เสิ่นเสี่ยวซันเวลานี้ใบหน้าร้อนผ่าว ใบหน้าแดงก่ำจนแทบมันหยด อ่อนระทวยไปทั้งร่าง มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เหมือนหัวใจกำลังจะล่องลอยขึ้นมา
“ข้า ข้า ข้ารู้” เสิ่นเสี่ยวซัน กระทั่งความกล้าที่จะพูดเสียงดังออกมายังไม่มี เสียงเบาเหมือนแมลงหวี่ เสียงนั้นช่างบางเบาเหลือเกิน ดั่งสายน้ำที่ไหลริน
“ในเมื่อเจ้ารู้ ไหนลองว่ามาซิ ว่ามันผิดที่ตรงไหน?” หลี่ชิเย่กล่าวยิ้มแต้ขึ้นมา
เวลานี้ เสิ่นเสี่ยวซันที่คว่ำหน้าอยู่บนขาทั้งสองข้างของเขา ภายในสมองสับสนวุ่นวาย กระแสร้อนผ่าวที่โหมเข้ามาเป็นระลอก ทำให้นางอ่อนระทวยปราศจากสิ้นเรี่ยวแรง เสียงของนางหวานจนแทบหยด เขินอายจนไม่สามารถควบคุมได้ นุ่มนวลดั่งสายน้ำ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า “ข้า ข้า ข้าไม่ควรเยาะเย้ยเจ้า ข้า ข้า ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น เป็น เป็นข้าผิดเอง”
เวลานี้ สามจิตเจ็ดวิญญาณของเสิ่นเสี่ยวซันแทบจะล่องลอยออกมา พริบตาเดียวนี้ขอเพียงหลี่ชิเย่ไม่โกรธ จะให้นางทำอะไรก็ยอม
“รู้ว่าทำผิดแล้วแก้ไข ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ว่า คนที่ทำผิดแล้วจะต้องถูกลงโทษนะ” หลี่ชิเย่กล่าวยิ้มแต้ออกมา
“ลง ลงโทษอย่างไร” เสิ่นเสี่ยวซันเขินอายจนควบคุมไม่ได้ เอ่ยขึ้นแผ่วเบา แต่ว่า นางพูดยังไม่ทันขาดคำ ปรากฏปวดแสบปวดร้อนขึ้นที่ก้นของนาง
“ป้าบ ป้าบ ป้าบ…” ในเวลานี้ฝ่ามือของหลี่ชิเย่สัมผัสลงบนก้นที่กลมงอนของนางทีละฝ่ามือๆ การลงมือของหลี่ชิเย่เป็นการลงมือแบบไม่ยั้ง แต่ละฝ่ามือล้วนทำเอาก้นของเสิ่นเสี่ยวซันปวดแสบปวดร้อนไปหมด
“โอ๊ย” เสิ่นเสี่ยวซันถึงกับร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาทีหนึ่ง เมื่อฝ่ามือของหลี่ชิเย่ที่ฟาดลงไปเป็นระลอก แต่ ก็ไม่กล้าร้องเสียงดังออกมา ถึงกับกัดฟันทนเอา เวลานี้อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมผุดขึ้นมากลางใจ น้ำตากรอกกลิ้งอยู่ในตา
นางไม่เคยได้รับความไม่เป็นธรรมเช่นนี้มาก่อน และไม่เคยถูกใครตีในลักษณะเช่นนี้มาก่อน มาวันนี้ถูกผู้อื่นเขารังแกเช่นนี้ แต่ภายในใจของนางกลับยินยอม เวลานี้นางรู้สึกเศร้าเสียใจขึ้นมา
หลังจากที่ฟาดเป็นระลอกไปแล้ว หลี่ชิเย่จึงหยุดยั้งมือ เวลานี้เขาได้ลูบบนก้นของนางอย่างแผ่วเบา กล่าวเฉยเมยว่า “นี่เป็นเพียงการเตือนเท่านั้นเอง”
เสิ่นเสี่ยวซันรู้สึกได้ถึงวิญญาณที่ล่องลอยขึ้นโดยพลัน เมื่อก้นงามของตนถูกฝ่ามือใหญ่ของหลี่ชิเย่ลูบไล้เบาๆ มือใหญ่ที่หยาบกร้านบวกกับผิวหนังที่กระด้าง แม้จะกั้นขวางด้วยเสื้อผ้าชั้นหนึ่งก็ตาม แต่ผิวหนังที่กระด้างนั้นเมื่อสัมผัสกับผิวหนังที่อ่อนนุ่มของนางแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกที่ร้อนผ่าวตรงเข้าไปถึงหัวใจของนาง
ขณะที่มือใหญ่หยาบกร้านสัมผัสอยู่กับก้นงามนั้น เสิ่นเสี่ยวซันถึงกับลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่นั้นไปในพริบตาเดียว ความรู้สึกชาและอ่อนแรงแผ่ขยายไปทั่วร่าง เวลานี้นางรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแรงจนแทบจะละลายกลายเป็นน้ำ ร่างของนางอ่อนแรงอยู่กับขาทั้งสองของหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่คลึงก้นงามที่ถูกฟาดจนปวดแสบปวดร้อนของเสิ่นเสี่ยวซัน จากการคลึงเบาๆ เช่นนี้ เสิ่นเสี่ยวซันถึงกับร้องครางเบาๆ ออกมาเหมือนแมว พลันทำให้นางรู้สึกอับอายจนแทบจะมุดแผ่นดิน กัดฟันแน่น ไม่กล้าให้เสียงเล็ดลอดออกมา แต่การนวดคลึงของหลี่ชิเย่ทำให้หัวใจของนางโบยบินเหมือนล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ ตัวเบาหวิว ลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในหล้า
เวลานี้ มือใหญ่ของหลี่ชิเย่เหมือนหนึ่งมีประจุไฟฟ้า ช็อตจนเสิ่นเสี่ยวซันจิตใจเคลิบเคลิ้มหลงใหล หลงรักเข้าไปเต็มตัว
“ยังเจ็บอีกมั้ยเวลานี้?” หลังจากที่หลี่ชิเย่นวดคลึงไปครู่หนึ่งแล้วจึงได้เอ่ยถามขึ้นมา
คำพูดที่ห่วงใยของหลี่ชิเย่ไม่เพียงทำให้วิญญาณของเสิ่นเสี่ยวซันล่องลอยเท่านั้น ร่างทั้งร่างของเขาเวลานี้เปรียบประดุจแช่อยู่ในน้ำผึ้งอย่างนั้น หวานจนแยกไม่ออก และเวลานี้นางรู้สึกเหมือนมึนๆ
“ไม่ ไม่ ไม่เจ็บแล้ว” เสียงของเสิ่นเสี่ยวซันเบามากจนแทบไม่ได้ยิน เวลานี้ทุกสิ่งล้วนไม่มีความสำคัญอีกต่อไป ความไม่เป็นธรรมเล็กน้อยที่ได้รับก่อนหน้าไม่นับเป็นอะไรได้
สุดท้าย หลี่ชิเย่หัวเราะและหลี่ชิเย่ “เอาหละ ข้าจะไม่ลงโทษเจ้าอีกแล้ว ลุกขึ้นเถอะ”
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้เสิ่นเสี่ยวซันอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่ง่ายนักกว่าจะยืนตัวตรงขึ้นมาได้ หลังจากลุกขึ้นยืนแล้ว นางก้มหน้าลงต่ำมองดูปลายเท้าของตน ไม่กล้าสบตากับหลี่ชิเย่
“นั่งลงสิ” หลี่ชิเย่มองดูเสิ่นเสี่ยวซันทีหนึ่ง สั่งการออกไป
เสิ่นเสี่ยวซันเชื่อฟังอย่างว่าง่าย นั่งลงข้างๆ หลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นยังคงดูดกลืนกลิ่นอายขมุกขมัว และรับเอาพลังของโลกยุคดึกดำบรรพ์ก่อนที่จะมีการแยกฟ้าดินออกเป็นสองส่วน กล่าวขึ้นเชื่องช้าว่า “เจ้าคุมจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเอาไว้ ขจัดความคิดที่สับสน ทำจิตให้ว่างเปล่า สมควรทราบว่า ยามที่คนเราได้รับความพึงพอใจสูงสุดจะเป็นช่วงเวลาที่จิตจะเข้าสู่สภาพที่ว่างเปล่าได้ง่ายดายที่สุด”
เสิ่นเสี่ยวซันพลันมีใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ แต่ว่าเวลานี้นางไม่กล้าคิดอะไรมาก รีบเร่งทำตามที่หลี่ชิเย่บอก คุมจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเอาไว้ ขจัดความคิดที่สับสน ทำจิตให้ว่างเปล่า
แรกทีเดียวยังมีความยากลำบากสำหรับเสิ่นเสี่ยวซัน แต่ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร การที่นางนั่งอยู่ข้างกายของหลี่ชิเย่ และห่างกันใกล้ขนาดนี้ ได้สูดดมเอากลิ่นอายของบุรุษที่หนึ่งไม่มีสองเช่นนี้เข้าไป มันกลับไม่ได้ไปรบกวนอารมณ์ของนาง และไม่ได้สะกิดใจของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...