“เอาหละ คำพูดที่น่าขยะแขยงไม่ต้องพูดให้มากความ มีท่าไม้ตายอะไรก็สำแดงออกมาให้เต็มที่ ข้ารู้ว่าเจ้ามีธาตุแท้ภายในซ่อนอยู่ ยังมีไพ่ตายบางอย่างไม่ได้สำแดงออกมา” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
“ข้าจะพยายามทำอย่างเต็มที่ หวังว่าท่าไม้ตายของข้าจะไม่ทำให้ใต้เท้าต้องผิดหวัง มิฉะนั้นล่ะก็คงจะผิดต่อใต้เท้าที่อุตส่าห์ให้ความสำคัญแล้ว” กู้จุนยิ้มกล่าว
หลังจากพูดจบ เห็นเงาของกู้จุนแวบหนึ่ง พลันเหินฟ้าก้าวข้ามอาณาจักรไป
“ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว” หลี่ชิเย่ก็ก้าวตามไป นาทีก่อนจากไปเขาได้โบกมือกับเก้าราชาสมุทรและกล่าวว่า “พวกเจ้าสามารถผนึกร่างต่อไปได้ ใช่แล้ว ลืมบอกพวกเจ้าอย่างหนึ่ง ตาเฒ่าของเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาคิดถึงพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าคิดจะรั้งอยู่ที่นี่ต่อไป หรือจะกลับไปรับโทษก็อยู่ที่การตัดสินใจของพวกเจ้าเองแล้วหละ” กล่าวจบหายตัวติดตามกู้จุนไปในฉับพลัน
ในครั้งนั้น เก้าราชาสมุทรลักลอบหนีออกจากเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาตอนนั้น ใช่ว่าปีศาจระกาจะไม่รู้ ความจริงแล้ว เฉกเช่นการดำรงอยู่ในฐานะผู้แข็งแกร่งถึงระดับนี้ การที่ผู้เยาว์หลายคนคิดจะหลบหนีออกไปโดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ครานั้น ปีศาจระการู้อยู่แล้วขณะที่เก้าราชาสมุทรหลบหนีออกไป เพียงแต่ปีศาจระกาแกล้งปล่อยพวกเขาเท่านั้นเอง จงใจปล่อยให้พวกเขาหนีออกไปได้
เนื่องจากผู้เยาว์ของเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพลันที่ถือกำเนิดเกิดมาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวย่างเข้าไปยังเหมืองแร่เซียนแม้เพียงครึ่งก้าว ดังนั้น พวกเขาพยายามแอบลักลอบเข้าไปหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
ต่อมาภายหลัง ปีศาจระกาอดสงสารไม่ได้ จึงทำหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้พวกเขาทั้งเก้าคนหลบหนีออกจากเหมืองแร่เซียนไป มิฉะนั้นล่ะก็ ผู้เยาว์เช่นพวกเขาทั้งเก้าคนไม่สามารถก้าวออกจากเหมือนแร่เซียนได้แม้เพียงครึ่งก้าวอยู่แล้ว!
หลังจากที่กู้จุนหลบหนีจากเก้าราชาสมุทรแล้ว พลันก้าวข้ามไปอาณาจักรโดยไม่ได้สำแดงความเร็วของตนจนถึงขีดสุด กลับไม่เร่งรีบที่จะหนีไป เนื่องจากภายในใจของเขารู้ดีว่า หลี่ชิเย่ไม่ต้องการรีบเร่งเอาชีวิตเขาไป ก่อนที่เขาจะได้สำแดงท่าไม้ตายออกมาเขาจะไม่ตาย
เวลานี้ พวกเขาทั้งสองเสมือนหนึ่งกำลังเล่มเกมแมวจับหนูกันอยู่ โดยที่กล่าวสำหรับกู้จุนแล้วเขาคือหนูที่กำลังวิ่งหนีเป็นการชั่วคราว ขณะที่หลี่ชิเย่คือแมวที่ตามไล่ล่าเขาอยู่
แน่นอนที่สุด กู้จุนคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะพลิกเกมกลับมา เมื่อไรที่เขาสามารถควบคุมจังหวะและโอกาสได้ล่ะก็เขาต้องพลิกเกมได้แน่ ถึงเวลานั้นเขาก็จะเป็นแมวตัวนั้น
หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะสังหารกู้จุน เนื่องจากเขาคาดเดาได้แล้วว่า ท่าไม้ตายของกู้จุนคืออะไร ดังนั้น ต่อให้เขาฆ่ากู้จุนเสียแต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถทำให้เกมนี้จบลง ที่เขาต้องการคือจัดการพร้อมกันทั้งหมดในคราวเดียว
ขณะที่กู้จุนหลบหนีอยู่นั้น หมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนที่อยู่ที่ห่างไกลพลันเกิดเสียงดัง “ตูม” สนั่นขึ้นมา ทำให้หมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนสั่นไหวโคลงแคลงไปมา เหมือนดั่งมีอะไรพลิกตัวใต้พื้นดินอย่างนั้น พลันสร้างความแตกตื่นให้กับชาวประมงของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนเป็นการใหญ่ บรรดาบรรพบุรุษของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนต่างวิ่งกรูกันออกมา
“กรรร” เสียงของมังกรที่ดังขึ้นก้องไปทั่วมหาสมุทรอุดร ขณะที่บรรดาบรรพบุรุษของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนวิ่งกรูกันออกมานั้น เห็นเพียงเงาดำที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าในทันที และหายตัวไปในพริบตา
“นั่นมัน” บรรดาบรรพบุรุษของหมู่บ้านเสี่ยวไห่ชุนล้วนไม่สามารถได้สติกลับคืนมา มองดูเงาดำที่คล้ายดั่งมังกรแท้จริงหายไปบนท้องฟ้า
ขณะที่กู้จุนกำลังหลบหนีอย่างรวดเร็วนั้น เขายังไม่ทันกลับไปถึงเมืองสมุทรสยบฟ้า ทันใดนั้น เสียงดัง “ปัง” ช่องว่างอากาศพลันถูกทำลาย ในพริบตาเดียวนี้เอง บนท้องฟ้าปรากฏเป็นยันต์ลงมาจากท้องฟ้า กลายเป็นค่ายกลยันต์ที่เข้าล็อกตัวกู้จุนเอาไว้
สีหน้าของกู้จุนแปรเปลี่ยนไปมากทันทีที่เห็นค่ายกลยันต์นี้ ขณะที่หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ ก้าวเดินเข้าไปยังค่ายกลยันต์ดังกล่าว
เสียง “ปัง” ดังขึ้น ค่ายกลยันต์พลันหอบเอากู้จุนและหลี่ชิเย่ไปด้วยกัน ย้ายตำแหน่งไปปรากฏอยู่บนจักรวาล
ในส่วนที่ลึกเข้าไปแห่งหนึ่งในจักรวาล ล้อมรอบไปด้วยดวงดารา มีสุริยันจันทราที่ปรากฏอยู่บริเวณนั้น ค่ายกลยันต์ที่ทรงพลังยิ่งพาหลี่ชิเย่และกู้จุนไปอยู่บนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์แห่งหนึ่ง
“กรรร” เสียงคำรามมังกรดังไม่ขาดสาย บนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ปรากฎลวดลายของมังกรที่โลดโผนไปมา เหมือนต้องการกลับกลายเป็นมังกรแท้จริงแต่ละตัวอย่างนั้น ท่ามกลางเวลทีต่อสู้ปรากฎกลิ่นอายมังกรแท้จริงที่ตลบอบอวล เหมือนว่ามีมังกรแท้จริงอยู่ตัวหนึ่งกำลังสร้างปัญหาก่อความปั่นป่วนอยู่ตรงนั้น
เวลานี้กู้จุนแหงนหน้าขึ้นมอง เห็นบนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์มีมังกรแท้จริงยึดครองอยู่ตรงนั้นตัวหนึ่ง มังกรตัวนี้มีสีดำทั้งร่าง เกล็ดมังกรแต่ละเกล็ดคล้ายดั่งสร้างขึ้นมาจากเหล็กนิลอย่างนั้น มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก เล็บทั้งห้าของมังกรแหลมคมยิ่ง มองเห็นประกายน่าเกรงขามวูบวาบ ดุจดั่งสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้
ยามที่มังกรแท้จริงลืมตาขึ้นมานั้นเหมือนว่าทั้งเก้าแดนถูกจุดติดจนสว่างไสวอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองของมังกรแท้จริงลึกล้ำยิ่งนัก สามารถเชื่อมทะลุต่อไปถึงตัวตนที่แท้จริง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหลบหนีพ้นไปจากดวงตาทั้งสองข้างของมัน
ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่ต้องเกรงกลัวต่อดวงตาคู่นี้กันทั้งนั้น ประหนึ่งว่าดวงตาคู่นี้สามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นความว่างเปล่า ท่ามกลางดวงตาคู่นี้ล้วนแล้วแต่เปื่อยยุ่ยอะไรอย่างนั้น
ยามเมื่อมังกรลักษณะเช่นนี้ได้ยึดครองพื้นที่อยู่บนเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์ ยามที่กลิ่นอายมังกรเวทีดึกดำบรรพ์ตลบอบอวลไปทั่วนั้น เกรงว่าต่อให้จักรพรรดิเทพที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ต้องรู้สึกสั่นเทาในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...