“ว้าว พูดคุยโม้เสียใหญ่โต ไหนว่าเจ้าเคยเห็นเรือนร่างของสุดยอดหญิงงามคนไหนมาบ้างหละ” เสิ่นเสี่ยวซันส่งเสียงฮึและกล่าวพร้อมกับรู้สึกไม่สบายภายในใจ
“สุดยอดหญิงงาม ไหนเลยคู่ควรจะกล่าวถึง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวไปตามอารมณ์ว่า “ก็แค่ความงามที่เป็นเปลือกนอกเท่านั้น แค่กายเนื้อเท่านั้น ไหนเลยทำให้ใจข้าหวั่นไหวได้”
เสิ่นเสี่ยวซันถึงกับมองค้อนหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง กล่าวด้วยความสงสัยว่า “เจ้าคงไม่ได้คุยโตโอ้อวดกระมัง ฮึ ไม่เคยได้เห็นเรือนร่างของผู้หญิงอะไรมาก่อนอยู่แล้ว”
คำพูดแช่นนี้ของเสิ่นเสี่ยวซันทำเอาหลี่ชิเย่เกือบหัวเราะก๊ากออกมา หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มกล่าวว่า “จำเป็นด้วยหรือที่ข้าต้องอวดอ้างตัวเอง?”
“ฮึ ใครจะไปรู้หละ” เสิ่นเสี่ยวซันหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “เมื่อครู่ยังคุยโม้เสียใหญ่โตเลยนี่ เวลานี้ข้ากลับจะสงสัยว่า ในเมื่อเจ้าบอกว่าเคยพบสาวงามมานับไม่ถ้วน งั้นดีหละ สาวงามอันดับหนึ่งของชิงโจวเจ้าเคยพบเห็นมาแล้วหรือไม่? เจ้าเคยเห็นเรือนร่างของสาวงามอันดับหนึ่งของชิงโจวมาหรือไม่?”
“สาวงามอันดับหนึ่งของชิงโจวเป็นใครรึ?” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ
“ฮึ จับโกหกได้แล้วสิ” เสิ่นเสี่ยวซันจ้องมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “แม้แต่สาวงามอันดับหนึ่งของชิงโจวยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ยังคุยโม้ว่าเคยเป็นสาวงามมานับไม่ถ้วน ข้าว่าคนที่เจ้าเห็นมาเป็นเพียงหญิงชาวบ้านที่รู้จักแต่แต่งหน้าแต่งตัวเท่านั้น!”
ครั้นนึกถึงหลี่ชิเย่นำเอาตัวนางไปเปรียบเทียบกับหญิงชาวบ้านที่รู้จักแต่แต่งหน้าแต่งตัวเท่านั้น นางก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมา นางเองก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าโกรธอะไร
สำหรับคำพูดของเสิ่นเสี่ยวซันนั้นหลี่ชิเย่ไม่ได้ใส่ใจ เพียงแค่ยิ้มๆ เท่านั้นเอง และไม่โต้แย้ง
“จริงๆ นะ เจ้าอย่าบอกว่าไม่รู้จักแม้แต่สาวงามอันดับหนึ่งของชิงโจวกระมัง?” เมื่อเสิ่นเสี่ยวซันเห็นหลี่ชิเย่ไม่พูดไม่จา จึงจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่และเอ่ยขึ้นมา
“ไม่รู้จัก เป็นใครกัน?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวโดยไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใดว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้จักนางด้วยหรือ?”
“แม้แต่ธิดาราชันฉีหลินสาวงามอันดับหนึ่งแห่งชิงโจวก็ไม่รู้จัก ฮึ ยังคุยโตโอ้อวดว่าเคยพบเจอสาวงามมาจำนวนนับไม่ถ้วน ข้าว่าล่ะนะเจ้าน่ะโอ้อวดตัวเอง” เสิ่นเสี่ยวซันยิ้มกล่าวเยาะเย้ย
“ข้าจำเป็นต้องรู้จักรึ?” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “แค่สาวงามอันดับหนึ่งชิงโจวเท่านั้น ไม่ใช่สาวงามอันดับหนึ่งสิบสามทวีป ต่อให้เป็นสาวงามอันดับหนึ่งสิบสามทวีปข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปรู้จัก”
“ว้าว คุยโม้อีกแล้ว” เสิ่นเสี่ยวซันส่งเสียงฮึเย้ยหยันและกล่าวว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าธิดาราชันฉีหลินเป็นบุคคลระดับใด? นางคือองค์หญิงแห่งตระกูลราชันฉีหลิน เป็นกิ่งทองใบหยก สูงส่งอย่าบอกใครเชียว กระทั่งเคยมีคำเล่าลือว่า นางมีสายเลือดของเซียนหวาง…”
ธิดาราชันฉีหลินคือองค์หญิงของตระกูลราชันฉีหลิน มีสายเลือดที่สูงส่งไร้ผู้เทียบเทียมอยู่ในครอบครอง ทั้งยังมีรูปโฉมงดงามไม่มีผู้ใดเทียม ชื่อเสียงด้านความงามนั้นขจรไกล มีผู้เลื่องลือในกิตติศัพท์มากมาย
แน่นอนที่สุด สำนักต้นไม้เหล็กอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลราชันฉีหลิน แม้ว่าเสิ่นเสี่ยวซันไม่เคยได้เห็นหน้าของธิดาราชันฉีหลินมาก่อน แต่ที่นางได้รับรู้เป็นอันดับแรกก็คือ ธิดาราชันฉีหลินคือสาวงามอันดับหนึ่งของชิงโจว
แน่นอน ธิดาราชันฉีหลินที่ว่าจะงดงามเพียงใดนั้น ตัวเสิ่นเสี่ยวซันเองก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
“แค่สายเลือดเซียนหวางเท่านั้นเอง หาใช่เป็นธิดาราชันแท้จริงไม่” หลี่ชิเย่ยิ้มไปตามอารมณ์และกล่าวว่า “แค่องค์หญิงตระกูลขุนนางโบราณคนหนึ่ง หากข้าต้องการให้นางมาร่วมหลับนอนก็แค่พูดคำๆ เดียวเท่านั้น”
“เจ้าบ้าไปแล้วรึ” ขณะที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา เสิ่นเสี่ยวซันไม่ได้หัวเราะเยาะหลี่ชิเย่ และยิ่งไม่ได้พูดไปคนละแนว นางตระหนกตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง รีบเร่งใช้มือป้องปากของหลี่ชิเย่เอาไว้ทันที
คราวนี้ทำเอาเสิ่นเสี่ยวซันตกใจจนใบหน้าขาวซีด ถ้าหากคำพูดนี้แพร่งพรายออกไปแล้วล่ะก็ มันคือการนำมาซึ่งภัยถูกล้างสำนักเลยเชียว!
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” เสิ่นเสี่ยวซันที่ตกใจจนใบหน้าขาวซีดกล่าวตำหนิด้วยความโกรธว่า “เจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกแล้ว แต่สำนักต้นไม้เหล็กไม่ได้เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่! เจ้าต้องการรนหาที่ตายก็ไปตายเอง อย่าทำให้พวกเราต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย!”
ในเวลานี้ เสิ่นเสี่ยวซันกล่าวตำหนิด้วยความโกรธและร้อนรน ซึ่งจะโทษเสิ่นเสี่ยวซันที่กล่าวตำหนิแช่นนี้ก็ไม่ถูก เรียกได้ว่านางถูกทำให้ตกใจจนแทบช็อก
สำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขาเป็นเพียงสำนักขนาดเล็กเท่านั้นเอง สำนักเฉกแช่นสำนักต้นไม้เหล็กนี้อย่าว่าแต่ชิงโจวเลย ต่อให้อาณาเขตแว่นแคว้นที่อยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลราชันฉีหลินก็มีมากดั่งดอกเห็ดนับไม่ถ้วน
ดั่งแช่นสำนักต้นไม้เหล็กที่เป็นเพียงสำนักขนาดเล็กพวกเขา เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ยิ่งใหญ่แช่นตระกูลราชันฉีหลินแล้ว เรียกได้ว่าไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง กระทั่งแม้แต่ฝุ่นผงยังเป็นไม่ได้
อย่าว่าแต่ธิดาราชันฉีหลิน ต่อให้เป็นศิษย์ระดับธรรมดาคนหนึ่งของตระกูลราชันฉีหลิน สำหรับสำนักต้นไม้เหล็กพวกเขาแล้ว ก็คือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่สูงส่งยิ่ง
เวลานี้ หลี่ชิเย่กล่าวคำที่ไม่ให้เกียรติต่อธิดาราชันฉีหลินแช่นนี้ออกมา เมื่อไหร่ที่คำพูดคำนี้ไปเข้าหูตระกูลราชันฉีหลิน ขอเพียงตระกูลราชันฉีหลินพูดออกมาคำเดียว สำนักต้นไม้เหล็กก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป!
ดังนั้น เรื่องนี้จะไม่ทำให้เสิ่นเสี่ยวซันตกใจจนใบหน้าซีดเผือดได้อย่างไร? นี่มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...