“อะไรเรียกว่าแอบ นี่เรียกว่าสง่าผ่าเผย” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “ดังนั้น จะว่าไปแล้วความงามของเจ้ามาเป็นนังหนูอุ่นเตียงให้กับข้ายังฝืนๆ อยู่เลย”
“อย่าได้ฝันกลางวันเลย!” หลันหยุนจู้แสดงอาการไม่พอใจด้วยจริตจะก้านและค้อนขวับให้ ท่วงท่าของเด็กสาวเผยออกมาให้เห็นเต็มที่ แน่นอน เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้วนางก็ไม่สามารถวางมาดอะไรได้
ในแดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้น หลันหยุนจู้นับว่าร้อนแรง และชื่อเสียงโด่งดังมาก ไม่รู้ว่าเป็นเทพธิดาในทัศนะคติของยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่อยู่จำนวนเท่าไร เป็นนางในฝันของดาวรุ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่เท่าไร เวลานี้ นางกลับกลายเป็นนังหนูที่เข้ากับคนง่ายเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่
“ในเมื่อมาถึงแล้ว งั้นก็เตรียมตัวให้ดีก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยออกมา
“ตกลง เจ้าไปถึงไหนข้าก็จะติดตามไปถึงนั่น” หลันหยุนจู้ตอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการแสดงท่าทางที่ออดอ้อนแต่อย่างใด
หลันหยุนจู้มาถึงได้ไม่นาน หลงจิงเซียนและเจี้ยนอู๋ซวงก็มาถึงสำนักโบราณสี่เหยียนเช่นกัน หลังจากที่พวกนางมาถึงแล้ว เจี้ยนอู๋ซวงพูดน้อยมาก แต่หลงจิงเซียนพลันเสมือนหนึ่งเปิดเครื่องเสียงขึ้นทันที
“เจ้าชิเย่เหม็น ข้าจะสยบเจ้า!” พลันที่หลงจิงเซียนเห็นหน้าหลี่ชิเย่ คำพูดคำแรกก็ออกมาทันที
“อาศัยเจ้าน่ะรึ?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลงจิงเซียน “อาศัยเจ้า เกรงว่ายังคงอ่อนไปนิดทักษะด้อยไปหน่อย”
หลงจิงเซียนใช่จะไม่มีเหตุผล จึงเปิดลัคนาของตนออกมา ปล่อยให้สิบสองลัคนาเรียงรายอยู่เหนือศีรษะของนาง ดูน่าเกรงขาม เปี่ยมด้วยกลิ่นอายเซียน
ถ้าหากบุคคลภายนอกเห็นสิบสองลัคนาของหลงจิงเซียนแล้วคงต้องตระหนกตกใจ นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้ที่มีสิบสองลัคนาในครอบครองนับว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เวลานี้หลงจิงเซียนกลับมีสิบสองลัคนาอยู่ในครอบครอง
“อึม ในที่สุดเจ้าก็ทำได้สำเร็จแล้ว” หลี่ชิเย่ไม่ได้รู้สึกตกใจ พยักหน้ากล่าวว่า “สิบสองลัคนาสำเร็จแล้ว เพียงแต่ทักษะยังไม่เพียงพอ ฐานเต๋าของเจ้าแน่นมากยากจะหาข้อตำหนิ ฝึกอีกนิด เจียระไนอีกหน่อยก็จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น”
หลี่ชิเย่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการฝึกจนสำเร็จสิบสองลัคนาของหลงจิงเซียนแม้แต่น้อยนิด จะอย่างไรเสียหลงจิงเซียนคือผู้ที่มีชะตาเซียนแต่กำเนิด พรสวรรค์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นชะตาเซียนแต่กำเนิดนี้ นับว่าพบเห็นได้ยากยิ่งนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน หาได้ยากยิ่งกว่าสิบสองลัคนาเสียอีก
หลงจิงเซียนรื้อทั้งหมดแล้วเริ่มต้นนับหนึ่งฝึกใหม่ นางพยามยามอดทนหมั่นฝึกวิชา ในที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น หลงจิงเซียนได้ก้าวทะลุขีดจำกัดของตน สำเร็จสิบสองลัคนาได้ในที่สุด
“ฮึ เจ้าจะชมข้าสักหลายๆ คำนี่จะตายหรือไง?” หลงจิงเซียนพูดขึ้นมาอย่างเผ็ดร้อนว่า “ชั่วดีอย่างไรข้าก็ได้สู้อดทนฝึกจนได้สิบสองลัคนาอย่างยากลำบาก ครั้งนั้นเป็นเจ้าที่ยุยงให้ข้าทำลายฐานเต๋าแล้วเริ่มต้นใหม่นะ เจ้ารู้หรือไม่ว่าการทำลายฐานเต๋าและเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดแค่ไหนหรือไม่? ข้าน่ะต้องทนทุกข์ทรมานมาครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกขังเอาไว้แต่ในบ้านห้ามก้าวออกนอกบ้านแม้เพียงครึ่งก้าว…”
ลักษณะการพูดของหลงจิงเซียนทั้งเร็วและเร่งรีบ แสดงถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อปฏิกิริยาของหลี่ชิเย่ แน่นอนที่สุด กล่าวสำหรับนางแล้วการล้มเลิกสิ่งที่มีอยู่เดิมแล้วเริ่มต้นใหม่ใช่เป็นเรื่องง่ายดายนัก จะอย่างไรเสียก่อนหน้านี้นางนับว่าประสบความสำเร็จมาแล้วไม่น้อยแลย ทั้งยังมีถึงสิบเอ็ดลัคนา ด้วยผลงานเช่นนี้หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นล่ะก็ ใครที่ไหนจะยอมล้มเลิกสิ่งที่มีอยู่เดิมแล้วมาเริ่มต้นใหม่!
“อึม ยอดเยี่ยมมาก” หลี่ชิเย่พยักหน้าและยิ้มกล่าวว่า “พยายามสู้ๆ ไม่แน่นักเจ้าอาจจะได้เป็นราชันเซียนเจียวเหิงคนที่สองเลยนะ”
“ฮึ แสดงละครตบตา!” หลงจิงเซียนรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งกับท่าทีของหลี่ชิเย่ที่ทำแบบขอไปที ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา แต่ว่า นังหนูผู้นี้อารมณ์แปรปรวนง่ายและรวดเร็ว นางยิ้มแต้กล่าวว่า “ข้านี่แหละเป็นผู้ใหญ่ย่อมใจกว้างไม่ถือสาหาความกับเจ้า รีบบอกมาเร็วไวแดนมนุษย์กษัตราพวกเจ้ามีสถานที่อะไรน่าเที่ยว ข้าจะไปเที่ยวให้หนำใจ ข้าไม่ได้เที่ยวมานานมากแล้วนะ”
“ใครบอกว่าจะไปเที่ยวกัน?” หลี่ชิเย่มองหน้านางทีหนึ่ง กล่าวเฉยเมยว่า “วันที่จะต้องขึ้นไปบนเก้าชั้นฟ้าใกล้เข้ามาแล้ว พวกเจ้าต้องพยายามมากไปกว่านี้ พวกของซวงเหยียนกำลังฝึกค่ายกลพิฆาตราชันเซียนอยู่ พวกเจ้าก็ไปร่วมด้วย อาศัยพรสวรรค์ของเจ้าสามารถช่วยพวกนางได้อีกแรง ในอนาคตพวกเจ้าจะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนค่ายกลนี้”
หลี่ชิเย่ได้มอบค่ายกลพิฆาตราชันเซียนให้กับพวกหลี่ซวงเหยียนได้ฝึกซ้อม หลี่ซวงเหยียนชื่นชอบเรื่องค่ายกลมาแต่เยาว์วัย จึงมีการศึกษาทางด้านนี้ที่ลึกซึ้งมาก ดังนั้น หลี่ชิเย่จึงมอบหมายให้นางเป็นผู้ดำเนินการควบคุมค่ายกลนี้ โดยมีพวกของเฉินเป่าเจียวคอยช่วยเหลือ
“ฮึ ฝึกอีกแล้วหรือ” หลงจิงเซียนเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับพูดขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา
หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “เจ้าคิดว่าขึ้นไปข้างบนเป็นการไปชมนกชมไม้อย่างนั้นรึ? ถ้าหากเจ้าเป็นเพียงมดปลวกตัวหนึ่งคงไม่มีอะไร จะอย่างไรเสียมดเปลวกอยู่ที่ตรงไหนก็ไม่ต่างกัน แต่ว่า หากเจ้าคิดจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดมันจะโหดร้ายทารุณยิ่งกว่าเก้าแดนเสียอีก ต่อให้เป็นราชันเซียนก็มีสิทธิ์ถูกสังหารได้เหมือนกัน ณ สถานที่เช่นนั้นแม้แต่ราชันเซียนยังคงต้องพยายามฝึกฝนต่อไป กระทั่งราชันเซียนปรคาศจากผู้ต่อกรยังคงต้องพยายาม แล้วเจ้ายังจะมีข้ออ้างใดไม่พยายามกันเล่า?”
“รู้แล้วหน่ะ พวกเราไปก็ได้ เจ้าจะได้ไม่ต้องพร่ำบ่นไม่หยุดเหมือนยายแก่” หลงจิงเซียนส่งเสียงฮึออกมา แม้ว่านางจะไม่สบอารมณ์และยังคงตกลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...