หากหลี่ชิเย่จะลงมือฆ่ากู้จุนล่ะก็ กู้จุนคงอยู่ไม่ถึงวันนี้ แต่ว่าหลี่ชิเย่ไม่รีบเร่งฆ่าเขาในเวลานี้ ต่อให้ฆ่ากู้จุนแล้วก็ไม่ก่อเกิดประโยชน์อะไรมากมาย
ยวีไท่จวินพยักหน้าเบาๆ และไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก นางเห็นหลี่ชิเย่จ้องเขม็งอยู่ที่พรรคเซียนเหินเลยเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ใต้เท้าจะลงมือด้วยตนเอง หรือจะให้บ่าวพาทหารออกรบ?”
หลี่ชิเย่ส่ายหน้า หัวเราะและกล่าวว่า “ในเมื่อคิดจะตกปลาตัวใหญ่แล้ว ข้าก็ต้องยอมลงทุนบ้าง ให้ข้าเป็นเหยื่อล่อก็แล้วกัน หวังว่าสามารถตกสุดยอดปลาที่ปราศจากผู้เทียบเทียมได้สักตัว ข้าอยากจะตกปลาตัวนี้ให้ได้ตลอดมา”
“ใต้เท้าไม่ได้ต้องการตกมือมืดที่อยู่เบื้องหลังพรรคเซียนเหิน” ภายในใจของยวีไท่จวินรู้สึกเย็นว้าบบ นาทีนี้เองนางจึงได้เข้าใจว่าใต้เท้าไม่ได้พุ่งเป้าไปที่พรรคเซียนเหินเลย ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่มือมืดที่อยู่เบื้องหลังพรรคเซียนเหิน เลย แต่เขามุ่งไปยังผู้ที่แอบอยู่ลึกลงไปกว่านั้นอีก
ในเวลานี้เองยวีไท่จวินยังไม่ชัดเจนว่า จริงๆ แล้วตัวใต้เท้าเองเป็นเหยื่อล่อหรือพรรคเซียนเหินเป็นเหยื่อล่อกันแน่! แน่นอนที่สุดทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีความสำคัญอีกต่อไป ในเมื่อเรื่องราวได้พัฒนามาถึงวันนี้แล้ว พรรคเซียนเหินต้องถูกทำลายล้างแน่นอน!
เมื่อหลี่ชิเย่ก้าวเท้าเข้าไปยังพรรคเซียนเหิน ปรากฏร่างเงาสายหนึ่งเหินฟ้าลงมาขวางทางของหลี่ชิเย่เอาไว้
“หลี่ชิเย่ ได้เวลาที่เจ้ากับข้าควรตัดสินชี้ขาดความเป็นความตายกันแล้ว!” ดวงตาทั้งสองของผู้ที่ขวางทางหลี่ชิเย่นั้นดูดุดันรุนแรง จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่อย่างเอาเป็นเอาตาย
ผู้ที่ขวางทางหลี่ชิเย่เอาไว้คือผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหินหลงอ้าวเทียนนั่นเอง หลงอ้าวเทียนในเวลานี้มีท่าทีที่เยี่ยมมาก ภาพรวมของเขาดูคึกคัก ท่วงท่างดงามอิ่มเอิบมีชีวิตชีวา โดยไม่ได้มีความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในใจจากการพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่ถึงสองครั้งสองคราอย่างสิ้นเชิง ท่าทีของหลงอ้าวเทียนในเวลานี้ยังคงรักษาอยู่ในระดับสูงสุดยอดของเขา ไม่อาจไม่เลื่อมใสในสภาพจิตใจของเขา
หลี่ชิเย่ไม่รู้สึกแปลกใจกับการปรากฏตัวของหลงอ้าวเทียน เขาเผยรอยยิ้มออกมาและกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าต้องการต่อสู้ชี้ขาดความเป็นความตายก็มาชี้ขาดกันเลย ไม่รู้ว่าเจ้าได้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตายอย่างไม่สะทกสะท้านแล้วยัง!”
“ไม่สู้จนถึงที่สุด แล้วจะรู้เป็นหรือตายได้อย่างไร เจ้าเองก็อย่าได้ดีใจไปล่วงหน้านัก!” หลงอ้าวเทียนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
แม้ว่าหลงอ้าวเทียนได้พ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่มาแล้วถึงสองครั้ง ยังจำเป็นต้องต่อสู้ชี้ขาดความเป็นความตายกับหลี่ชิเย่ เนื่องจากชะตาฟ้าได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว ในอนาคตอันใกล้เมื่อชะตาฟ้าได้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ย่อมต้องมีรายการเสือพบสิงห์ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ว่า กล่าวสำหรับสภาพของหลงอ้าวเทียนในเวลานี้แล้วเขาไม่มีความได้เปรียบใดๆ การพ่ายแพ้เต่อหลี่ชิเย่ถึงสองครั้งสองครานับว่าไม่เป็นผลดีต่อการที่เขาจะสืบทอดชะตาฟ้าเอาเสียเลย ดังนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเขาจะต้องเอาชนะหลี่ชิเย่ให้ได้สักครั้ง มิฉะนั้นล่ะก็เมื่อถึงเวลานั้น จะอาศัยอะไรมาให้ชะตาฟ้ายอมรับในตัวของเขา?
“กล่าวสำหรับข้าแล้ว จุดจบได้ลิขิตเอาไว้แล้ว เจ้าไม่มีส่วนร่วมในชะตาฟ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยออกมา
เวลานี้ การต่อสู้เพื่อชี้ขาดระหว่างหลงอ้าวเทียน และคนโหดอันดับหนึ่งได้ดึงดูดสายตาผู้คนได้ไม่น้อยทีเดียว ผู้คนจำนวนมากต่างให้ความสนใจการต่อสู้ระหว่างคนโหดอันดับหนึ่งกับหลงอ้าวเทียน
แม้ว่าหลงอ้าวเทียนจะพ่ายแพ้ให้กับคนโหดอันดับหนึ่งมาแล้วถึงสองครั้ง แต่มีคนบางคนที่ยังคาดหวังในตัวของหลงอ้าวเทียนอยู่ รู้สึกว่าหลงอ้าวเทียนยังมีโอกาสเป็นฝ่ายชนะได้ในระดับหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากมองว่าการพ่ายแพ้ก่อนที่จะได้เป็นราชันเซียนหาใช่เป็นเรื่องที่น่าอาย ในอตีตที่ผ่านมามีราชันเซียนเท่าไรที่เคยพ่ายแพ้ให้กับคนอื่นก่อนที่จะได้เป็นราชันเซียน กระทั่งเคยพ่ายแพ้อย่างยับเยินมาก่อน!
“เจ้าทดลองดูก็จะรู้เอง!” หลงอ้าวเทียนส่งเสียงฮึน่าเกรงขามออกมาคำหนึ่ง ยังคงมีท่าทีที่หมางเมินต่อใต้หล้า ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะศัตรูผู้แข็งแกร่งเหมือนเดิม นี่แหละคือผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหิน จะไม่ยอมให้มีผลกระทบเพียงเพราะการล้มเหลวเพียงหนึ่งหรือสองครั้งอย่างเด็ดขาด ยิ่งไม่มีการล้มลงและไม่สามารถยืนหยัดลุกขึ้นมาได้อีกเพียงเพราะพ่ายแพ้ต่อผู้อื่น!
“ดี ข้าจะสงเคราะห์เจ้า มีท่วงท่าอะไรก็สำแดงออกมาให้หมด หากพลาดครั้งนี้ไปแล้วจะไม่มีโอกาสอีก” หลี่ชิเย่จ้องมองดูหลงอ้าวเทียนและเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “เจ้านับเป็นดาวรุ่งที่สุดยอดคนหนึ่ง จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรลักษณะเช่นนี้นับว่าหาได้ยาก!”
ระหว่างหลงอ้าวเทียน และคนโหดอันดับหนึ่งอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ซึ่งพลอยทำให้ผู้คำจำนวนไม่น้อยที่สนใจการศึกในครั้งนี้ถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนต่างรู้ว่าศึกแย่งชิงชะตาฟ้าได้ร่นกำหนดการเร็วขึ้น เกรงว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องตกจากฟ้าเป็นแน่แท้ระหว่างหลงอ้าวเทียน กับคนโหดอันดับหนึ่ง
หลงอ้าวเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง บังเกิดเสียงดัง “ตูม” ทันใดนั้น หลงอ้าวเทียนได้ปลดปล่อยพลังลมปราณของตนออกมา พลังลมปราณของเขาเสมือนดั่งเป็นน้ำที่ล้นทะลักจากเขื่อนที่แตกพุ่งออกมาอย่างรุนแรง ภายในระยะเวลาอันสั้น ลมปราณของเขาไหลบ่าท่วมไปทั่วฟ้าดิน เหมือนว่าต้องการทำให้ฟ้าดินทั้งหมดกลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่อย่างนั้น
“แว้งค์” เสียงดังขึ้นพร้อมกับการสั่นไหวของช่องว่างอากาศ ร่างกายของหลงอ้าวเทียนในเวลานี้พลันสว่างไสวขึ้น และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แลดูระคายตายิ่งนัก อีกทั้งทั่วตัวล้วนแล้วแต่ดูประณีตงดงามและโปร่งแสง เหมือนหนึ่งเป็นงานแกะสลักจากคริสตัลอย่างนั้น มีความสวยงามอย่างยิ่ง นี่แหละคือกายเซียนเหินขั้นสมบูรณ์ของหลงอ้าวเทียน และถือเป็นหนึ่งในผลงานที่หลงอ้าวเทียนภูมิใจในตนเองมากที่สุด
กายเซียนเหินของหลงอ้าวเทียนสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ เจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งท้ายสุดไม่สามารถเพ่งมองร่างกายของเขาตรงๆ ได้อีก ต่อให้เปิดเนตรฟ้าขึ้นมาก็ไม่สามารถมองตรงไปยังร่างกายของเขา นาทีนี้ความรู้สึกที่หลงอ้าวเทียนให้กับผู้คนคือตัวลอย กระทั่งเหมือนหนึ่งพื้นที่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีปีกงอกออกมาและกำลังจะบินขึ้นไปอย่างนั้น
“แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” เสียงสั่นสะเทือนที่ดังขึ้นเป็นจังหวะยิ่ง โดยเสียงสั่นสะเทือนที่ดังขึ้นเป็นจังหวะยิ่งนี้มีความเชื่องช้ามาก และเสียงสั่นสะเทือนลักษณะเช่นนี้มาจากตัวของพื้นที่ว่างเอง มันถูกชักนำโดยกายเซียนเหินของหลงอ้าวเทียนจนกลายเป็นการขับเคลื่อนเชื่องช้าลง ทำให้กาลเวลาเชื่องช้าลง
ทันใดนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกทำให้หยุดอยู่กับที่ กาลเวลาในขณะนี้เหมือนหยุดลงในฉับพลัน ทุกคนรู้สึกว่าการมองเห็นและความรู้สึกของตนล้วนถูกหยุดลงในเสี้ยววินาทีนี้เอง
“แว้งค์” นาทีต่อมา กาลเวลาได้กลับคืนสู่การเคลื่อนที่ตามปรกติ มาคราวนี้เสียงสั่นสะเทือนไม่ได้เกิดจากการชักนำให้เคลื่อนที่จากหลงอ้าวเทียนอีกต่อไป แต่เกิดจากการชักนำของหลี่ชิเย่
ทุกคนไม่ทันได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และไม่เข้าใจในเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านไป เมื่อกาลเวลามีการไหลเคลื่อนไปตามปรกตินั้น สิ่งที่ทุกคนเห็นคือหลงอ้าวเทียนอยู่ห่างจากหลี่ชิเย่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้นเอง
ทันใดนั้น เสียง “แว้งค์” ดังขึ้นมาอีก และกาลเวลาถูกหยุดลงอีกครั้ง ทุกคนมองเห็นภาพนิ่งที่อยู่ตรงหน้า เห็นหลงอ้าวเทียนที่อยู่ใกล้หลี่ชิเย่แค่เอื้อม โดยส่วนปลายแหลมที่แหลมคมและเยือกเย็นที่อยู่ในมือนั้นห่างจากหน้าผากของหลี่ชิเย่เพียงแค่สามนิ้วเท่านั้นเอง
หลงอ้าวเทียนได้สำแดงกายเซียนเหินของตนจนถึงระดับสูงสุด กระทั่งทำลายขีดจำกัดสูงสุดของตนด้วยซ้ำ ต้องการอาศัยความเร็วสูงสุดเข้าจู่โจมหลี่ชิเย่ชนิดครั้งเดียวถึงตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...