ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1681

ตอนที่ 1681 ใครคือผู้ที่หัวเราะเป็นคนสุดท้าย
ในเวลานี้ กู้จุน กองทัพมังกรเขียว และราชินีเหรินเสียนทั้งสามฝ่ายต่างตรึงกำลังซึ่งกันและกัน ใครที่ลงมือก่อนเป็นคนแรกกต้องถูกสองฝ่ายที่เหลือโจมตีแน่นอน

“ราชินี เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาลังเล” กู้จุนเอ่ยขึ้นช้าๆ “ท่านคิดจะแก้แค้นยังมีโอกาสอีกมาก ขอเพียงมีวันหน้า ท่านคิดจะวางแผนตามล่าข้าอย่างไรก็ยังไม่สาย แต่เวลานี้ท่านจะต้องทำให้ศัตรูล่าถอยไปก่อน มิฉะนั้นล่ะก็ท่านจะไม่ได้อะไรอีกเลย หากว่าเวลานี้ท่านช่วยเหลือข้าอีกแรง ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้กับข้า เช่นนั้นแล้วท่านก็ถือผู้ชนะ ท่านจะมีเก้าแดนทั้งหมดในครอบครอง! พรรคเซียนเหินของพวกท่านจะได้เป็นราชันเซียนตลอดไป และเก้าแดนทั้งหมดก็จะอยู่ในมือของท่าน!”

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของกู้จุนใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เวลานี้หากกู้จุนนำตัวหลี่ชิเย่ไป เช่นนั้นแล้ว ราชินีเหรินเสียนก็จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง ขอเพียงนางสามารถเอาชนะกองทัพมังกรเขียวได้ และเมื่อไหร่ที่สามารถทำให้สายเลือดอเวจีของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมา อาศัยธาตุแท้ภายในพรรคเซียนเหินของพวกเขา เก้าแดนเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในกำมือพวกเขาเท่านั้นเอง

เวลานี้ ราชินีเหรินเสียนไม่ลังเลอีกต่อไป ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและขวางกองทัพมังกรเขียวเอาไว้ นาทีนี้นางได้เลือกข้างแล้ว แม้ว่านางจะไม่สามารถสังหารอีกาทมิฬได้ด้วยมือของตนเองเพื่อแก้แค้น แต่อย่างน้อยที่สุดนางจะได้ครอบครองเก้าแดนอย่างแน่นอน!

“นี่แหละคือการเลือกที่ฉลาดเฉียบแหลมและมีสายตายาวไกล สติปัญญาของราชินีทำให้ข้าเลื่อมใสทั้งกายและใจ” ใบหน้าของกู้จุนเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น และก้าวถอยหลังไปอย่างช้าๆ ขอเพียงราชินีเหรินเสียนขัดขวางการโจมตีเอาไว้ได้ เขาก็มีโอกาสหลบหนีไปได้

“คิดจะหนีรึ!” มังกรเขียวลงมือ ทวนยาวที่แหวกอากาศออกไป ประกายทวนตัดขาดท้องฟ้าที่พราวพร่างด้วยดวงดาว อานุภาพของทวนยาวแม้แต่ระดับสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ยังคงต้องหวาดผวา

“อย่าได้ทำกำเริบเสิบสาน” ราชินีเหรินเสียนร้องเสียงแหลมดังออกมา ลงมือขัดขวางมังกรเขียว ยามที่นางลงมือ ด้านหลังของนางปรากฏทูตสวรรค์เสรัฟที่มีหกปีกสูงหนึ่งล้านล้านจ้างขึ้นมา เมื่อปีกของเสรัฟกางออกได้ปิดกั้นประตูหมื่นแดนเอาไว้ บังเกิดเสียงดัง “ปัง” ขวางทวนยากของมังกรเขียวเอาไว้!

การที่ราชินีเหรินเสียนต้านทวนยาวปราศจากผู้ต่อกรของมังกรเขียวเอาไว้ด้วยท่าทีที่เรียกได้ว่าเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้มีความยากลำบากอะไรมากมายนัก อาศัยจุดนี้ก็สามารถดูออกถึงความแข็งแกร่งและความน่ากลัวของนางได้แล้ว

“ราชินีปราศจากผู้ต่อกร” เมื่อกู้จุนเห็นราชินีเหรินเสียนพลันลงมือก็ไม่ได้หวาดหวั่นอะไรต่อกองทัพมังกรเขียวเลย จึงกล่าวชมออกมา ขณะเดียวกันเขาเริ่มถอยหลังพาตัวเองให้ออกห่าง

มาคราวนี้กู้จุนได้ละทิ้งฟองอากาศที่ผนึกร่างโอรสราชันเซียนทั้งสี่เอาไว้ เพียงลากเอาฟองอากาศที่ผนึกร่างหลี่ชิเย่ล่าถอยออกไปเท่านั้น นี่ก็เป็นการรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับราชินีเหรินเสียน! ยิ่งไปกว่านั้น กล่าวสำหรับกู้จุนแล้วโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่เป็นเพียงแค่ตัวประกันเท่านั้นเอง ไม่ได้มีผลอะไรมากนัก เวลานี้เขาได้บรรลุเป้าหมายแล้วโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด

“แช้งค์” เสียงทวนคำรามก้องหหมื่นแดน ในเวลานี้กองทัพมังกรเขียวโกรธขึ้นมาแล้ว ทวนยาวชี้ไปยังจักรวาล ลำตัวพวยพุ่งประกายสีเขียวออกมา กลิ่นอายมังกรรุนแรง เวลานี้ กองทัพมังกรเขียวกำลังจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วแล้ว พวกเขาจะต้องอาศัยความรวดเร็วในการโจมตีราชินีเหรินเสียนให้ล่าถอยไปให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือหลี่ชิเย่ออกมา

“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ ทุกคนจะรีบไปทำไมกัน กว่าจะได้พบกันสักครั้งไม่ง่ายนัก เวลาที่งดงามเช่นนี้จะรีบตีกันทำไม แล้วใยต้องรีบหนีไปเล่า” ขณะที่กู้จุนกำลังคิดจะหลบหนีไปนั้น เสียงหนึ่งที่เอ้อระเหยดังขึ้น

เมื่อกู้จุนได้ยินเสียงนี้แล้ว พลันรู้สึกผวาและมีใบหน้าที่ขาวซีดทันที เขาได้เตรียมเส้นทางที่จะหลบหนีเอาไว้นานแล้ว อีกทั้งหากเขาหนีไปได้เมื่อไหร่ล่ะก็ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหาตัวของเขาพบอีกเลย เขาจะหลบซ่อนตัวอยู่ในที่ที่ใครก็หาตัวเขาไม่พบ

แต่ว่า เวลานี้เขายังไม่ทันได้หลบหนีก็ถูกคนขวางทางเอาไว้ สีหน้าของกู้จุนเปลี่ยนไปมากหลังจากที่ได้เห็นหน้าคนผู้นี้แล้ว ถึงกับอดหันมองไปยังฟองอากาศนั่น

คนที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันคือหลี่ชิเย่นั่นเอง เวลานี้หลี่ชิเย่ตัวเป็นๆ ยืนอยู่ที่ตรงนั้น และขวางทางไปของกู้จุนเอาไว้

เมื่อกู้จุนมองเห็นหลี่ชิเย่ตัวเป็นๆ ที่ยืนอยู่ที่ตรงนั้น ถึงกับมองดูหลี่ชิเย่ที่อยู่ภายในฟองอากาศอีกครั้ง หลี่ชิเย่ทั้งสองคนเหมือนกันอย่างกับแกะ ต่อให้เขาที่ฉลาดเป็นกรดก็ไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่าคนไหนตัวจริงคนไหนตัวปลอม

แม้แต้ราชินีเหรินเสียนที่มองเห็นหลี่ชิเย่สองคนที่เหมือนกันก็ต้องตกใจยิ่งนัก เนื่องจากระดับเช่นนางก็ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าหลี่ชิเย่คนไหนคือตัวจริง คนไหนคือตัวปลอม!

กู้จุนฉลาดเป็นอันมาก ในเสี้ยววินาทีนี้เองเขาได้ถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่างจากหลี่ชิเย่ในทันที อีกทั้งยังลงมือปล่อยโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ที่ถูกผนึกร่างเอาไว้ในฟองอากาศ!

การกระทำทั้งหมดเกิดขึ้นต่อเนื่องรวดเดียว กู้จุนได้ถอยเว้นระยะออกห่างจากหลี่ชิเย่ไกลมาก มองดูหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีที่เคารพยำเกรงยิ่งนัก เนื่องจากฝีมือของเขาล้วนแล้วแต่มาจากการถ่ายทอดจากหลี่ชิเย่ทั้งสิ้น การวางแผนก็เรียนรู้จากตัวของหลี่ชิเย่ ไม่มีใครที่จะเคารพยำเกรงต่ออีกาทมิฬมากกว่าเขาอีกแล้ว!

หลี่ชิเย่มองดูฟองอากาศ แล้วมองดูไอหมอกแล้วถึงกับกล่าวชมเชยว่า “ไม่อาจไม่ยอมรับว่าเจ้าสามารถเรียนรู้อะไรต่างๆ จากตัวข้าไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เจ้าไม่เพียงได้ครอบครองฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลากับยิ้มเย้ายวน ทั้งยังให้หนึ่งวิญญาณของตนสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ อาศัยช่วงเหลื่อมการพบกันระหว่างยังร่างที่ยังไม่ได้กลับชาติเกิดกับที่กำลังกลับชาติเกิดแล้วครึ่งหนึ่งมาแยกเอากาลเวลาของตนออกจากกัน อาศัยช่องโหว่เช่นนี้และฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลามาผนึกร่างของข้า วิธีการเช่นนี้ทั่วทั้งโลกานอกจากข้าแล้ว ข้ายังนึกไม่ออกจริงๆ ว่ายังจะมีใครสามารถคิดค้นหาวิธีที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ออกมาได้…”

“…นี่เป็นวิธีผนึกระดับราชันเซียนเลยนะเนี่ย! สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ค้นหาฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาใช่ว่าจะหากันได้ง่ายดาย อีกทั้งระหว่างกลับชาติเกิดกับที่กำลังกลับชาติเกิดแล้วครึ่งหนึ่งคือการออกแบบที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียม หากไม่ทันระวังแม้เพียงน้อยนิดก็จะต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป แม้แต่ราชามังกรดำยังไม่กล้าทดลอง แต่เจ้ากลับได้ทดลองก่อนแล้ว”

“มิกล้า ทั้งหมดเป็นเพราะใต้เท้าสั่งสอนได้ดี” กู้จุนไม่ได้เย่อหยิ่ง ในขณะนี้เขาได้ก้าวถอยหลังไปช้าๆ จนถอยไปอยู่ด้านข้างของราชินีเหรินเสียน

เพื่อวันนี้ กู้จุนได้ทุ่มเทกำลังกายใจไปไม่น้อย เขาวางแผนมาเนิ่นนานก็เพื่อรอคอยวันนี้วันเดียว และด้วยเหตุนี้เองเขาจึงได้ลงทุนกำลังกายใจไปไม่น้อยเพื่อให้ได้ครอบครองฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลา และยิ้มเย้ายวน

ฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากกาลเวลาอันยาวนานขณะไหลริน อีกทั้งฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลานั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุของสายน้ำแห่งกาลเวลา ดังนั้น ในทุกๆ หนึ่งศักราช (หนึ่งศักราชเท่ากับหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปี) สามารถให้กำเนิดฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาขึ้นมาสามถึงห้าฟองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากแล้วหละ

ครั้งนั้น การที่จะผนึกร่างผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะราชันเซียนนั้น หลี่ชิเย่เคยพิจารณาสิ่งที่เรียกว่าฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลา อีกทั้งโครงการนี้ประมาณว่าหลี่ชิเย่เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา เพียงแต่ภายหลังไม่ได้มีการดำเนินการโครงการนี้ต่อไป

เมื่อกู้จุนรับรู้ถึงโครงการนี้ของหลี่ชิเย่แล้ว เขาได้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่นึกเลยว่าเขากลับสามารถประสบความสำเร็จขึ้นมาได้

ส่วนเรื่องของยิ้มเย้ายวนนั้นก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากเช่นกัน เล่าลือกันว่าเป็นแก่นชนิดหนึ่งที่เกิดจากเซิ่นหลง (สัตว์ประหลาดทะเลที่คล้ายมังกรในเทพนิยายจีน) ที่มีสายเลือดมังกรแท้จริง ในเก้าแดนเคยพบโครงกระดูกของเซิ่นหลง ซึ่งหลี่ชิเย่ได้เคยพูดถึงเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่กู้จุนกลับให้ความสนใจ และสามารถล่าสิ่งนี้ได้จริงๆ เขานำเอายิ้มเย้ายวนมาใช้กับพรรคเซียนเหิน อาศัยสิ่งนี้ทำให้พรรคเซียนเหินเกิดความลุ่มหลง เพื่อบุกทะลวงเข้าไปยังพรรคเซียนเหิน

“นี่เป็นผลงานของเจ้าเอง ข้าไม่กล้าอ้างว่าถ่ายทอดให้กับเจ้า” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เสียดายที่เจ้าเดินผิดไปก้าวหนึ่ง”

แม้แต่หลี่ชิเย่ที่มีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนานยังต้องยอมรับว่ากู้จุนนั้นมีพรสวรรค์จริงๆ และมีผลงานที่สูงมาก ในอดีต แต่ละคนที่เขาบ่มฟักล้วนแล้วแต่นำเอาพรสวรรค์ไปใช้ในการฝึกฝน จนกลายเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะราชันเซียน

แต่ว่ากู้จุนกลับไม่เป็นเช่นนั้น เขากลับเรียนรู้การวางแผนของอีกาทมิฬ ต้องการกลายเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเฉกเช่นอีกาทมิฬ กระทั่งต้องการแทนที่เขา เสียดายเขากลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกาทมิฬ

“ใต้เท้าพูดได้ถูกต้อง” แม้ว้ากู้จุนจะพ่ายแพ้ แต่ยังคงควบคุมอารมณ์ได้สงบนิ่ง เขายังคงหัวเราะออกมาได้ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เมื่อเทียบกับใต้เท้าแล้วข้ายังอ่อนไปนิด ไม่ว่าจะวางแผนในกองทัพ หรือวางแผนต่อใต้หล้าข้าก็เทียบใต้เท้าไม่ได้ ข้ายังขาดประสบการณ์ความรู้กว้างไกลของใต้เท้า และความรู้ที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ผู้เทียบเทียม ข้าเองก็ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองนักที่สามารถผนึกร่างของใต้เท้าได้สำเร็จเช่นนี้ และเวลานี้ข้าเข้าใจแล้วว่า ใต้เท้าไม่เพียงวางแผนต่อข้า แต่ใต้เท้าวางแผนต่อใต้หล้า วางแผนต่อคนทุกคน”

นาทีนี้ กู้จุนเข้าใจแล้วว่าหลี่ชิเย่ต้องการกวาดศัตรูให้สิ้นซากในคราเดียว ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาหรือว่าราชินีเหรินเสียน กระทั่งต้องการกวาดล้างอเวจีให้สิ้นซากเช่นเดียวกัน หาไม่แล้วราชามังกรดำพี่เขยของเขาคงไม่แอบซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้า ทำการปิดกั้นเก้าแดนแปดทิศเอาไว้

ดังนั้นในใจของกู้จุนจึงเข้าใจเป็นอย่างดี เมื่อไหร่ที่อเวจีปรากฏตัวจะต้องพบกับการเข่นฆ่าอย่างแน่นอน เพราะอีกาทมิฬรอพวกเขาเข้ามาติดกับเองอยู่นานแล้ว!

แต่ทว่า กู้จุนจำเป็นต้องเสี่ยงสักครั้ง เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายเพียงหนึ่งเดียวเท้านั้น ถ้าหากเขาพลาดโอกาสนี้ไปเกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้เอาชนะอีกาทมิฬอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่ออีกาทมิฬไปยังแดนที่สิบแล้ว เขาจะไม่มีโอกาสได้ชี้ขาดอีกตลอดไป อีกทั้งเมื่อถึงขั้นนั้นแล้ว อีกาทมิฬก็จะมีความแข็งแกร่งและน่ากลัวมากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบันเสียอีก

“เสียดาย ยังคงมีผู้ที่รอบคอบกว่าเจ้า และสามารถรักษาท่าทีที่อดกลั้นตนมากกว่าเจ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และกวาดตามองไปบนท้องฟ้าทีหนึ่ง

การพูดจากับคนที่มีปัญญามันก็จะไม่เหนื่อยอย่างนี้แหละ กู้จุนรู้ว่าเขากำลังคิดวางแผนต่ออเวจี เสียดาย กระทั่งนาทีนี้อเวจียังคงไม่ปรากฏตัวออกมา และยังคงไม่ลงมือ มิฉะนั้นล่ะก็เขาจะทำลายล้างอเวจีให้สิ้นในคราวเดียว หากว่าโชคดีไม่แน่นักอาจสามารถได้รับตำรากายจากอเวจีก็เป็นได้!

เสียดายแต่ว่า กระทั่งถึงตอนนี้ อเวจียังคงอดกลั้นได้ดีมาก ยังคงสงบนิ่งได้ดี ไม่ได้ลงมือโดยพลการ

ซึ่งเรื่องนี้หาใช่เรื่องแปลก จะอย่างไรเสียอเวจีเป็นศัตรูกับเขามายุคแล้วยุคเล่า หลังจากที่ถูกทำลายล้างแล้วจึงได้กลายเป็นผู้ที่อดกลั้นได้เยี่ยม เนื่องจากพวกเขาเกรงจะถูกทำลายล้างอีกครั้ง หากไม่อยู่ในภาวะจำเป็นจริงๆ อเวจีจะไม่เสี่ยงลงมือ

แต่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคเซียนเหินนั้น เป็นการชัดเจนที่อเวจีต้องการทดสอบสักครั้ง ต้องการอาศัยพรรคเซียนเหินทำลายเก้าแดนให้เกิดเป็นช่องโหว่ขึ้นมา

“ดังนั้น ข้าจึงบอกว่าข้าเองยังอ่อนไปนิด” กู้จุนหัวเราะแม้ว่าจะล้มเหลวก็ไม่ท้อใจ เขามองดูหลี่ชิเย่ที่ถูกผนึกร่างเอาไว้ในฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาแล้วถามว่า “ข้าเพียงสงสัยว่าคนไหนที่เป็นร่างจริงของใต้เท้า”

“เรื่องนี้สำคัญนักรึ? ” หลี่ชิเย่หัวเราะลึกลับ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เป็นจริงหรือเท็จล้วนไม่ส่งผลกระทบต่อจุดจบ” กล่าวพลาง ร่างของเขาสั่นไหวทีหนึ่ง เสมือนหนึ่งทะลุผ่านกาลเวลาเข้าไปในฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลา

“ปุ” ฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาแตกละเอียด ร่างของหลี่ชิเย่ทั้งสองพลันรวมเป็นร่างเดียวในทันที ยิ่งไม่สามารถไปแยกแยะปัญหาข้อที่ว่าคนไหนร่างจริงคนไหนร่างเท็จ

ความจริงแล้ว ในจำนวนหลี่ชิเย่สองคนนั้นมีร่างที่แยกออกมาจริงๆ เพียงแต่ร่างที่แยกออกมาไม่ใช่เป็นการแยกร่างปรกติทั่วไป ร่างแยกนี้เกิดจากหลี่ชิเย่อาศัยตราประทับฟ้าดินอัดเป็นสำเนาขึ้นมา ซึ่งร่างที่อัดสำเนาขึ้นมาจะด้อยกว่าร่างจริงนิดเดียวเท่านั้นเอง

กู้จุนไม่รู้สึกเหนือความคาดคิดกับการที่ฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาถูกทำลายโดยพลัน คนอื่นอาจจะไม่สามารถทำลายฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลาได้ แต่อีกาทมิฬทำได้แน่ เนื่องจากการที่เขาสามารถได้ฟองอากาศสายน้ำแห่งกาลเวลามาก็มาจากแนวความคิดของอีกาทมิฬนั่นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล