ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1701

ตอนที่ 1701 เกี่ยวกับแดนที่สิบ
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่ได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ที่ควรมาอย่างไรเสียก็ต้องมา ที่ควรจะไปจะอย่างไรเสียก็ต้องไป บางสิ่งบางอย่างต่อให้เจ้าคิดจะหลบหนีก็หนีไม่พ้น สิ่งของบางสิ่งต่อให้มันอยู่ตรงหน้าเราสุดท้ายมันยังคงผ่านไป”

ปู้เหลี่ยนเซียงพยักหน้าเบาๆ กอดหลี่ชิเย่เอาไว้เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า “ราชันเซียนไปยังแดนที่สิบก็เป็นการเผชิญหน้าอย่างไม่สะทกสะท้านอย่างหนึ่ง และไม่หลบหนีภารกิจของตนเอง ไม่หลบหนีโชคชะตาของตนเอง แต่เลือกที่จะต่อสู้เพื่อชะตาของตนอย่างไม่สะทกสะท้าน”

“จะพูดอย่างนี้ก็ได้ เป็นความจริงที่ราชันเซียนขึ้นไปยังแดนที่สิบเป็นทางเลือกทางหนึ่ง” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ขณะเดียวกันก็เป็นกฎเกณฑ์ทำให้ต้องเป็นเช่นนี้ เรื่องแบบนี้ใช่ว่าคิดจะหลบหลีกก็สามารถหลบได้ ต่อให้สามารถหลบไปได้ก็ต้องแลกด้วยค่าตอบแทน”

“ราชันเซียนจะต้องขึ้นไปยังแดนที่สิบให้ได้รึ?” ปู้เหลี่ยนเซียงถามด้วยความสงสัย

“ว่าการตามหลักการแล้วจะต้องเป็นเช่นนั้น” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ชะตาฟ้าคืออะไร? มันเกิดจากการรวมตัวของบรรดาสัจธรรมในเก้าแดน ในหนึ่งยุคสมัยของเก้าแดนก็จะมีชะตาฟ้าอยู่หนึ่งเส้น ชะตาฟ้าเส้นนี้ต้องอาศัยเก้าแดนมาทำการบ่มฟัก ลองคิดดู ชะตาฟ้าเส้นลักษณะเช่นนี้หากคงอยู่ที่เก้าแดนอย่างนั้น ไม่เพียงเป็นการสยบชนรุ่นหลังไม่ให้มีวันได้โงหัวโผล่ขึ้นมาเท่านั้น อีกทั้งภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เก้าแดนก็จะถูกชะตาฟ้าดูดเอาไปจนแห้ง ถึงเวลานั้นหมื่นเผ่าพันธุ์ย่อมจะต้องโรยรา…”

“…ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ หากไม่มีสภาพสิ่งแวดล้อมที่เป็นแดนสิบเช่นนั้น ราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดนตลอดไม่เพียงรองรับชะตาฟ้าไม่ไหว ขณะเดียวกันก็จะต้องถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ ดังนั้น กล่าวสำหรับราชันเซียนที่สืบทอดชะตาฟ้ามาแล้วนั้น ขอเพียงโอกาสของพวกเขาสุกงอมแล้ว พวกเขาจะต้องขึ้นไปยังแดนที่สิบ!”

ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ได้หยุดนิดหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อไปว่า “แม้แต่แดนที่สิบเอง เมื่อชะตาฟ้าแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว แม้แต่บรรดาเหล่าเทพและราชันเซียนก็ต้องหลบซ่อนตัวเช่นกัน มิฉะนั้นแล้ว พวกเขาก็ต้องเผชิญกับการถูกสวรรค์สังหาร เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว บุคคลผู้นั้นยิ่งมีความแข็งแกร่งมากเท่าไรสวรรค์สังหารก็จะมีความน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น กล่าวสำหรับราชันเซียนก็ดี เหล่าเทพเทวาก็ช่าง การสืบทอดชะตาฟ้าเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เส้นทางสายนี้ยาวไกลมากไม่มีที่สิ้นสุด เว้นแต่เจ้าจะล้มลงสักวัน”

เมื่อปู้เหลียนเซียงได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้วถึงกับนิ่งเงียบ ในสายตาของผู้อื่นมองว่าการเป็นราชันเซียนช่างมีหน้ามีตาเพียงใด เป็นผู้เกรียงไกรทั้งเก้าแดน ปราศจากผู้ต่อกรในยุคปัจจุบัน เป็นที่ใฝ่ฝันถึงของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ได้รับการกราบไหว้จากผู้คนนับไม่ถ้วน แต่ว่า ราชันเซียนเองก็มีจังหวะที่จนด้วยเกล้าเช่นกัน ราชันเซียนก็มีช่วงเวลาที่ลำบากใจ ราชันเซียนก็มีเวลาที่จำต้องตัดสินใจเลือกให้ได้

ทุกคนมองเห็นเพียงด้านที่ราชันเซียนดูมีหน้ามีตา มองเห็นราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า จะมีสักกี่คนที่มองเห็นราชันเซียนต้องเสียสละกันหละ? จะมีสักกี่คนที่มองเห็นความเจ็บปวดของราชันเซียนน่ะ

“เจ้าเคยบอกว่า อเวจียังคงมีราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดนอยู่” ปู้เหลียนเซียงทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นมา

หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง อเวจียังคงมีราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดน แต่ว่า เจ้าพวกแก่จนสมควรจะตายเหล่านี้มีข้อแตกต่าง พวกเขามีมิติมหัศจรรย์อยู่ในมือ นี่มันคือหนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้าเลยนะ มิติมหัศจรรย์สามารถช่วยพวกเขาให้หลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ของฟ้าดินได้ สามารถหลบเลี่ยงการลงทัณฑ์ของสวรรค์โจรได้ ครั้งนั้นอเวจีเคยถูกเหล่าราชันและเทพเทวาไล่ฆ่าจนไม่มีทางหนีได้อีกต่อไป นอกจากการกระทำเกี่ยวกับตัวของอเวจีเองที่ไม่ได้รับการยอมรับจากหมื่นเผ่าพันธุ์แล้ว ขณะเดียวกันยังมีส่วนสำคัญในระดับหนึ่งกับการที่พวกเขามีมิติมหัศจรรย์อยู่ในมือ ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากได้หนึ่งในเก้าสมบัติสวรรค์นพเก้า?”

“ประตูมิติก็เป็นหนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้าเหมือนกันนะเนี่ย” ปู้เหลียนเซียงถึงกับกล่าวทอดถอนใจขึ้นมา

“สิ่งนี้มีข้อแตกต่างแล้วล่ะ สมบัติสวรรค์ทุกชิ้นจะให้ผลที่แตกต่างกัน ความอภินิหารก็ต่างกัน” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ทว่าประตูมิติก็อีกไม่นาน ใกล้จะปรากฏตัวออกมาแล้ว”

เมื่อปู้เหลียนเซียงเห็นท่าทีของหลี่ชิเย่ที่มีแผนอยู่ในใจ รู้ว่าทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ในความควบคุมของเขา

“การที่อเวจีสามารถหลบหนีลงมาได้ก็เป็นเพราะมีมิติมหัศจรรย์ในมืออย่างนั้นรึ?”

“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง หากเจ้ามีสมบัติสวรรค์นพเก้าอยู่ในครอบครอง ต่อให้ไม่สามารถมีกำลังความสามารถเช่นปฐมบรรพบุรุษของพวกเจ้า ยังคงมีโอกาสหนีลงมาจากข้างบนได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ต้องแลกด้วยค่าตอบแทน ไม่ว่าจะอาศัยมิติมหัศจรรย์หนีลงมาจากข้างบน หรือว่าราชันเซียนอเวจีอาศัยมันเพื่อหลบเลี่ยงกฎเกณฑ์ของฟ้าดินก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทน”

“ถ้าหากไม่ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนล่ะก็จะไหวรึ ลองนึกภาพดู อเวจีมีราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดน บรรดาราชันเซียนที่รั้งอยู่เก้าแดนเหล่านี้หากรุกกลับ จะมีใครสักกี่คนสามารถต้านทานพวกเขาได้?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ต่อให้พวกเขามีโอกาสเฝ้าอยู่ที่เก้าแดน ต่อให้พวกเขาที่อาศัย44ทำการหลบเลี่ยง แต่ พวกเขายังคงถูกจำกัดด้วยสิ่งต่างๆ เช่นกัน”

“ครั้งนั้นขณะที่ข้าทำลายล้างอเวจีอยู่นั้น เพราะอะไรผู้ยิ่งใหญ่หลายคนของอเวจีจึงไม่ยอมคลานออกมาจากมิติมหัศจรรย์? เหตุผลง่ายมาก นอกจากพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการศึกที่ถ้ำเซียนมารแล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นเพราะได้รับพลังสยบต่างๆ นานา สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะออกมาจากมิติมหัศจรรย์ไม่ได้ แต่เมื่อไรที่พวกมันออกมาจะต้องพบกับการลงทัณฑ์ที่น่ากลัวยิ่ง ลองคิดดู การที่ราชันเซียนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันหลายองค์ การลงทัณฑ์ลักษณะเช่นนี้สุดจะจินตนาการได้อยู่แล้ว ไม่แน่นักพวกเขาอาจจะต้องเสียชีวิตลงเช่นนี้!”

เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้ทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “ครั้งนี้ข้าทำลายล้างพรรคเซียนเหิน ผู้ยิ่งใหญ่ของอเวจีไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ เหตุผลส่วนหนึ่งก็เป็นเช่นนี้เหมือนเดิม ยังมีเหตุผลอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาได้รับความเสียหายหนักอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเหตุผลสุดท้ายเป็นเพราะพวกเขาไม่มีความมั่นใจว่าสามารถจัดการกับข้าได้…”

“…พวกเขาไม่รู้ว่าข้ามีไพ่ตายอะไรอยู่ในมือ พวกเขารู้ดีแก่ใจว่า ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถทำได้จากการโจมตีที่เป็นที่สุดแล้วสังหารข้าได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นมิติมหัศจรรย์ของพวกเขาก็จะถูกเปิดเผยออกมา เมื่อถึงเวลานั้นก็จะเป็นจังหวะที่ข้าจะโต้กลับ ถึงตอนนั้นพวกเขาอย่าว่าแต่คิดจะมีชีวิตรอดเลย เกรงว่าแม้แต่มิติมหัศจรรย์ก็รักษาเอาไว้ไม่ได้!” เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วมีท่าทีที่จนด้วยเกล้าอยู่บ้าง และกล่าวว่า “พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นจิ้งจอกเฒ่าทั้งสิ้น เมื่อสามารถอดกลั้นมาได้อย่างยาวนานแล้ว จะอดกลั้นต่อไปก็คงไม่เป็นไร”

ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้แต่ทอดถอนใจออกมาอย่างจนปัญญา ครั้งนั้นเขาได้เตรียมตัวอย่างพร้อมสรรพขณะที่เข้าทำลายล้างพรรคเซียนเหิน ไม่เพียงมีราชามังกรดำในร่างแรกที่คอยตรวจตราอยู่บนท้องฟ้า เขายังได้เตรียมแผนสังหารอื่นๆ เอาไว้ ขอเพียงมิติมหัศจรรย์ของอเวจีปรากฎเขาจะต้องเล่นงานพวกเขาถึงตายในคราเดียวแน่นอน ไม่เพียงต้องการสังหารอเวจีเท่านั้น ยังต้องการชิงเอามิติมหัศจรรย์ของอเวจีมาด้วยในเวลาเดียวกันอีกด้วย

ปู้เหลียนเซียงก็ทอดถอนใจออกมาเบาๆ เช่นกัน นางเองรู้ว่าอเวจีเป็นหนามยอกอกของเขามาโดยตลอด และกำจัดไม่หมดสิ้นตลอดมา แม้นางเองอยากจะแบ่งเบาเรื่องนี้แต่ไม่ว่าใครก็ช่วยอะไรไม่ได้สำหรับเรื่องนี้ คิดจะกำจัดอเวจีให้สิ้นซากอย่างสิ้นเชิงใช่เป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก

“การขึ้นไปยังแดนที่สิบในครั้งนี้ เจ้ายังคงอาศัยวิธีการเดิมๆ รึ?”สุดท้าย ปู้เหลียนเซียงได้เอ่ยถามขึ้นมาแผ่วเบา ท่าทางเต็มไปด้วยความห่วงใยและความกังวล

“ไม่” หลี่ชิเย่ส่ายหัวเบาๆ และกล่าวว่า “วิธีแบบเดิมๆ คราวนี้ใช้การไม่ได้ มาคราวนี้ข้าไม่ได้ไปแดนที่สิบเพียงลำพังคนเดียว แต่เป็นการพาคนขึ้นไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้น คราวนี้ข้าสามารถอาศัยวิธีการที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”

หลี่ชิเย่ใช่ว่าจะเคยไปกลับระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น กระทั่งกล่าวได้ว่าตัวเขาเป็นเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถไปกลับระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบเช่นนี้ได้หลายครั้ง อีกทั้งทุกครั้งหลังจากไปกลับแล้วก็สามารถรักษาตัวเองเอาไว้ได้ นี่แหละคือสิ่งที่ฝืนลิขิตสวรรค์มากที่สุดของหลี่ชิเย่ ในนั้นเกี่ยวพันถึงความลับที่น้อยคนมากๆ ที่รู้

“มีความปลอดภัยหรือไม่?” ปู้เหลียนเซียงเอ่ยถามด้วยความกังวล

“การไปมาระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบไม่มีคำว่าปลอดภัยอยู่แล้ว เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่อันตรายมาแต่เดิมอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “แน่นอน หากจะเปรียบเทียบกันแล้ว การขึ้นไปจะง่ายกว่าเยอะเลย จะอย่างไรเสียสวรรค์โจรจะลงทัณฑ์ด้านนี้เบากว่ามากทีเดียว แต่หากคิดจะลงมาจากข้างบนล่ะก็ นั่นแหละคือเรื่องที่เจ็บปวดมากที่สุด”

“การลงมาจากข้างบนร่างจะต้องแหลกเหลวน่ะสิ” ปู้เหลียนเซียงถึงกับกล่าวด้วยความปวดใจ ลองนึกภาพดู ปฐมบรรพบุรุษของพวกเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เพื่อส่งตัวลูกหลานลงมาจากข้างบนยังต้องเสียชีวิต เกรงว่าด้วยการลงทัณฑ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ไม่ว่าใครลงมาก็ต้องร่างแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี

“ร่างกายแหลกเหลวไม่เพียงพอที่จะนำมาเปรียบเปรยมันได้อีกแล้ว โดยเฉพาะการฝ่าลงมาจากข้างบนดื้อๆ นั้น ขั้นตอนนี้จะเจ็บปวดยิ่งกว่าเสียอีก แต่ถ้าหากมีทางลับอื่นๆ ยังพอทน แต่โดยพื้นฐานแล้วขั้นตอนนี้จะมีความเจ็บปวดมาก ถ้าหากเจ้าไม่ถึงขั้นเหมือนดั่งปฐมบรรพบุรุษตระกูลปู้ล่ะก็ อย่าว่าแต่เจ็บปวดเลย คิดจะลงมาก็ทำไม่ได้” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ครั้งนั้นหากอเวจีไม่ได้มีมิติมหัศจรรย์ก็ไม่สามารถลงมาได้เช่นกัน!”

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ขึ้นไปเป็นครั้งแรก เมื่อเขาลงมาจากข้างบนเรียกได้ว่าต้องประสบกับความเจ็บปวดที่ยากจะจินตนาการ หากไม่เป็นเพราะเขาไม่มีวันตายล่ะก็ คงตายไปเป็นพันล้านครั้งแล้ว ไม่มีวันมีชีวิตลงมาจากข้างบนได้อยู่แล้ว

ภายหลังเขาได้รู้จักกับซู่เอ๋อร์ ขณะที่ซู่เอ๋อร์นั้นมีความแตกต่างจากผู้อื่น เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่สุดยอดเป็นหนึ่งไม่มีสองในหล้า ครั้งนั้นเขาร่วมมือกับซู่เอ๋อร์บรรลุถึงความลี้ลับค้นพบช่องโหว่ของสวรรค์โจรได้สำเร็จ ทำให้การไปกลับระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบของหลี่ชิเย่ลดความเจ็บปวดและยากลำบากลงไปมากทีเดียว

ต่อให้หลี่ชิเย่มีทางลัดที่เป็นหนึ่งไม่มีสองในหล้าในภายหลังก็ตาม แต่ว่า การไปกลับระหว่างเก้าแดนและแดนที่สิบยังคงต้องรับกับความเจ็บปวดที่สุดจะทนเหมือนเดิม โชคดีตรงที่เขามีความได้เปรียบไม่ตายไม่สลาย จึงทำให้เขาสามารถไปกลับท่ามกลางเก้าแดนและแดนที่สิบได้

อาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเก้าแดน หรือแดนที่สิบ นับแต่อดีตถึงปัจจุบันก็คงมีเพียงหลี่ชิเย่คนเดียวเท่านั้นที่ไปกลับระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบหลายครั้ง หากเป็นผู้อื่นคงกลายเป็นเถ้าธุลีไปนานแล้ว

“การขึ้นไปจากเก้าแดน โดยเฉพาะกล่าวสำหรับราชันเซียนแล้วหาใช่เป็นเรื่องยาก แต่ในชั่วพริบตาเดียวที่ขึ้นไปถึงนั่นแหละคือการทดสอบกำลังความสามารถแล้วหละ บรรดาเหล่าเทพและราชันเซียนที่อยู่ข้างบนจะไม่ยอมให้ได้สมปรารถนา พวกเขาล่าสังหารเจ้า ลองคิดดูการสังหารราชันเซียนมันคุ้มค่าอย่างไร ลำพังเลือด หรือชะตาฟ้าของราชันเซียน ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่อยากได้กันมาก”

ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมาและกล่าวว่า “ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาดเหล่าเทพและราชันบนนั้นไม่ต้องการให้ราชันเซียนของเก้าแดนพวกเราขึ้นไปแย่งพื้นที่ แย่งทรัพยากรกับพวกเขาตลอดมาอยู่แล้ว จังหวะที่ขึ้นไปถึงในเวลานั้น หากโชคดีหน่อยอาจพบเจอราชัน หรือเซียนหวางเพียงหนึ่งหรือสองคนที่มุ่งสังหารเจ้า แต่ถ้าโชคร้ายล่ะก็ อาจจะเจอะเจอราชัน หรือเซียนหวางหลายคนกระทั่งหลายสิบคนที่มุ่งสังหารเจ้า เมื่อถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับความโชคดีของเจ้าเองแล้วหละ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล