ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1672

ตอนที่ 1672 ต่อสู้ชี้ขาดกับหลงอ้าวเทียน
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ ส่ายหัวและกล่าวว่า “ฆ่าหรือไม่ฆ่าก็มีค่าเท่ากัน ต่อให้ฆ่ากู้จุนเสียก็ไม่เกิดประโยชน์มากมายในขณะนี้ ไม่รีบร้อนที่ต้องฆ่าเขา เพียงแต่ภายในใจของราชามังกรดำยังตัดใจไม่ได้อยู่บ้าง น้องเมียของเขาเองก็ปล่อยให้เขาไปจัดการเองก็แล้วกัน”

หากหลี่ชิเย่จะลงมือฆ่ากู้จุนล่ะก็ กู้จุนคงอยู่ไม่ถึงวันนี้ แต่ว่าหลี่ชิเย่ไม่รีบเร่งฆ่าเขาในเวลานี้ ต่อให้ฆ่ากู้จุนแล้วก็ไม่ก่อเกิดประโยชน์อะไรมากมาย

ยวีไท่จวินพยักหน้าเบาๆ และไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก นางเห็นหลี่ชิเย่จ้องเขม็งอยู่ที่พรรคเซียนเหินเลยเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ใต้เท้าจะลงมือด้วยตนเอง หรือจะให้บ่าวพาทหารออกรบ?”

หลี่ชิเย่ส่ายหน้า หัวเราะและกล่าวว่า “ในเมื่อคิดจะตกปลาตัวใหญ่แล้ว ข้าก็ต้องยอมลงทุนบ้าง ให้ข้าเป็นเหยื่อล่อก็แล้วกัน หวังว่าสามารถตกสุดยอดปลาที่ปราศจากผู้เทียบเทียมได้สักตัว ข้าอยากจะตกปลาตัวนี้ให้ได้ตลอดมา”

“ใต้เท้าไม่ได้ต้องการตกมือมืดที่อยู่เบื้องหลังพรรคเซียนเหิน” ภายในใจของยวีไท่จวินรู้สึกเย็นว้าบบ นาทีนี้เองนางจึงได้เข้าใจว่าใต้เท้าไม่ได้พุ่งเป้าไปที่พรรคเซียนเหินเลย ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่มือมืดที่อยู่เบื้องหลังพรรคเซียนเหิน เลย แต่เขามุ่งไปยังผู้ที่แอบอยู่ลึกลงไปกว่านั้นอีก

ในเวลานี้เองยวีไท่จวินยังไม่ชัดเจนว่า จริงๆ แล้วตัวใต้เท้าเองเป็นเหยื่อล่อหรือพรรคเซียนเหินเป็นเหยื่อล่อกันแน่! แน่นอนที่สุดทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีความสำคัญอีกต่อไป ในเมื่อเรื่องราวได้พัฒนามาถึงวันนี้แล้ว พรรคเซียนเหินต้องถูกทำลายล้างแน่นอน!

เมื่อหลี่ชิเย่ก้าวเท้าเข้าไปยังพรรคเซียนเหิน ปรากฏร่างเงาสายหนึ่งเหินฟ้าลงมาขวางทางของหลี่ชิเย่เอาไว้

“หลี่ชิเย่ ได้เวลาที่เจ้ากับข้าควรตัดสินชี้ขาดความเป็นความตายกันแล้ว!” ดวงตาทั้งสองของผู้ที่ขวางทางหลี่ชิเย่นั้นดูดุดันรุนแรง จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่อย่างเอาเป็นเอาตาย

ผู้ที่ขวางทางหลี่ชิเย่เอาไว้คือผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหินหลงอ้าวเทียนนั่นเอง หลงอ้าวเทียนในเวลานี้มีท่าทีที่เยี่ยมมาก ภาพรวมของเขาดูคึกคัก ท่วงท่างดงามอิ่มเอิบมีชีวิตชีวา โดยไม่ได้มีความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในใจจากการพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่ถึงสองครั้งสองคราอย่างสิ้นเชิง ท่าทีของหลงอ้าวเทียนในเวลานี้ยังคงรักษาอยู่ในระดับสูงสุดยอดของเขา ไม่อาจไม่เลื่อมใสในสภาพจิตใจของเขา

หลี่ชิเย่ไม่รู้สึกแปลกใจกับการปรากฏตัวของหลงอ้าวเทียน เขาเผยรอยยิ้มออกมาและกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าต้องการต่อสู้ชี้ขาดความเป็นความตายก็มาชี้ขาดกันเลย ไม่รู้ว่าเจ้าได้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตายอย่างไม่สะทกสะท้านแล้วยัง!”

“ไม่สู้จนถึงที่สุด แล้วจะรู้เป็นหรือตายได้อย่างไร เจ้าเองก็อย่าได้ดีใจไปล่วงหน้านัก!” หลงอ้าวเทียนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ

แม้ว่าหลงอ้าวเทียนได้พ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่มาแล้วถึงสองครั้ง ยังจำเป็นต้องต่อสู้ชี้ขาดความเป็นความตายกับหลี่ชิเย่ เนื่องจากชะตาฟ้าได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว ในอนาคตอันใกล้เมื่อชะตาฟ้าได้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ย่อมต้องมีรายการเสือพบสิงห์ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ว่า กล่าวสำหรับสภาพของหลงอ้าวเทียนในเวลานี้แล้วเขาไม่มีความได้เปรียบใดๆ การพ่ายแพ้เต่อหลี่ชิเย่ถึงสองครั้งสองครานับว่าไม่เป็นผลดีต่อการที่เขาจะสืบทอดชะตาฟ้าเอาเสียเลย ดังนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเขาจะต้องเอาชนะหลี่ชิเย่ให้ได้สักครั้ง มิฉะนั้นล่ะก็เมื่อถึงเวลานั้น จะอาศัยอะไรมาให้ชะตาฟ้ายอมรับในตัวของเขา?

“กล่าวสำหรับข้าแล้ว จุดจบได้ลิขิตเอาไว้แล้ว เจ้าไม่มีส่วนร่วมในชะตาฟ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยออกมา

เวลานี้ การต่อสู้เพื่อชี้ขาดระหว่างหลงอ้าวเทียน และคนโหดอันดับหนึ่งได้ดึงดูดสายตาผู้คนได้ไม่น้อยทีเดียว ผู้คนจำนวนมากต่างให้ความสนใจการต่อสู้ระหว่างคนโหดอันดับหนึ่งกับหลงอ้าวเทียน

แม้ว่าหลงอ้าวเทียนจะพ่ายแพ้ให้กับคนโหดอันดับหนึ่งมาแล้วถึงสองครั้ง แต่มีคนบางคนที่ยังคาดหวังในตัวของหลงอ้าวเทียนอยู่ รู้สึกว่าหลงอ้าวเทียนยังมีโอกาสเป็นฝ่ายชนะได้ในระดับหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากมองว่าการพ่ายแพ้ก่อนที่จะได้เป็นราชันเซียนหาใช่เป็นเรื่องที่น่าอาย ในอตีตที่ผ่านมามีราชันเซียนเท่าไรที่เคยพ่ายแพ้ให้กับคนอื่นก่อนที่จะได้เป็นราชันเซียน กระทั่งเคยพ่ายแพ้อย่างยับเยินมาก่อน!

“เจ้าทดลองดูก็จะรู้เอง!” หลงอ้าวเทียนส่งเสียงฮึน่าเกรงขามออกมาคำหนึ่ง ยังคงมีท่าทีที่หมางเมินต่อใต้หล้า ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะศัตรูผู้แข็งแกร่งเหมือนเดิม นี่แหละคือผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหิน จะไม่ยอมให้มีผลกระทบเพียงเพราะการล้มเหลวเพียงหนึ่งหรือสองครั้งอย่างเด็ดขาด ยิ่งไม่มีการล้มลงและไม่สามารถยืนหยัดลุกขึ้นมาได้อีกเพียงเพราะพ่ายแพ้ต่อผู้อื่น!

“ดี ข้าจะสงเคราะห์เจ้า มีท่วงท่าอะไรก็สำแดงออกมาให้หมด หากพลาดครั้งนี้ไปแล้วจะไม่มีโอกาสอีก” หลี่ชิเย่จ้องมองดูหลงอ้าวเทียนและเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “เจ้านับเป็นดาวรุ่งที่สุดยอดคนหนึ่ง จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรลักษณะเช่นนี้นับว่าหาได้ยาก!”

ระหว่างหลงอ้าวเทียน และคนโหดอันดับหนึ่งอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ซึ่งพลอยทำให้ผู้คำจำนวนไม่น้อยที่สนใจการศึกในครั้งนี้ถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนต่างรู้ว่าศึกแย่งชิงชะตาฟ้าได้ร่นกำหนดการเร็วขึ้น เกรงว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องตกจากฟ้าเป็นแน่แท้ระหว่างหลงอ้าวเทียน กับคนโหดอันดับหนึ่ง

หลงอ้าวเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง บังเกิดเสียงดัง “ตูม” ทันใดนั้น หลงอ้าวเทียนได้ปลดปล่อยพลังลมปราณของตนออกมา พลังลมปราณของเขาเสมือนดั่งเป็นน้ำที่ล้นทะลักจากเขื่อนที่แตกพุ่งออกมาอย่างรุนแรง ภายในระยะเวลาอันสั้น ลมปราณของเขาไหลบ่าท่วมไปทั่วฟ้าดิน เหมือนว่าต้องการทำให้ฟ้าดินทั้งหมดกลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่อย่างนั้น

“แว้งค์” เสียงดังขึ้นพร้อมกับการสั่นไหวของช่องว่างอากาศ ร่างกายของหลงอ้าวเทียนในเวลานี้พลันสว่างไสวขึ้น และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แลดูระคายตายิ่งนัก อีกทั้งทั่วตัวล้วนแล้วแต่ดูประณีตงดงามและโปร่งแสง เหมือนหนึ่งเป็นงานแกะสลักจากคริสตัลอย่างนั้น มีความสวยงามอย่างยิ่ง นี่แหละคือกายเซียนเหินขั้นสมบูรณ์ของหลงอ้าวเทียน และถือเป็นหนึ่งในผลงานที่หลงอ้าวเทียนภูมิใจในตนเองมากที่สุด

กายเซียนเหินของหลงอ้าวเทียนสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ เจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งท้ายสุดไม่สามารถเพ่งมองร่างกายของเขาตรงๆ ได้อีก ต่อให้เปิดเนตรฟ้าขึ้นมาก็ไม่สามารถมองตรงไปยังร่างกายของเขา นาทีนี้ความรู้สึกที่หลงอ้าวเทียนให้กับผู้คนคือตัวลอย กระทั่งเหมือนหนึ่งพื้นที่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีปีกงอกออกมาและกำลังจะบินขึ้นไปอย่างนั้น

“แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” เสียงสั่นสะเทือนที่ดังขึ้นเป็นจังหวะยิ่ง โดยเสียงสั่นสะเทือนที่ดังขึ้นเป็นจังหวะยิ่งนี้มีความเชื่องช้ามาก และเสียงสั่นสะเทือนลักษณะเช่นนี้มาจากตัวของพื้นที่ว่างเอง มันถูกชักนำโดยกายเซียนเหินของหลงอ้าวเทียนจนกลายเป็นการขับเคลื่อนเชื่องช้าลง ทำให้กาลเวลาเชื่องช้าลง

ทันใดนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกทำให้หยุดอยู่กับที่ กาลเวลาในขณะนี้เหมือนหยุดลงในฉับพลัน ทุกคนรู้สึกว่าการมองเห็นและความรู้สึกของตนล้วนถูกหยุดลงในเสี้ยววินาทีนี้เอง

“แว้งค์” นาทีต่อมา กาลเวลาได้กลับคืนสู่การเคลื่อนที่ตามปรกติ มาคราวนี้เสียงสั่นสะเทือนไม่ได้เกิดจากการชักนำให้เคลื่อนที่จากหลงอ้าวเทียนอีกต่อไป แต่เกิดจากการชักนำของหลี่ชิเย่

ทุกคนไม่ทันได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และไม่เข้าใจในเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านไป เมื่อกาลเวลามีการไหลเคลื่อนไปตามปรกตินั้น สิ่งที่ทุกคนเห็นคือหลงอ้าวเทียนอยู่ห่างจากหลี่ชิเย่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้นเอง

ทันใดนั้น เสียง “แว้งค์” ดังขึ้นมาอีก และกาลเวลาถูกหยุดลงอีกครั้ง ทุกคนมองเห็นภาพนิ่งที่อยู่ตรงหน้า เห็นหลงอ้าวเทียนที่อยู่ใกล้หลี่ชิเย่แค่เอื้อม โดยส่วนปลายแหลมที่แหลมคมและเยือกเย็นที่อยู่ในมือนั้นห่างจากหน้าผากของหลี่ชิเย่เพียงแค่สามนิ้วเท่านั้นเอง

หลงอ้าวเทียนได้สำแดงกายเซียนเหินของตนจนถึงระดับสูงสุด กระทั่งทำลายขีดจำกัดสูงสุดของตนด้วยซ้ำ ต้องการอาศัยความเร็วสูงสุดเข้าจู่โจมหลี่ชิเย่ชนิดครั้งเดียวถึงตาย

ควรจะรู้ว่า กายเซียนเหินของหลงอ้าวเทียนนั้นได้สำเร็จขั้นสมบูรณ์ เมื่อเขาเร่งความเร็วของตนจนทะลุขีดสูงสุดแล้ว มันรวดเร็วจนไม่สามารถบรรยายได้ด้วยตัวอักษรอีกต่อไป

ด้วยการโจมตีที่รวดเร็วเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่ระดับจักรพรรดิเทพ ชั้นเก้าแดนก็หลบไม่พ้น และถูกสังหารไปโดยพลัน

เสียดายที่หลงอ้าวเทียนเจอคือหลี่ชิเย่ ขณะที่หลงอ้าวเทียนอาศัยการโจมตีที่เห็นผลในครั้งเดียวนั้น หลี่ชิเย่ได้สำแดงอาณาจักรหนักอืดขึ้นมา

หากจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว กายเซียนของหลงอ้าวเทียนมีความได้เปรียบอยู่ จะอย่างไรเสียกายเซียนเหินของหลงอ้าวเทียนคือขั้นสมบูรณ์ ขณะที่กายเซียนเหินของหลี่ชิเย่ยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์

เสียดาย เมื่ออยู่ภายใต้อาณาจักรหนักอืดแล้ว ต่อให้มีความเร็วแค่ไหนก็เชื่องช้าลงในทันที อีกทั้งยังถูกสยบอีกด้วย

นาทีต่อมา กาลเวลาได้ไหลเคลื่อนไปตามปรกติอีกครั้ง “ปัง” ทุกคนที่มองเห็นหลงอ้าวเทียนขณะนี้ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อีกแม้เพียงครึ่งนิ้ว อีกทั้งยังถูกสยบด้วยอาณาจักรหนักอืดอีกด้วย ได้ยินเสียงกระดูกที่แตกร้าวดังขึ้นมา

หลงอ้าวเทียนนับว่ายอดเยี่ยมมาก ในจังหวะที่ตกอยู่ในอันตรายพลันสำแดงเคล็ดวิชาห้าราชันเซียนออกมาคุ้มครองตนเอง ภายใต้มังกรคำรามพยัคฆ์คำรณดังไม่ขาดสาย อานุภาพราชันเซียนอันยิ่งใหญ่ ในช่วงระหว่างความเป็นความตายเขาไม่เสียดายที่จะเผาผลาญเลือดวัฒนะของตน เพื่อขับเคลื่อนเคล็ดราชันเซียนไปถึงขีดสูงสุด และไม่กล้าอยู่สู้อีกต่อไป พาตัวเองหนีออกจากอาณาจักรหนักอืดในทันที

เสียง “ปัง” ดังขึ้น ภายใต้ความพยายามอย่างสุดกำลังของหลงอ้าวเทียน ในที่สุดเขาก็หนีออกมาจากอาณาจักรหนักอืดจนได้ เขาดีดตัวถอยหลังอย่างรวดเร็วในทันทีและหนีไปอยู่บนท้องฟ้าสูง แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม เขายังคงได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดสดๆ ได้ย้อมเสื้อผ้าเขาจนแดงฉาน กระดูกบนร่างของเขาแตกละเอียดไปไม่น้อยทีเดียว

นี่แหละคือจุดที่แข็งแกร่งของหลงอ้าวเทียน ภายใต้กายเซียนเหินขั้นสมบูรณ์ แล้วเสริมด้วยเคล็ดวิชาห้าราชันเซียน ทำให้เขาสามารถหลบหนีออกจากอาณาจักรหนักอืดของหลี่ชิเย่มาได้ในที่สุด

หลี่ชิเย่เองไม่ได้รีบเร่งตามฆ่าหลงอ้าวเทียน มองดูเขาที่ได้รับบาดเจ็บแล้วส่ายหน้ายิ้มกล่าวว่า “กายเซียนขั้นสมบูรณ์มีจุดอ่อนที่เด่นชัดมากเหลือเกิน หากสมบูรณ์มากกว่านี้สักนิด อาศัยกายเซียนขั้นสมบูรณ์กับการจู่โจมแบบหวังผลในครั้งเดียวเช่นนี้ ยังคงมีโอกาสทำให้ข้าบาดเจ็บได้”

หลงอ้าวเทียนส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา และกล่าวน่าเกรงขามว่า “ใช่ว่าข้าจะมีเพียงกายเซียนเหิน นอกเหนือจากกายเซียนขั้นสมบูรณ์แล้ว สัจธรรมของข้าก็ทำอันตรายให้เจ้าได้!”

“ดีมาก งั้นให้ข้าได้ทดสอบจุดเด่นของห้าราชันเซียนก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่หัวเราะกล่าว

หลงอ้าวเทียนเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาห้าราชันเซียน แถมพกด้วยจุดเด่นของห้าราชันเซียน แล้วคิดค้นสร้างเป็นสัจธรรมที่มีเพียงหนึ่งเดียวในหล้าของตนขึ้นมา เคยสร้างความอิจฉาให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนมาแล้ว จะมีใครสักกี่คนในโลกหล้านี้สามารถฝึกสุดยอดเคล็ดวิชาของห้าราชันเซียนได้พร้อมกันทีเดียวกันเล่า? สามารถฝึกสุดยอดเคล็ดวิชาของราชันเซียนองค์ใดองค์หนึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องประหลาดมหัศจรรย์แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเคล็ดวิชาห้าราชันเซียนอีกเลย

“ข้ารอสุดยอดสัจธรรมของเจ้าเช่นกัน” หลงอ้าวเทียนก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ กล่าวน่าเกรงขามออกมา พลันที่กล่าวขาดคำ “ตูม” เสียงหนึ่งดังขึ้น ฉับพลันได้สำแดงสัจธรรมสูงสุดของตนออกมาทันที

ทันใดนั้น สัจอาวุธราชันเซียนห้าชนิดได้ปรากฏขึ้นมา ได้ยินเสียงดัง “ตึง ตึง ตึง” เสื้อออกศึกราชันตัวหนึ่งได้สวมใส่เข้ากับตัวของหลงอ้าวเทียน

เสื้อออกศึกตัวนี้คล้ายดั่งถักทอขึ้นมาจากใยไหมหิมะ บนเสื้อออกศึกมีเงาของมังกรขดตัวอยู่ อีกทั้งเงาของมังกรขดตัวนี้ดูไปแล้วไม่เหมือนเกิดจากการปักร้อย มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เหมือนว่ามันเกิดและอาศัยอยู่บนเสื้อออกศึกตัวนี้ตั้งแต่ต้น

เสื้อฉานหลงคือสัจอาวุธราชันเซียนของราชันเซียนฉานหลง ซึ่งเป็นราชันเซียนองค์ที่สองของพรรคเซียนเหิน เสื้อฉานหลงไม่เพียงสามารถป้องกันตัวเท่านั้น ขณะเดียวกันมันยังสามารถเพิ่มความเร็ว เพิ่มพลังลมปราณต่างๆ ที่เป็นพลังอัศจรรย์

“แช้งค์ แช้งค์” ดาบและกระบี่คำรามประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน ในเวลานี้ดาบและกระบี่ได้ออกจากฝัก หลงอ้าวเทียนมือหนึ่งถือดาบ มือหนึ่งจับกระบี่ ดาบนั้นดั่งจอมอันธพาล แข็งกร้าวดุดันปราศจากผู้เทียบเทียม เมื่อดาบนี้อยู่ในมือทำให้ผู้นั้นมีความกล้าที่จะต่อสู้กับทั่วหล้าโดยลำพังคนเดียว

ดาบเล่มนี้ก็คือดาบป้าเมียด เป็นสัจอาวุธราชันเซียนของราชันเซียนป้าเมียด เคยติดตามราชันเซียนป้าเมียดสู้ศึกเก้าแดนโดยลำพังมาก่อน

สำหรับกระบี่ที่อยู่ในมือไม่ต้องกล่าวให้มากความ เป็นกระบี่เหรินเสียนของราชันเซียนเหรินเสียนที่เป็นบรรพบุรุษสายของหลงอ้าวเทียน

ขณะเดียวกัน ด้านหลังซ้ายขวาของหลงอ้าวเทียนปรากฏสัจอาวุธรชันเซียนอีกสองอย่าง หนึ่งนั้นคือพัดขนนก พัดขนนกนี้ดั่งมีห้าสี แต่ขาดไปเส้นหนึ่ง ส่วนอีกอย่างคือทวนยาว เป็นทวนยาวที่ดั่งอาทิตย์เจิดจ้า เหมือนว่าทวนเล่มนี้หลอมสร้างขึ้นมาจากโลหะสุริยะเทพอย่างนั้น

พัดเฟยเซียนขนนกขาดหนึ่งเส้น เป็นสัจอาวุธราชันเซียนของราชันเซียนเฟย ปฐมบรรพบุรุษพรรคเซียนเหิน ว่ากันว่าอาวุธนี้ถูกจัดให้อยู่หนึ่งในสิบยอดอาวุธราชันเซียน มีอานุภาพยิ่งนัก

สำหรับทวนเล่นนั้นคือทวนทุนเย่อ (ทวนกลืนสุริยัน) เป็นสัจอาวุธราชันเซียนของราชันเซียนทุนเย่อ เล่าลือกันว่าพลันที่ทวนนี้ปรากฏออกมาต้องเด็ดหัวศัตรูแน่นอน เป็นทวนที่ทำให้เก้าแดนต้องหวาดหวั่นเมื่อได้ยินชื่อ

คนๆ เดียวแต่ครอบครองสัจอาวุธราชันเซียนถึงห้า เป็นภาพที่สร้างความอิจฉาริษยาให้ผู้พบเห็นทุกคน ขณะเดียวกันก็ต้องเลื่อมใสนับถือในตัวหลงอ้าวเทียน

แม้ว่าสัจอาวุธราชันเซียนจะปราศจากผู้ต่อกร แต่ใช่ว่าผู้ใดคิดจะควบคุมก็สามารถทำได้ กล่าวสำหรับ ยอดฝีมือจำนวนมากแล้ว แค่มีสัจอาวุธราชันเซียนหนึ่งเดียวในมือแล้วสามารถสำแดงการโจมตีที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมาก็ไม่ง่ายแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่หลงอ้าวเทียนสามารถควบคุมได้ถึงห้าสัจอาวุธราชันเซียน อีกทั้งยังทำได้ตามใจปรารถนาอีกด้วย สิ่งนี้แหละคือความแข็งแกร่งของหลงอ้าวเทียน และเป็นที่เคารพเลื่อมใสมากของผู้คน

แม้ว่าหลงอ้าวเทียนจะไม่สามารถอาศัยสัจอาวุธราชันเซียนทั้งห้าสำแดงสวรรค์ทำลายได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน แต่ว่า การที่หลงอ้าวเทียนควบจุดเด่นของห้าราชันเซียนในตัว และผสานรวมเข้ากับสัจธรรมของราชันเซียนทั้งห้า ในที่สุดได้สร้างสุดยอดสัจธรรมของตนเองขึ้นมา

ขณะเดียวกัน หลงอ้าวเทียนได้อาศัยห้าสัจอาวุธราชันเซียนมาส่งเสริมสุดยอดสัจธรรมของตน เมื่อได้รับการส่งเสริมจากสัจอาวุธราชันเซียนทั้งห้า ทำให้สุดยอดสัจธรรมของเขามีพลังเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวกระทั่งถึงสิบเท่า!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล