ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1668

ตอนที่ 1668 ราชามังกรดำ
กู้จุนไม่รู้สึกแปลกใจที่หลี่ชิเย่ปล่อยให้ตนเองหนีไป เขาแสดงคารวะแบบจีนและหัวเราะกล่าวว่า “ขอบคุณใต้เท้า ในโลกนี้คนที่รู้ใจข้าที่สุดยังคงเป็นใต้เท้า”

“เอาหละ คำพูดที่น่าขยะแขยงไม่ต้องพูดให้มากความ มีท่าไม้ตายอะไรก็สำแดงออกมาให้เต็มที่ ข้ารู้ว่าเจ้ามีธาตุแท้ภายในซ่อนอยู่ ยังมีไพ่ตายบางอย่างไม่ได้สำแดงออกมา” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา

“ข้าจะพยายามทำอย่างเต็มที่ หวังว่าท่าไม้ตายของข้าจะไม่ทำให้ใต้เท้าต้องผิดหวัง มิฉะนั้นล่ะก็คงจะผิดต่อใต้เท้าที่อุตส่าห์ให้ความสำคัญแล้ว” กู้จุนยิ้มกล่าว

หลังจากพูดจบ เห็นเงาของกู้จุนแวบหนึ่ง พลันเหินฟ้าก้าวข้ามอาณาจักรไป

“ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว” หลี่ชิเย่ก็ก้าวตามไป นาทีก่อนจากไปเขาได้โบกมือกับเก้าราชาสมุทรและกล่าวว่า “พวกเจ้าสามารถผนึกร่างต่อไปได้ ใช่แล้ว ลืมบอกพวกเจ้าอย่างหนึ่ง ตาเฒ่าของเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาคิดถึงพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าคิดจะรั้งอยู่ที่นี่ต่อไป หรือจะกลับไปรับโทษก็อยู่ที่การตัดสินใจของพวกเจ้าเองแล้วหละ” กล่าวจบหายตัวติดตามกู้จุนไปในฉับพลัน

ในครั้งนั้น เก้าราชาสมุทรลักลอบหนีออกจากเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาตอนนั้น ใช่ว่าปีศาจระกาจะไม่รู้ ความจริงแล้ว เฉกเช่นการดำรงอยู่ในฐานะผู้แข็งแกร่งถึงระดับนี้ การที่ผู้เยาว์หลายคนคิดจะหลบหนีออกไปโดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ครานั้น ปีศาจระการู้อยู่แล้วขณะที่เก้าราชาสมุทรหลบหนีออกไป เพียงแต่ปีศาจระกาแกล้งปล่อยพวกเขาเท่านั้นเอง จงใจปล่อยให้พวกเขาหนีออกไปได้

เนื่องจากผู้เยาว์ของเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพลันที่ถือกำเนิดเกิดมาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวย่างเข้าไปยังเหมืองแร่เซียนแม้เพียงครึ่งก้าว ดังนั้น พวกเขาพยายามแอบลักลอบเข้าไปหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล

ต่อมาภายหลัง ปีศาจระกาอดสงสารไม่ได้ จึงทำหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้พวกเขาทั้งเก้าคนหลบหนีออกจากเหมืองแร่เซียนไป มิฉะนั้นล่ะก็ ผู้เยาว์เช่นพวกเขาทั้งเก้าคนไม่สามารถก้าวออกจากเหมือนแร่เซียนได้แม้เพียงครึ่งก้าวอยู่แล้ว!

หลังจากที่กู้จุนหลบหนีจากเก้าราชาสมุทรแล้ว พลันก้าวข้ามไปอาณาจักรโดยไม่ได้สำแดงความเร็วของตนจนถึงขีดสุด กลับไม่เร่งรีบที่จะหนีไป เนื่องจากภายในใจของเขารู้ดีว่า หลี่ชิเย่ไม่ต้องการรีบเร่งเอาชีวิตเขาไป ก่อนที่เขาจะได้สำแดงท่าไม้ตายออกมาเขาจะไม่ตาย

เวลานี้ พวกเขาทั้งสองเสมือนหนึ่งกำลังเล่มเกมแมวจับหนูกันอยู่ โดยที่กล่าวสำหรับกู้จุนแล้วเขาคือหนูที่กำลังวิ่งหนีเป็นการชั่วคราว ขณะที่หลี่ชิเย่คือแมวที่ตามไล่ล่าเขาอยู่

แน่นอนที่สุด กู้จุนคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะพลิกเกมกลับมา เมื่อไรที่เขาสามารถควบคุมจังหวะและโอกาสได้ล่ะก็เขาต้องพลิกเกมได้แน่ ถึงเวลานั้นเขาก็จะเป็นแมวตัวนั้น

หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะสังหารกู้จุน เนื่องจากเขาคาดเดาได้แล้วว่า ท่าไม้ตายของกู้จุนคืออะไร ดังนั้น ต่อให้เขาฆ่ากู้จุนเสียแต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถทำให้เกมนี้จบลง ที่เขาต้องการคือจัดการพร้อมกันทั้งหมดในคราวเดียว

ขณะที่กู้จุนหลบหนีอยู่นั้น หมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนที่อยู่ที่ห่างไกลพลันเกิดเสียงดัง “ตูม” สนั่นขึ้นมา ทำให้หมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนสั่นไหวโคลงแคลงไปมา เหมือนดั่งมีอะไรพลิกตัวใต้พื้นดินอย่างนั้น พลันสร้างความแตกตื่นให้กับชาวประมงของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนเป็นการใหญ่ บรรดาบรรพบุรุษของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนต่างวิ่งกรูกันออกมา

“กรรร” เสียงของมังกรที่ดังขึ้นก้องไปทั่วมหาสมุทรอุดร ขณะที่บรรดาบรรพบุรุษของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนวิ่งกรูกันออกมานั้น เห็นเพียงเงาดำที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าในทันที และหายตัวไปในพริบตา

“นั่นมัน” บรรดาบรรพบุรุษของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนล้วนไม่สามารถได้สติกลับคืนมา มองดูเงาดำที่คล้ายดั่งมังกรแท้จริงหายไปบนท้องฟ้า

ขณะที่กู้จุนกำลังหลบหนีอย่างรวดเร็วนั้น เขายังไม่ทันกลับไปถึงเมืองสมุทรสยบฟ้า ทันใดนั้น เสียงดัง “ปัง” ช่องว่างอากาศพลันถูกทำลาย ในพริบตาเดียวนี้เอง บนท้องฟ้าปรากฏเป็นยันต์ลงมาจากท้องฟ้า กลายเป็นค่ายกลยันต์ที่เข้าล็อกตัวกู้จุนเอาไว้

สีหน้าของกู้จุนแปรเปลี่ยนไปมากทันทีที่เห็นค่ายกลยันต์นี้ ขณะที่หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ ก้าวเดินเข้าไปยังค่ายกลยันต์ดังกล่าว

เสียง “ปัง” ดังขึ้น ค่ายกลยันต์พลันหอบเอากู้จุนและหลี่ชิเย่ไปด้วยกัน ย้ายตำแหน่งไปปรากฏอยู่บนจักรวาล

ในส่วนที่ลึกเข้าไปแห่งหนึ่งในจักรวาล ล้อมรอบไปด้วยดวงดารา มีสุริยันจันทราที่ปรากฏอยู่บริเวณนั้น ค่ายกลยันต์ที่ทรงพลังยิ่งพาหลี่ชิเย่และกู้จุนไปอยู่บนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์แห่งหนึ่ง

“กรรร” เสียงคำรามมังกรดังไม่ขาดสาย บนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ปรากฎลวดลายของมังกรที่โลดโผนไปมา เหมือนต้องการกลับกลายเป็นมังกรแท้จริงแต่ละตัวอย่างนั้น ท่ามกลางเวลทีต่อสู้ปรากฎกลิ่นอายมังกรแท้จริงที่ตลบอบอวล เหมือนว่ามีมังกรแท้จริงอยู่ตัวหนึ่งกำลังสร้างปัญหาก่อความปั่นป่วนอยู่ตรงนั้น

เวลานี้กู้จุนแหงนหน้าขึ้นมอง เห็นบนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์มีมังกรแท้จริงยึดครองอยู่ตรงนั้นตัวหนึ่ง มังกรตัวนี้มีสีดำทั้งร่าง เกล็ดมังกรแต่ละเกล็ดคล้ายดั่งสร้างขึ้นมาจากเหล็กนิลอย่างนั้น มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก เล็บทั้งห้าของมังกรแหลมคมยิ่ง มองเห็นประกายน่าเกรงขามวูบวาบ ดุจดั่งสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้

ยามที่มังกรแท้จริงลืมตาขึ้นมานั้นเหมือนว่าทั้งเก้าแดนถูกจุดติดจนสว่างไสวอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองของมังกรแท้จริงลึกล้ำยิ่งนัก สามารถเชื่อมทะลุต่อไปถึงตัวตนที่แท้จริง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหลบหนีพ้นไปจากดวงตาทั้งสองข้างของมัน

ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่ต้องเกรงกลัวต่อดวงตาคู่นี้กันทั้งนั้น ประหนึ่งว่าดวงตาคู่นี้สามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นความว่างเปล่า ท่ามกลางดวงตาคู่นี้ล้วนแล้วแต่เปื่อยยุ่ยอะไรอย่างนั้น

ยามเมื่อมังกรลักษณะเช่นนี้ได้ยึดครองพื้นที่อยู่บนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ ยามที่กลิ่นอายมังกรเวทีดึกดำบรรพ์ตลบอบอวลไปทั่วนั้น เกรงว่าต่อให้จักรพรรดิเทพที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ต้องรู้สึกสั่นเทาในใจ

สิ่งนี้หาใช่เป็นเพียงร่างเงาเลือนราง ไม่ใช่ร่างที่มาจากการแปลง นี่คือมังกรแท้จริง เผ่ามังกรที่แท้จริง เลือดที่หลั่งรินอยู่ภายในกายเป็นสายเลือดมังกรแท้จริงที่บริสุทธิ์สุดเปรียบเปรยที่สุด! เกรงว่าผู้คนบนโลกนี้ที่เคยเห็นมังกรแท้จริงคงมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น หากวันใดใครสักคนได้มีโอกาสเห็นมังกรแท้จริงล่ะก็ เกรงว่าคงเป็นต้นทุนที่สามารถนำมาพูดคุยได้ชั่วชีวิตเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อกู้จุนมองเห็นมังกรแท้จริงตัวนี้แล้วกลับไม่แสดงอาการตกใจแม้แต่น้อย เขาเพียงเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น กล่าวทักทายว่า “พี่เขย ไม่ได้พบกันเสียนาน นี่เป็นร่างในชาติแรกของท่านนะเนี่ย เสียดาย ข้าคงไม่ได้เห็นร่างในชาติที่สามของท่านแล้ว”

ขณะที่มังกรแท้จริงจ้องเขม็งไปที่กู้จุน โดยไม่ได้เปิดปากพูดอะไรออกมา

หลังจากที่หลี่ชิเย่มองเห็นมังกรแท้จริงตัวนี้แล้ว เขาถึงกับทอดถอนใจเบาๆ ออกมา โบกมือทักทาย ขณะที่มังกรแท้จริงก็พยักหน้าตอบหลี่ชิเย่ แต่สายตาของเขาไม่ได้ละจากกู้จุนเลย

“พี่เขย จำเป็นต้องแค้นเคืองข้าขนาดนี้เลยรึ? ร่างในชาติที่สามของท่านได้ตายไปแล้ว นี่คือร่างในชาติแรกของท่าน ถ้าหากข้าจำไม่ผิด ขณะที่ท่านอยู่ในร่างแรกท่านรักเอ็นดูข้ามากเลยนะ” กู้จุนกล่าวด้วยท่าทียิ้มแต้

แต่แล้ว มังกรแท้จริงยังคงไม่พูดอะไรออกมา ประกายตาของเขาพลันเจิดจรัสขึ้นมา ปรากฎประกายตาน่าเกรงขามที่ทำให้ผู้คนต้องยำเกรงออกมา

“พี่เขย ร่างชาติแรกของท่านโผล่ออกมาเพราะต้องการจับข้ากลับไปอย่างนั้นรึ?” กู้จุนไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใด ยังคงพูดคุยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ้มกล่าวว่า “ท่านจำเป็นต้องทำเช่นนี้รึ?”

“พี่เขย ท่านรับปากพี่สาวข้าจะดูแลข้าอย่างดี” กู้จุนยิ้มกล่าวว่า “แต่ว่า ท่านกลับไม่ได้ดูแลข้าให้ดี ให้ข้าได้รับทุกข์ทรมานมากมาย ท่านเริ่มจากการจับข้าไปอุดตาน้ำ แล้วเฉือนวาสนาของข้า แล้วยังขังข้าไว้ในร่องน้ำลึก พูดตามตรงเลยนะ ติดตามท่านมาสามชาติ น้องเมียอย่างข้าต้องได้รับทุกข์ทรมานมากเหลือเกิน”

“กรรร” มังกรแท้จริงคำรามเสียงดังออกมา กลิ่นอายมังกรสามารถทำลายทุกสิ่งอย่าง กลิ่นอายมังกรที่พาลและทรงพลังเสมือนดั่งเป็นพายุร้ายอย่างนั้น เพียงตากู้จุนยื่นอยู่ตรงนั้นไม่หวั่นไหว บนใบหน้ายังคงแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม

“พี่เขยไม่ต้องโกรธ” กู้จุนยิ้มแต้และกล่าวว่า “เป็นความจริงที่ในสายตาของท่านข้าเป็นเพียงคนไม่เอาไหน แต่ว่า พี่เขย สิ่งที่ข้ามุ่งมาดปรารถนาไม่เหมือนกับท่าน ที่ท่านมุ่งมาดปรารถนาก็แค่ครอบครองฟ้าดินเท่านั้น ขณะที่ข้านั้นปรารถนาคือกลายเป็นใต้เท้าอีกาทมิฬ ดังนั้น พี่เขย ข้าไม่ใช่คนไม่เอาไหนเหมือนดั่งที่เห็นในสายตาของท่าน!”

“ฮึ” มังกรแท้จริงไม่ได้เปิดปากพูดอะไรออกมา เพียงส่งเสียงน่าเกรงขามออกมา เสียงน่าเกรงขามนี้ทำให้เหล่าชั้นฟ้าต้องสลดอับแสง สรรพชีวิตต้องสั่นเทา

กู้จุนยังคงไม่ได้ตกใจอะไร เขาผายมือทั้งสอง และกล่าวว่า “ ท่านไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ของข้าตลอดมา ในสายตาของท่านก็คือไอ้เลวคนหนึ่ง แต่ว่า พี่เขย ข้าควรมีปณิธานของตนเอง แต่ว่า พี่เขย ข้าควรจะมีสิ่งเสาะแสวงหาที่เป็นของข้าเอง บางทีท่านอาจคาดหวังให้ข้าเป็นราชันเซียน และหรือต้องการให้ข้าเป็นเหมือนเช่นท่าน…”

“แต่ว่า ความมุ่งมาดปรารถนาของข้ายิ่งใหญ่กว่า และสุดยอดยิ่งกว่าพี่เขยเสียอีก ข้าต้องการเป็นเหมือนดั่งคนๆ นั้นที่สามารถครอบครองเก้าแดน ในเมื่อกายปุถุชน คุณสมบัติกายปุถุชนยังทำได้ แล้วทำไมข้าที่เป็นหนึ่งในสิบยอดอัจฉริยะบุคคลนับแต่อดีตถึงปัจจุบันทำไมถึงทำไม่ได้?”

เมื่อกู้จุนพูดมาถึงตรงนี้ ประกายตาของเขาพลันดูน่าเกรงขาม จ้องเขม็งไปที่กู้จุน

“พี่เขย ท่านมองข้าด้วยสายตาแบบนี้อีกแล้ว ข้ารู้ว่าสายตาเช่นนี้ของท่านหมายความว่าอะไร” กู้จุนไม่ใส่ใจ ส่ายหน้าและยิ้มกล่าวว่า “สายตาแบบนี้ของท่านบอกว่าข้าเปรียบเหมือนคางคกจะกินเนื้อห่านฟ้า พี่เขย ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมใต้เท้าอีกาทำอะไรก็ดูสมเหตุสมผลไปหมด ขณะที่ข้าทำในเรื่องเดียวกันดูช่างน่าขันเสียเหลือเกินในสายตาของท่าน ช่างเป็นอะไรที่ไม่เจียมตัวเสียเลย”

“เป็นเพราะอะไร เวลาที่ทำในเรื่องเดียวกัน หากเป็นข้าก็จะกลายเป็นไม่เจียมตัวหละ?” กู้จุนกล่าวว่า “เพียงเพราะว่าข้าเป็นคนทรยศแต่กำเนิดอย่างนั้นรึ? หรือบางทีเป็นเพราะข้าต้องการอยากได้คลังสมบัติว่างเปล่านั้นมาก?”

มังกรแท้จริงไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงยื่นเล็บที่แหลมคมออกมาชี้ไปที่กู้จุน

“พี่เขย ข้าจะไม่ตามท่านกลับไปแน่นอน” ยามที่มังกรแท้จริงยื่นเล็บแหลมคมชี้มาหานั้น กู้จุนรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ส่ายหัวและกล่าวว่า “ครั้งก่อนท่านเฉือนวาสนาของข้าไป แล้วขังข้าเอาไว้ใต้ร่องน้ำลึก ข้าไม่โทษท่าน เนื่องจากข้าทำเรื่องร้ายเอาไว้จริง แต่ว่าเวลานี้ไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดข้ายังไม่ได้ทำเรื่องที่ไม่สมควรหรือผิดกฎหมายร้ายแรง ดังนั้น ข้าจะไม่ตามท่านกลับไปแน่นอน ข้าจะไม่ให้ท่านจับข้าไปขังเอาไว้ใต้ร่องน้ำลึกได้อีก!”

ดวงตาทั้งสองของมังกรแท้จริงพลันดูน่าเกรงขาม เล็บมังกรกางออกมาอย่างช้าๆ ยามที่เล็บของเขากางออกมา บังเกิดเสียงดัง “ปัง” ดุจดั่งช่องว่างอากาศถูกเล็บมังกรดันจนแตก เหมือนว่าเล็บมังกรได้ดิ้นจนหลุดออกจากพันธนาการฟ้าดินทั้งปวงอย่างนั้นนาทีนี้เสมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างในฟ้าดินล้วนแล้วแต่ไม่สามารถสยบพลังของมันอย่างนั้น

“พี่เขย ท่านต้องการเล่นไม้แข็งอย่างนั้นรึ?” เมื่อกู้จุนเห็นมังกรแท้จริงกางเล็บทั้งห้าออกมาก็รู้แล้วว่ามังกรแท้จริงต้องการทำอะไรแล้ว

แต่ว่า กู้จุนก็ไม่คิดวิ่งหนี และไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว หัวเราะและส่ายหัวกล่าวว่า “พี่เขย ท่านไม่แน่เสมอไปว่าจะจับเป็นข้าได้ ถ้าหากท่านยังคงอยู่บนโลกนี้ ข้ายอมรับว่าแค่ไม่กี่กระบวนท่าก็สามารถจับข้ากลับไปได้ แต่ว่า เวลานี้หากท่านคิดจะจับข้ากลับไปคงไม่ง่ายดายนัก”

มังกรแท้จริงเพียงส่งเสียงฮึน่าเกรงขามออกมา สำหรับคำพูดของกู้จุน

“พี่เขย ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เป็นความจริงที่ปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า เวลานี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เวลานี้ท่านเป็นเพียงร่างในชาติแรกเท่านั้นเอง ถ้าหากว่าร่างในชาติที่สามยังคงอยู่ข้าก็คงจนปัญญาแล้วหละ ขณะที่เวลานี้ท่านเป็นร่างในชาติแรกบวกกับวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อเทียบกับท่านที่อยู่ในจุดสูงสุดแล้วห่างกันมากเหลือเกิน…”

กู้จุนหัวเราะและกล่าวว่า “ในอดีตขอเพียงพี่เขยท่านลงมือ ข้าไม่สามารถขัดขืนได้อยู่แล้ว หากวันนี้พี่เขยจะลงมือจริงๆ ล่ะก็ ข้าคงต้องสู้กันจริงๆ จังๆ เต็มที่แล้วหละ เกิดข้าไม่ทันระวังสังหารร่างในชาติแรกไปล่ะก็ ไม่รู้ว่าพี่สาวข้าจะโทษข้ามั้ยนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล