ไม่ว่าจะเป็นจอมราชันหรือราชันเซียน กระบวนท่าเช่นราชันสังหาร สวรรค์ทำลายล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ท่าไม้ตายสุดท้าย ต่อให้กระบวนท่าสุดท้ายอย่างเทพ-สวรรค์ทำลาย ยังคงไม่ใช่ท่าไม้ตายของพวกเขา
เหตุผลนั้นง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นราชันสังหาร หรือสวรรค์ทำลาย ล้วนแล้วแต่เป็นการโจมตีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และมีเพียงกระบวนท่าเดียว ถ้าหากเป็นการต่อสู้ชี้ขาดระหว่างราชันเซียนหรือจอมราชัน หากไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ล่ะก็ การสำแดงซ้ำจะไม่บังเกิดอานุภาพมากนัก และยากที่จะส่งผลกับการคุกคามฝ่ายตรงข้ามสักเท่าไร
กระบวนท่าโจมตีเฉกเช่นสวรรค์ทำลาย ราชันสังหารหากคิดจะสำแดงซ้ำ ทั้งยังส่งผลสยบและสังหารได้นั้น ต้องใช้กับผู้ที่ไม่ได้ดำรงอยู่ในระดับของราชันเซียนจึงสามารถใช้ได้ผล
ดังนั้น กล่าวสำหรับผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันอย่างจอมราชันและเซียนหวางแล้ว การต่อสู้เพื่อชี้ขาดของพวกเขานอกจากอาศัยฝีมือปรกติทั่วไปแล้ว ยังมีวิธีการระดับสังหารด้วย เฉกเช่นค่ายกลราชันอาวุธเซียนก็คือวิธีการหนึ่งในจำนวนนั้น
ค่ายกลราชันอาวุธเซียนแบ่งออกเป็นหลายแบบ แต่ล้วนแล้วแต่ไม่พ้นไปจากสองสิ่งนี้ หนึ่งคือชะตาฟ้า สองคืออาวุธปราศจากผู้ต่อกรที่หลอมสร้างโดยราชันเซียนหรือจอมราชัน! ค่ายกลราชันอาวุธเซียนนั้นอาศัยชะตาฟ้าของราชันเซียน หรือจอมราชันเป็นหลัก มันได้รองรับอาวุธที่ปราศจากผู้ต่อกรเอาไว้ ในสถานการณ์ปรกติแล้ว ชะตาฟ้าหนึ่งสายจะรองรับอาวุธปราศจากผู้ต่อกรหนึ่งชิ้น อาศัยอาวุธประกอบเป็นสุดยอดค่ายกลขึ้นมา
ถ้าหากราชันเซียนมาด้วยตนเองล่ะก็ เช่นนั้นแล้วค่ายกลราชันอาวุธเซียนก็จะมีอานุภาพที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น บางครั้งค่ายกลราชันอาวุธเซียนก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยราชันเซียนมาด้วยตนเอง ขอเพียงราชันเซียนอาศัยชะตาฟ้าไปรองรับ ยังคงสามารถเกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินได้
โดยเฉพาะในแดนที่สิบ ค่ายกลราชันอาวุธเซียนมีอานุภาพทรงพลังยิ่งกว่า เนื่องจากราชันเซียนในแดนสิบสามารถหลอมสร้างชุดของอาวุธที่สมบูรณ์แบบได้ ซึ่งชุดอาวุธที่สมบูรณ์แบบนี้สามารถทดแทนกันและกัน สามารถร่วมมือกันและกัน กระทั่งก้าวถึงระดับที่สมบูรณ์แบบได้
ถ้าหากเป็นค่ายกลราชันอาวุธเซียนที่มีชุดอาวุธที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ล่ะก็ อานุภาพของมันก็จะทรงพลังมากยิ่งขึ้นไปอีก
ข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างค่ายกลราชันอาวุธเซียนกับสวรรค์ทำลายก็คือพลังสังหารสามารถคงอยู่ได้นาน กระทั่งสามารถสยบและสังหารได้นานเป็นยุคสมัย ขณะที่สวรรค์ทำลายมีการโจมตีเพียงหนึ่งกระบวนท่า ต่อให้นำมาสำแดงซ้ำไปซ้ำมาก็ไม่สามารถเพิ่มพลานุภาพของมันให้มากขึ้นไปได้
ยังมีข้อได้เปรียบอีกอย่างระหว่างค่ายกลราชันอาวุธเซียนกับสวรรค์ทำลายก็คือ ค่ายกลราชันอาวุธเซียนสามารถกักขังศัตรูเอาไว้ได้ ต่อให้ไม่สามารถสังหารศัตรูภายในระยะเวลาอันสั้นได้ แต่ว่า ภายใต้การบดขยี้เป็นเวลานานภายในค่ายกลราชันอาวุธเซียน ต่อให้ศัตรูแข็งแกร่งเพียงใดก็คงทนรับไม่อยู่ และมีโอกาสถูกสังหารได้ในที่สุด
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มเฉยเมยสำหรับคำพูดของราชันซื่อตี้ กล่าวเรียบเฉยว่า “สถานการณ์ที่เกิดขึ้นข้าไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดคิด จะอย่างไรเสียเพื่อสังหารข้าแล้ว เรียกได้ว่าเจ้าได้คิดค้นมานาน และครุ่นคิดพิจารณาวิธีการทุกอย่างที่มีความเป็นไปได้ในการที่จะสังหารข้าได้”
เรื่องลักษณะเช่นนี้ไม่ว่ากล่าวสำหรับหลี่ชิเย่ หรือกล่าวสำหรับราชันซื่อตี้แล้ว ล้วนแล้วแต่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดคิด หลี่ชิเย่เคยคิดกำจัดราชันซื่อตี้เสีย ขณะที่ราชันซื่อตี้ก็คิดกำจัดหลี่ชิเย่ เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าราชันซื่อตี้จะเคยวางแผนจัดการกับอีกาทมิฬเพียงลำพังคนเดียว เขาเคยร่วมปรึกษากับจอมราชันจำนวนไม่น้อยของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพสามเผ่าเรื่องวิธีการจัดการกับอีกาทมิฬ
สุดท้ายแล้ว ราชันซื่อตี้ได้ร่วมกับบรรดาจอมราชันของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพคิดค้นสุดยอดค่ายกลออกมาอย่างหนึ่ง เป็นสุดยอดค่ายกลที่ใช้เล่นงานอีกาทมิฬโดยเฉพาะ อีกทั้งค่ายกลดังกล่าวยังมีความคล่องตัวเป็นอันมาก สามารถประกอบด้วยจอมราชันคนใดก็ได้ และยังสามารถแยกออกจากกันเป็นค่ายกลราชันอาวุธเซียนที่เป็นเอกเทศ เมื่อนำมารวมเข้าด้วยกันแล้วก็จะกลายเป็นสุดยอดค่ายกลที่ชื่อว่า “ค่ายกลฆ่าอีกา” !
“สมควรจบสิ้นกันได้แล้ว” ราชันซื่อตี้ในเวลานี้จ้องเขม็งหลี่ชิเย่อย่างเย็นชา นัยน์ตาทั้งสองของเขาเผยให้เห็นปณิธานการฆ่าที่เข้มข้น เด็ดขาดปราศจากความปราณี
ภายใต้ปณิธานการฆ่าของราชันซื่อตี้ไม่ได้มีความแค้นแฝงเร้น เป็นเพียงปณิธานการฆ่าที่บริสุทธิ์เท่านั้น ราชันซื่อตี้ก็ดี สิบสองจอมราชันก็ช่าง พวกเขาลงมือสังหารหลี่ชิเย่ไม่ได้เพื่อบุญคุณความแค้นส่วนตัว แต่เป็นการทำเพื่อเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร เผ่าเทพสามเผ่า ดังนั้น ต่อให้พวกเขาเผยปณิธานการฆ่าออกมาก็เป็นเพียงปณิธานการฆ่าที่บริสุทธิ์ ไม่มีเรื่องของความแค้นใดๆ
แม้แต่ราชันซื่อตี้ที่เป็นศัตรูต่อเนื่องมายุคแล้วยุคเล่ากับอีกาทมิฬก็ไม่ได้มีความแค้นกับอีกาทมิฬ ต่อให้อีกาทมิฬได้ล่อล่วงลูกสาวของเขาไป เรื่องนี้เขาก็ไม่ได้แค้นเคืองต่อเขา
แต่เขาต้องการสังหารอีกาทมิฬอย่างมั่นคง และไม่เคยสั่นคลอน เป็นเพราะอีกาทมิฬคือหนามยอกอกของเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์พวกเขา ขอเพียงอีกาทมิฬยังคงมีชีวิตอยู่ สักวันจะต้องสั่นคลอนฐานะในแดนสิบของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า ดังนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว อีกาทมิฬต้องถูกฆ่าโดยไม่มีละเว้น!
“สมควรสิ้นสุดแล้ว!” ท่าทีของหลี่ชิเย่ก็เย็นชาลง “แว้งค์” พริบตาเดียวนั้น สิบสามลัคนาหายไป และกลับกลายเป็นความขมุกขมัวไม่มีสิ้นสุด ท่ามกลางความขมุกขมัวปรากฏข้านี่แหละสวรรค์ที่แท้จริงก้าวเดินออกมา
นาทีนี้ต่างฝ่ายต่างสำแดงไพ่ตายของตน สำแดงท่าไม้ตายของตนออกมา ทั้งสองฝ่ายต่างอาศัยกระบวนท่าเดียวถึงตาย ไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย
นาทีนี้ไม่มีกระบวนท่าที่สวยงามแต่ใช้การจริงไม่ได้ เวลานี้ทั้งสองฝ่ายต่างสังหารศัตรูในหนึ่งกระบวนท่า!
พริบตาเดียวนั่นเอง ค่ายกลราชันอาวุธเซียนค่อยๆ ประกบรวมกัน ค่ายกลราชันอาวุธเซียนของสิบสองจอมราชันเสมือนดั่งมีดที่แหลมคมค่อยๆ ประกบต่อรวมเข้าด้วยกัน เมื่อประกบรวมกันจนสมบูรณ์แล้ว ปรากฏเป็นคันฉ่องทรงกลมออกมาบานหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...