“ราชินี ทางที่ดีต้องรับประกันได้ว่าอเวจีจะสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่ มิฉะนั้นล่ะก็ท่านต้องตายอย่างน่าเวทนายิ่ง และพรรคเซียนเหินต้องถูกทำลายล้างแน่นอน” กู้จุนถอยหลังไปอยู่ด้านข้างของราชินีเหรินเสียน และเอ่ยขึ้นช้าๆ
กล่าวสำหรับกู้จุนแล้ว เวลานี้ตัวเขากับราชินีเหรินเสียนยืนอยู่แนวร่วมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือราชินีเหรินเสียนก็ไม่มีทางเลือก นาทีนี้พวกเขาได้แต่ร่วมมือกันเท่านั้น
แน่นอนที่สุด กู้จุนไม่คาดว่าจะมีความหวังสำหรับสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับหวังว่าอเวจีสามารถปรากฏตัวขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดสามารถสร้างโอกาสให้เขาได้อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับราชินีเหรินเสียน และโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่อย่างน่าเกรงขาม โดยเฉพาะนัยน์ตาของราชินีเหรินเสียนเผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าที่น่ากลัว เหมือนว่านางกับหลี่ชิเย่มีความแค้นที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ นางอยากจะฉีกร่างหลี่ชิเย่เป็นชิ้นๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
หลี่ชิเย่มองดูราชินีเหรินเสียน หัวเราะแล้วกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “การที่เจ้าสามารถมีชีวิตอยู่มาได้ไม่ได้อยู่เหนือความคาดคิดอะไรมากมายนัก เจ้าได้กระทำความผิดใหญ่หลวงที่จะต้องตายสถานเดียวอยู่สองกระทงด้วยกัน หนึ่ง ไม่ควรสมคบคิดกับอเวจี สอง ไม่ควรแกล้งตายด้วยการหลบซ่อนตัวอยู่ในสุสานของราชินีทุนเย่อ! ”
ครั้งนั้น ราชินีเหรินเสียนได้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร แต่ ความจริงแล้วนางหาได้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรไม่ แต่นางอาศัยการตายจริงๆ เพื่อตบตาผู้คน และอาศัยสิ่งนี้เปลี่ยนแปลงสายเลือดของตน!
ครั้งนั้น เรื่องที่ราชินีเหรินเสียนต้องการบ่มฟักสายเลือดอเวจีเกิดแดงขึ้นมา และอีกาทมิฬใช้กำลังบังคับเข้าสำรวจตรวจค้นพรรคเซียนเหิน ขณะที่ราชินีเหรินเสียนได้เข้าไปหลบซ่อนในสุสานของราชินีทุนเย่อมานานแล้ว
หลังจากเกิดเหตุ ต่อให้อีกาทมิฬจะค้นหาทุกซอกทุกมุมของพรรคเซียนเหิน แต่มีสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาจะไม่ไปแตะต้องอย่างเด็ดขาด นั่นก็คือสุสานของราชินีทุนเย่อ เนื่องจากราชินีทุนเย่อไม่เพียงเป็นภรรยาของราชันเซียนทุนเย่อเท่านั้น นางยังเคยได้รับความโปรดปรานและชื่นชอบจากอีกาทมิฬ ดังนั้น นางไม่เพียงมีฐานะและเกียรติยศในฐานะที่เป็นราชินี นางยังเคยเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดข้างกายอีกาทมิฬมาก่อน
เนื่องเพราะราชินีเหรินเสียนคำนึงถึงว่า อีกาทมิฬจะไม่ขุดหลุมศพของราชินีทุนเย่ออย่างเด็ดขาด ดังนั้น หลังจากที่ราชินีเหรินเสียนตายแล้วก็หลบซ่อนตัวเข้าไปอยู่ในหลุมศพของราชินีทุนเย่อ และหายตัวไปจากโลกหล้านับแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนในโลกต่างเข้าใจว่านางได้ตายไปแล้ว ระดับบรรพบุรุษส่วนหนึ่งของพรรคเซียนเหินก็ต้องการค้นหามือมืดที่อยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด แต่ก็ค้นหาไม่เจอ พวกเขาก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าราชินีเหรินเสียน จะหลบซ่อนตัวอยู่ในหลุมฝังศพของราชินีทุนเย่อ
“ไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย!” ราชินีเหรินเสียนเองก็ไม่ได้เกรงกลัวต่ออีกาทมิฬในเวลานี้ ก้าวเดินเข้าไปด้วยอานุภาพราชันเซียนที่ยิ่งใหญ่ ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเฉกเช่นอีกาทมิฬ นางยังคงดูสูงเด่นเหมือนเดิม
ราชินีเหรินเสียนต้องการเป็นศัตรูกับอีกาทมิฬมานานแล้ว ดังนั้นนางเองย่อมรู้ดีว่าตัวเองจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใด มาวันนี้เมื่อต้องเผชิญหน้าอีกครั้งนางจึงไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย กล่าวสำหรับนางแล้ว จะอย่างไรวันนี้ก็ต้องมาถึงสักวันอยู่แล้ว!
หลี่ชิเย่จ้องมองดูราชินีเหรินเสียน ถึงกับส่ายหน้าและกล่าวว่า “เป็นความจริงที่มีเรื่องบางเรื่องข้าไม่เข้าใจจริงๆ เจ้ามีชาติกำเนิดเป็นมนุษย์ ในฐานะราชินีของเผ่าพันธุ์มนุษย์กลับกลายเป็นสมุนของอเวจีไปได้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง”
“เรื่องราวบนโลกที่เจ้าไม่เข้าใจมีอีกมากมาย!” ราชินีเหรินเสียนกล่าวน่าเกรงขามว่า “เก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินใช่ว่าจะต้องทำตามปณิธานของเจ้า หมื่นอาณาจักรพันโลกาใช่จะให้เจ้าทำอะไรได้ตามอำเภอใจ! ”
“ข้าเข้าใจแล้ว” หลี่ชิเย่ที่มองดูสายตาที่เปี่ยมด้วยความแค้นของราชินีเหรินเสียนแล้วเผยรอยยิ้มออกมาและกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “สุดท้ายแล้วยังคงเป็นเพราะราชันเซียนเหรินเสียน! เพียงแต่ในด้านนี้ราชันเซียนเหรินเสียนควบคุมตนเองได้ดีตลอดมา มีความระมัดระวังยิ่งนัก ในฐานะที่เป็นราชินี เจ้ากลับเลือกที่จะก้าวเดินบนเส้นทางที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับเขา สิ่งนี้ไม่เพียงเสียดายแทนเจ้า และเสียดายแทนราชันเซียนเหรินเสียนอีกด้วย…”
“…ชั่วชีวิตของราชันเซียนเหรินเสียนสร้างชื่อเสียงมาไม่ง่าย เพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้วเข้าสร้างผลงานไว้มากมาย และนับว่าเขาไม่ละอายต่อชื่อ “เหรินเสียน” ของเขา แต่ เจ้ากลับก้าวเดินบนเส้นทางของอเวจี ซึ่งสิ่งนี้จะนำมาซึ่งพรรคเซียนเหินไม่มีวันจะฟื้นตัวได้อีกตลอดไป เจ้าในฐานะราชินีไม่เพียงต้องระอายต่อบรรพชนของพรรคเซียนเหิน และระอายต่อฐานะราชินีของเจ้า ระอายต่อราชันเซียนเหรินเสียน! ”
“อย่าได้พูดถึงเหรินเสียนอีก” ราชินีเหรินเสียนร้องตวาดทีหนึ่งตัดบทคำพูดของหลี่ชิเย่ กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “เป็นเพราะเขา ข้าจึงได้ก้าวเดินไปบนเส้นทางที่เขาไม่ต้องการจะก้าวเดิน เส้นทางที่เขาไม่กล้าที่จะก้าวเดิน! ทั้งหมดหากถึงคราวต้องย้อนกลับไปหาต้นตอแล้ว! สายเลือดไม่มีความผิด เขาเองก็ไม่ได้กระทำผิด โลกนี้ควรให้ความยุติธรรมแก่เขา เจ้ายิ่งสมควรคืนความยุติธรรมให้เขา! ”
“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่จ้องเขม็งไปที่ราชินีเหรินเสียน กล่าวท่าทีเรียบเฉยเย็นชาว่า “ข้าอยากรู้ว่าสายเลือดไม่มีความผิดอย่างไร! แม้แต่ราชันเซียนเหรินเสียนในครั้งนั้นก็ไม่กล้าพูดคำพูดลักษณะเช่นนี้ออกมา”
“อาศัยอะไรมาหาว่าสายเลือดมีความผิด!” ราชินีเหรินเสียนกล่าวน่าเกรงขามว่า “อีกทั้งผู้คนบนโลกหล้ามีความผิดหรือไม่ก็ใช่จะให้เจ้ามาตัดสิน เจ้าไม่มีสิทธิ์มาตัดสินสายเลือดของคนๆ หนึ่งว่ามีความผิดหรือไม่มีความผิด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...