ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1683

ตอนที่ 1683 ต่อสู้ชี้ขาด
เคล็ดวิชาที่ผ่านการแก้ไขยากที่จะมองเห็นพิรุธได้ ต่อให้เป็นระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ของพรรคเซียนเหินก็ตาม อย่างไรเสีย เดิมทีราชินีเหรินเสียนก็คือสุดยอดอัจฉริยะบุคคลคนหนึ่งอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยโชควาสนาของนางเองเหนือกว่าระดับบรรพบุรุษจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาบรรพบุรุษของพรรคเซียนเหินต่างไม่เคยเห็นคัมภีร์ของอเวจีมาก่อน

อีกทั้งต่อให้ศิษย์ของพรรคเซียนเหินหลังจากฝึกเคล็ดวิชาพื้นฐานประจำสำนักแล้วก็ไม่ได้บังเกิดผลทางด้านลบแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เคล็ดวิชาพื้นฐานประจำสำนักที่ผ่านการปรับปรุงให้ดีขึ้นกลับก่อเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่ได้ฝึกเคล็ดวิชาเริ่มต้นพื้นฐานประจำสำนักนี้มากมาย สามารถทำให้การฝึกของศิษย์ภายในสำนักก้าวหน้ารวดเร็วกว่าเดิมไม่น้อย ด้วยเหตุนี้เอง ศิษย์และยอดฝีมือพรรคเซียนเหินในหลายรุ่นต่อมาส่วนใหญ่แล้วก็จะได้ฝึกเคล็ดวิชาพื้นฐานประจำสำนักเช่นนี้มาก่อน

ยังมีอีกข้อหนึ่งก็คือ พรรคเซียนเหินถูกปิดสำนักห้ามยุ่งเกี่ยวกับยุทธภพมาถึงสามยุค ซึ่งเปิดโอกาสให้ราชินีเหรินเสียนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในที่มืดตลอดได้สบโอกาสที่ดีเยี่ยม การปิดสำนักพรรคเซียนเหินทำให้ราชินีเหรินเสียนมีช่องว่างและเวลาที่จะทำอะไรต่อมิอะไรได้เพิ่มมากขึ้น

“เกิดจากฝีมือของข้าคนเดียว?” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ชะตากรรมของพรรคเซียนเหินจะเป็นอย่างไรอยู่ที่การเลือกของพรรคเซียนเหินเอง บรรดาระดับบรรพบุรุษที่ให้การสนับสนุนพวกเจ้ารู้ดีแก่ใจอยู่แล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ พวกเขารู้ทั้งรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่แต่ยังคงดึงดันที่จะกระทำการบุ่มบ่ามอีก!”

“แทนที่จะบอกว่าผลที่เกิดขึ้นของพรรคเซียนเหินข้าเป็นผู้กระทำ มิสู้บอกว่าเกิดจากความทะเยอทะยานที่พองโตทำให้กลายเป็นจุดจบของพรรคเซียนเหิน” หลี่ชิเย่หัวเราะเยาะและกล่าวว่า “พรรคเซียนเหินของพวกเจ้าให้กำเนิดราชันเซียนถึงห้าองค์ เลยคิดว่าตัวเองเป็นลูกรักของสวรรค์แล้วสิ คิดว่าตัวเองสามารถบงการเก้าแดนได้จริงๆ คิดว่าสามารถเป็นราชันเซียนได้นิรันดร์จริงๆ ดังนั้นตาแก่กลุ่มหนึ่งจึงคิดเดินทางลัด เสาะหาสายเลือดที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ ดังนั้น มือมืดของอเวจีจึงได้ยื่นเข้าไปยังพรรคเซียนเหินของพวกเจ้า! ”

“เจ้าสามารถบงการเป็นนิรันดร์ แล้วทำไมพรรคเซียนเหินพวกเราจึงทำไม่ได้! ได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่เจ้าเป็นคนพูด” ราชินีเหรินเสียนกล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “เจ้าสามารถทำได้คนอื่นก็ทำได้เช่นกัน! ”

“พวกสวะ” หลี่ชิเย่เลิกหนังตาขึ้นทีหนึ่ง ยิ้มเยาะอย่างดูแคลน

แม้แต่กู้จุนยังต้องส่ายหน้า กระซิบเบาๆ ออกมาว่า “เห็นทีอย่าได้ไปให้ความสำคัญกับสติปัญญาของผู้หญิงตลอดไป เมื่อผู้หญิงดื้อรั้นขึ้นมาแล้ว คิดว่าตัวเองแน่มันน่ากลัวยิ่งกว่าทุกสิ่ง”

วันนี้ที่ข้ามาไม่ได้เพื่อถกเหตุผลกับเจ้า ข้ามาที่พรรคเซียนเหินก็เพื่อสังหารเจ้า ถึงเวลาจบสิ้นได้แล้ว” หลี่ชิเย่ไม่พูดเรื่องเหตุผลกับราชินีเหรินเสียนอีกต่อไป ดวงตาคู่นั้นพลันเย็นยะเยือก เผยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมาทันที

ทันใดนั่นเอง หลี่ชิเย่พลันปรากฏตัวที่ด้านหน้าของโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ กล่าวน่าครั่นคร้ามออกมาว่า “จำไว้ให้ดี ข้าคือคนที่โหดร้ายทารุณมาก ข้าจะให้ผู้เป็นแม่ได้เห็นลูกๆ ของตนตายอย่างน่าอนาถกับตาตนเอง และให้ลูกๆ ได้เห็นแม่ของตนตายอย่างน่าอนาถ นี่คือค่าตอบแทนที่ต้องแลกกับการยุ่งเกี่ยวกับอเวจี นี่คือข้อแลกเปลี่ยของผู้นำพาความมืดมิดให้กับเก้าแดน ผู้สมคบคิดกับอเวจี จะไม่ได้ผุดได้เกิดตลอดกาล! ”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ปรากฏเป็นหลี่ชิเย่คนที่สองขึ้นมา เป็นหลี่ชิเย่ที่พิมพ์ขึ้นมาจากตราประทับฟ้าดินมีลักษณะเหมือนกับหลี่ชิเย่ทุกประการ ร่างจริงของหลี่ชิเย่ได้ปล่อยสิบสามลัคนาออกมา ปล่อยสิบสองเทพมาร และทำการหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันสมบูรณ์แบบในทันที ขณะที่หลี่ชิเย่ที่เป็นร่างแยกก็ทำการปล่อยสิบสามลัคนาออกมา ปล่อยสิบสองเทพมาร และทำการหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันสมบูรณ์แบบในทันทีเช่นกัน

เสียง “ตูม” ดังสนั่น หลี่ชิเย่ทั้งสองคนที่รวมร่างเข้ากับสิบสองเทพมารแล้วนั้น พลันทำการสยบปิดกั้นช่องว่าง และสยบฟ้าดิน ทันทีที่ลงมือดุจดั่งเทพมารจากหมื่นแดนทำการสยบสี่โอรสราชันเซียนเหรินเสียน

ในเวลาเดียวกัน เสียง “แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” ดังขึ้น ร่างกายของหลี่ชิเย่เจิดจ้าขึ้นมา กายทั้งสี่ปรากฏขึ้น และได้เปิดสองอาณาจักรขึ้นมาทันที

หลี่ชิเย่สองคนกลับกลายเป็นสี่อาณาจักรที่ทับซ้อนกัน อีกทั้งภายใต้ลักษณะการรวมร่างของสิบสองเทพมาร ย่อมจินตนาการได้ว่าเป็นเรื่องที่นากลัวเพียงใด ช่องว่างทั้งหมดพลันถูกหลอมละลาย ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ถูกสยบเอาไว้

“เปิด” โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่คำรามเสียงดังออกมา หวังจะทำลายการควบคุมของหลี่ชิเย่ พวกเขาสี่พี่น้องมีปฏิกิริยาที่ไวมาก พลันรวมเป็นร่างเดียว กายเซียนทั้งสี่หลอมรวมเข้าด้วยกัน แต่ว่า พวกเขากลับไม่สามารถคลายการสยบของหลี่ชิเย่ออกไปได้

ก่อนหน้านั้น หลี่ชิเย่อาศัยลักษณะของข้านี่แหละสวรรค์ที่แท้จริงสามารถต่อสู้พอฟัดพอเหวี่ยงกับพวกเขาได้ เวลานี้ เมื่อเป็นหลี่ชิเย่สองคนที่ยืนอยู่ในลักษณะของระดับสูงสุด สี่โอรสราชันเซียนเหรินเสียนย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่อยู่แล้ว

“ฆ่า” เมื่อราชินีเหรินเสียนเห็นหลี่ชิเย่ลงมือสยบลูกๆ ของนางจึงคลั่งขึ้นมา ลงมือเข้าสังหารหลี่ชิเย่ทันที พลันที่นางลงมือหมื่นชาติถูกทำลายด้วยท่าทีอันธพาลยิ่งนักของนาง

“แช้งค์” ทวนยาวที่ปราศจากผู้ต่อกร ทวนยาวพันจ้างตัดขาดหมื่นอาณาจักรทวนยาวอาศัยท่วงท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรเข้าขวางราชินีเหรินเสียนเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ก้าวไปได้แม้เพียงครึ่งก้าว

“เจ้า สมควรตาย!” ในเวลานี้ กองทัพมังกรเขียวที่แปลงร่างเป็นมังกรเขียวได้ลงมือแล้ว มังกรเขียวชี้นิ้วไปที่ราชินีเหรินเสียน กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นดุดัน เผยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา

“กล่าวสำหรับ กองทัพมังกรเขียวแล้ว พวกเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตรกับอเวจี ทั้งสองจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกัน มีพี่น้องของกองทัพมังกรเขียวจำนวนเท่าไรที่ต้องตายอย่างอนาถด้วยน้ำมือของอเวจี พวกเขาต้องทนทรมานภายใต้การปกครองของอเวจีมายุคแล้วยุคเล่า สู้รบกันอย่างดุเดือดมายุคแล้วยุคเล่า กล่าวสำหรับกองทัพมังกรเขียวของพวกเขาแล้ว มันผู้ใดหาญกล้าสมคบคิดกับอเวจี กองทัพมังกรเขียวพวกเขาจะฆ่าโดยไม่มีละเว้นอย่างแน่นอน!

“ตูม ตูม ตูม…” ในเวลานี้ กองทัพมังกรเขียวต่อสู้อยู่กับราชินีเหรินเสียน ราชินีเหรินเสียนใจรุ่มร้อนต้องการไปช่วยเหลือลูกๆ ของนาง ร่างของนางพลันปรากฎเปลวไฟพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลับกลายเป็นปีกคู่ที่ส่งประกายละลานตายิ่งนัก เสมือนดั่งกลายเป็นเทพธิดาของสวรรค์อย่างนั้น อาศัยพลังจากสวรรค์ ทุกๆ กระบวนท่าล้วนแล้วแต่สามารถทำลายหมื่นอาณาจักร ทำลายล้างเหล่าเทพเทวา มีความดุดันและอันธพาลยิ่ง ต่อให้ระดับผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง

ขณะที่กองทัพมังกรเขียวในขณะนี้ก็มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นมังกรที่ดุร้ายในทันที มือฉีกทำลายทางช้างเผือก เท้าเหยียบจักรวาลจนแหลกลาญ ทวนยาวดั่งพายุฝนฟ้าคะนองเข้าโจมตีต่อราชินีเหรินเสียนอย่างบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า

เดิมทีเทพแท้จริงสยบโลกาแห่งกองทัพมังกรเขียวนับว่ามีความแข็งแกร่งไร้ผู้เทียบเทียมอยู่แล้ว เวลานี้ ยามที่กองทัพมังกรเขียวทั้งกองทัพกลับกลายเป็นมังกรเขียวตัวหนึ่ง ยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะขณะที่มันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วนั้น แม้แต่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต้านรับกับราชันเซียนได้เช่นราชินีเหรินเสียน ยังคงถูกบีบจนต้องตั้งรับมากกว่ารุก นี่แหละคือกำลังความสามารถที่แท้จริงของกองทัพมังกรเขียว ก่อนหน้านั้น กองทัพมังกรเขียวยังไม่ได้ปะทุเต็มกำลังขึ้นมา

ในขณะที่หลี่ชิเย่สยบโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ และกองทัพมังกรเขียวต่อสู้กับราชินีเหรินเสียนอย่างดุเดือดอยู่นั้น กู้จุนได้ก้าวถอยหลังไปช้าๆ เขาถอยไปอยู่ข้างๆ และมองดูเหตุการณ์ทุกอย่างตรงหน้าอย่างสงบและเฉยเมย

นาทีนี้กู้จุนไม่ได้หลบหนี เขาดูสงบมาก รอคอยอย่างเงียบๆ เนื่องจากเขาเองก็ไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีไปได้ ราชามังกรดำซึ่งเป็นพี่เขยของเขาซ่อนตัวอยู่บนจักรวาล และได้คุมทุกทิศทุกทางเอาไว้นานแล้ว ขอเพียงเขาหลบหนี พี่เขยของเขาพร้อมลงมือสยบเขาได้ทุกเมื่อ

ที่สำคัญมากไปกว่านี้ก็คือ กู้จุนเองไม่ได้คิดที่จะหนี นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขา ถ้าหากอเวจีปรากฏตัวออกมา เขาอาจยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับ ถ้าหากอเวจีไม่ยอมปรากฎตัวออกมาเขาคงมีแต่ตายสถานเดียว แน่นอน กู้จุนไม่ได้เกรงกลัวต่อความตาย กล่าวสำหรับเขาแล้วความตายไม่มีอะไรน่ากลัวเลย

“แว้งค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทันใดนั่นเอง หลี่ชิเย่ทั้งสองคนได้เปิดลัคนาออกมา ฉับพลันนั้นความขมุกขมัวตลบอบอวล ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หลี่ชิเย่ได้ปล่อยเรือแห่งชีวิต เรือสร้างภพ และเรือชีวิตนิรันดร์ออกมา

เมื่อเรือทั้งสามลำปรากฏออกมานั้น อย่าว่าแต่ทั่วทั้งพรรคเซียนเหินเลย แม้แต่ทั่วแดนมนุษย์กษัตราก็เปลี่ยนไป ภายใต้อานุภาพของเรือแห่งชีวิต พลังลมปราณาของหลี่ชิเย่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พลังลมปราณของเขาคลุมเต็มพื้นที่ของแดนมนุษย์กษัตรา อีกทั้งยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อไป เหมือนว่าหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ พลังลมปราณของหลี่ชิเย่คงจะดันแดนมนุษย์กษัตราจนแตก

ภายใต้พลังลมปราณที่รุนแรงเช่นนี้ สิ่งมีชีวิตทั่วแดนมนุษย์กษัตราต่างอึดอัดหายใจไม่ออก เนื่องจากพลังลมปราณที่รุนแรงยิ่งของหลี่ชิเย่ได้ทำการเปลี่ยนแดนมนุษย์กษัตราให้กลายเป็นทะเลเลือด ขณะที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดของแดนมนุษย์กษัตราเปรียบเหมือนมัจฉาที่อยู่ในทะเลเลือดอย่างนั้น แต่กลับเป็นมัจฉาที่ว่ายน้ำไม่เป็น พวกเขาได้แต่สำลักน้ำตายท่ามกลางทะเลเลือดเช่นนี้

สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวยิ่งกว่าไม่เพียงคือลมปราณที่จะดันจนแดนมนุษย์กษัตราแตก ขณะเดียวกัน เมื่อเรือสร้างภพถูกเปิดออก ได้ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแดนมนุษย์กษัตราล้วนแล้วแต่เกิดเป็นมโนภาพขึ้นมา เหมือนว่าในแดนมนุษย์กษัตรามีโลกใบที่สองถูกเปิดขึ้นมา ภายในโลกใบนี้ท่ามกลางความขมุกขมัวที่ตลบอบอวล หญ้าทิพย์ และหลินจือขึ้นอยู่ทุกที่ โลกที่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่เป็นแดนสุขาวดีที่ทุกคนใฝ่ฝันหา

เนื่องเพราะพวกเขาบังเกิดมโนภาพขึ้นมาเช่นนี้เอง จึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ก้าวเดินไปยังโลกนี้อย่างรวดเร็ว ความจริงแล้ว พวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่ก้าวพลาด พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในโลกเช่นนี้ได้อยู่แล้ว

สำหรับเรือชีวิตนิรันดร์นั้น ยามที่มันปรากฏออกมาทุกสิ่งล้วนแล้วแต่กลายเป็นนิรันดร์ เหมือนว่านาทีนี้หลี่ชิเย่คงความเป็นนิรันดร์ไม่มีวันสูญสลาย เหมือนว่าเขามีชีวิตเป็นอมตะ หลี่ชิเย่ที่อยู่ภายใต้การพยุงจากพลังของเรือชีวิตนิรันดร์แล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนหลี่ชิเย่กำลังจะกลายเป็นเซียน ในเวลานี้เอง เขาได้กลายเป็นเซียน หลุดพ้นจากเก้าแดน หลุดพ้นจากวัฏสงสาร ตัดขาดจากหยินและหยาง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่สามารถพันธนาการตัวเขาได้อีกต่อไป

“ตูม” ทันใดนั้นเองได้บังเกิดเสียงดังขึ้นมา กายทั้งสี่ของหลี่ชิเย่ได้หนุนให้เรือทั้งสามลำได้ลอยลำปรากฎอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน

เสียง “ตูม ตูม ตูม…” ปรากฏฟ้าถล่มดินทลาย นาทีนี้ทุกอย่างเหมือนดั่งเสียสติไปแล้ว ฉับพลันนั้น บนท้องฟ้าทั่วแดนมนุษย์กษัตราปรากฏทะเลฟ้าแลบบ่อฟ้าผ่าขึ้นมา ท้องฟ้าเบื้องบนแดนมนุษย์กษัตราถูกปกคลุมไปด้วยฟ้าแลบแปล๊บๆ ทั่วแดนมนุษย์กษัตรา ล้วนแล้วแต่ถูกฟ้าผ่าที่มีเสียงดังมากทำเอาสั่นไหวโคลงแคลงไม่มีสิ้นสุด

ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ทันใดนั้น เหมือนว่าสวรรค์ได้เปิดประตูลงทัณฑ์ออกมา พลังสวรรค์ลงทัณฑ์เสมือนหนึ่งน้ำหลากที่เทลงมา พลังสรรค์ลงทัณฑ์ที่น่ากลัวเช่นนี้เมื่อมีการเทราดลงมา ดุจดั่งต้องการทำลายล้างแดนมนุษย์กษัตราทั้งหมดอย่างนั้น

“โอ้แม่จ๋า” นาทีนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดของแดนมนุษย์กษัตราต่างรู้สึกหวาดผวา มีสีหน้าที่ขาวซีด ภายใต้ทะเลฟ้าผ่าล้วนแล้วแต่ต้องสั่นเทา ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากถูกสยบจนต้องหมอบอยู่กับพื้นภายใต้พลังจากสวรรค์ลงทัณฑ์นี้ ทุกคนต่างตกใจหวาดหวั่นพรั่นพรึง ความกลัวที่เกิดขึ้นนี้ใช่เป็นเพราะพลังมากน้อยเพียงใด แต่เป็นความกลัวที่เกิดจากความเคารพยำเกรงโดยสัญชาตญาณ เป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่เคารพยำเกรงต่อสวรรค์

สิ่งมีชีวิตช่างมีขนาดเล็กจิ๋วเพียงใดเมื่ออยู่ต่อหน้าสวรรค์ เป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องคุกเข่ากราบไหว้อยู่กับพื้นเมื่ออยู่ต่อหน้าสวรรค์ ไม่สามารถต้านทานกับพลังของสวรรค์ได้อยู่แล้ว!

“ตูม” ทันใดนั้น ฟ้าผ่าที่มีเสียงดังมากได้ผ่าลงมาตรงเข้าหาหลี่ชิเย่ ประกายจากฟ้าแลบได้ทำให้แดนมนุษย์กษัตราแลดูสว่างไสวยิ่งนัก เหมือนหนึ่งดวงอาทิตย์นับล้านดวงระเบิดขึ้นมาพร้อมกันอย่างนั้น แสงที่ละลานตายิ่งส่องเข้ามาจนยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนไม่สามารถลืมตาทั้งสองขึ้นได้ แม้กระทั่งเนตรฟ้าก็เปิดไม่ออก อานุภาพของมันช่างร้ายแรงเหลือเกิน

เมื่อต้องถูกฟ้าแลบฟ้าผ่าเสียงดังพุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่งและรุนแรงเช่นนี้ อย่าว่าแต่เป็นระดับจักรพรรดิเทพเลย กระทั่งระดับสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ก็รับไม่ไหว วิบากภัยลักษณะเช่นนี้คือวิบากระดับราชันเซียนชัดๆ มีเพียงระดับราชันเซียนเท่านั้นที่จะพานพบวิบากสวรรค์ที่น่ากลัวเช่นนี้ และมีคุณสมบัติพอที่จะรับกับพลังลงทัณฑ์เช่นนี้ได้!

ในที่สุด เมื่อเรือทั้งสามลำของหลี่ชิเย่มีการสำแดงพลังถึงขั้นสูงสุดแล้ว จึงนำมาซึ่งสวรรค์ลงทัณฑ์ เพราะสวรรค์จะไม่อนุญาตให้พลังลักษณะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาได้ สำหรับสวรรค์แล้วพลังลักษณะเช่นนี้ต้องถูกทำลายจนพินาศ

หลี่ชิเย่ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อยนิด เมื่อต้องเผชิญกับสวรรค์ลงทัณฑ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ นาทีนี้ ลัคนาจตุลักษณ์ของเขาได้สำแดงถึงขีดสูงสุด เสาแห่งชีวิตที่เสาเดียวค้ำฟ้า ปักลงกลางทะเลฟ้าแลบ ทำการดูดกลืนฟ้าแลบและฟ้าผ่าที่มีเสียงดังมากนั้นอย่างบ้าคลั่ง

น้ำพุแห่งชีวิตเสมือนดั่งเป็นแม่น้ำกว้างใหญ่ไพศาล รองรับฟ้าแลบและฟ้าผ่าที่มีเสียงดังมากเอาไว้ทั้งหมด

เตาแห่งชีวิตได้พวยพุ่งบทคัมภีร์สัจธรรมไม่มีสิ้นสุดออกมา กลับกลายเป็นเพลิงแห่งสัจธรรมยุคดึกดำบรรพ์ มันทำการหลอมกลั่นฟ้าแลบและฟ้าผ่าที่มีเสียงดังมากที่ถูกดูดกลืนมา เพื่อกลั่นให้กลายมาเป็นของตน

สำหรับต้นไม้แห่งชีวิตนั้น ได้แผ่กิ่งก้านสาขาและใบออกไป ปกคลุมฟ้าดิน ความมีชีวิตชีวาที่ไม่สิ้นสุดได้ป้อนพลังที่น่าเกรงขามและไม่มีสิ้นสุดให้กับลัคนาจตุลักษณ์ทั้งสาม!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล