ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1698

ตอนที่ 1698 เก้าแดนเชื่อมถึงกัน
เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ยามค่ำคืนของเก้าแดนหลายวันจากนี้ล้วนแล้วแต่สวยงามมากเป็นพิเศษ ท้องฟ้ายามค่ำคืนของเก้าแดนได้ปรากฏเหตุการณ์ประหลาดอยู่เนืองๆ บางครั้งมีหงส์ที่บินผ่านท้องฟ้าไป ยามที่หงส์ตัวนี้ปรากฎขึ้นมานั้น กลิ่นอายความเป็นกษัตริย์ที่ล้ำเลิศตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดิน เสมือนหนึ่งมีสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งที่สุดจะถือกำเนิดขึ้นบนโลกอย่างนั้น

บางครั้งก็มีมังกรแท้จริงผาดโผนบนท้องฟ้า กลิ่นอายมังกรดั่งคลื่นที่ถาโถม เมื่อสิ่งมีชีวิตที่บงการทุกสิ่งในยุคดึกดำบรรพ์ปรากฎตัวออกมาแล้ว สรรพชีวิตใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน

บางครั้งก็สลับด้วยตราสัญลักษณ์ที่มีความเจิดจ้ายิ่งปรากฏบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ภายในตราสัญลักษณ์ล้อมรอบด้วยสุริยันจันทรา มีดวงดาราผุดเข้าออกตรงนั้น มีทางช้างเผือกที่ไหลริน กระทั่งมีตรีสหัสโลกธาตุที่ลอยล่องอยู่

ขณะที่เหตุการณ์ประหลาดต่างๆ ปรากฏขึ้นมาล้วนแล้วแต่รวบรวมพลังจากเก้าแดนเอาไว้ โดยที่พลังสายนี้วนเวียนอยู่ท่ามกลางเก้าแดน มันมีอยู่ทุกที่ ไม่มีที่ใดที่ไม่มีพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แห่งใด เวลาใดก็สามารถรับรู้ถึงพลังสายนี้ได้

เหมือนว่าพลังสายนี้คอยบงการเก้าแดนอยู่ เหมือนว่าพลังลักษณะเช่นนี้ที่มันบงการหมื่นอาณาจักร พลังลักษณะเช่นนี้มาจากเก้าแดน แต่ไม่ใช่ของเก้าแดน เหมือนดั่งว่าพลังลักษณะเช่นนี้เป็นตัวแทนของสวรรค์ เหมือนว่ามันคือการแสดงออกถึงปณิธานของสวรรค์อย่างหนึ่ง

นี่แหละคือชะตาฟ้า ชะตาฟ้าในชาตินี้ได้รวมตัวกันจนเป็นผลสำเร็จแล้ว รอคอยราชันเซียนองค์ใหม่มาสืบทอด ยามที่ชะตาฟ้าปรากฏ ทั่วทั้งเก้าแดนก็จะดำรงอยู่ในลักษณะเช่นนี้ พลังขอลชะตาฟ้ามีอยู่ทุกที่ พลังของชะตาฟ้าสร้างความหวั่นเกรงแก่ผู้คนยิ่งนัก

ภายใต้พลังของชะตาฟ้า ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นระดับจักรพรรดิเทพ หรือรัชทายาท ก็จะรู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างตัวเล็กและอ่อนแออะไรเช่นนั้น ต่อให้เป็นผู้ที่ยกย่องตัวเองว่าปราศจากผู้ต่อกร เมื่อต้องเผชิญกับพลังชะตาฟ้าแล้ว ต้องรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ปราศจากผู้ต่อกรอะไรขนาดนั้น มีเพียงได้สืบทอดชะตาฟ้า ควบคุมชะตาฟ้าแล้วเท่านั้นจึงปราศจากผู้ต่อกรอย่างแท้จริง เพียงครอบครองชะตาฟ้าจึงสามารถหัวเราะเย้ยได้หนึ่งยุคสมัย สามารถปราศจากผู้ต่อกรอย่างแท้จริงได้หนึ่งยุคสมัย สามารถเกรียงไกรไปทั่วเก้าแดนได้อย่างแท้จริง!

นี่แหละคือความแข็งแกร่งของชะตาฟ้า และก็คือสิ่งที่ชะตาฟ้าน่าดึงดูดผู้คนได้มากที่สุด ขอเพียงได้ครอบครองชะตาฟ้าจึงบ่งบอกถึงการปราศจากผู้ต่อกร และนี่ก็คือเพราะเหตุใดดาวรุ่งและยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนนับแต่อดีตถึงปัจจุบันต่างต้องการเสาะแสวงหาชะตาฟ้า ขอเพียงบุคคลผู้นั้นมีชะตาฟ้าแล้วก็สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้!

กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนใดๆ ก็ตาม หรือยอดฝีมือใดๆ ก็ตาม ชาตินี้ไม่มีสิ่งใดคู่ควรให้พวกเขาไปเสาะแสวงหามากไปกว่านี้อีกแล้ว

“ชะตาฟ้าได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว ชาตินี้จะมีผู้ใดสามารถได้รับการยอมรับจะชะตาฟ้ากันเล่า?” แม้แต่ระดับจักรพรรดิเทพยังถึงกับมองดูชะตาฟ้าที่ปรากฏด้วยความอิจฉา ไม่รู้ว่ามีจักรพรรดิเทพรุ่นอาวุโสจำนวนมากมายต้องสะอื้นเบาๆ ถ้าหากสามารถมีเวลาให้พวกเขาได้เลือกอีกครั้งล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาคงจะก้าวเดินไปสู่เส้นทางการแย่งชิงชะตาฟ้าโดยไม่ลังเล กล่าวสำหรับพวกเขาผู้ซึ่งเคยเห็นอานุภาพของชะตาฟ้ามาแล้ว ชะตาฟ้าช่างเย้ายวนใจมากเหลือเกิน

ในเก้าแดนมีดาวรุ่งจำนวนไม่น้อยถึงกับอยากลองดู ต่างรู้สึกคันไม้คันมือ พวกเขาต่างรู้สึกถึงเลือดร้อนในกายที่พลุ่งพล่านเมื่อเห็นชะตาฟ้าปรากฎ พวกเขาอยากจะได้รับการยอมรับของชะตาฟ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไป สามารถก้าวเดินบนเส้นทางการแย่งชิงชะตาฟ้า และสามารถสืบทอดชะตาฟ้าได้เป็นราชันเซียน

เมื่อนึกถึงว่าสามารถเป็นราชันเซียน นึกถึงสามารถกลายเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรของเก้าแดน ผู้บงการของเก้าแดนในหมื่นอาณาจักรไม่รู้ว่ามีดาวรุ่งจำนวนเท่าไรอยากจะให้เรื่องนี้กลายเป็นจริงในทันทีให้รู้แล้วรู้รอดไป และให้สามารถมาถึงในเร็ววันให้รู้แล้วรู้รอดไป

ในที่สุดเมื่อชะตาฟ้าปรากฏ ประตูมิติของเก้าแดนก็ได้เปิดออกมาโดยสิ้นเชิง ทุกๆ แดนล้วนแล้วแต่มีสำนักเจ้าลัทธิที่เริ่มควบคุมประตูมิติ และทำการส่งศิษย์ของตนออกไปยังแดนต่างๆ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนสความรู้ประสบการของพวกเขา สำหรับศิษย์ของสำนักขนาดเล็กขอเพียงสามารถมอบศิลาแกร่งให้กับสำนักเจ้าลัทธิ ก็สามารถถูกส่งไปยังทุกๆ ที่ของเก้าแดนได้เช่นกัน

“แดนมนุษย์กษัตรา ข้ามาแล้ว สถานที่ที่ให้กำเนิดอัจฉริยะบุคคลจะต้องกลายเป็นสนามรบของข้า” มีดาวรุ่งจากแดนอื่นที่เข้ามาเหยียบในแดนมนุษย์กษัตราถึงกับกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ

ในเวลานี้ ดาวรุ่งกระทั่งยอดฝีมือรุ่นอาวุโสจากแดนสมุนไพรแร่ธาตุ แดนวิญญาณสวรรค์ แดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เป็นต้นต่างเดินทางเข้ามายังแดนมนุษย์กษัตรา สำหรับยอดฝีมือของสำนักเจ้าลัทธิจากแดนอื่นๆ แล้ว แดนมนุษย์กษัตราเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนอย่างเด็ดขาด นักจากอดีตเป็นต้นมา เคยมีการแย่งชิงชะตาฟ้าจำนวนมากที่ปะทุขึ้นที่แดนมนุษย์กษัตรา นี่เอง

“ชาตินี้ข้าจะต้องเกรียงไกรไปเก้าแดน ข้าจะเป็นตัวแทนของแดนวชิระท้าสู้กับผู้กล้าทั่วหล้า และแดนมนุษย์กษัตราคือจุดแรก ข้าจะต้องเอาชนะสุดยอดดาวรุ่งทั้งหมดของแดนมนุษย์กษัตราได้แน่นอน” หลวงจีนจากแดนวชิระหลังจากมาถึงแดนมนุษย์กษัตราแล้วได้ลั่นวาจาที่ฮีกเหิมเอาไว้

“ข้าเทียนเซิ่นเสินจุนแห่งแดนมหิงสาประจิมยินดีท้าสู้ผู้มีปณิธานเข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนทุกคนของแดนมนุษย์กษัตรา ไม่ว่าจะเป็นการสู้กันตัวต่อตัวหรือตะลุมบอนข้าก็ไม่เกี่ยง ชาตินี้ ข้าเทียนเซิ่นเสินจุนจะต้องเป็นราชันเซียน” มีดาวรุ่งที่ปราศจากผู้ต่อกรของแดนมหิงสาประจิมมาถึงแดนมนุษย์กษัตราเป็นครั้งแรก ก็เอ่ยปากท้าสู้กับดาวรุ่งทุกคนของแดนมนุษย์กษัตราทันที

จากการที่ประตูมิติเปิดออก เก้าแดนเชื่อมติดต่อถึงกันได้ ทำให้ยอดฝีมือที่เข้ามาอยู่ในแดนมนุษย์กษัตราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ดาวรุ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาที่แดนมนุษย์กษัตราแล้วก็อดใจอยากจะทดลองไม่ได้ อยากจะท้าสู้กับดาวรุ่งของแดนมนุษย์กษัตราให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็มียอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาที่แดนมนุษย์กษัตราแล้วกลับทำตัวไม่เป็นที่สนใจ พวกเขาเพียงเฝ้าสังเกตุอย่างละเอียดเพื่อดูว่ามีใครบ้างที่จะเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งของพวกเขาได้

ขณะที่หลวงจีนจากแดนวชิระ และเทียนเซิ่นเสินจุนแห่งแดนมหิงสาประจิมได้ลั่นวาจาที่ฮึกเหิมออกมาท้าท้ายต่อดาวรุ่งของแดนมนุษย์กษัตราแล้วนั้น ปรากฏว่าเสียงตอบรับกลับเงียบเฉย กระทั่งไม่มีใครไปสนใจพวกเขาเลย

มีผู้ส่งเสียงท้าทายต่อแดนมนุษย์กษัตรา ขณะที่ดาวรุ่งของแดนมนุษย์กษัตรากลับมีปฏิกิริยาที่เรียบเฉย ไม่มีใครไปรับคำท้า ทำให้บรรดาดาวรุ่งที่มาจากแดนต่างๆ รู้สึกแปลกใจ

“ดาวรุ่งของแดนมนุษย์กษัตราไม่มีใครแล้วรึ? หลวงจีนจากแดนวชิระ และเทียนเซิ่นเสินจุนแห่งแดนมหิงสาประจิมได้กล่าววาจาที่ข่มแหงกันขนาดนี้ กลับไม่มีใครในแดนมนุษย์กษัตรายอมออกมารับคำท้า” ผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนวัชระหลังจากได้รู้จักกับผู้บำเพ็ญตนของแดนมนุษย์กษัตราแล้วจึงอดเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยไม่ได้

ปฏิกิริยาผู้บำเพ็ญตนของแดนมนุษย์กษัตราเรียบเฉยมาก กล่าวว่า “อ๋อ เรื่องนี้เองน่ะหรือ ไม่เห็นจะต้องพูดอะไรเลยนี่ กล่าวสำหรับคนโหดอันดับหนึ่งแดนมนุษย์กษัตราพวกเราแล้ว คนเหล่านี้มันก็แค่มดปลวกเท่านั้นเอง ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง คนโหดอันดับหนึ่งขี้คร้านจะไปสนใจพวกเขาอยู่แล้ว เมื่อคนโหดอันดับหนึ่งยังขี้คร้านจะไปสนใจมดปลวกประเภทนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่คนอื่นๆ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องออกหน้า ใครรึจะกล้าแย่งความโดดเด่นกับคนโหดอันดับหนึ่ง”

“มดปลวกรึ! เป็นไปไม่ได้!” ผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนวัชระอดที่จะร้องด้วยเสียงอันดังออกมาไม่ได้ กล่าวว่า “นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ท่านรู้ว่าหลวงจีนมีความแข็งแกร่งเพียงใดหรือไม่? ตั้งแต่เขาเข้าสู่ยุทธภพมาก็ไม่เคยพ่ายแพ้ใครมาก่อน เคยสังหารระดับจักรพรรดิเทพด้วยมือเปล่า ทักษะยุทธของเขาล้ำเลิศสุดจะหยั่งถึง สรรพวิชาอยากจะทำร้ายเข้าได้”

“อ๋อ อย่างนี้เองรึ” ผู้บำเพ็ญตนแดนมนุษย์กษัตราแสดงปฏิกิริยาเรียบเฉยและกล่าวว่า “ผลงานเช่นนี้นับว่าพอใช้ได้ นับว่าพอจะนำมาเป็นต้นทุนที่จะคุยกันได้บ้าง”

“แค่พอใช้ได้? สามารถเป็นต้นทุนที่จะคุยได้บ้าง?” ผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนวัชระดูไม่ค่อยพอใจอยู่บ้าง กล่าวว่า “ไหนท่านลองว่ามาซิ คนโหดอันดับหนึ่งแดนมนุษย์กษัตราของพวกเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหนเชียว”

“มีสิบสามลัคนาในครอบครอง สำเร็จสี่ยอดกายเซียนขั้นสมบูรณ์ ทำลายล้างพรรคเซียนเหิน จับเอาโอรสราชันที่สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ทั้งสี่คนมาบูชาสวรรค์ สังหารผู้ดำรงอยู่ในฐานะเทียบเคียงกับราชันเซียนได้ ปราศจากผู้ต่อกรชั่วชีวิต” ผู้บำเพ็ญตนแดนมนุษย์กษัตราเอ่ยถึงความมหัศจรรย์ของคนโหดอันดับหนึ่งด้วยท่าทีเรียบเฉย เนื่องจากสิ่งมหัศจรรย์ที่คนโหดอันดับหนึ่งได้ทำเอาไว้มีมากมายเหลือเกิน

“มีสิบสามลัคนาอยู่ในครอบครอง? นี่ นี่ นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในโลกไม่มีใครสามารถทำได้อยู่แล้ว” ผู้บำเพ็ญตนแดนวัชระเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ถึงกับร้องเสียงแหลมออกมา

“แต่สำหรับคนโหดอันดับหนึ่งแล้วไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผลงานของเขาเป็นที่ประจักษ์ของผู้คนทั่วหล้า เขาก็คือผู้สรรสร้างความมหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งหรือผู้ปราศจากผู้ต่อกรอะไรเมื่อเปรียบเทียบกับเขาแล้วก็คือขยะ!” ผู้บำเพ็ญตนแดนมนุษย์กษัตรากล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

“แล้ว แล้วพรรคเซียนเหินที่ว่าก็คือพรรคเซียนเหินที่หนึ่งสำนักห้าราชันเซียนที่อยู่ในตำนานนั้นรึ?” ผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนวัชระผู้นี้ยังไม่ค่อยจะยอมรับ กลืนน้ำลายไปเอื้อกหนึ่งแล้วกล่าวขึ้นมา

ผู้บำเพ็ญตนแดนมนุษย์กษัตรามองหน้าทีหนึ่ง กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “โลกนี้นอกจากพรรคเซียนเหินที่หนึ่งสำนักห้าราชันเซียนนั่นแล้ว ยังจะมีใครกล้าเรียกตัวเองว่าพรรคเซียนเหินได้อีก”

“แต่ว่า พวก พวกเขาคือหนึ่งสำนักห้าราชันเซียนนะเนี่ย ยืนหยัดอยู่มาไม่ล้มตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน” ผู้บำเพ็ญตนจากแดนวัชระยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง หากจะมีใครบอกว่าโลกนี้มีคนที่สามารถทำลายล้างพรรคเซียนเหินได้ เขาคนแรกที่ไม่เชื่อ ชื่อเสียงของพรรคเซียนเหินดังก้องอยู่ในหูของทุกคนไม่ว่าจะอยู่แดนไหนก็ตาม

“แล้วไงล่ะ? เมื่ออยู่ต่อหน้าคนโหดอันดับหนึ่งยังคงถูกทำลาย เมื่อคนโหดอันดับหนึ่งลงมือ โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ถูกจับไปบูชาสวรรค์ ราชินีเหรินเสียนถูกสังหาร เสียงร้องที่แหลมและโหยหวนดังก้องไปทั่วแดนมนุษย์กษัตรา” ผู้บำเพ็ญตนแดนมนุษย์กษัตรากล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

“โอรสราชันเซียน ราชินีราชันเซียน” ผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนวัชระถึงรู้สึกคอที่แห้งผากเมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว โอรสราชันเซียนและราชินีล้วนแล้วแต่ดำรงอยู่ในฐานะที่สูงส่ง เรียกได้ว่าเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกร แต่แล้วมาวันนี้กลับถูกเจ้าคนที่ชื่อคนโหดอันดับหนึ่งสังหารเสียนี่

เมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนี้แล้ว ผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนวัชระจึงไม่กล้ากล่าวมากความอีก

หลังจากที่มีผู้คนกรูกันเข้ามายังแดนมนุษย์กษัตราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีผู้คนจำนวนมากที่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคนโหดอันดับหนึ่งมากขึ้น หลายคนที่เพิ่งได้ยินเรื่องราวของคนโหดอันดับหนึ่งครั้งแรกก็จะแสดงความไม่พอใจ แต่เมื่อได้ยินว่าทำลายล้างพรรคเซียนเหิน แล้วผู้คนจำนวนมากก็จะเงียบกริบดั่งจั๊กจั่นในหน้าหนาว

แม้แต่หลวงจีนจากแดนวชิระ และเทียนเซิ่นเสินจุนแห่งแดนมหิงสาประจิมที่เดิมทีกล่าววาจาข่มผู้ที่ด้อยกว่า ด้วยการประกาศท้าสู้กับแดนมนุษย์กษัตรา เวลานี้ต่างหุบปากเงียบไม่พูดอะไรอีก พวกเขาต่างมีท่าทีที่หนักแน่นจริงจังหลังจากได้ยินเรื่องราวของคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว

“คนโหดอันดับหนึ่ง ก็คือคนโหดอันดับหนึ่งที่ชื่อหลี่ชิเย่ใช่หรือไม่? ” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มาจากแดนสมุนไพรแร่ธาตุ แดนวิญญาณสวรรค์ แดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ต่างรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้จนไม่รู้จะคุ้นอย่างไรแล้ว พวกเขาถึงกับอ้าปากตาค้าง

“โลกนี้ยังจะมีคนโหดอันดับหนึ่งกี่คน? ก็เขานั่นแหละ!” ผู้บำเพ็ญตนแดนมนุษย์กษัตรากล่าวเรียบเฉยขึ้นมา

“โอ้แม่เจ้า พวกเรากำลังอึดอัดใจอยู่ทีเดียวว่าทำไมคนโหดอันดับหนึ่งถึงได้หายตัวไป ที่แท้เขาอยู่ที่แดนมนุษย์กษัตรามาตลอด ดาวมฤตยูอย่างเขาไปถึงไหนฆ่าถึงนั่น เข่นฆ่าสายสำนักราชันเซียนเหมือนดั่งฆ่าหมูหมาอย่างนั้น โหดมาก!” บรรดาผู้บำเพ็ญตนของแดนสมุนไพรแร่ธาตุ แดนวิญญาณสวรรค์ แดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เคยรับรู้ถึงผลงานการสู้รบของคนโหดอันดับหนึ่งต่างตาค้างและเอ่ยขึ้นมา

บรรดายอดฝีมือทั้งสามแดนนี้ต่างรู้สึกแปลกใจที่คนโหดอันดับหนึ่งหายตัวไป ที่แท้เขาได้จากไปและกลับมายังแดนมนุษย์กษัตราแล้ว

จากการที่ผู้คนจำนวนมากได้เข้ามายังแดนมนุษย์กษัตราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในสำนักโบราณสี่เหยียนก็มีแขกมาเยือนเช่นกัน หลันหยุนจู้ หลงจิงเซียน เจี้ยนหวูซวง…พวกนางต่างมาถึงสำนักโบราณสี่เหยียนทีละคนสองคน

ในเวลานี้สำนักโบราณสี่เหยียนนับว่าคึกครื้นยิ่งนัก ทั่วทั้งสำนักโบราณสี่เหยียนแน่นขนัดไปด้วยแขกผู้มาเยือน กระทั่งมีส่วนหนึ่งที่มาเพื่อต้องการเยี่ยมคารวะคนโหดอันดับหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล