ปู้เหลี่ยนเซียงพยักหน้าเบาๆ กอดหลี่ชิเย่เอาไว้เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า “ราชันเซียนไปยังแดนที่สิบก็เป็นการเผชิญหน้าอย่างไม่สะทกสะท้านอย่างหนึ่ง และไม่หลบหนีภารกิจของตนเอง ไม่หลบหนีโชคชะตาของตนเอง แต่เลือกที่จะต่อสู้เพื่อชะตาของตนอย่างไม่สะทกสะท้าน”
“จะพูดอย่างนี้ก็ได้ เป็นความจริงที่ราชันเซียนขึ้นไปยังแดนที่สิบเป็นทางเลือกทางหนึ่ง” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ขณะเดียวกันก็เป็นกฎเกณฑ์ทำให้ต้องเป็นเช่นนี้ เรื่องแบบนี้ใช่ว่าคิดจะหลบหลีกก็สามารถหลบได้ ต่อให้สามารถหลบไปได้ก็ต้องแลกด้วยค่าตอบแทน”
“ราชันเซียนจะต้องขึ้นไปยังแดนที่สิบให้ได้รึ?” ปู้เหลี่ยนเซียงถามด้วยความสงสัย
“ว่าการตามหลักการแล้วจะต้องเป็นเช่นนั้น” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ชะตาฟ้าคืออะไร? มันเกิดจากการรวมตัวของบรรดาสัจธรรมในเก้าแดน ในหนึ่งยุคสมัยของเก้าแดนก็จะมีชะตาฟ้าอยู่หนึ่งเส้น ชะตาฟ้าเส้นนี้ต้องอาศัยเก้าแดนมาทำการบ่มฟัก ลองคิดดู ชะตาฟ้าเส้นลักษณะเช่นนี้หากคงอยู่ที่เก้าแดนอย่างนั้น ไม่เพียงเป็นการสยบชนรุ่นหลังไม่ให้มีวันได้โงหัวโผล่ขึ้นมาเท่านั้น อีกทั้งภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เก้าแดนก็จะถูกชะตาฟ้าดูดเอาไปจนแห้ง ถึงเวลานั้นหมื่นเผ่าพันธุ์ย่อมจะต้องโรยรา…”
“…ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ หากไม่มีสภาพสิ่งแวดล้อมที่เป็นแดนสิบเช่นนั้น ราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดนตลอดไม่เพียงรองรับชะตาฟ้าไม่ไหว ขณะเดียวกันก็จะต้องถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ ดังนั้น กล่าวสำหรับราชันเซียนที่สืบทอดชะตาฟ้ามาแล้วนั้น ขอเพียงโอกาสของพวกเขาสุกงอมแล้ว พวกเขาจะต้องขึ้นไปยังแดนที่สิบ!”
ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ได้หยุดนิดหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อไปว่า “แม้แต่แดนที่สิบเอง เมื่อชะตาฟ้าแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว แม้แต่บรรดาเหล่าเทพและราชันเซียนก็ต้องหลบซ่อนตัวเช่นกัน มิฉะนั้นแล้ว พวกเขาก็ต้องเผชิญกับการถูกสวรรค์สังหาร เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว บุคคลผู้นั้นยิ่งมีความแข็งแกร่งมากเท่าไรสวรรค์สังหารก็จะมีความน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น กล่าวสำหรับราชันเซียนก็ดี เหล่าเทพเทวาก็ช่าง การสืบทอดชะตาฟ้าเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เส้นทางสายนี้ยาวไกลมากไม่มีที่สิ้นสุด เว้นแต่เจ้าจะล้มลงสักวัน”
เมื่อปู้เหลียนเซียงได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้วถึงกับนิ่งเงียบ ในสายตาของผู้อื่นมองว่าการเป็นราชันเซียนช่างมีหน้ามีตาเพียงใด เป็นผู้เกรียงไกรทั้งเก้าแดน ปราศจากผู้ต่อกรในยุคปัจจุบัน เป็นที่ใฝ่ฝันถึงของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ได้รับการกราบไหว้จากผู้คนนับไม่ถ้วน แต่ว่า ราชันเซียนเองก็มีจังหวะที่จนด้วยเกล้าเช่นกัน ราชันเซียนก็มีช่วงเวลาที่ลำบากใจ ราชันเซียนก็มีเวลาที่จำต้องตัดสินใจเลือกให้ได้
ทุกคนมองเห็นเพียงด้านที่ราชันเซียนดูมีหน้ามีตา มองเห็นราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า จะมีสักกี่คนที่มองเห็นราชันเซียนต้องเสียสละกันหละ? จะมีสักกี่คนที่มองเห็นความเจ็บปวดของราชันเซียนน่ะ
“เจ้าเคยบอกว่า อเวจียังคงมีราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดนอยู่” ปู้เหลียนเซียงทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นมา
หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง อเวจียังคงมีราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดน แต่ว่า เจ้าพวกแก่จนสมควรจะตายเหล่านี้มีข้อแตกต่าง พวกเขามีมิติมหัศจรรย์อยู่ในมือ นี่มันคือหนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้าเลยนะ มิติมหัศจรรย์สามารถช่วยพวกเขาให้หลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ของฟ้าดินได้ สามารถหลบเลี่ยงการลงทัณฑ์ของสวรรค์โจรได้ ครั้งนั้นอเวจีเคยถูกเหล่าราชันและเทพเทวาไล่ฆ่าจนไม่มีทางหนีได้อีกต่อไป นอกจากการกระทำเกี่ยวกับตัวของอเวจีเองที่ไม่ได้รับการยอมรับจากหมื่นเผ่าพันธุ์แล้ว ขณะเดียวกันยังมีส่วนสำคัญในระดับหนึ่งกับการที่พวกเขามีมิติมหัศจรรย์อยู่ในมือ ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากได้หนึ่งในเก้าสมบัติสวรรค์นพเก้า?”
“ประตูมิติก็เป็นหนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้าเหมือนกันนะเนี่ย” ปู้เหลียนเซียงถึงกับกล่าวทอดถอนใจขึ้นมา
“สิ่งนี้มีข้อแตกต่างแล้วล่ะ สมบัติสวรรค์ทุกชิ้นจะให้ผลที่แตกต่างกัน ความอภินิหารก็ต่างกัน” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ทว่าประตูมิติก็อีกไม่นาน ใกล้จะปรากฏตัวออกมาแล้ว”
เมื่อปู้เหลียนเซียงเห็นท่าทีของหลี่ชิเย่ที่มีแผนอยู่ในใจ รู้ว่าทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ในความควบคุมของเขา
“การที่อเวจีสามารถหลบหนีลงมาได้ก็เป็นเพราะมีมิติมหัศจรรย์ในมืออย่างนั้นรึ?”
“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง หากเจ้ามีสมบัติสวรรค์นพเก้าอยู่ในครอบครอง ต่อให้ไม่สามารถมีกำลังความสามารถเช่นปฐมบรรพบุรุษของพวกเจ้า ยังคงมีโอกาสหนีลงมาจากข้างบนได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ต้องแลกด้วยค่าตอบแทน ไม่ว่าจะอาศัยมิติมหัศจรรย์หนีลงมาจากข้างบน หรือว่าราชันเซียนอเวจีอาศัยมันเพื่อหลบเลี่ยงกฎเกณฑ์ของฟ้าดินก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทน”
“ถ้าหากไม่ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนล่ะก็จะไหวรึ ลองนึกภาพดู อเวจีมีราชันเซียนที่รั้งอยู่ในเก้าแดน บรรดาราชันเซียนที่รั้งอยู่เก้าแดนเหล่านี้หากรุกกลับ จะมีใครสักกี่คนสามารถต้านทานพวกเขาได้?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ต่อให้พวกเขามีโอกาสเฝ้าอยู่ที่เก้าแดน ต่อให้พวกเขาที่อาศัย44ทำการหลบเลี่ยง แต่ พวกเขายังคงถูกจำกัดด้วยสิ่งต่างๆ เช่นกัน”
“ครั้งนั้นขณะที่ข้าทำลายล้างอเวจีอยู่นั้น เพราะอะไรผู้ยิ่งใหญ่หลายคนของอเวจีจึงไม่ยอมคลานออกมาจากมิติมหัศจรรย์? เหตุผลง่ายมาก นอกจากพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการศึกที่ถ้ำเซียนมารแล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นเพราะได้รับพลังสยบต่างๆ นานา สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะออกมาจากมิติมหัศจรรย์ไม่ได้ แต่เมื่อไรที่พวกมันออกมาจะต้องพบกับการลงทัณฑ์ที่น่ากลัวยิ่ง ลองคิดดู การที่ราชันเซียนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันหลายองค์ การลงทัณฑ์ลักษณะเช่นนี้สุดจะจินตนาการได้อยู่แล้ว ไม่แน่นักพวกเขาอาจจะต้องเสียชีวิตลงเช่นนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...