แต่ว่า เมื่อพ่อค้ามองดูหลี่ชิเย่แล้วพบว่า แทบไม่ได้มีทักษะอะไรบนตัวเลย เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น พลันใจกล้ามากขึ้นทันที หัวเราะอย่างมีเลศนัย พูดน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “แหะ เจ้ามนุษย์ปุถุชนโง่เขลา ถึงกับกล้าพูดจากโอหังไม่รู้จักละอาย ทำลายชื่อเสียงสามหมื่นปีของข้า วันนี้หากไม่มีคำอธิบายล่ะก็ อย่าหวังจะได้ไปจากที่นี่”
สีหน้าของสือโส่วพลันเปลี่ยนไปกับท่าทีของพ่อค้าที่ต้องการหาเรื่องอย่างไร้เหตุผล เขาไม่ต้องการให้มีเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่คือเมืองฉีหลิน อยู่ใกล้ตระกูลราชันฉีหลินแค่เอื้อม หากก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอาจนำมาซึ่งภัยสำนักต้นไม้เหล็กพวกเขาถูกทำลายล้างสำนักได้
สือโส่วก้าวเดินออกมากำลังจะกล่าวคำขอโทษ แต่ถูกหลี่ชิเย่กางแขนขวางเอาไว้ หลี่ชิเย่กระทั่งไม่ได้เลิกหนังตาเสียด้วยซ้ำ กล่าวเรียบเฉยออกมาว่า “เจ้าลองลงมือสิ หากเจ้าขยับแม้แต่ปลายนิ้วก้อย วันนี้ข้าจะเด็ดหัวเจ้าออกมาเตะบอลเล่น!”
คำพูดที่เรียบเฉยของหลี่ชิเย่พลันทำให้พ่อค่าผู้นี้ต้องตะลึงตัวแข็งอยู่กับที่ แม้ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจะแลดูธรรมดาไม่มีอะไรเป็นที่สะดุดตา เป็นผู้ที่แทบไม่มีทักษะอยู่บนตัว แต่ว่า เมื่อเขาพูดเช่นนี้ออกมา เขารู้สึกว่าตัวเองเย็นยะเยือกไปทั่วตัว ไม่หลงเหลือความกล้าแม้แต่จะขยับตัวสักนิด ยืนทื่ออยู่ตรงนั้นด้วยความตกใจ
หลี่ชิเย่ไม่มองหน้าเขามากไปกว่านี้ หันหลังเดินจากไปทันที เสิ่นเสี่ยวซันรีบเดินตามไปให้ทัน และเอ่ยเสียงแผ่วเบาที่ข้างกายหลี่ชิเย่ว่า “ขอบคุณ” น้ำเสียงนั้นเปี่ยมด้วยความนุ่มนวลอย่างหาที่สุดไม่ได้
“แค่ลูกไม้ตื้นๆ เท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ยิ้มตามอารมณ์นิดหนึ่ง แล้วก้าวเดินต่อไป
เฮ่อเฉินถึงกับจ้องมองพ่อค้าที่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยับตัวด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดพ่อค้าที่ก่อนหน้านั้นยังมีท่าทีดุดัน เวลานี้กลับยืนทื่ออยู่ตรงนั้น
สือโส่วไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ มองดูพ่อค้าคนนั้นเฉยๆ แล้วมองดูหลี่ชิเย่เงียบๆ เขาถึงกับเอียงศีรษะทำท่าครุ่นคิดขึ้นมา
หลี่ชิเย่พาพวกของเสิ่นเสี่ยวซันเดินเรื่อยไป สุดท้ายพวกเขาได้มาถึงถนนสายยาวที่ไม่สะดุดตาสายหนึ่ง และไปหยุดอยู่ตรงหน้าร้านๆ หนึ่ง
ร้านนี้ไม่ได้สะดุดตาสักนิด เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง บนนั้นมีป้ายไม้แขวนอยู่ เป็นป้ายไม้ที่เก่าแก่โบราณมากแล้ว อีกทั้งกาลเวลาที่ผ่านไปเนิ่นนาน ป้ายไม้ที่ติดไว้เริ่มคลายตัว ลักษณะของป้ายไม้ในเวลานี้จึงเอียงไปด้านหนึ่ง
ด้วยร้านค้าลักษณะเช่นนี้แหละ กลับมีชื่อร้านที่อหังการมาก บนแผ่นป้ายไม้สลักอักษรไว้ว่า “หอราชัน” อีกทั้งตัวอักษรมีความพลิ้วไหวสวยงามสง่าผ่าเผยน่าเกรงขาม พลันที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่ามาจากผู้ที่มีฝีมือเยี่ยมยอดมาก
บนมุมขวาด้านบนที่ไม่เป็นที่สะดุดตาได้ประทับตราขนาดเล็กเอาไว้ เป็นตรารูปอีกาตัวหนึ่ง หากไม่สงเกตุก็จะมองไม่เห็นตราประทับตรานี้
หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น มองดูป้ายไม้ที่แขวนอยู่ในลักษณะเอียงไปข้างหนึ่ง จากนั้นพาพวกของเสิ่นเสี่ยวซันเดินเข้าไปภายในร้าน
พวกของเสิ่นเสี่ยวซันเดินตามหลี่ชิเย่เข้าไปภายในร้าน พบว่าร้านแห่งนี้ความจริงก็มีขนาดที่ไม่เล็ก ราวๆ ขนาดห้องโถงเห็นจะได้ เพียงแต่ประตูเล็กเกินไปเท่านั้น ทำให้ไม่เป็นที่สังเกต
ร้านแห่งนี้แม้จะตั้งชื่อร้านได้อหังการว่า “หอราชัน” แต่ว่าภายในร้านกลับไม่สมกับชื่อร้านแม้แต่น้อย
เห็นเพียงสิ่งของต่างๆ ที่วางกันอย่างระเกะระกะ ตรงนี้เป็นหินกองหนึ่ง ตรงนั้นเป็นเศษไม้แห้งกองหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นเครื่องเรือนเก่าๆ กองหนึ่งเป็นต้น…
สรุปคือดูยังไงก็ไม่เหมือนเป็นร้านค้า เหมือนสถานที่เก็บขยะมากกว่า ของทุกอย่างถูกโยนเอาไว้กับพื้นอย่างตามใจ จัดวางกันตามอำเภอใจ ไม่มีใครคอยดูแลจัดการเลย
ภายในร้านมีเถ้าแก่ร้านเฒ่าอยู่คนหนึ่ง ซึ่งเถ้าแก่ร้านเฒ่าคนดังกล่าวมีสายตาที่พร่ามัว เวลานี้กำลังสนเข็มอยู่ เข้าต้องการสนด้ายยาวเข้าไปในรูเข็ม เพื่อเย็บปลอกสำลีเก่าๆ
เถ้าแก่ร้านเฒ่าทุ่มเทสมาธิอยู่กับการสนเข็ม โดยที่หลี่ชิเย่ก็มารบกวนเขา เพียงยืนสองมือไพล่หลัง มองดูเขาที่กำลังสนเข็ม เหมือนกำลังชื่นชมศิลปะอย่างหนึ่ง
เฮ่อเฉินเป็นคนหนุ่ม เขาอยู่เฉยไม่เป็น เที่ยวมองซ้ายแลขวาไปทั่ว ทุกอย่างดูน่าสนใจไปหมด มองดูสิ่งนี้ เคาะสิ่งนั้น
ขณะเมื่อหลี่ชิเย่มองดูเถ้าแก่ร้านเฒ่าสนเข็มอย่างเงียบๆ อยู่นั้น เสิ่นเสี่ยวซันอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่โดยตลอด นางรู้สึกแปลกใจยิ่งที่หลี่ชิเย่เลือกมาที่ร้านนี้ มันมีสิ่งใดกันรึที่สามารถดึงดูดเขาเอาไว้
แม้ว่าทักษะของหลี่ชิเย่เกือบจะเป็นศูนย์ หรือก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ว่า ภายในใจของเสิ่นเสี่ยวซัน ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวาง ไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่รู้ ไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่แจ้ง ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ชำนาญ ทำให้นางบังเกิดความเคารพรักขึ้นในใจ…
สำหรับสือโส่วนั้น เขายิ่งเป็นผู้ที่พูดน้อยอยู่แล้ว แต่ว่า เขาคอยสังเกตทุกความเคลื่อนไหวของหลี่ชิเย่ กล่าวสำหรับเขาแล้ว หลี่ชิเย่ทิ้งปริศนาให้กับเขามากมาย หลังจากได้สัมผัสบ้างแล้ว ทำให้เขาค่อยๆ เข้าใจว่าเพราะเหตุใดศิษย์พี่ถึงได้ให้ความเคารพต่อมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเช่นนี้ ลำพังแค่ความสงบนิ่งของเขาก็ยากจะมีผู้สามารถทัดเทียมได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...