ชะตาฟ้าที่ลอยแขวนอยู่บนท้องฟ้ามาโดยตลอด อีกทั้งมันมีการหมุนอยู่อย่างนั้นมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่การหมุนของมันเป็นการหมุนไปเรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่งและเป็นไปตามธรรมชาติมาก เป็นจังหวะเดียวกันกับสัจธรรมฟ้าดิน สรรพชีวิตของเก้าแดนล้วนแล้วแต่คุ้นชินกับการที่ชะตาฟ้าแขวนอยู่ตรงนั้นและหมุนวนไม่หยุดนิ่งอย่างนั้น
แต่ทว่า การหมุนของชะตาฟ้าเวลานี้กลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง ชะตาฟ้ายิ่งหมุนยิ่งเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนต้องการกลับกลายเป็นพายุหมุนอย่างนั้น จากนั้นวังวนชะตาฟ้าที่หมุนเร็วดุจดั่งพายุหมุนกลับมีเสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบเกิดขึ้น เหมือนว่าที่ตรงนั้นจะมีสิ่งมีชีวิตต้องการวิ่งออกมา
“ตูม” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในขณะที่ทุกคนกังตกใจอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของชะตาฟ้าอยู่ ทันใดนั้น วังวนก็ได้หายไป ปรากฏสัจธรรมสูงสุดที่เจิดจรัสยิ่งอยู่บนท้องฟ้า
ขณะที่สัจธรรมสูงสุดสายหนึ่งปรากฏขึ้นนั้น ได้เปล่งประกายที่เจิดจรัสยิ่งออกมา โดยที่สัจธรรมทั้งสายปรากฏอักขระยันต์ที่โบราณเรียบง่ายแวบวับ เมื่ออักขระยันต์ลักษณะเช่นนี้ถักทอเข้าด้วยกัน เสมือนหนึ่งได้กลายเป็นบทคัมภีร์สัจธรรมสูงสุดอย่างนั้น และภายในบทคัมภีร์นี้ได้ครอบครองพลังที่ไม่มีสิ้นสุดอยู่ในนั้น
พลังดังกล่าวได้รวมเอาพลังขมุกขมัว รวมเอาพลังของโลกในยุคดึกดำบรรพ์ก่อนจะมีการแยกฟ้าดินออกเป็นสองส่วน รวมเอาพลังอารมณ์ความรู้สึกและความปรารถนาของมนุษย์ปุถุชนทั่วไปนับหนึ่งล้านล้านชีวิต และรวมเอาพลังหมื่นสัจธรรมแห่งฟ้าดิน…
มันเป็นสัจธรรมสายใหม่ทั้งหมด ดุจดั่งแรกเริ่มกำเนิดฟ้าดินอย่างนั้น พลังที่รวมอยู่ในสัจธรรมสายนี้ช่างมีความดั้งเดิม โบราณเรียบง่ายอะไรอย่างนั้น พลังสัจธรรมสายนี้ไม่เคยมีการใช้มาก่อน พลังที่อยู่ในสัจธรรมจึงเปี่ยมล้นยิ่งนัก โดยพลังมีความครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ขาดแม้แต่นิดเดียว
ขณะที่สัจธรรมที่เจิดจรัสสายนี้ได้ปรากฏออกมาแล้ว บรรดาผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของเก้าแดนต่างรับรู้การสอดประสานร่วมกัน สัจธรรมของผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนแล้วแต่ประสานเสียงร่วมขึ้นมา เวลานี้ ผู้บำเพ็ญตนของเก้าแดนนับล้านล้านคนต่างรับรู้ถึงความปิติยินดีของสัจธรรม ในขณะนี้ สัจธรรมผู้บำเพ็ญตนของเก้าแดนนับล้านล้านคนล้วนแล้วแต่ปรากฎขึ้นมาอยู่ข้างกาย สัจธรรมแต่ละสายที่ปรากฎขึ้นมานั้นเสมือนหนึ่งเป็นนกยูงแต่ละตัวที่รำแพนเบ่งบานออกมา
ไม่ว่าตัวของผู้บำเพ็ญตนเองจะยินดีหรือไม่ก็ตาม เมื่อสัจธรรมของตนแผ่ออกมาด้วยความปิติยินดีนั้น สัจธรรมของพวกเขาได้มีการสอดประสาน และทุกๆ หลักกฎเกณฑ์ล้วนแล้วแต่ปรากฎออกมา เสมือนดั่งนกยูงที่รอไม่ไหวต้องการนำเสนอขนที่สวยงามที่สุดออกมาแสดงให้ผู้คนได้ชื่นชม
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย?” ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากของเก้าแดนต่างตื่นตระหนกขึ้นมา เมื่อรับรู้ถึงสัจธรรมของตนสอดประสานขึ้นมา โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ พวกเขาไม่เคยประสบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จึงทำให้ตกใจเป็นยิ่งนัก
ในเวลานี้ได้ยินเสียงดัง “แว้งค์” สัจธรรมสูงสุดที่แขวนอยู่บนท้องฟ้าเริ่มจางหายไป เดิมชะตาฟ้าจะลอยแขวนอยู่บนท้องฟ้าทุกแห่งของเก้าแดน แต่ว่า เวลานี้ชะตาฟ้าของแต่ละแดนเริ่มทยอยกันจางหายไป เหลือไว้เพียงชะตาฟ้าที่แดนมนุษย์กษัตราเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เหมือนว่าพริบตาเดียวกันนี้ พลังของสัจธรรมสูงสุดที่กระจัดกระจายไปตามเก้าแดนเวลานี้ได้ถูกรวมศูนย์เข้าด้วยกัน พลังทั้งหมดล้วนแล้วแต่รวมอยู่ในชะตาฟ้าของแดนมนุษย์กษัตรา เวลานี้ ชะตาฟ้าได้รวบรวมพลังทั้งหมดเอาไว้
มีเพียงชะตาฟ้าที่แขวนอยู่บนท้องฟ้าของแดนมนุษย์กษัตรา ทันใดนั้นสัจธรรมสูงสุดได้แผ่กระจายอำนาจสูงสุดออกมา พลังสัจธรรมทั้งสายได้ตลบอบอวลไปทั่วทุกซอกทุกมุมของแดนมนุษย์กษัตรา และแทรกซึมไปทุกๆ ที่ของเก้าแดน
เวลานี้ ต่อให้ชะตาฟ้าสายนี้แขวนอยู่บนท้องฟ้าของแดนมนุษย์กษัตรา แต่ว่าทุกๆ ที่ของเก้าแดนล้วนแล้วแต่สามารถรับรู้ได้ถึงอานุภาพสูงสุดของมัน เหมือนว่านาทีนี้มีผู้ดำรงอยู่ในระดับสูงสุดกำลังจะถือกำเนิดขึ้นมาอย่างนั้น พลังของเขาสามารถสยบทั่วทั้งเก้าแดน สรรพชีวิตล้านล้านชีวิตของเก้าแดนจะต้องกราบไหว้สิ่งนี้
“แว้งค์” ทันใดนั้นเองชะตาฟ้าที่แขวนอยู่บนท้องฟ้าของแดนมนุษย์กษัตรา พลันเบ่งบานออกมา จากนั้น ได้ยินเสียงดัง “ปัง” อานุภาพราชันยิ่งใหญ่ และในวินาทีนี้เอง ชะตาฟ้าได้กลับกลายเป็นสัจธรรมสูงสุดของราชันเซียน นาทีนี้เหมือนว่าราชันเซียนที่ใหม่เอี่ยมได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว
นาทีนี้ ทุกซอกทุกมุมของเก้าแดนล้วนแล้วแต่ปรากฏเสียงใสกังวานดังขึ้น ได้ยินเสียง “แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” ดังขึ้น สัจธรรมของผู้บำเพ็ญตนและยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนของเก้าแดนพลันเหมือนแห้งเหี่ยวไปทันที เหมือนสูญเสียพลังไปอย่างนั้น
ในเวลานี้ หลักกฎเกณฑ์ที่ปรากฏอยู่ข้างกายของผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือทั้งหมดของเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินพลันตกลง และหมอบอยู่กับพื้น ขณะที่อานุภาพราชันเซียนสูงสุดที่แผ่กระจายออกมาจากชะตาฟ้าพลันตลบอบอวลไปทั่วทั้งเก้าแดน
ภายใต้การสยบของอานุภาพราชันเซียนเช่นนี้ ทำให้ผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนของเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินต่างไม่เป็นตัวของตัวเอง ทยอยกันก้มกราบกับพื้น เฝ้ารับเสด็จราชันเซียนองค์ใหม่แห่งยุค
เมื่อร่างกายไม่เป็นตัวของตัวเองคุกเข่ากราบกับพื้นนั้น ทำให้ยอดฝีมือ และผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต้องตะลึงงัน แต่ว่า ภายใต้อานุภาพราชันเซียนเช่นนี้พวกเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ คิดอยากจะลุกขึ้นยืนก็ทำไม่ได้
“นี่ นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” ผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือจำนวนมากที่ไม่ได้ผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนกล่าวด้วยความหวาดผวา
“ราชันเซียนองค์ใหม่กำลังถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว ชะตาฟ้ากลับมา มีผู้สืบทอดชะตาฟ้าแล้วยุคสมัยใหม่ของราชันเซียนกำลังจะมาแล้ว” ผู้ยิ่งใหญ่รุ่นอาวุโสที่เคยผ่านการเห็นภาพเช่นนี้มาแล้วถึงกับหวั่นไหว พึมพำออกมา
“นี่ นี่ นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ “ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยตกใจจนอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ พูดด้วยเสียงอันดังออกมาว่า “แม้แต่ศึกชิงชะตาฟ้ายังไม่ได้เริ่มต้น ดาวรุ่งของเก้าแดนยังไม่ได้ต่อสู้กันสักรอบ จะมีราชันเซียนถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไรกันเล่า ไหนบอกว่าศึกชิงชะตาฟ้าผู้ที่ชนะศึกครั้งสุดท้ายจึงได้สืบทอดชะตาฟ้า และได้เป็นราชันเซียนมิใช่รึ? ”
“บางทีชาตินี้อาจแตกต่างกับครั้งก่อนๆ กระมัง บางทีราชันเซียนที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่ในครั้งนี้เป็นประเภทสุดยอดที่มีเพียงหนึ่งเดียวก็เป็นได้ ไม่จำเป็นต้องมีการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อชะตาฟ้า ชะตาฟ้าก็มีเจ้าของเสียแล้ว เป็นการบ่งบอกว่าผู้ที่กลายเป็นราชันเซียนมีเพียงหนึ่งเดียวนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน” ผู้ยิ่งใหญ่รุ่นอาวุโสได้แต่กล่าวคาดเดาขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...