ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1667

ตอนที่ 1667 เก้าราชาสมุทร
หลี่ชิเย่ยังคงมีรอยยิ้มที่เฉยชา มองดูสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ทั้งเก้าตน ท่าทีเหมือนอย่างไงก็ได้โดยสิ้นเชิง ยามเมื่อถูกดวงตาสิบแปดดวงของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ทั้งเก้าตนครอบเอาไว้ คล้ายดั่งถูกลำแสงจากดวงอาทิตย์ทั้งสิบแปดดวงที่สาดส่องเข้าหาอย่างนั้น ซึ่งลักษณะเช่นนี้ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อหลี่ชิเย่แต่อย่างใดทั้งสิ้น

“อีกาทมิฬ” สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ทั้งเก้าตนที่จ้องมองดูหลี่ชิเย่ได้เปิดปากพูดออกมาแล้ว เสียงของพวกมันคล้ายดั่งเป็นเสียงฟ้าผ่า ทำให้เกิดเป็นเสียงดังตูมตามไปทั่วฟ้าดิน

หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิเทพเมื่อต้องเจอะเจอกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ลักษณะเช่นนี้ทั้งเก้าตนก็ต้องรู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก

“เจ้าคิดว่าอาศัยพวกเขาแล้วสามารถกักขังข้าเอาไว้ได้อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้กล่าวกับกู้จุนที่ยืนอยู่ด้านนอก

“ข้ารู้ว่าโลกนี้ยากจะมีสิ่งใดสามารถกักขังใต้เท้าได้” กู้จุนก็ยิ้มกล่าวว่า “แต่ว่า อย่างน้อยให้ใต้เท้ามีศัตรูเพิ่มขึ้นอีกคน ข้าเชื่อว่าการที่เก้าราชาสมุทรหากลงมือต้องนำมาซึ่งความยุ่งยากไม่น้อยแก่ใต้เท้าแน่นอน อีกทั้งเก้าราชาสมุทรก็คิดจะแก้แค้นในครั้งนั้น!”

ถ้าหากใครที่เคยได้ยินชื่อของเก้าราชาสมุทรมาก่อน รับรองว่าจะต้องตกใจจนวิญญาณไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแน่นอน เก้าราชาสมุทรเคยเป็นบุคคลประหลาดที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ในหลายยุคก่อนของแดนมนุษย์กษัตรา ฟังว่าพวกเขากำเนิดในมหาสมุทรอุดร แม้ว่าจะไม่ใช่ปีศาจทะเล แต่เหมือนปีศาจทะเลมาก

เก้าราชาสมุทรมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน แต่ว่า หลังจากที่พวกเขาได้ปรากฏตัวขึ้นก็ใช้อำนาจบาตรใหญ่ยิ่งนัก ยากจะหาผู้ใดต่อกรกับพวกเขาได้ ทั้งยังไปมาอย่างไร้ร่องรอย

ครั้นมาถึงยุคสมัยของราชันเซียนหยินเทียน เก้าราชาสมุทรกลับกลายเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก พวกเขาปรากฏตัวเข้าออกมหาสมุทรอุดรเป็นประจำ อีกทั้งการเข้าออกของพวกเขาแต่ละครั้งล้วนแล้วแต่หอบเอาพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าร้องฟ้าผ่ามาด้วยทุกครั้ง เรียกได้ว่าการปรากฎตัวของพวกเขาแต่ละครั้งก็จะสร้างความปั่นป่วนให้กับมหาสมุทรอุดรทุกครั้ง

ภายหลัง ราชันเซียนหยินเทียนเคยลงมือขับไล่เก้าราชาสมุทร ปรากฏว่าเก้าราชาสมุทรกลับมีความแข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ ยามที่พวกเขาทั้งเก้าคนร่วมมือกันถึงกับสามารถต้านราชันเซียนหยินเทียนเอาไว้ได้ สุดท้ายสามารถหนีรอดจากมือของราชันเซียนหยินเทียนไปได้

ความจริงแล้ว ขณะที่ราชันเซียนหยินเทียนได้ลงมือต่อเก้าราชาสมุทรอยู่นั้น อีกาทมิฬในฐานะผู้บงการเก้าแดนก็เคยส่งคนออกติดตามหาตัวเก้าราชาสมุทรอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ เก้าราชาสมุทรไปมาไร้ร่องรอยจริงๆ จึงไม่สามารถจับตัวเขาได้

สุดท้ายแล้ว จากการที่การปรากฎตัวทุกครั้งของเก้าราชาสมุทรก็จะหอบเอาพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าร้องฟ้าผ่ามาด้วยทุกครั้ง ทำเอามหาสมุทรอุดรปราศจากความสงบสุขในยุคของราชันเซียนหยินเทียน ทำให้อีกาทมิฬโกรธขึ้นมา จึงส่งขุนพลออกไปพร้อมกับลงมือด้วยตัวเอง

ในที่สุด อีกาทมิฬได้นำพาคนล้อมเก้าราชาสมุทรเอาไว้ได้ จัดการสยบและผนึกเอาไว้ใต้ทะเลแห่งนี้ทั้งหมด

ขณะที่กู้จุนจงใจเป็นศัตรูกับอีกาทมิฬ หลังจากที่เก้าราชาสมุทรถูกสยบและผนึกเอาไว้ใต้ทะเล เขาได้พยายามครุ่นคิดพิเคราะห์พิจารณาว่าจะช่วยพวกเขาออกมาได้อย่างไร และความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น หลังจากผ่านการพิเคราะห์พิจารณาครั้งแล้วครั้งเล่า กู้จุนได้พบว่าจากกาลเวลาที่เคลื่อนผ่านไปตราประทับที่ใช้สยบและผนึกเก้าราชาสมุทรมีการคลายตัว ดังนั้น กู้จุนจึงได้ใช้กำลังไปไม่น้อยเปิดตราประทับนั้นออกมา ช่วยเก้าราชาสมุทรที่ถูกสยบออกมา เพื่อร่วมมือกับเก้าราชาสมุทรต่อกรกับอีกาทมิฬซึ่งเป็นศัตรูร่วมกัน!

“ทำไมเจ้าจึงคิดว่าข้าจะต้องเป็นศัตรูของเก้าราชาสมุทรหละ?” หลี่ชิเย่ไม่ได้รู้สึกโกรธกับเรื่องที่กู้จุนปล่อยตัวเก้าราชาสมุทรออกมา เขากล่าวขึ้นมาด้วยท่าทียิ้มแต้

“หรือไม่ใช่?” สีหน้าของกู้จุนเปลี่ยนไป หลังจากเกิดเรื่องคลังสมบัติว่างเปล่าแล้ว เขาถึงกับสูญเสียความมั่นใจที่เคยมีเหมือนเช่นอดีตไปทันที

“ใต้เท้า” พลันที่กู้จุนพูดขาดคำ เก้าราชาสมุทรที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารถึงกับคุกเข่าลงข้างเดียว ร่างกายที่สูงใหญ่มหึมาน้อมตัวลงคารวะต่อหลี่ชิเย่!

“ลุกขึ้นเถอะ ผนึกเอาไว้เนิ่นนานเช่นนี้ สิ่งที่ควรผ่านไปก็ผ่านไปแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่พยักหน้ากล่าว

“เจ้า” คราวนี้สีหน้าของกู้จุนเปลี่ยนไปมากทีเดียว เขาก้าวถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกันทันที ในเวลานี้เขาถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความหวาดกลัวอยู่บ้าง ร้องเสียงหลงออกมาว่า “เจ้าวางแผนหลอกข้าอีก เจ้าวางกับดักให้กับข้าอีก!”

“คำพูดนี้ของเจ้าพูดได้ถูกต้อง แต่ก็ไม่ถูก” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้า เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นการวางแผนหลอกเจ้า และก็ไม่ได้วางกับดักกับเจ้า เพียงแต่ถือโอกาสตามน้ำไปเท่านั้น เจ้าสมควรรู้ว่า ขณะที่เก้าราชาสมุทรปรากฏในยุทธภพนั้นเจ้ายังไม่เกิดเลย”

เวลานี้ คนที่ถูกเก้าราชาสมุทรล้อมเอาไว้ไม่ใช่หลี่ชิเย่ แต่เป็นกู้จุน หนึ่งในเก้าราชาสมุทรผู้หนึ่งหัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “เจ้าหนู เป็นความจริงที่เจ้าฉลาดมาก เสียดายเจ้ากลับไม่รู้ถึงต้นกำเนิดของพวกข้า ดังนั้น จึงเสียรู้เพราะความฉลาดของตน!”

“พวกเจ้าสมรู้ร่วมคิดกัน!” เวลานี้กู้จุนพบว่าตนเองนั้นถูกคนอื่นเขาหลอกโดยสิ้นเชิง เดิมทีเขาคิดว่าสามารถปล่อยศัตรูที่แข็งแกร่งของหลี่ชิเย่ออกมาได้ ไม่นึกเลยว่านี่มันไม่ใช่ศัตรูเอาเสียเลย

“นี่ไม่ใช่เป็นการสมรู้ร่วมคิด เพียงแต่ทำไปตามน้ำเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่ผิดที่ข้าตามล่าเก้าราชาสมุทร ข้าลงมือสยบพวกเขาเอาไว้เรื่องนี้ก็ไม่ผิด เพียงแต่นี่เป็นบุญคุณที่ข้ามอบให้พวกเขาไม่ใช่ความโกรธแค้น เจ้าเองก็รู้ว่าข้าตามล่าเก้าราชาสมุทรมาโดยตลอด…”

“…ดังนั้น เจ้าจึงคิดว่าพวกเขาเป็นศัตรูกับข้า ข้าคาดว่าเจ้าจะต้องไปหาพวกเขาแน่ ดังนั้น จึงถือโอกาสสั่งการกับพวกเขาคำหนึ่งเท่านั้น ความจริงแล้วนับแต่วันที่เจ้าคลายยันต์ผนึกพวกเขาแล้ว พวกเขาก็เฝ้าดูมหาสมุทรอุดรเอาไว้ตลอด ถือเป็นการเฝ้าจับตาดูเจ้าเอาไว้ก็ได้!” เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าไม่รู้ถึงความลับที่อยู่ภายใน ดังนั้น เจ้าจึงต้องเสียรู้เพราะความฉลาดของเจ้า!”

“เจ้าหนู ใต้เท้ามีบุญคุณต่อพวกเราเหมือนได้เกิดใหม่ เจ้าคิดว่าพวกเราจะร่วมมือกับเจ้าได้รึ? เพียงแต่เฝ้าจับตาดูเจ้าเอาไว้เท่านั้นเอง” หนึ่งในเก้าราชาสมุทรอีกคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหน้า

แท้จริงแล้วเก้าราชาสมุทรก็คือผู้เยาว์ของปีศาจระกาที่หลบหนีออกจากเหมืองแร่เซียนปีศาจระกานั่นเอง เพียงแต่สายของเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาถูกสยบโดยสวรรค์ ต้องคำสาป พวกเขาไม่สามารถปรากฏตัวในโลกมนุษย์ได้

พวกเขาทั้งเก้ามีความแข็งแกร่งเป็นอันมาก และเฉลียวฉลาดยิ่งนัก ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาหลบหนีออกมาก็ทำการตัดขาดสายเลือดของตนทันที สุดท้าย เลยกลายเป็นรูปลักษณ์ที่ประหลาดอย่างที่เห็น

แต่ว่า พวกเขากำเนิดมาจากเหมืองแร่เซียนปีศาจระกา ต่อให้ตัดขาดจากสายเลือดเดิมแต่ยังคงมีความแข็งแกร่งเช่นเดิม ดังนั้น เมื่อพวกเขามาถึงแดนมนุษย์กษัตราแล้ว ก็ก่อเรื่องขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว

เพียงแต่เก้าราชาสมุทรที่หลบหนีออกมาจากเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะเป็นจ้าวอะไรทำนองนั้น เพียงใฝ่ฝันต่อโลกภายนอกเท่านั้นเอง พวกเขาเที่ยวเล่นไปทั่ว สร้างความวุ่นวายขึ้นมาไม่น้อยทีเดียว

ขณะที่หลี่ชิเย่เคยรับปากปีศาจระกาจะต้องหาพวกเขาให้พบ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีเรื่องราวของการตามไล่ล่าเกิดขึ้น เพียงแต่เก้าราชาสมุทรล้วนแล้วแต่รู้ว่าหลี่ชิเย่ต้องการจับตัวพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงทำตัวลึกลับไปมาอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ไม่สู้จะดีนักก็จะหลบซ่อนตัวทันที

แต่ว่า เรื่องบางอย่างไม่ว่าจะหลบหนีอย่างไรก็ไม่พ้น แม้ว่าเก้าราชาสมุทรจะทำการตัดขาดสายเลือดของตนแล้วก็ตาม แต่ จะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ปรากฎตัวในโลกมนุษย์ได้ ต่อให้ไม่มีสายเลือดของเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมแล้วก็ตามที ยังคงไม่สามารถลบล้างกลิ่นอายเผ่าพันธุ์เดิมบนตัวออกไปได้

ดังนั้น เมื่อถึงยุคของราชันเซียนหยินเทียน คำสาปสยบที่สวรรค์กำหนดก็ได้บรรลุผลขึ้นมา ฟ้าร้องฟ้าผ่าทยอยกันพุ่งเข้าหาพวกเขา

เนื่องเพราะสาเหตุนี้เอง คำสาปในลักษณะเช่นนี้จึงได้ส่งผลว่า เพราะอะไรทุกครั้งที่เก้าราชาสมุทรปรากฎตัวออกมาในยุคของราชันเซียนหยินเทียนจึงมีพายุฝนฟ้าคะนองและฟ้าร้องฟ้าผ่าเกิดขึ้น ใช่ว่าพวกเขาต้องการสร้างความวุ่นวาย แต่เป็นภัยพิบัติคำสาปที่เกิดกับพวกเขา!

มาคราวนี้หลี่ชิเย่ลงมือด้วยตนเอง ส่งกำลังปิดล้อมพวกเขาเอาไว้ แล้วทำการสยบพวกเขาเอาไว้ สิ่งที่กระทำไปนั้นใช่เพียงแต่สยบตัวของเก้าราชาสมุทรเองเท่านั้น ขณะเดียวกันก็อาศัยวิธีการผนึกร่างทำให้เก้าราชาสมุทรหลบเลี่ยงคำสาปของสวรรค์ได้อีกด้วย

กู้จุนรับรูตลอดมาว่าอีกาทมิฬตามไล่ล่าเก้าราชาสมุทร กระทั่งทำการสยบและผนึกพวกเขาเอาไว้ใต้ทะเล แต่ว่า เขากลับไม่รู้ถึงประวัติความเป็นมาของเก้าราชาสมุทร ดังนั้น จึงเข้าใจว่าเก้าราชาสมุทรกับอีกาทมิฬคือศัตรูคู่อาฆาต ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงต้องการปลดปล่อยเก้าราชาสมุทรตลอดมา เพื่อให้พวกเขาเป็นศัตรูกับอีกาทมิฬ

แต่ว่า ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงว่า เก้าราชาสมุทรที่ถูกอีกาทมิฬตามไล่ล่ามาโดยตลอด และถูกอีกาทมิฬสยบเอาไว้ใต้ทะเลนั้น นอกจากพวกเขาจะไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตของอีกาทมิฬแล้ว พวกเขายังสำนึกในบุญคุณของอีกาทมิฬอีกด้วย!

สีหน้าของกู้จุนพลันดูไม่จืดขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงเก้าราชาสมุทรที่ตนเข้าใจมาโดยตลอดว่าเป็นผู้ที่ยืนอยู่ข้างฝ่ายของตน กลับกลายเป็นไส้ศึกที้คอยจับตาตนเอาไว้ตลอดเวลา เขาฉลาดมาชั่วชีวิต ท้ายที่สุดแล้วกลับถูกผู้อื่นรุกฆาตจนได้!

“เห็นทีเรื่องแผนการแล้วอย่างไรเสียก็เทียบไม่ได้กับใต้เท้าที่ลึกซึ้งและละเอียดรอบคอบ เมื่อเปรียบกับใต้เท้าแล้วข้ายังอ่อนไปนิดหนึ่ง” กู้จุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และกล่าวยอมรับในที่สุด

ความจริงแล้วในใจของกู้จุนเข้าใจเป็นอย่างดี หากพูดถึงเรื่องแผนการแล้วตัวเองไม่สามารถเอาชนะอีกาทมิฬได้แน่นอน แต่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กู้จุนก็ต้องการลองดูสักครั้ง เพราะหากยังไม่ทันได้ทดลองก็คิดว่าตัวเองล้มเหลว ยอมรับว่าตัวเองสู้อีกาทมิฬไม่ได้ เป็นเรื่องที่กู้จุนทำไม่ได้!

กล่าวสำหรับกู้จุนแล้ว หากไม่ถึงที่สุดเขาย่อมไม่ตายใจ มีเพียงทำลายความมั่นใจของอีกาทมิฬอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้สักวัน เขาจึงจะตายใจในเรื่องนี้!

“เรื่องนี้นับไม่ได้ว่าเป็นแผนการอะไร” หลี่ชิเย่ส่ายหน้า และกล่าวว่า “เพียงแต่เรื่องราวในโลกที่เจ้ายังไม่รู้มีอีกมาก เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์แต่ขาดความรู้และสั่งสมประสบการณ์จากชีวิตของตน เสียดายที่เจ้าเดินหลงทางแล้ว”

หนึ่งในเก้าราชาสมุทรตนหนึ่งก็หัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “เจ้าหนู เจ้ามีความฉลาดอย่างแท้จริง แม้แต่ตราประทับผนึกนี้เจ้ายังคิดออกถึงความลึกซึ้งพิสดารของมันได้ แต่ เวลานี้ความซวยมาเยือนเจ้าแล้วล่ะ เวลานี้ จะให้จับเจ้าไปยัดตาน้ำหรือฆ่าเจ้าเสีย ขอเพียงคำๆ เดียวจากใต้เท้า”

คำพูดนี้ของเก้าราชาสมุทรพลันทำให้กู้จุนต้องก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ตัวกู้จุนเองนั้นมีความแข็งแกร่งยิ่ง แต่ว่า กับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นเก้าราชาสมุทรเขาก็หวาดหวั่นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะยามที่เก้าราชาสมุทรร่วมมือกันนั้น มันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน เนื่องเพราะความแข็งแกร่งเช่นนี้ของเก้าราชาสมุทรนั่นเอง กู้จุนจึงได้หาพวกเขาเพื่อให้มาร่วมมือกันจัดการกับอีกาทมิฬ

กู้จุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่งทำใจให้นิ่ง จ้องมองหลี่ชิเย่และเผยรอยยิ้มออกมา กล่าวอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ข้าเชื่อว่าใต้เท้าจะไม่รีบเร่งลงมือ ใต้เท้าจะไม่สังหารข้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว”

หลี่ชิเย่มองดูกู้จุนแล้วถึงกับยิ้มออกมาและกล่าวว่า “กู้จุนนะกู้จุน เจ้านี่มั่นใจในตนเองเหลือเกิน มาถึงขั้นนี้แล้วยังคงไม่ลนลานแม้ยามคับขัน สามารถมีจิตที่มั่นคงถึงเพียงนี้ได้นับว่าไม่ง่ายนัก ข้ายังรู้สึกเสียดายในความสามารถเช่นนี้ของเจ้า”

“ที่ข้ามีวันนี้ มีจิตที่สงบนิ่งเช่นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะการชี้แนะและการเจียระไนของใต้เท้า ถ้าหากแม้แต่แค่นี้ข้ายังเรียนรู้ไม่ได้ แล้วจะไปแทนที่ใต้เท้าในอนาคตได้อย่างไรกันหละ” กู้จุนยิ้มกล่าว

หลี่ชิเย่มองดูกู้จุนแล้วถึงกับหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “กู้จุน เจ้ารู้หรือไม่? ต่อให้ข้าไม่ฆ่าเจ้า ต่อให้ชาตินี้ข้าละเว้นให้เจ้า แต่ว่า หากเจ้ายังคงดื้อรั้นไม่สำนึกล่ะก็ จะมีผู้ที่ลงมือสังหารเจ้าเอง”

“ข้ารู้ว่าใต้เท้าพูดถึงใคร” กู้จุนไม่ได้แสดงอาการตระหนก กล่าวว่า “ครั้งนั้นพี่เขยจับข้าไปขังเอาไว้ในร่องน้ำลึกก็กล่าวเตือนข้าเอาไว้แล้วว่า หากข้าไม่สำนึกล่ะก็ เขาจะฆ่าข้าด้วยมือของเขาเอง ข้าไม่สงสัยในความสามารถของพี่เขยข้า ข้าเพียงสงสัยในความตั้งใจที่แน่วแน่ของเขาเท่านั้นเอง ต่อให้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาก็ไม่แน่ว่าจะลงมือฆ่าข้าได้ลง! สิ่งนี่แหละคือจุดอ่อนของพี่เขยข้า”

“โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ในเมื่อราชามังกรดำบอกว่าจะฆ่าเจ้า ข้าเชื่อว่าเขาจะลงมือฆ่าเจ้าแน่”

“ข้าก็รออยู่ ข้าไม่เคยได้พบเขาอีกเลย เขาสามารถมีชีวิตอยู่มาสามชาติ แต่ไม่รู้ว่าสามารถอยู่ได้เป็นชาติที่สี่หรือไม่ ถ้าหากเขาสามารถอยู่ได้ถึงสี่ชาติและออกมาสังหารข้า ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด การที่ข้าต้องตายด้วยน้ำมือของพี่เขยข้าก็ไม่นับเป็นเรื่องน่าอายอะไร แม้แต่ราชันเซียนท่าคงยังถูกเขาสังหารไปตามระเบียบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงข้ากู้จุน” ท่าทีของกู้จุนไม่สะทกสะท้าน กล่าวเรียบเฉยยิ่งนัก

“หนีไปสิ” หลี่ชิเย่มองดูกู้จุน ยิ้มกล่าวว่า “เหมือนอย่างที่เจ้าพูดอย่างนั้น ข้าไม่รีบร้อนที่จะฆ่าเจ้า เจ้าหนีไปเสียเดี๋ยวนี้เหอะ ข้าอยากจะดูว่าเจ้ามีท่าไม้ตายตะไรบ้าง อย่าให้ข้าต้องผิดหวังเกินไป ถ้าหากเจ้ายังคงสำแดงวิธีการเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ต่อไปล่ะก็ นับว่าทำให้ข้าผิดหวังมากเหลือเกิน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล