ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1680

ตอนที่ 1680 ราชินีเหรินเสียน
เรื่องที่เกิดขึ้นกลับตาลปัตรอย่างกะทันหันไม่ว่าใครก็นึกไม่ถึง ซึ่งไม่ใช่พรรคเซียนเหิน และไม่ใช่หลี่ชิเย่ แต่เป็นเมืองสมุทรสยบฟ้าที่นำโดยกู้จุน เกรงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันในลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็นึกไม่ถึง

“ฟิววว” ปรากฏเชือกเซียนสองเส้นถูกยิงออกมาละเข้ามัดฟองอากาศที่ผนึกหลี่ชิเย่ และพี่น้องเหรินเสียนทั้งสี่ และเขาจัดการลากฟองอากาศทั้งสองหันหลังคิดจากไปทันที

“แช้งค์” เสียงทวนคำรามขึ้นมา ในขณะที่กู้จุนกำลังจะลากเอาฟองอากาศทั้งสองหลงหนีไปนั้น มังกรเขียวที่แปลงร่างมาจากกองทัพมังกรเขียวได้ขวางทางของกู้จุนเอาไว้ ปรากฎประกายทวนที่เยือกเย็นแทงทะลุอากาศมา ทำให้ผู้คนตัวสั่นเทาดั่งลูกนก

“กองทัพมังกรเขียวของพวกเจ้าควรทุ่มเทกำลังไปกับการจัดการอเวจี” เมื่อกู้จุนถูกมังกรเขียวขวางทางเอาไว้ไม่ได้แสดงอาการตระหนกกลับกล่าวด้วยท่าทียิ้มแต้ออกไป

“วางฟองอากาศแม่น้ำแห่งกาลเวลา จะละเว้นโทษตายให้กับเจ้า!” เทพแท้จริงสยบโลกาออกปากด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและน่ากลัว ไม่เปิดช่องให้มีการเจรจาต่อรอง

แม้ว่ากู้จุนได้รับสมญาว่าเป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะบุคคลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แต่คำพูดของเทพแท้จริงสยบโลกาที่พูดออกไปคือกฎ ต่อให้อัจฉริยะบุคคลอย่างกู้จุนก็ไม่กล้าดูแคลนเขา

“เสียดาย คู่ต่อสู้ของพวกเจ้าไม่ใช่ข้า” แม้ว่าเทพแท้จริงสยบโลกามีความแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่กู้จุนกลับไม่กลัว จากนั้น หัวเราและหันไปทางพรรคเซียนเหินตะโกนเสียงดังออกไปว่า “ถ้าหากพวกเจ้าไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ล่ะก็ งั้นข้าจะนำโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ไปแล้วนะ”

ยอดฝีมือและบรรพบุรุษทั้งหมดของพรรคเซียนเหินทั้งตระหนกทั้งโกรธ แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ เวลานี้เย่จิ่วโจวได้ทำการโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อคลังสมบัติที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับพวกเขา บรรดาบรรพบุรุษและยอดฝีมือที่ตื่นขึ้นมาจากไอหมอกบางเบาต่างทยอยกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว คลังสมบัตินี้มีความสำคัญมากเหลือเกิน

เป็นความจริงที่พรรคเซียนเหินนั้นมีความแข็งแกร่งมาก แต่ว่า มาครั้งนี้เย่จิ่วโจวมีการเตรียมการมาอย่างดี ทั้งยังหอบเอาของวิเศษจำนวนนับไม่ถ้วนมา และของวิเศษสำหรับตีเมืองจำนวนมากมาด้วย เรียกได้ว่าบุกทะลวงดั่งผ่ากระบอกไม้ไผ่ ต่อเมื่อระดับบรรพบุรุษจำนวนมากรุดมาถึงแล้วจึงทำให้เพลาการบุกโจมตีของพวกเย่จิ่วโจวลง

เวลานี้ บรรดายอดฝีมือที่ฟื้นจากไอหมอกต่างทุ่มเทอยู่กับการต่อต้านเย่จิ่วโจว ไม่สามารถปลีกตัวออกมาช่วยโอรสราชันเหรินเสียนทั้งสี่ ส่วนพวกศิษย์และยอดฝีมือที่ยังคงไม่ฟื้นสติจากไอหมอกนั่นยิ่งไม่ต้องไปคาดหวังอะไรจากพวกเขา

กู้จุนในเวลานี้ไม่ได้รีบร้อนที่จะหนีไป ความจริงแล้วภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้เขาทำการปิดผนึกหลี่ชิเย่ และโอรสราชันเหรินเสียนทั้งสี่เอาไว้ยังคงไม่สามารถหนีไปได้อยู่ดี เนื่องจากบนท้องฟ้าบริเวณนี้ยังคงมีกองทัพมังกรเขียวเฝ้าอยู่ และยังมีราชามังกรดำที่ซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งเขารู้ดีแก่ใจอยู่แล้วสำหรับข้อนี้

ต่อให้กู้จุนในเวลานี้ได้กลับกลายเป็นสภาพของวัยกลางคน แต่ เขารู้ดีว่าอาศัยกำลังของตนเองเพียงลำพังไม่สามารถต้านทานกองทัพมังกรเขียว และราชามังกรดำได้ ดังนั้น เขาจึงตีไพ่ตายในมือของตนออกมา ซึ่งไพ่ตายที่ว่าก็คือโอรสราชันเหรินเสียนทั้งสี่นั่นเอง! เวลานี้โอรสราชันเหรินเสียนทั้งสี่กลายเป็นตัวประกันของเขาไปแล้ว!

เสียง “ตูม” ดังสนั่น่ขึ้นมา ในเวลานี้เอง บริเวณที่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของพรรคเซียนเหินพลันแตกร้าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน!

ภายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีสุสานเก่าแก่โบราณอยู่หลังหนึ่ง แม้ว่าสุสานโบราณหลังนี้จะกินพื้นที่ไม่มาก แต่ว่ามันเป็นสถานที่ที่กอปรด้วยภูเขาสายน้ำ และก่อเกิดผู้มีความรู้ความสามารถขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องอยู่ตลอดเวลา เปี่ยมด้วยประกายศักดิ์สิทธิ์จากราชันเซียน สุสานโบราณลักษณะเช่นนี้กลับได้รับประกายราชันเซียนสาดส่องท่ามกลางกาลเวลาอันสุดแสนจะยาวนานที่ผ่านมา เรียกได้ว่า ในโลกหล้าสามารถทำให้ประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องตลอดเวลานั้นมีอยู่ไม่มาก สามารถทำให้ราชันเซียนทิ้งประกายที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดกาลเอาไว้ ย่อมบ่งบอกว่าสิ่งนี้ หรือบุคคลผู้นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดมากสำหรับราชันเซียน

ด้านหน้าของสุสานโบราณมีศิลาที่เก่าแก่โบราณและเรียบง่ายแผ่นหนึ่ง บนศิลาแผ่นนั้นจารึกเอาไว้ว่า “สุสานภรรยาสุดที่รัก” มุมด้านล่างจารึกว่า “เย่หวินโจว” !

บางทีอาจไม่มีใครรู้ว่าใครคือเย่หวินโจว แต่หากพูดถึงราชันเซียนทุนเย่อผู้คนในโลกหล้าก็จะคุ้นหูเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นราชันเซียนองค์ที่สามของพรรคเซียนเหิน

หลังจากบังเกิดเสียงดังสนั่นแล้ว ปรากฏว่าสุสานโบราณหลังนี้ปริแยกออก และมีผู้หญิงนางหนึ่งก้าวเดินออกมาจากสุสานโบราณนี้ หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ก้าวเดินออกมาแล้ว ปรากฏว่าทิวทัศน์สลดและอับแสง สุริยันจันทราไร้ประกาย ผู้หญิงคนนี้ช่างงดงามเหลือเกิน นางเปรียบประดุจดวงดาราบนท้องฟ้าที่ส่องประกายจนท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสว นางรวบรวมผู้มีความรู้ความสามารถจากหมื่นแดน เหมือนประกายแสงที่สามารถเคลื่อนที่ได้และมีสีสันที่ล้นเอ่อออกมา ที่ทำให้ผู้คนต้องจ้องมองมากไปกว่านั้นก็คือกลิ่นอายสูงส่งที่สุดที่เปล่งออกมาจากตัวของนาง บนตัวของนางตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายที่สยบทั่วหล้า ทำให้ผู้คนสามารถรับรู้ได้และมีอารมณ์ความรู้สึกอยากจะคุกเข่าลง เหมือนว่านางคือผู้ที่ควบคุมหมื่นแดน บัญชาทั่วหล้ามาแต่กำเนิด

“นางคือราชินีของราชันเซียนทุนเย่อรึ?” แม้แต่ยอดฝีมือของพรรคเซียนเหินเองก็รู้สึกหวาดผวายิ่งนัก เมื่อเห็นผู้หญิงที่มีรูปโฉมสุดยอดหนึ่งไม่มีสองในหล้าก้าวเดินออกมาจากสุสานโบราณ

บรรดาศิษย์พรรคเซียนเหินต่างรู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพรรคเซียนเหิน เป็นสถานที่ที่ฝังร่างของภรรยาอันเป็นที่รักของราชันเซียนทุนเย่อ หลังจากที่ราชินีทุนเย่อสวรรคตแล้ว ราชันเซียนทุนเย่อได้ฝังร่างของนางไว้ที่ตรงนี้ด้วยความโศกเศร้าอาลัยยิ่ง และให้ประกายราชันเซียนสาดส่องที่ตรงนี้ตลอดไป

ศิษย์พรรคเซียนเหินทุกยุคทุกสมัยล้วนแล้วแต่เคยมาแสดงความไว้อาลัยที่นี่ เพื่อรำลึกถึงผลงานที่นางมีให้กับพรรคเซียนเหิน

เวลานี้ ภายในสุสานราชินีทุนเย่อกลับมีผู้หญิงที่เลอโฉมก้าวเดินออกมา แล้วจะไม่ให้ศิษย์พรรคเซียนเหินต้องตกใจได้อย่างไร พวกเขาต่างเข้าใจว่าราชินีทุนเย่อฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว

“นางไม่ใช่ราชินีทุนเย่อ นางคือราชินีเหรินเสียน!” ระดับบรรพบุรุษเมื่อมองเห็นผู้หญิงที่เลอโฉมผู้นี้ก้าวเดินออกมาจากสุสานแล้วสามารถจดจำนางได้ ถึงกับกล่าวด้วยความหวาดผวา

บรรดาศิษย์พรรคเซียนเหินต่างรู้สึกงงงัน เมื่อได้ยินคำพูดของบรรพบุรุษผู้นี้ ไม่เข้าใจว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรกันแน่ เนื่องจากราชินีของราชันเซียนเหรินเสียนถูกฝังเอาไว้ในสถานที่อีกแห่งหนึ่งของพรรคเซียนเหิน และสถานที่แห่งนั้นอยู่ห่างไกลกันมากกับสุสานแห่งนี้ของราชินีทุนเย่อ!

เวลานี้ ราชินีเหรินเสียนกลับก้าวเดินออกมาจากสุสานของราชินีทุนเย่อ เรื่องนี้ทำให้ศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนของพรรคเซียนเหินถึงกับเซ่อไปเลย พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่ เพราะอะไรราชินีเหรินเสียนจึงได้ฝังอยู่ที่สุสานของราชินีทุนเย่อ

ยอดฝีมือพรรคเซียนเหินจำนวนไม่น้อยล้วนแล้วแต่รู้ว่าราชินีเหรินเสียนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังไม่มาก นางยังไม่ทันได้รับเกียรติยศในฐานะราชินีก็ได้เสียชีวิตไปก่อน แต่ทว่า ราชันเซียนเหรินเสียนมีผลงานต่อพรรคเซียนเหินมากมาย ดังนั้น หลังจากนางถูกฝังเอาไว้ในพรรคเซียนเหินแล้วยังคงได้รับการเคารพจากชนรุ่นหลัง

ขณะที่ระดับบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินบางส่วน เป็นต้นว่าเคยเป็นขุนพลใต้บังคับบัญชาของราชันเซียนเหรินเสียนมาก่อน พวกเขาเหล่านี้นิ่งเงียบและเหมือนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดคิด เมื่อเห็นราชินีเหรินเสียนก้าวเดินออกมาจากสุสานโบราณ เนื่องจากพวกเขารับรู้ถึงความจริงของเรื่องนี้มาก่อนหน้าแล้ว และพวกเขาเลือกที่จะยืนอยู่ข้างราชินีเหรินเสียน มิฉะนั้นล่ะก็ เป็นไปได้อย่างไรที่สายของราชันเซียนเหรินเสียนจะควบคุมอำนาจภายในพรรคเซียนเหินแต่เพียงผู้เดียวได้อย่างไร

“ตูม” เสียงดังสนั่นเกิดขึ้น หลังจากที่ราชินีเหรินเสียนได้ก้าวเดินออกมาแล้ว หนึ่งดัชนีผงาดฟ้า พุ่งเป้าไปยังกองกำลังอาชาของเย่จิ่วโจว ภายใต้นิ้วเดียวที่ชี้ออกไป “อ๊ากก” เสียงน่าเวทนาได้ดังขึ้น ยอดฝีมือของเมืองสมุทรสยบฟ้าจำนวนไม่น้อยถูกสังหารทันที แม้แต่เย่จิ่วโจวยังถูกพลังดัชนีจนตัวลอยออหไป นับว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง และน่ากลัวเหลือเกิน แม้แต่เย่จิ่วโจวก็ไม่สามารถรับได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียว!

“แว้งค์” ราชินีเหรินเสียนก้าวเข้าไปยังสมรภูมิรบในก้าวเดียว พลันขวางทางของกู้จุนเอาไว้

นาทีนี้เอง กู้จุน ราชินีเหรินเสียน มังกรเขียวทั้งสามต่างยึดกันคนละมุมเป็นรูปสามเหลี่ยม ต่างฝ่ายต่างตรึงเอาไว้ซึ่งกันและกัน ใครลงมือก่อนก็จะถูกโจมตี

“ปล่อยลูกของข้าเสีย จะละเว้นโทษตายให้กับเจ้า!” ราชินีเหรินเสียนเปิดปากพูดออกมา เปี่ยมด้วยอำนาจสูงสุด ท่าทีเหมือนสามารถบัญชาเก้าแดน ถึงจะเป็นยอดฝีมืออย่างกู้จุนนางก็ไม่ใส่ใจ

กู้จุนไม่ได้แสดงอาการโกรธกับคำพูดของราชินีเหรินเสียน ตรงกันข้ามเขากลับเผยรอยยิ้มออกมาและกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “ราชินี ข้าไม่ได้เป็นศัตรูกับพรรคเซียนเหิน นี่เป็นเพียงการยั่วยุของข้าเท่านั้นเอง เกรงว่าหากไม่ใช้วิธีเช่นนี้ราชินีคงไม่ยอมปรากฏตัว ในเมื่อราชินีก็ได้ปรากฎตัวแล้วทุกอย่างก็คุยกันได้ ข้าสามารถปล่อยตัวโอรสราชันทั้งสี่ได้ โดยมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวเท่านั้น!”

“มันยังไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะมาต่อรองเงื่อนไขกับข้า!” นัยน์ตาทั้งสองของราชินีเหรินเสียนดูน่ากลัว ส่งประกายแวบวับออกมาโดยพลัน ท่าทางที่บีบคั้นผู้คน และกล่าวว่า “ปล่อยลูกข้าเวลานี้ยังทัน มิฉะนั้นล่ะก็จะทำลายล้างเมืองสมุทรสยบฟ้าของเจ้า!”

“ราชินี อย่าได้ทำให้ท่านกับข้าต้องเสียเวลา” กู้จุนยิ้มและส่ายหน้า กล่าวว่า “ไม่ปฏิเสธว่าท่านมีความแข็งแกร่งมาก ตามที่ข้าคาดการณ์ ท่านมีความสามารถรับต้านรับกับราชันเซียนได้ ไม่แน่นักท่านอาจจะได้รับวิธีการเทียบเคียงกับราชันเซียนมาแล้ว แต่ข้ากู้จุนไม่ได้กลัวท่าน คนที่น่ากลัวยิ่งกว่าท่านข้าก็สัมผัสมาแล้ว นับประสาอะไรกับท่าน”

ครั้นกู้จุนเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วเพ่งสายตาไปข้างหน้า กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เวลานี้ท่านกับข้าได้ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ราชินี ท่านเป็นผู้ที่ฉลาดเฉียบแหลมและมีสายตายาวไกล รู้ว่าใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู เวลานี้ข้าต้องการเพียงเขาเท่านั้น สำหรับสิ่งอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นของท่าน!”

ราชินีเหรินเสียนมองดูหลี่ชิเย่ที่ถูกผนึกเอาไว้ นัยน์ตาของนางปรากฏประกายน่ากลัวออกมาแวบหนึ่ง เผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าที่น่ากลัว นางรู้แล้วว่าคนที่ถูกผนึกร่างเอาไว้อยู่ในสถานะเช่นใด เป้าหมายที่นางมุ่งมาดปรารถนามาชั่วชีวิตก็คือสังหารคนผู้นี้เสีย!

“ถ้าหากข้าปฏิเสธล่ะ?” ราชินีเหรินเสียนกล่าวน่าเกรงขามออกมา

“ราชินี ถ้าเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ท่านวางแผนมายุคแล้วยุคเล่าก็เสมือนดั่งใช้ตะกร้าหวายไปตักน้ำ สุดท้ายเหลือเพียงความว่างเปล่า” กู้จุนหัวเราะกล่าวว่า “สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ต้องเสียบุตรของตนไป อีกทั้งต้องถูกสังหารเป็นแน่แท้ และพรรคเซียนเหินพวกท่านต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป หากราชินีท่านต้องการใช้ไม้แข็งกับข้า ไม่มีปัญหา ข้าจะปล่อยตัวเขา และยืนอยู่ข้างฝ่ายกองทัพมังกรเขียว…”

“ไม่ต้องใช้สายตาเช่นนี้จ้องมองข้า” กู้จุนยิ้มกล่าว เมื่อดวงตาทั้งสองของราชินีเหรินเสียนดูน่ากลัว”ถูกต้อง ข้าต้องการสังหารใต้เท้าอีกาทมิฬ และเรื่องนี้ตัวเขาเองก็รู้ดี ขณะที่ข้ายังเยาว์วัยมากเขาก็รู้แล้วว่าข้าน่ะเป็นคนทรยศแต่กำเนิด ดังนั้น การที่ข้าทรยศเขาก็หาใช่เป็นเรื่องที่ต้องตกอกตกใจกัน เวลานี้ข้ายืนอยู่ข้างเขา ต่อให้เขาไม่ยอมอภัยให้ข้าก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด จะอย่างไรเสียช้าเร็วเขาก็ต้องฆ่าข้าอยู่แล้ว…”

“…แต่ว่า ราชินีท่านอย่าลืมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านคือผู้ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย ส่วนความสัมพันธ์ของข้ากับใต้เท้าคือศิษย์อาจารย์ ถ้าหากให้เลือกว่าตายด้วยน้ำมือของใคร ข้าย่อมต้องเลือกที่จะตายด้วยมือของเขา อย่างน้อยที่สุดมีเกียรติมากกว่าตายในมือของท่าน และมีชื่อเสียงดีกว่า อีกอย่าง ถ้าหากข้าปล่อยเขาออกมาจัดการฆ่าล้างพวกชั่วร้ายที่ยังคงเหลืออยู่ ต่อให้ข้าไม่ใช่ขุนนางผู้มีคุณูปการ แต่อย่างน้อยก็ตายโดยมีที่ฝังกระมัง!”

ครั้นกู้จุนเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วหัวเราะขึ้นมา และกล่าวด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้านว่า “เวลานี้ ราชินีควรรู้แล้วสินะว่าจะเลือกอย่างไร เวลานี้ท่านควรเลือกที่จะยืนอยู่ข้างข้า และเวลานี้ท่านควรลงมือขวางกองทัพมังกรเขียวเอาไว้ เพื่อให้ข้ามีเวลาหลบหนี อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาข้าก็จะคลายฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาให้กับโอรสราชันเซียนทั้งสี่ให้เอง!”

นัยน์ตาของราชินีเหรินเสียนส่งประกายแวบวับทีหนึ่ง เป็นความจริงที่นางไม่อาจไม่พิจารณาถึงคำพูดของกู้จุน

“เจ้าวางแผนได้ดีนี่” เทพแท้จริงสยบโลกาเอ่ยขึ้นอย่างน่าเกรงขาม ในเวลานี้ กองทัพมังกรเขียวพวกเขาได้ล็อคเป้าหมายที่เป็นกู้จุน และราชินีเหรินเสียนทั้งสองคนเอาไว้

“มิกล้า มิกล้า เทพแท้จริงชมเกินไปแล้ว ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเพราะใต้เท้าสอนมาดี” กู้จุนยิ้มกล่าวว่า “ภาษิตว่าไว้ว่า ความมั่งคั่งมาจากการเสี่ยง คิดจะประสบความสำเร็จอย่างไรเสียก็ต้องเสี่ยงภัยนิดหนึ่ง บอกตามตรง เวลานี้แม้ว่าข้าจะประสบผลสำเร็จข้ายังไม่อยากจะเชื่อนัก อย่างไรเสียใต้เท้าคือผู้ที่วางแผนหมื่นยุค ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ข้าก็ต้องลุ้นกับมันสักครั้ง เทพแท้จริง เจ้าว่างั้นมั้ย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล