คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกต้องกลั้นลมหายใจ ไม่พูดไม่จาเป็นเวลานาน
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า คำพูดของหลี่ชิเย่กล่าวสำหรับผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึก กล่าวสำหรับสุสานเทียนกู่แล้ว มันเปี่ยมด้วยความเย้ายวนใจมากเหลือเกิน สิ่งนี้ก็คือสิ่งที่เขากระหายอยากจะได้ และเป็นสิ่งที่สุสานเทียนกู้พวกเขาปรารถนา!
แต่ว่า ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกก็ไม่ได้แสดงอาการของเลือดในกายที่พลุ่งพล่านเพียงเพราะคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ เขานิ่งเงียบอยู่พักใหญ่จึงเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “แล้วถ้าหากเจ้าล้มเหลวหละ?”
หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “งั้นเจ้าได้แต่ภาวนาให้ข้าสำเร็จแล้วหละ เพราะหากข้าล้มเหลว พวกเจ้าก็จะตกอยู่ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาที่มืดมนและยาวไกลต่อไป และโลกใบนี้ก็จะสลดอับแสงภายในระยะเวลาที่ยาวไกลมากๆ โลกนี้จะอยู่ท่ามกลางความเงียบงัน!”
“เจ้ากำลังวาดรูปขนมปังให้พวกเราแก้หิวโหย สิ่งที่เจ้าสามารถนำพาให้กับพวกเราหาใช่เป็นผลประโยชน์ที่เป็นแก่นแท้ไม่!” ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกกล่าวน้ำเสียงเย็นชากับคำพูดของหลี่ชิเย่
“ถ้าหากเจ้าจะคิดเช่นนี้ข้าก็ไม่ปฏิเสธ” หลี่ชิเย่ทำท่ายักไหล่และยิ้มกล่าวว่า “แต่ว่า นอกจากข้าที่สามารถวาดรูปขนมปังให้พวกเจ้าแก้หิวโหยได้แล้ว เจ้าคิดว่าโลกใบนี้ยังจะมีใครสามารถวาดรูปขนมปังแก้หิวโหยให้พวกเจ้าได้หละ! ถ้าหากข้าเพียงแค่วาดรูปขนมปังให้พวกเจ้าแก้หิวโหย เช่นนั้นแล้ว คนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะวาดรูปขนมปังให้พวกเจ้าแก้หิวโหยเสียด้วยซ้ำ”
“หากจะกล่าวว่า เงื่อนไขของข้าสามารถนำพาความหวังให้พวกเจ้าเพียงหนึ่งเดียว และสามารถนำพาอนาคตให้กับพวกเจ้าได้ล่ะก็” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “อย่างน้อยที่สุดพวกเจ้ายังมองเห็นความหวัง มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเจ้าไม่มีแม้กระทั่งความหวัง! กล่าวสำหรับพวกเจ้าแล้วกระทั่งความหวังก็เป็นคำขอที่มากเกินไปด้วยซ้ำ!”
คำพูดของหลี่ชิเย่ได้ทำให้ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกตกอยู่ในความเงียบงัน คำพูดของหลี่ชิเย่จี้ใจดำของเขาเข้าให้
“เจ้าคิดว่ายังจะมีสิ่งใดที่เฝ้าหวังได้อีก?” หลี่ชิเยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “ขอเพียงสวรรค์โจรยังคงอยู่ พวกเจ้าต้องเป็นผีดิบตลอดไป เป็นเพียงศพดึกดำบรรพ์กลุ่มหนึ่งที่เก่าแก่จนเน่าเปื่อยและถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินแห่งนี้เท่านั้น เนิ่นนานจนบนโลกใบนี้ยังจะมีใครจดจำพวกเจ้าได้อีก?”
“ขอเพียงสวรรค์โจรยังอยู่ พวกเจ้าก็ปราศจากความหวัง พวกเจ้าจะถูกกักอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวังตลอดไป แม้แต่ความหวังสักนิดก็ไม่มี!” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “ดังนั้น ข้าสามารถนำพาความหวังให้กับพวกเจ้า สิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเจ้าแล้วมันช่างล้ำค่าเพียงใด มันคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ความหวังเพียงน้อยนิดของข้านี้สามารถส่องประกายสว่างไสวให้กับสุสานเทียนกู่ที่สิ้นหวังพวกเจ้าได้ สามารถส่องสว่างถึงภายในจิตใจพวกเจ้าที่มองไม่เห็นแสงสว่างเลยแม้แต่นิดเดียว!”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกตกอยู่ท่ามกลางความเงียบขรึมเป็นเวลานาน
“ดังนั้น ไม่ก็เลือกความหวังริบหรี่ของข้า เมื่อข้าทำสำเร็จแล้วก็จะอภัยโทษให้กับสุสานเทียนกู่ของพวกเจ้า ให้พวกเจ้าคงอยู่ร่วมเก้าแดน” หลี่ชิเย่กล่าวหนักแน่นจริงจังว่า “มิฉะนั้นแล้ว พวกเจ้าก็อยู่อย่างสิ้นหวังต่อไป ต่อให้ข้าสู้รบจนสุดท้ายและได้รับชัยชนะมา พวกเจ้าก็ยังคงถูกพันธนาการอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวังเช่นนี้ต่อไป ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันตลอดไป!”
ภายใต้คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกซึ่งนิ่งเงียบมานานก็ได้เปิดปากพูดขึ้นมาช้าๆ ว่า “ต่อให้ข้ายินดีลงมือให้กับเก้าแดน เกรงว่าโอกาสก็คงมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะข้าสามารถออกไปได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากมากกว่านั้นข้าก็รับไม่ไหว”
“ดังนั้น เจ้าจะต้องรอคอยโอกาสที่แม่นยำ รบครั้งเดียวรู้ดำรู้แดงไปเลย โจมตีอเวจีครั้งเดียวถึงตาย” ถ้าหากอเวจีปรากฏตัวออกมา บรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดย่อมมีกองทัพไปกวาดล้างพวกมัน ต่อให้มีผู้ยิ่งใหญ่คลานออกมาจริงๆ ข้าเชื่อว่าร่างตัวแทนของเจ้าก็คงรับมือได้! ขอเพียงกดดันพวกมันจนหายใจไม่ออก อเวจีต้องทุ่มเทเต็มที่ ขอเพียงบรรดาตาเฒ่าเหล่านั้นปรากฏตัวออกมา มิติมหัศจรรย์ต้องปรากฏออกมา เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ก็เป็นจังหวะที่เจ้าสมควรลงมือได้แล้ว!”
ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ตกลง ข้ารับปากเจ้า เมื่อถึงเวลานั้นแล้วข้าจะลงมืออย่างแน่นอน รบครั้งเดียวรู้ดำรู้แดงไปเลย”
ท้ายที่สุด ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกเลือกที่จะให้ความร่วมมือ จะอย่างไรเสียเขาก็ไม่มีทางเลือก ถ้าหากเขาเลือกที่จะยืนอยู่ข้างหลี่ชิเย่ กล่าวสำหรับสุสานเทียนกู่พวกเขาแล้วยังพอมีความหวังที่ริบหรี่อยู่
หลี่ชิเย่พูดถูก กล่าวสำหรับสุสานเทียนกู่ของพวกเขาแล้ว ความหวังช่างล้ำค่าอะไรอย่างนั้น ความหวังเป็นสิ่งที่ได้มายาก ยากมากๆ เลยทีเดียว
“ไม่แน่นัก หลังการศึกเพียงครั้งแล้วรู้ดำรู้แดงในครั้งนี้แล้ว สุสานเทียนกู่ของพวกเจ้าอาจจะได้体方มาครอบครองช่างเป็นดอกผลที่น่าตื่นเต้นดีใจนะเนี่ย” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวกับผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึก
ผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกไม่อยากจะพูดอะไรมากความอีกต่อไป เนื่องจากสำหรับตัวเขามันไม่มีความสำคัญอีกแล้ว หากเขาออกศึกล่ะก็จะต้องแลกด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก จะอย่างไรเสียเขาไม่สามารถออกไปจากสุสานเทียนกู่ได้อยู่แล้ว กระทั่งเขาอาจจะต้องตายจากการศึกในครั้งนี้
ไม่ว่าการศึกในครั้งนี้เป็นเช่นใด อย่างน้อยที่สุดสามารถนำพาความหวังให้กับสุสานเทียนกู่ของพวกเขา เวลานี้สิ่งที่สุสานเทียนกู่ของพวกเขาภาวนาก็คือ ให้หลี่ชิเย่ได้รับชัยชนะในการรบถึงที่สุด เมื่อเป็นเช่นนั้น สุสานเทียนกู่ของพวกเขาก็จะได้เห็นเดือนเห็นตะวันจริงๆ แล้ว
ในที่สุด หลี่ชิเย่และผีเฒ่าที่อยู่ในหุบเหวลึกได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกันแล้ว และหลี่ชิเย่เองไม่มีความจำเป็นที่จะรั้งอยู่ต่อไป
“คราวนี้พวกเราร่วมมือกันอย่างชื่นมื่น เป็นการเจรจาที่ชื่นมื่นยิ่งนัก” ก่อนจาก หลี่ชิเย่ได้หัวเราะและเอ่ยขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...