม่เพียงเป็นการแสดงถึงการตัดสินใจเด็ดขาดของพวกเขา ขณะเดียวกันยังเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขามีความมั่นใจในตัวเองว่ามีกำลังความสามารถที่จะทำเรื่องนี้ได้

เนื่องเพราะการกระทำเช่นนี้ของพรรคเซียนเหิน จึงทำให้สำนักและแคว้นเจ้าลัทธิในแดนมนุษย์กษัตราจำนวนมากยิ่งตัดสินใจเด็ดขาดต้องการสู้รบให้ตายไปข้างหนึ่งกับพรรคเซียนเหิน หากว่าพรรคเซียนเหินส่งทูตเจรจาสัญญาจะให้ผลประโยชน์กับบรรดาสายสำนักราชันเซียนในจังหวะนี้ล่ะก็ เกรงว่าขนาดของกองทัพพันธมิตรคงไม่เติบโตได้ถึงเพียงนี้

การที่พรรคเซียนเหินไม่ส่งทูตใดๆ ออกไป เป็นการบ่งบอกว่าพรรคเซียนเหินจงใจปล่อยให้กองทัพพันธมิตรได้ขยายกำลังได้เต็มที่ จากนั้นค่อยจัดการกับกองทัพพันธมิตรให้หมดสิ้นในคราวเดียว กล่าวสำหรับพรรคเซียนเหินแล้วเมื่อจัดการกับกองทัพพันธมิตรจนหมดสิ้นแล้ว สำนักเจ้าลัทธิในแดนมนุษย์กษัตราที่หาญกล้าต่อต้านพวกเขาจะเหลือเพียงไม่กี่สำนักเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้น แดนมนุษย์กษัตราก็คือของตายที่อยู่ในกำมือของพรรคเซียนเหินพวกเขาแล้ว

“ตูม…” ในที่สุดโอกาสก็มาถึง ภายใต้คำสั่งของหลี่ชิเย่ กองทัพมังกรเขียวมุ่งหน้าตรงไปยังเวทีแต่งตั้งแม่ทัพของพรรคเซียนเหิน!

พลันที่กองทัพมังกรเขียวเคลื่อนพล กลิ่นอายการฆ่าฟันตลบอบอวลทั่วแดนมนุษย์กษัตรา แม้ว่าจำนวนไพร่พลของกองทัพมังกรเขียวมีไม่มาก แต่ว่ากลิ่นอายการฆ่าที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของทหารเก่าทุกคนล้วนแล้วแต่ทำให้สรรพชีวิตของหมื่นเผ่าพันธุ์ต้องสั่นเทา เมื่อทุกคนมองเห็นกองทัพที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือเครื่องจักรสงคราม เป็นเครื่องบดเนื้อที่ใหญ่โตมหึมายิ่งนัก สามารถทำให้สมรภูมิรบนรกอเวจีได้ทั้งหมด!

กองทัพมังกรเขียวมุ่งหน้าเวทีแต่งตั้งแม่ทัพ โดยมีเทพแท้จริงสยบโลกานำทัพอยู่ด้านหน้าเพียงลำพัง เขาควบม้าทองสัมฤทธิ์ในมือถือทวนวงเดือนสยบโลกา ม้าทองสัมฤทธิ์ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวๆ

เทพแท้จริงสยบโลกาที่นำทัพอยู่ด้านหน้าเพียงคนเดียว ท่าทีมีเพียงข้าเท่านั้นที่ปราศจากผู้ต่อกร การเบิกทางอยู่ด้านหน้าสุดของเขาไม่มีผู้ใดขัดขวางได้ แม้แต่ฟ้าดินยังต้องสั่นเทา ต่อให้ระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมของพรรคเซียนเหินเมื่อมองเห็นเทพแท้จริงสยบโลกาที่ควบม้าศึกก้าวเดินมาช้าๆ ก็มีสีหน้าที่หนักแน่นจริงจังเช่นเดียวกัน

ต่อให้บรรพบุรุษของพรรคเซียนเหินมีความแข็งแกร่งมากกว่านี้ เมื่อมองเห็นผู้ดำรงอยู่เฉกเช่นเทพแท้จริงสยบโลกาแล้ว ยังต้องบังเกิดความไม่มั่นใจขึ้นมาเช่นกัน

เหมือนดั่งคำพูดของเทพแท้จริงสยบโลกาคำนั้น หากอสุราคงอยู่ยังสามารถสู้กับเขาได้ ที่เหลือธรรมดาๆ ไม่สามารถสู้ได้เลย! แม้ว่าคำพูดนี้สร้างความไม่พอใจให้กับระดับบรรพบุรุษของพรรคเซียนเหินเป็นจำนวนมาก แต่ว่า ไม่อาจไม่รับมือด้วยความรอบคอบ!

“ตูม ตูม ตูม…” ในขณะที่กองทัพมังกรเขียวเคลื่อนทัพไปยังเวทีแต่งตั้งแม่ทัพนั้น กองทัพพันธมิตรของไห่หลินก็เคลื่อนพลมาสนับสนุน ทันใดนั้นเอง เสียงเคลื่อนทัพได้ดังก้องไปทั่วมหาสมุทรอุดร

เมื่อเปรียบเทียบกับกองทัพมังกรเขียวแล้ว กองทัพพันธมิตรมีขนาดที่ใหญ่มาก ทอดสายตามองออกไปเรียกได้ว่ากองทัพพันธมิตรนั้นยิ่งใหญ่มากเต็มพื้นที่ไปหมด ธงรบของกองทัพพันธมิตรที่โบกสะบัดสามารถปิดกั้นฟ้าดิน ด้วยกองทัพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เรียกได้ว่าสร้างความตื่นตระหนกให้กับสรรพชีวิตเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เกรงว่าคงมีผู้คนจำนวนมากที่ชั่วชีวิตได้เห็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เป็นครั้งแรก

กองทัพพันธมิตรยิ่งใหญ่สุดเปรียบเปรยนี้ประกอบด้วยทุกเผ่าพันธุ์หมื่นสำนักอยู่ในนั้น ภายในกองทัพมีทั้งเผ่าปีศาจ เผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่ามนุษย์ศิลา เผ่าโลหิต เผ่าวิญญาณเทพเป็นต้น ยิ่งปีศาจทะเลด้วยแล้วเรียกได้ว่ามากันจนหมดสิ้น ปีศาจทะเลที่เหลือรอดอยู่ได้เข้าร่วมกองทัพในครั้งนี้ทั้งหมด สาบานว่าจะต่อสู้ชี้ขาดกับพรรคเซียนเหิน!

กองทัพพันธมิตรยกย่องตัวเองว่ามีกำลังพลถึงสิบล้าน แม้ว่ายอดนี้ออกจะคุยโวไปบ้าง แต่ว่า มันได้รวมเอาร้อยเผ่าหมื่นสำนักของแดนมนุษย์กษัตราเข้าไปด้วย โดยเฉพาะสำนักต่างๆ ในมหาสมุทรอุดรเก้าในสิบล้วนแล้วแต่เข้าร่วมในกองทัพพันธมิตรนี้ทั้งสิ้น ดังนั้น กำลังพลของกองทัพพันธมิตรนี้ต่อให้ไม่ถึงสิบล้าน น่ากลัวคงต้องมีถึงเจ็ดล้านคน!

ไห่หลินได้รับการเลือกให้เป็นแม่ทัพของกองทัพพันธมิตร นอกเหนือจากนั้น ยังได้ระดับจักรพรรดิเทพที่ยิ่งใหญ่หลายคนคอยให้ความช่วยเหลือไห่หลิน เพื่อควบคุมกองทัพพันล้านที่ยิ่งใหญ่นี้

ไห่หลินเคยให้คำสัญญาว่า ขอเพียงกองทัพมังกรเขียวเคลื่อนพล กองทัพพันธมิตรของพวกเขายินดีบุกเป็นกองหน้าให้กับกองทัพมังกรเขียว ยินดีเบิกทางเลือดให้กับกองทัพมังกรเขียว

ความจริงแล้ว วิธัการเช่นนี้ไม่ว่ากองทัพพันธมิตรเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก หากพวกเขาต้องการที่ยืนในอนาคตก็ต้องเอาชีวิต เลือดเนื้อของตนเข้าแลกกับพื้นที่เพื่อความอยู่รอด!

ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าร่วมกองทัพพันธมิตรในครั้งนี้ ถึงกับเลือดระอุในกายเดือดพล่าน และรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

“แดนมนุษย์กษัตราพวกเราสมควรร่วมมือด้วยกัน เมื่อต่อต้านการรุกรานของบุคคลอื่น ต่อให้พวกเราเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม หากร่วมมือกันเมื่อใดก็ย่อมทำให้ศัตรูทั้งหลายต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง ให้บรรดาผู้รุกรานได้รู้ว่า แดนมนุษย์กษัตราหาใช่ใครก็มารังแกกันได้” ผู้บำเพ็ญตนที่มองดูกองทัพพันล้านแล้วถึงกับกล่าวด้วยเลือดในกายที่ร้อนระอุ

ศึกใหญ่ยังไม่ได้เริ่มต้น ไม่ว่าผลของสงครามในครั้งนี้จะจบลงเช่นใด การที่ร้อยเผ่าพันธุ์หมื่นสำนักต่างเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกายแห่งความหวังขึ้นให้กับเหล่าผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของแดนมนุษย์กษัตรา อย่างน้อยที่สุด เมื่อยามที่ภัยพิบัติมาถึง ร้อยเผ่าพันธุ์หมื่นสำนักสามารถละทิ้งบุญคุณความแค้นระหว่างบุคคล หรือสำนักที่มีต่อกันในอดีต หันมาร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านผู้รุกรานด้วยกัน!

กองทัพมังกรเขียว และกองทัพพันธมิตรที่มีไพร่พลพันล้านต่างอยู่ด้านนอกเวทีแต่งตั้งแม่ทัพ พร้อมเข้าโจมตีต่อเวทีแต่งตั้งแม่ทัพได้ทันที กล่าวสำหรับทุกคนแล้ว ขอเพียงตีเวทีแต่งตั้งแม่ทัพให้แตก ประตูทางเข้าพรรคเซียนเหินก็จะปรากฏแก่สายตายของทุกคน

เสียง “แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” ดังขึ้น ยามที่ทหารสองทัพได้ตั้งทัพอยู่ด้านหน้าเวทีแต่งตั้งแม่ทัพแล้ว ทางด้านเวทีแต่งตั้งแม่ทัพของพรรคเซียนเหินก็ปรากฏประกายเซียนที่ปะทุขึ้นมา เสียง “ปัง ปัง ปัง” ดังขึ้น เวทีแต่งตั้งแม่ทัพพลันปรากฏเป็นกำแพงคริสตัลที่หนามากขึ้นมา โดยที่กำแพงคริสตัลนี้เคยได้รับการปกปักษ์รักษาจากราชันเซียนมา มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก ยากจะตีให้แตกได้

อย่างไรก็ตาม กองทัพใหญ่ของพรรคเซียนเหินที่อยู่ภายในเวทีแต่งตั้งแม่ทัพได้วางรูปขบวนเอาไว้แล้ว กลิ่นอายฆ่ารุนแรง พร้อมรอคอยการบุกเข้ามาของกองทัพมังกรเขียวและกองทัพพันธมิตร

“พี่หลี่” ครั้นกองทัพทั้งสองได้ตั้งทัพอยู่ด้านหน้าเวทีแต่งตั้งแม่ทัพแล้ว ไห่หลินได้เข้าคารวะต่อหลี่ชิเย่ด้วยตนเอง

ไห่หลินในเวลานี้ เขาสวมใส่เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์หนาๆ บนตัว เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ดูโบราณเรียบง่าย แผ่กลิ่นอายดึกดำบรรพ์ที่น่าเกรงขามออกมา พลันที่มองเห็นก็รู้ว่าเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้คือสมบัติประจำปีศาจทะเลของพวกเขา

บรรดาปีศาจทะเลฝากความหวังต่อไห่หลินเอาไว้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่ว่าศึกในครั้งนี้จะชนะหรือพ่ายแพ้ บรรดาปีศาจทะเลล้วนคาดหวังให้ไห่หลินสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ปีศาจทะเลได้นำเอาเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสมบัติประจำปีศาจทะเลมาให้ไห่หลินได้สวมใส่เอาไว้

ผู้ที่ติดตามอยู่ด้านข้างซ้ายขวาของไห่หลินนอกจากติ้งหย่วนโหวและมังกรทองสี่เล็บแล้ว ยังมีระดับจักรพรรดิเทพขั้นสุดยอดที่มีชาติกำเนิดจากสายสำนักราชันเซียนอีกหลายคน เข้ามาคารวะต่อหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีที่เคารพยิ่งเป็นพิเศษ

หลี่ชิเย่ที่ประทับสูงเด่นอยู่บนบัลลังก์กษัตริย์ มองดูไห่หลินแล้วเพียงพยักหน้าเท่านั้น

ไห่หลินเองก็ไม่อ้อมค้อม คุกเข่ากับพื้นและกล่าวว่า “พี่หลี่ กองทัพพันธมิตรสิบล้านอยู่ตรงหน้าท่านแล้ว สุดแต่ท่านจะสั่งการ ขอเพียงพี่หลี่มีคำสั่ง กองทัพพันล้านนี้แม้ต้องบุกน้ำลุยไฟก็ไม่เกี่ยง!”

หลี่ชิเย่มองดูธงศึกที่ปิดกั้นฟ้าดินของกองทัพพันล้าน พยักหน้าและกล่าวว่า “นี่จะเป็นการต่อสู้อย่างทรหด เป็นตายฟ้าลิขิต! การต่อต้านของแดนมนุษย์กษัตราต้องอาศัยพวกเจ้าแล้ว การศึกครั้งนี้ พวกเจ้าจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์เฉกเช่นปรัชญาเมธีอย่างนั้น”

“ศัตรูอยู่ตรงหน้านี่เอง เริ่มต้นได้” จบคำ หลี่ชิเย่ได้สั่งการออกไป

ไห่หลินไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป พาเหล่าจักรพรรดิเทพกลับเข้ากองทัพ กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “เตรียมการสู้รบ เริ่มได้!” พลันที่เขากล่าวจบคำ กองทัพสิบล้านอยู่ในสถานะพร้อมบุกตะลุยในทันที เพื่อต่อสู้ชี้ขาดกับพรรคเซียนเหิน

เทพแท้จริงสยบโลกาและกองทัพมังกรเขียวรอออกศึก ท่าทีเย็นชาที่บีบคั้นใจผู้คน ปราศจากความรู้สึกใดๆ บนใบหน้า สงครามลักษณะเช่นนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วนับว่าธรรมดามาก

ความจริงแล้ว เทพแท้จริงสยบโลกาไม่จำเป็นต้องอาศัยกองทัพพันล้านนี้มาคอยหนุนหลัง ยิ่งไม่ต้องการให้กองทัพพันล้านนี้มาตายแทน ถ้าหากเขาต้องการเปิดศึกล่ะก็ สามารถบุกทะลวงเข้าไปยังเวทีแต่งตั้งแม่ทัพได้ทันที

เพียงแต่ใต้เท้าต้องการเจียระไนกองทัพพันธมิตรของแดนมนุษย์กษัตรา ดังนั้น เทพแท้จริงสยบโลกาจึงไม่แย่งความดีความชอบ มอบหน้าที่กองหน้าให้กับกองทัพพันธมิตร

เสียง “ตึง…” ดังขึ้น ขณะที่กองทัพที่มีไพร่พลพันล้านเข้าสู่จังหวะพร้อมรบแล้วนั้น กองทัพพรรคเซียนเหินที่อยู่บนเวทีแต่งตั้งแม่ทัพก็ได้ปลุกขวัญกองทัพของพวกเขาเช่นกัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล