ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1720

ตอนที่ 1720 กำลังจะออกเดินทาง
หลายคนต่างคาดเดาได้ว่า คนโหดอันดับหนึ่งจะได้เป็นราชันเซียน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในแดนมนุษย์กษัตรา เมื่อรู้ว่าราชันเซียนยุคนี้จะต้องมาจากแดนมนุษย์กษัตราแล้วนั้น นึกถึงคนโหดอันดับหนึ่งทันที ในมุมมองของผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือทุกคนของแดนมนุษย์กษัตรา โลกนี้คนที่จะเป็นราชีนเซียนได้คงมีคนโหดอันดับหนึ่งคนเดียวเท่านั้น

“ชาตินี้ นอกจากคนโหดอันดับหนึ่งที่สามารถเป็นราชันเซียนแล้ว คนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ไม่มีสิทธิ์ทั้งนั้น การมีสิบสามลัคนา สี่ยอดกายเซียน นอกจากคนโหดอันดับหนึ่งแล้วโลกนี้ยังจะมีใครอีก?” ต่อให้เป็นศัตรู ก็ต้องชมเปาะและยอมให้กับคนโหดอันดับหนึ่ง

“คนโหดอันดับหนึ่งจะต้องได้เป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลของเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา!” มีเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ภาคภูมิใจในตัวเขา และกล่าวด้วยความภูมิใจในตัวเองว่า “ในอนาคต คนโหดอันดับหนึ่งจะต้องอยู่เหนือราชันเซียนเจียวเหิง ราชันเซียนหญิงหงเทียน นับแต่อดีตไม่มีใครมีคุณสมบัติมากกว่าคนโหดอันดับหนึ่งในการเป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลได้มากกว่า!”

“ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาล…” หลายคนต้องนิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำเรียกขานเช่นนี้ นับแต่อดีตถึงปัจจุบันเคยกำเนิดราชันเซียนมาแล้วกว่าร้อย แต่ว่า จะมีใครล่ะที่กล้ายกย่องให้เป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลกันเล่า?”

“หากจะต้องเลือกราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลขึ้นมาจริงๆ บางทีคนโหดอันดับหนึ่งมีคุณสมบัติเช่นนี้ได้จริงๆ ราชันเซียนเจียวเหิงไม่เคยพ่ายแพ้ให้ใครตลอดชีวิต ราชันเซียนหญิงหงเทียบสยบเหล่าชั้นฟ้า แต่ สิบสามลัคนา สี่ยอดกายเซียนขั้นสมบูรณ์ อาศัยผลงานทั้งสองของคนโหดอันดับหนึ่งก็สามารถสยบพวกราชันเซียนเจียวเหิง ราชันเซียนหญิงหงเทียนได้แล้ว” รุ่นอาวุโสหลังจากนิ่งเงียบอยู่นานก็ได้เอ่ยขึ้นมา

ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลถือเป็นหัวข้อสนทนาที่หนักหน่วงเอาการ นับแต่อดีตเคยให้กำเนิดราชันเซียนมาแล้วไม่น้อย ราชันเซียนที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งก็มี เช่น ราชันเซียนเจียวเหิง ราชันเซียนหญิงหงเทียน ราชันเซียนเฟย ราชันเซียนเฮ่าไห่ กระทั่งราชันเซียนเทียนถูของอเวจี ล้วนแล้วแต่น่าทึ่งมากทั้งสิ้น

แต่ว่า จะมีใครกล้ายกย่องว่าเป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลกันหละ ไม่ว่าจะวิพากษ์วิจารณ์จนได้เป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาล เกรงว่าก็ต้องมีคนที่ไม่ยอมรับ

ในสถานที่ดึกดำบรรพ์แห่งหนึ่งผู้ดำรงอยู่ในฐานะอมตะรุ่นดึกดำบรรพ์เมื่อได้ยินคำวิจารณ์เช่นนี้แล้ว ผู้ดำรงอยู่ในฐานะอมตะรุ่นดึกดำบรรพ์รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของอีกาทมิฬ และเข้าใจด้วยว่า หลี่ชิเย่ก็คือร่างดั้งเดิมของอีกาทมิฬนั่นเอง

ดังนั้น เมื่อผู้ดำรงอยู่ในฐานะอมตะรุ่นดึกดำบรรพ์เช่นนี้หลังจากได้ยินคำวิจารณ์เช่นนี้แล้ว ท้ายสุด เขาได้พูดขึ้นช้าๆ ว่า “เรื่องราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาล ไม่ต้องพูดถึงสิบสามลัคนา ไม่ต้องพูดถึงสี่ยอดกายเซียน อาศัยแค่ผลงานชั่วชีวิตของใต้เท้าอีกาทมิฬก็เพียงพอที่จะได้รับการยกย่องให้เป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาล ต่อให้เขาไม่ได้เป็นราชันเซียนก็มีคุณสมบัติข้อนี้…”

“…นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ใครกันเล่าที่คอยเฝ้าปกป้องเก้าแดนมาโดยตลอด ใครกันเล่าที่ต่อต้านอเวจีตลอดมา ใครกันเล่าที่ทำให้การปกครองที่มืดมิดของอเวจีสิ้นสุดลง เขาคือใต้เท้าอีกาทมิฬ! หากไม่มีใต้เท้าอีกาทมิฬ บางทีเก้าแดนอาจยังคงอยู่ในความมืดมิด! ต่อให้เป็นแดนที่สิบ เป็นใครเล่าที่รวบรวมเหล่าราชันเซียนต่อต้านกับเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพทั้งสามเผ้าของแดนที่สิบ แล้วเป็นใครที่พยายามช่วงชิงให้ได้มาซึ่งช่องว่างในการดำรงชีวิตอยู่ให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าวิญญาณเทพและอื่นๆ กว่าร้อยเผ่า แล้วเป็นใครที่ไปๆ มาๆ ระหว่างเก้าแดนและแดนสิบครั้งแล้วครั้งเล่า…”

“…การไปกลับทุกครั้งต้องทนทุกข์ทรมานสุดพรรนา! ทุกๆ ครั้งล้วนแล้วแต่เสียสละในสิ่งที่ไม่สามารถลบเลือนได้ให้กับทุกๆ เผ่าพันธุ์ แต่ผู้คนในโลกจดจำได้แค่ราชันเซียน จำได้แต่ผลงานของราชันเซียน แต่จะมีใครจำได้ว่าท่ามกลางความมืดมีคนๆ หนึ่งที่คอยปกป้องเก้าแดนเอาไว้อย่างเงียบๆ ยอมทนทุกข์ทรพมานครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์! โลกนี้มีเพียงใต้เท้าเท่านั้นที่มีคุณสมบัติได้รับการยกย่องว่าเป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาล!”

เมื่อพูดถึงที่สุดแล้ว ผู้ดำรงอยู่ในฐานะอมตะรุ่นดึกดำบรรพ์ที่เคยรับใช้ใต้บังคับบัญชาของอีกาทมิฬมาก่อนถึงกับมีอารมณ์ฮึกเหิมขึ้นมา

ทั่วโลกน้อยคนนักที่จะรับรู้ถึงคุณูปการของอีกาทมิฬ แต่เขารู้ และเขาจดจำไว้ได้ตลอดกาล!

ในระหว่างที่หลายคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลอยู่นั้น ทำให้คนบางส่วนรู้สึกไม่สบายใจนัก บรรดาผู้ที่รู้สึกเช่นนี้ก็คือดาวรุ่งที่เคยได้รับสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียน บรรดาผู้มีสิทธิ์เหล่านี้ได้จัดตั้งเป็น “พันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดน” แล้วในเวลานี้ พวกเขาต้องการต่อต้านผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชันเซียนยุคใหม่ผู้นั้น

“ฮึ ข้าไม่สนหรอกนะว่าผลงานของคนโหดอันดับหนึ่งจะเป็นเช่นใด สิบสามลัคนาก็ดี สี่ยอดกายเซียนก็ช่าง แต่การแย่งชิงชะตาฟ้าหาใช่บอกว่าคนๆ นั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใดก็สามารถตัดสินเองได้ว่าต้องเป็นราชันเซียน มันต้องผ่านศึกแย่งชิงชะตาฟ้าครั้งสุดท้าย หากไม่มีการศึกครั้งสุดท้ายจะเรียกว่าเป็นราชันเซียนได้อย่างไรกัน” มีดาวรุ่งที่กล่าวด้วยความไม่ยอมรับ

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าคนโหดอันดับหนึ่งแข็งแกร่งและน่ากลัวยิ่งนัก แต่ว่า กล่าวสำหรับดาวรุ่งที่เคยได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมคัดเลือกเป็นราชันเซียนแล้ว อยู่ๆ ถูกตัดสิทธิ์โดยหาเหตุผลอธิบายไม่ได้ ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สบอารมณ์แน่นอนสำหรับพวกเขา

ไม่ว่าระหว่างนั้นจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาก็ตาม เวลานี้คนโหดอันดับหนึ่งได้กลายเป็นศัตรูของทุกคน กลายเป็นเป้าหมายของทุกๆ คน

เรียกได้ว่า บรรดาดาวรุ่งของเก้าแดนที่เคยถูกตัดสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนเวลานี้มีศัตรูร่วมกัน ด้วยเพราะสาเหตุนี้เอง พวกเขาจึงได้จัดตั้งเป็น “พันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดน” ขึ้นมา เพื่อต่อต้านกับคนโหดอันดับหนึ่ง

ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังพูดคุยถึงเรื่องเกี่ยวกับราชันเซียนอยู่ ทันใดนั้น บังเกิดเสียง “ตูม…” ดังสนั่นขึ้นที่แดนมนุษย์กษัตรา เหมือนว่าท้องฟ้าเกิดแตกออกมาอย่างนั้น

จากนั้น เสียง “ตูม ตูม ตูม” ดังขึ้นเป็นระลอก เกิดโคลงแคลงสั่นไหวขึ้นมา บนท้องฟ้าได้ปรากฏเหตุการณ์ประหลาด ในเวลานี้เสมือนมีโลกอีกโลกหนึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างนั้น

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วเนี่ย?” หลังจากเหตุการณ์การปรากฏตัวของพรรคเซียนเหินแล้ว เวลานี้บรรดาแคว้นเจ้าลัทธิต่างรู้สึกหวาดผวาเหมือนนกที่เคยต้องธนูมาก่อน ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกตระหนกเมื่อจู่ๆ เหมือนมีโลกอีกโลกหนึ่งปรากฏอยู่บนท้องฟ้าของแดนมนุษย์กษัตรา

“ตูม ตูม ตูม” ท่ามกลางเสียงดังตูมตามเป็นระลอก ในที่สุด โลกนี้ได้ลอยอยู่บนท้องฟ้า หรือจะให้ถูกต้องมากกว่านั้นก็คือมันแขวนตั้งอยู่ใต้ชะตาฟ้า โลกนี้รออยู่ใต้ชะตาฟ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล