ทันใดนั้น โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ต่างยึดกันคนละมุม ล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้ทั้งสี่ทิศ พวกเขาได้ปะทุพลังลมปราณออกมาโดยพลัน ยามที่ลมปราณพวกเขาปะทุออกมา อานุภาพโอรสราชันเซียนได้สยบผู้คนจนหายใจไม่ออก โดยเฉพาะเวลาที่สายเลือดราชันเซียนของพวกเขาสยบเหล่าชั้นฟ้านั้น ทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนบังเกิดอารมณ์พลุ่งพล่านอยากจะกราบไหว้
“แว้งค์…” กายของทั้งสี่คนพลันสว่างไสวขึ้นมาพร้อมกัน กลายเป็นเจิดจรัสยิ่งนัก เหมือนเป็นดวงตะวันสี่ดวงที่ค่อยๆ ขึ้นมา โดยเฉพาะกายของธิดาราชันเซียนจูเชียะเรียกได้ว่าคลื่นความร้อนแผ่กระจายไปหมื่นแดน สามารถเผาผลาญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
“กายเซียนขั้นสมบูรณ์ทั้งสี่!” บรรดาผู้ดำรงอยู่ในระดับสามารถต่อกรราชันเซียนซึ่งหน้าได้ล้วนแล้วแต่รู้สึกตกใจยิ่ง
กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนในโลกมนุษย์แล้ว การที่สามารถฝึกกายเซียนจนถึงขั้นสมบูรณ์ได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมยิ่งนัก แต่แล้ว ไม่นึกเลยว่าโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ล้วนแล้วแต่สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ทั้งสิ้น
หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมา มองดูโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “นับว่าเป็นผลงานที่ไม่เลวนัก สายเลือดราชันเซียนมนุษย์บวกกับกายเซียนขั้นสมบูรณ์ ความสามารถระดับนี้คิดจะไม่ต่อกรราชันเซียนซึ่งหน้าก็คงไม่ได้แล้วหละ กายเซียนเหินของพรรคเซียนเหินนับได้ว่าเป็นเคล็ดกายที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดรองจากตำรากายแล้ว ส่วนกายเทวะสยบอเวจีก็นับเป็นหนึ่งในสุดยอดวิชาของพรรคเซียนเหิน…”
“…ดูจากกายเพชรของเจ้าแล้ว น่าจะแลกมาจากวัดลานหมอ บรรดาหลวงจีนของวัดลานหมอมีความเข้าใจที่เป็นเอกลักษณ์ในด้านนี้ กายเพชรของพวกเขานับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สำหรับกายสุริยันของแม่เจ้าแม้ว่าจะด้อยไปนิดหนึ่ง แต่ว่า ดูท่าถูกเจียรไนได้ดีมากขณะอยู่ในคุกเซียน ไม่มีข้อบกพร่องอะไรให้กล่าวถึง”
ในเวลานี้หลี่ชิเย่ได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ด้วยการทำการวิจารณ์ถึงสี่สุดยอดกายเซียนของโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่คน
ในบรรดาโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่นั้น วิชาที่โอรสราชันเซียนชิงหลงฝึกคือเคล็ดวิชาลับที่ไม่ถ่ายทอดให้ใครของพรรคเซียนเหิน คือ กายเซียนเหิน สำหรับโอรสราชันเซียนไป๋หู่ฝึกวิชากายอีกหนึ่งของพรรคเซียนเหิน ได้แก่กายเทวะสยบอเวจี พรรคเซียนเหินมีเคล็ดวิชากายอยู่สองเคล็ดวิชาใหญ่ ดังนั้น วิชาที่โอรสราชันเซียนเสียนหวู่ฝึกก็คือ “กายเพชร” ซึ่งไปฝึกมาจากวัดลานหมอที่เป็นสำนักดึกดำบรรพ์มากแห่งหนึ่ง ส่วนกายสุริยันที่ธิดาราชันเซียนจูเชียะฝึกนั้นเป็นสุดยอดกายเซียนของฝ่ายผู้เป็นแม่ ภายหลังที่นางแต่งงานกับราชันเซียนเหรินเสียนแล้ว จึงได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับลูกสาวของตน!
“ฆ่า…” โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่คำรามเสียงดังออกมา ทั้งสี่คนได้ลงมือพร้อมกัน กายเซียนเหินที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง กายเทวะสยบอเวจีที่ปราศจากผู้เทียบเทียม กายเพชรปราศจากผู้ต่อกร กายสุริยันไม่มีผู้ใดเทียบได้ เมื่อสี่ยอดกายเซียนปะทุขึ้นพร้อมกัน โดยอาศัยสายเลือดราชันเซียนเหรินเสียนเป็นตัวสนับสนุน ยามที่พวกเขาลงมือพร้อมกัน ช่างเป็นอานุภาพที่น่ากลัวเหลือเกิน
นี่คือสี่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ การที่พวกเขาลงมือด้วยตนเอง เกรงว่าสรรพชีวิตในแดนมนุษย์กษัตราก็ต้องสั่นเทาเพราะพวกเขา ทันทีที่พวกเขาปรากฎตัวออกมา ทำให้กาลเวลาสับสน ช่องว่างถูกเผาทำลาย สรรพวิชาถูกสยบ ไม่มีสิ่งแหลมคมใดๆ สามารถทำลายได้
ทั่วทั้งแดนมนุษย์กษัตราต้องสั่นเทาทันทีที่พวกเขาทั้งสี่คนลงมือพร้อมกัน โอรสราชันเซียนชิงหลงดั่งเซียนที่มาปรากฎตัวยังโลกมนุษย์ พร้อมกับการโจมตีที่สะเทือนฟ้า ประกายกระบี่สามารถฟันทางช้างเผือกเก้าชั้นฟ้าจนขาดสะบั้น โอรสราชันเซียนไป๋หู่นั้นมีรูปร่างสูงตระหง่านดั่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์ สามารถสยบจักรวาล ภายใต้น้ำหนักที่ไม่มีขีดจำกัดของเขา เหล่าสวรรค์เทพมารต้องร้องระงม โอรสราชันเสียนหวู่นั้นเป็นผู้บุกเข้าหาอยู่ด้านหน้าสุด เขาเป็นผู้ที่มีความมั่นคงด้านการปกปักษ์รักษาได้แข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาสี่พี่น้อง เขาสามารถรับมือกับทุกๆ โจมตีของศัตรู ขณะที่ธิดาราชันเซียนจูเชียะนั้นเพลิงศักดิ์สิทธิ์พลันเผาผลาญโลกหล้า ภายใต้เปลวเพลิงอันร้อนแรงของนางทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลายเป็นเถ้าธุลีไป นางเสมือนดั่งเทพธิดาที่คำรามเสียงดัง!
เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ในขณะที่โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ลงมือในทันใด จังหวะนั้นหลี่ชิเย่ได้สำแดงอาณาจักรหนักอืด และอาณาจักรล่มสลายขึ้นมา ภายใต้สถานะของข้านี่แหละสวรรค์ที่แท้จริง ทั้งสองอาณาจักรพลันทับซ้อนกัน อานุภาพพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางอาณาจักรทั้งสอง ทำให้ความเร็วของโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ช้าลงในพริบตา ถูกสยบในทันที แต่ทว่า จะอย่างไรเสียพวกเขาก็คือโอรสราชันเซียน พลังลมปราณพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แรงปะทุของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง กายเซียนของพวกเขาปะทุขึ้นอย่างรุนแรงภายในยระยะเวลาอันสั้น ขณะเดียวกันปรากฏเสียงตึงตึงตึงดังขึ้นมา เสื้อเกราะเซียนพลันถูกสวมใส่บนร่างของพวกเขา และมีทหารเทพคอยคุ้มกันพวกเขา
แม้ว่าเสื้อเกราะเซียนที่พวกเขาสวมใส่อยู่ และทหารเทพต่างส่งเสียงแตกร้าวดังขึ้นมา ท่ามกลางอาณาจักรหนักอืด และอาณาจักรล่มสลาย แต่ว่า พวกเขายังคงอาศัยท่วงท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรเข้าสังหารหลี่ชิเย่ ยังคงเป็นลักษณะของฟ้าดินถล่มทลาย เพียงแต่ความเร็ว และอานุภาพได้ลดน้อยลงไปไม่น้อยทีเดียว
ในในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ได้ลงมือแล้ว ได้ยินเสียงดัง “ตึง” หนึ่งดรรชนีเซียนเหิน ทันใดนั้น ฟ้าดินเจิดจรัสขึ้นในพริบตา ข้านี่แหละสวรรค์ที่แท้จริงของหลี่ชิเย่พลันสว่างไสวขึ้นมา มีความแวววาวยิ่งนัก พริบตาเดียวนั้นพลังจากหมื่นแดนล้วนแล้วแต่รวมศูนย์อยู่บนตัวของเขา
“ปัง…” เวลาเดียวกันนี้ ในมือของเขาปรากฏโล่ขนาดยักษ์ขึ้นมา จากการที่ทั่วตัวของหลี่ชิเย่เจิดจ้าขึ้นมานั้น โล่ยักษ์นี้ได้ซัดโจมตีออกไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วเหลือเกิน พลันที่ลงมือก็ก้าวล้ำแซงหน้าทุกอย่าง ต่อให้โอรสราชันเซียนชิงหลงสำแดงกายเซียนเหินของตนจนถึงขีดสูงสุด เวลานี้ก็มีความเร็วไม่เท่าการโจมตีเช่นนี้ของหลี่ชิเย่
เซียนเหินหมื่นแดน คือท่าโจมตีกายเซียนของกายเซียนเหินหลี่ชิเย่ ส่วนโล่ศักดิ์สิทธิ์สยบอเวจีก็คือท่าโจมตีกายเทวะสยบอเวจีของหลี่ชิเย่
สองท่าโจมตีกายเซียนได้ประสานหลอมรวมเข้ากับอาณาจักรทั้งสองอย่างลงตัวสมบูรณ์แบบในพริบตา ก้าวล้ำทุกอย่าง โจมตีทำลายสิ้นการดำรงอยู่ของทุกสิ่ง ท่าโจมตีกายเซียนที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมพลันโจมตีออกไป ต่อให้ระดับของผู้อยู่ในฐานะต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าก็ไม่ไหว!
“ตูม…” เสียงที่ดังสนั่นกระแทกไปทั่วฟ้าดิน ภายใต้พลังที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งกระแทกเข้าไป ต่อให้พรรคเซียนเหินที่มีห้าราชันเซียนปกป้องคุ้มครองยังคงสั่นไหวโคลงแคลงไปมาในทันที! ถ้าหากไม่มีพลังจากห้าราชันเซียนที่คอยคุ้มครองอยู่ เกรงว่าด้วยพลังที่เป็นควันหลงก็เพียงพอที่จะทำลายพรรคเซียนเหินได้ทั้งหมด
เสียงดัง “ปัง…” โอรสราชันเซียนเหรินเซียนทั้งสี่ต่างกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง พวกเขาถูกหลี่ชิเย่โจมตีจนต้องถอยกลับไป และได้รับบาดเจ็บภายในกระบวนท่าเดียว!
ภาพนี้สร้างความเหลือเชื่อให้กับผู้คน ยิ่งศิษย์ของพรรคเซียนเหินด้วยแล้วถึงกับมีสีหน้าที่ขาวซีด และรู้สึกใจหายใจคว่ำ พลังลักษณะเช่นนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
แรกทีเดียว การปรากฏตัวของโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่นั้น เป็นที่คาดหวังของศิษย์พรรคเซียนเหินทุกระดับยิ่งนัก ภายในใจของพวกเขาต่างฝากความหวังมากว่าพวกเขาต้องสามารถขับไล่ศัตรูได้อย่างแน่นอน ไม่นึกเลยว่ากลับมีจุดจบเช่นนี้ได้
“ข้าเคยบอกแล้วว่า เรื่องของพลังใช่จะเป็นเรื่องง่ายดายเหมือนบวกกับลบ ถ้าหากไม่สามารถสำแดงให้เหมาะสม การร่วมมือกันของคนสี่คนมิสู้อาศัยลำพังคนเดียวเข้าต่อสู้ไม่ได้อยู่เสมอๆ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย
“ถ้าหากราชันเซียนยังอยู่บางทีอาจมีโอกาส ไม่ใช่ราชันเซียนล่ะก็ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย” แม้แต่กู้จุนที่อยู่ไกลถึงเมืองสมุทรสยบฟ้าเมื่อเห็นภาพนี้แล้วต้องพึมพำออกมา
โอรสราชันเซียนเหรินเซียนทั้งสี่จ้องมองตากันและกัน ปาดเลือดที่มุมปากออกไป เวลานี้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองประเมินความสามารถของหลี่ชิเย่ต่ำเกินไป ภายใต้สองอาณาจักรใหญ่และการโจมตีจากสองกายเซียน พวกเขากลายเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยพลัน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้การร่วมมือเข้าต่อกรกับศัตรูไม่ได้แตกต่างอะไรกับการต่อสู้ตัวต่อตัวกับศัตรูสักเท่าไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...