ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1706

ตอนที่ 1706 ชะตาฟ้ากำเนิดสำเร็จ
ระหว่างที่หลี่ชิเย่เข้าไปในถ้ำเซียนมารนั้น ในเก้าแดนได้เกิดเรื่องใหญ่ที่ทำให้ทั่วทั้งเก้าแดนต่างดีใจกันขึ้นมา ทั่วเก้าแดนได้ก่อเกิดคลื่นที่โหมสาดซัดขึ้น

“ตูม…ตูม…ตูม…” ในค่ำคืนนี้เอง ชะตาฟ้าที่ปรากฏอยู่ในเก้าแดนพลันกลับกลายเป็นวังวนขนาดยักษ์ โดยที่วังวนขนาดยักษ์ปรากฏให้เห็นได้ทุกที่ในเก้าแดน ไม่ว่าจะอยู่ที่ตรงไหน เวลาใด นาทีนี้ก็สามารถมองเห็นวังวนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

สิ่งนี้คือชะตาฟ้าที่ก่อนหน้านั้นมีการแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ต่างๆ นานานั้นเอง ที่บางครั้งเหมือนมังกรแท้จริง บางครั้งเหมือนหงส์ บางครั้งเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์…

แต่เวลานี้ ในที่สุดชะตาฟ้าได้มีรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะปรากฎยังที่แห่งใดในเก้าแดนก็จะมีรูปลักษณ์เช่นนี้ คือเป็นวังวนขนาดยักษ์

ติดตามมาด้วยเสียงดังตูมตามเป็นระลอก ในที่สุดรูปลักษณ์สุดท้ายของชะตาฟ้าก็ได้ก่อเกิดขึ้น นั่นก็คือเป็นวังวนขนาดยักษ์ที่แขวนอยู่บนท้องฟ้า ขณะที่ชะตาฟ้าได้ก่อกำเนิดเป็นรูปลักษณ์สุดท้ายนั้น สรรพชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนในเก้าแดนล้วนแล้วแต่ถูกทำให้ตื่นตระหนก ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างอดที่จะมีโอกาสได้มองเห็นขั้นตอนระหว่างก่อกำเนิดเป็นรูปลักษณ์สุดท้ายของชะตาฟ้าด้วยสายตาของตนเอง

“ภาพเช่นนี้ดูกี่ครั้งก็ไม่รู้จักเบื่อนะเนี่ย ถ้าหากทุกยุคสมัยล้วนแล้วแต่สามารถมองเห็นลักษณะเช่นนี้ ชาตินี้นับว่าไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกแล้ว” มีประเภทแก่จนสมควรจะตายได้แล้วมองดูชะตาฟ้าที่อยู่บนท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นวังวนถึงกับเอ่ยขึ้นด้วยความทอดถอนใจออกมา

สำหรับผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เพิ่งจะได้เห็นภาพเช่นนี้เป็นครั้งแรกนั้น พวกเขามองดูชะตาฟ้าที่อาศัยลักษณะสุดท้ายปรากฏตัวออกมา ต่างรู้สึกตื่นเต้นยินดียิ่งนัก

“ชะตาฟ้าสำเร็จเป็นรูปลักษณ์สุดท้ายแล้ว จากนี้ไปควรเป็นช่วงเวลาที่จะได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าแล้ว มีเพียงได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าเท่านั้นจึงมีสิทธิ์เข้าช่วงชิงชะตาฟ้า และมีสิทธิ์ได้เป็นราชันเซียนจากการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ด้วยการชนะและสืบทอดชะตาฟ้า” มีรุ่นอาวุโสที่มองดูชะตาฟ้าปรากฏเป็นรูปลักษณ์สุดท้ายออกมาแล้วถึงกับบ่นพึมพำออกมา

จังหวะที่ชะตาฟ้าสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างนั้น ดาวรุ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่จะได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า แน่นอน คงไม่ใช่ใครก็สามารถได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าอยู่แล้ว อย่างเช่นดาวรุ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลือกก้าวเดินไปบนเส้นทางโลกาวิถีนั้น ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่บุคคลผู้นั้นจะได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า เนื่องจากวินาทีที่เลือกเดินโลกาวิถีก็เป็นการบ่งบอกว่าไม่มีวาสนาต่อชะตาฟ้าอีกนับแต่นั้นเป็นต้นไป

สำหรับยอดฝีมือที่เลือกก้าวเดินบนเส้นทางสวรรค์วิถีนั้น ไม่ได้หมายความว่าหากบุคคลผู้นั้นก้าวเดินบนเส้นทางสวรรค์วิถีแล้วก็สามารถได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า ถ้าหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า โดยสภาพทั่วไปจะมีสองกรณีที่ไม่ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าก็คือ ข้อแรก ทักษะยุทธยังไม่แกร่งพอ ข้อสอง สัจธรรมยังไม่สมบูรณ์พอ

สำหรับข้อแรกนั้นสามารถเข้าใจได้โดยสิ้นเชิง จะอย่างไรเสียกำลังความสามารถไม่พอแล้วจะมาแย่งชิงชะตาฟ้าได้อย่างไรกัน สำหรับข้อที่สองนั้นก็เข้าใจได้ไม่ยาก เนื่องจากสัจธรรมไม่สมบูรณ์พอ หรืออีกนัยหนึ่งว่าสัจธรรมที่บุคคลนั้นสร้างขึ้นมีลักษณะประหลาดมาแต่ต้นไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะไม่สามารถรองรับพลังจากชะตาฟ้าได้ สัจธรรมในลักษณะเช่นนี้จะได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าได้อย่างไรกันเล่า

ชะตาฟ้านั้นมีพลังของหนึ่งยุคสมัย ซึ่งได้รวมเอาพลังหมื่นสัจธรรมจากเก้าแดนเอาไว้ เป็นพลังที่มีความแข็งแกร่ง และพาลยิ่งนัก ซึ่งหาใช่ผู้ใดก็ตามล้วนแล้วแต่สามารถสืบทอดพลังเช่นนี้ได้ เฉกเช่นพลังเช่นนี้จำเป็นต้องสัจธรรมที่หนึ่งไม่เป็นสองรองใคร และสมบูรณ์แข็งแกร่งจึงสามารถไปสืบทอดมันได้

มิฉะนั้นล่ะก็ ถ้าหารสัจธรรมของบุคคลผู้นั้นไม่สมบูรณ์เพียงพอ ต่อใหอาศัยวิธีการที่ฝืนลิขิตสวรรค์ไปสืบทอดชะตาฟ้านี้เอาไว้ นั่นย่อมหมายถึงสัจธรรมของบุคคลผู้นั้นต้องแตกสลาย ทำให้กายเนื้อและชะตาแท้ก็ต้องถูกทำลาย สุดท้ายลงเอยด้วยตัวตายสัจธรรมสูญสลายไปในที่สุด

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากที่ชะตาฟ้าได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นดาวรุ่งหรือไม่ ขอเพียงมีกำลังความสามารถถึงระดับที่กำหนด และมีสัจธรรมที่สมบูรณ์หนึ่งไม่เป็นสองรองใครอยู่ในครอบครอง ก็จะได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า

แน่นอนที่สุด การได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าไม่ได้หมายความว่าสามารถเป็นราชันเซียนได้ทันที และไม่ได้หมายความว่าสามารถสืบทอดชะตาฟ้าได้เลย ยังคงต้องผ่านการต่อสู้ ฆ่าฟัน เพื่อเอาชนะคู่ชิงชะตาฟ้าที่เป็นคู่ต่อสู้คนอื่นๆ สุดท้ายแล้วจึงสามารถสืบทอดชะตาฟ้ากลายเป็นราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุคได้ในที่สุด

เสียง “ตูม…” ดังขึ้น ชะตาฟ้าได้ปรากฏตัวออกมาด้วยรูปลักษณ์สุดท้ายในที่สุด ยามที่มันได้กลับกลายเป็นรูปลักษณ์สุดท้ายนั้น เวลานี้วังวนขนาดยักษ์ได้หมุนวนอยู่บนท้องฟ้าไม่หยุดนิ่ง อีกทั้งวังวนขนาดยักษ์ที่ปรากฏอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ากลับไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา มันหมุนวนเคลื่อนไปอย่างช้าๆ มีความเป็นวงกลมยิ่งนัก กระทั่งบางครั้งทำให้ผู้คนไม่รู้สึกว่ามันมีการหมุนวนอยู่อย่างนั้น

ขณะที่ชะตาฟ้าที่เป็นเหมือนดั่งวังวนขนาดใหญ่ที่หมุนเคลื่อนไม่หยุดนิ่งอยู่บนท้องฟ้านั้น สามารถมองเห็นสัจธรรมและกฎเกณฑ์แต่ละสายที่อยู่ภายในวังวนมีการหมุนตามไปด้วย อีกทั้งจังหวะการหมุนล้วนเป็นจังหวะเดียวกัน หลักกฎเกณฑ์แต่ละสายที่หมุนเคลื่อนที่จะก้าวไปในจังหวะเดียวกันกับการหมุนของวังวนขนาดยักษ์ จนกล่าวได้ว่าผู้คนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเพราะตัวของชะตาฟ้าเองที่หมุนเคลื่อนไป หรือว่าหลักกฎเกณฑ์แต่ละสายที่นำพาให้สัจธรรมหมุนเคลื่อนไปกันแน่

หลักกฎเกณฑ์ที่อยู่ภายในวังวนล้วนแล้วแต่แลดูเป็นของใหม่อะไรปานนั้น ทุกๆ สายของกฎเกณฑ์ล้วนแล้วแต่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายขมุกขมัว อีกทั้งกฎเกณฑ์แต่ละสายล้วนแล้วแต่ ตลบอบอวบด้วยพลังที่อิ่มเอิบ ไม่ปรากฏร่องรอยของการเสื่อมโรยราแม้แต่น้อย เหมือนว่ากฎเกณฑ์แต่ละสายล้วนแล้วแต่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นในยุคที่ฟ้าดินยังไม่ได้แบ่งแยกเป็นสอง มันนำเอาพลังในยุคที่ฟ้าดินยังไม่ได้แบ่งแยกเป็นสองมาด้วย

สิ่งนี้แหละคือกฎเกณฑ์แห่งชะตาฟ้า และก็คือกฎเกณฑ์แรกเริ่มกำเนิดฟ้าดิน และเป็นสิ่งที่ชะตาฟ้าทำให้ผู้คนหลงใหลมากที่สุด และเป็นสิ่งที่เย้ายวนใจผู้คนมากที่สุดของชะตาฟ้า

บุคคลใดก็ตาม หากฝึกวิชาจนถึงระดับหนึ่งแล้วล้วนแล้วแต่สามารถควบคุมกฎเกณฑ์ โดยเฉพาะยอดฝีมือผู้ฝึกเคล็ดวิชาราชันเซียนจนถึงระดับหนึ่งแล้ว พวกเขาก็จะสามารถฝึกกฎเกณฑ์ราชันเซียนขึ้นมาได้ อีกทั้งกฎเกณฑ์ในลักษณะเช่นนี้จะใกล้เคียงกับกฎเกณฑ์ของชะตาฟ้า เป็นกฎเกณฑ์ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก และฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งนัก

แต่ว่า มันก็เป็นได้แค่ใกล้เคียงเท่านั้นเอง หาใช่กฎเกณฑ์ชะตาฟ้าที่แท้จริง หลังจากที่ชะตาฟ้าใหม่ถือกำเนิดขึ้นแล้ว มันจะนำมาซึ่งกฎเกณฑ์ที่ใหม่เอี่ยมทั้งหมด นำมาซึ่งกฎเกณฑ์ที่มีพลังในยุคที่ฟ้าดินยังไม่ได้แบ่งแยกเป็นสอง เป็นกฎเกณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยความขมุกขมัว

ที่สำคัญและมีค่ามากกว่านั้นก็คือ กฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นของใหม่ทั้งหมด เป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่เคยถูกผู้ใดนำมาใช้อยู่ก่อน ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าพลังของกฎเกณฑ์ลักษณะเช่นนี้ยังไม่เคยมีการเสื่อมถอยมาก่อน

เฉกเช่นทายาทรุ่นหลังจำนวนมากที่สามารถฝึกเคล็ดวิชาราชันเซียนได้ เมื่อพวกเขาฝึกไปได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว กระทั่งสามารถสำแดงสุดยอดอานุภาพของราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมา โดยเฉพาะผู้ที่ฝึกเคล็ดวิชาชะตาฟ้า กระทั่งสามารถสำแดงพลังที่คล้ายดั่งพลังของชะตาฟ้าออกมาได้

แต่ว่า บรรดาอานุภาพราชันเซียนก็ดี เสมือนดั่งพลังของชะตาฟ้าก็ช่าง ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถเทียบเคียงกับชะตาฟ้าที่แท้จริงได้ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พลังของชะตาฟ้าที่ใหม่ทั้งหมดคือพลังที่มีความอิ่มเอิบมากที่สุด เป็นพลังที่ไม่เคยมีการเสื่อมถอยมาก่อน และพลังประเภทนี้ก็จะมีความแข็งแกร่งมากที่สุด

สิ่งนี้เองก็คือเหตุผลหนึ่งที่เหตุใดราชันเซียนจะเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรในยุคสมัยหนึ่ง เนื่องเพราะเขามีพลังที่ผู้คนในโลกหล้าไม่เคยมีมาก่อนในครอบครอง เขามีพลังประเภทหนึ่งที่ไม่เคยได้ถูกใช้มาก่อนอยู่ในครอบครอง เป็นพลังที่ไม่เคยมีการเสื่อมถอยมาก่อน นี่แหละคือหนึ่งในเหตุผลที่ราชันเซียนปราศจากผู้ต่อกร!

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ใฝ่ฝันถึง เมื่อมองดูชะตาฟ้าที่กำลังหมุนวน ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่อยากได้เอาไว้มาก นี่คือพลังที่ปราศจากผู้ต่อกรนะเนี่ย ไม่ว่าใครก็ตามขอเพียงได้พลังเช่นนี้มาครอบครองก็จะปราศจากผู้ต่อกรในเก้าแดน เป็นไปไม่ได้ที่พลังเช่นนี้จะไม่ทำให้ผู้คนต้องใจเต้นตูมตาม

เสียง “แว้งค์…” ดังขึ้น ชั่วข้ามคืนนี้เอง ปรากฎว่ามีดาวรุ่งและยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่บางส่วนในเก้าแดนได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า

ชายหนุ่มที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียง เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น บริเวณหน้าผากของเขาปรากฎเป็นวังวนขนาดเล็กขึ้นมา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปลักษณ์สุดท้ายของชะตาฟ้านั่นเอง

“โอ้แม่จ๋า ข้าได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าแล้ว” ชายหนุ่มที่กำลังหลับใหลอยู่พลันตื่นขึ้นมาโดยทันที เมื่อเห็นวังวนขนาดเล็กบริเวณหน้าผากของตนแล้ว ถึงกับตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง ลุกพรวดขึ้นมาและวิ่งไปแจ้งข่าวให้กับผู้อาวุโสของตนในทันที

มีเทพธิดาที่ได้ออกไปมองดูชะตาฟ้าที่อยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับผู้อาวุโสของตน ในเวลานี้เอง เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ทันใดนั้นเอง บริเวณกลางหน้าผากของเทพธิดาผู้นี้ก็ปรากฎเป็นวังวนขนาดเล็กขึ้นมาเช่นกัน

“ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าแล้ว” บรรดาผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้างกายเทพธิดาพลันตื่นเต้นดีใจกันเมื่อได้เห็นวังวนขนาดเล็กนี้แล้ว เทพธิดาเองก็พลันรู้สึกลิงโลดขึ้นมาเช่นกัน

ในเวลานี้ ปรากฏข่าวดีขึ้นในเก้าแดนไม่ขาด บรรดาดาวรุ่ง และยอดฝีมือที่มีคุณสมบัติต่างทยอยกันได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า

หลวงจีนจากแดนวชิระ เทียนเซิ่นเสินจุนจากแดนมหิงสาประจิม ไต้ซือหวูซินจากแดนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์…ต่างก็ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า ในเวลานี้เก้าแดนต่างดีใจกันถ้วนหน้า เก้าแดนดูคึกคักเดือดพล่านกันไปหมด

ในบรรดาสตรีอย่างหลงจิงเซียน หมิงเย่เสวี่ย เหมยซู่เหยา…ดาวรุ่งที่ยโสโอหังล้วนแล้วแต่ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า เฉกเช่นหลงจิงเซียนหากไม่ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าล่ะก็ นับว่าไร้ความยุติธรรมโดยแท้จริงแล้วหละ

หลังจากบรรดาหญิงสาวได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าแล้ว ปรากฏว่ากลับแสดงออกถึงความเฉยเมย จะอย่างไรเสียพวกนางต่างรู้ดีแล้วว่าชะตาฟ้าได้มีเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าใครก็แย่งเอาไปจากหลี่ชิเย่ไม่ได้

มีเพียงนังหนูหลงจิงเซียนเท่านั้นที่แสดงท่าทีอยากจะลอง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กลิ่นอายการฆ่าพลุ่งพล่าน และกล่าวว่า “ฮึ ฮึ ฮึ ไม่รู้ว่าเจ้าชิเย่เหม็นได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าหรือไม่ หึ หึ ถ้าหากไม่ได้รับ ข้านี่แหละจะดับความฮึกเหิมของเขาเสีย ฮึ ฮึ ข้าจะต้องสยบชิเย่เหม็นให้ได้! ครั้นพูดมาถึงตรงนี้แล้วนางเองถึงกับหัวเราะออกมา

บรรดาดาวรุ่งที่ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า แคว้นเจ้าลัทธิที่เป็นชาติกำเนิดของพวกเขาถึงกับเฉลิมฉลองกันทั่วแคว้น กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดยิ่งใหญ่ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะได้เป็นราชันเซียนหรือไม่นั้น อย่างน้อยที่สุดกล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว การได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าเท่ากับได้ก้าวเข้าใกล้ราชันเซียนที่มั่นคงอีกก้าวหนึ่งแล้ว

ขณะเดียวกัน สำหรับยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่หากสามารถได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า ถือว่าไม่เสียทีกับการขยันหมั่นเพียงฝึกวิชามานานหลายสิบปีกระทั่งเป็นร้อยปี เท่ากับความเพียรพยายามของพวกเขาได้รับสนองตอบแล้วในที่สุด

ดังนั้น เวลานี้จึงมีสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากที่ดีใจฉลองกันทั้งสำนัก อีกทั้งต่างทยอยกันเจรจาขอความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับสำนักอื่นๆ เพื่อเป็นการดึงเอาสำนักที่มีความแข็งแกร่งมาตระเตรียมเอาไว้สำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อช่วงชิงชะตาฟ้า

จะอย่างไรเสีย การต่อสู้ครั้งสุดท้ายบางครั้งไม่ได้เปรียบเทียบกำลังความสามารถของผู้ที่เป็นรัชทายาทเพียงอย่างเดียวอยู่เสมอๆ บางครั้งยังขึ้นอยู่กับธาตุแท้ภายในของสำนักทั้งสองฝ่าย กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว พันธมิตรยิ่งมากก็จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน

แน่นอน มีคนที่ดีใจย่อมมีคนที่ผิดหวัง ดาวรุ่งบางคนแม้ว่าจะมีความขยันหมั่นเพียรในการฝึกวิชาเป็นอันมาก และทักษะยุทธก็มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ว่า กลับไม่ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้า

บรรดาดาวรุ่งและยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากชะตาฟ้าเหล่านั้น พลันกลับกลายเป็นคนจิตตกทันที ได้รับความกระทบกระเทือนในทันที ความเพียรพยายามหลายสิบปีของพวกเขาก็เสมือนหนึ่งตักน้ำด้วยตะกร้าสานพลันเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า ผลกระทบเช่นนี้กล่าวสำหรับ พวกเขาแล้วนับว่าหนักหน่วงเหลือเกิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล