ข้างกายของชายหนุ่มและหญิงสาวคู่นี้ก็มีพนักงานขายคนหนึ่งคอยบริการ เวลานี้ชายหนุ่มผู้นี้พลันลงมือแย่งชิงเอาถ้วยหยกจากมือของหลี่ชิเย่กะทันหัน ทำให้พนักงานผู้นี้รู้สึกผะอืดผะอมอยู่บ้างเหมือนกัน หัวเราะเจื่อนๆ และกล่าวต่อหลี่ชิเย่ว่า “ฝ่าบาทท่านนี้ใจร้อน ขอเชิญนายท่านเลือกดูของล้ำค่าชิ้นอื่นๆ เป็นไร?”
หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะมองดูชายหนุ่มผู้นี้แม้เพียงแวบเดียว กล่าวท่าทีเฉยเมยวา “ให้เขาส่งคืนมา ถ้วยหยกใบนี้ข้าซื้อแล้ว”
เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้พนักงานร้านทั้งสองรู้สึกลำบากใจ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของร้านก็คือ ใครหยิบสินค้าได้ก่อนแล้วต้องการซื้อเอาไว้ สิทธิตรงนั้นก็จะอยู่ที่คนผู้นั้น
เวลานี้ ชายหนุ่มผู้นี้ถือว่าตนเองมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา จึงลงมือแย่งชิงถ้วยหยกจากมือของหลี่ชิเย่ในทันที ทำให้พนักงานของทั้งสองฝ่ายรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง
พนักงานขายที่ติดตามชายหนุ่มและหญิงสาวได้แต่ถูมือไปมา กล่าวกับชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “ฝ่าบาท ท่านลองพิจารณาดูว่าจะเปลี่ยนเป็นของล้ำค่าชิ้นอื่นดีไหม ร้านของพวกเรามีของล้ำค่าอยู่มากมาย มีของที่เพิ่งจะเข้ามาใหม่เช่นกริชเล่มนี้เหมาะกับแม่นางหลินอย่างยิ่ง”
แม้ว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาเฉกเช่นหลี่ชิเย่ไม่แน่เสมอไปว่าสามารถซื้อถ้วยหยกใบนี้ได้ก็ตาม แต่ปัญหาอยู่ที่หลี่ชิเย่เป็นผู้หยิบเอาถ้วยหยกใบนี้ได้ก่อน ตามธรรมเนียมปฏิบัติของพวกเขามีเพียงรอให้หลี่ชิเย่ไม่ซื้อ จึงเป็นสิทธิ์ของลูกค้าลำดับถัดไป
“ไม่ต้องแล้ว ข้าต้องการถ้วยหยกใบนี้ ถ้วยหยกใบนี้สามารถทำให้สายเลือดบริสุทธิ์ เหมาะอย่างยิ่งกับพี่สาวของข้า ข้ากำลังคิดจะมอบของขวัญให้กับนางชิ้นหนึ่งพอดี” ชายหนุ่มผู้นี้ยโสอย่างยิ่ง
“เหอะ เหอะ นายท่าน ลองเปลี่ยนเป็นของล้ำค่าชิ้นอื่นๆ ดีไหม พวกเรายังมีของล้ำค่าอื่นๆ อีก ต้องมีสักชิ้นที่เหมาะสมกับท่านอยู่แล้ว” เมื่อพนักงานขายข้างฝ่ายของหลี่ชิเย่เห็นว่าชายหนุ่มผู้นั้นไม่เห็นด้วย จึงรีบเร่งหว่านล้อมกับหลี่ชิเย่
“ไม่ได้” หลี่ชิเย่ที่มีท่าทีเฉยเมย กล่าวปฏิเสธคำขอของพนักงานขายในทันควัน กล่าวเรียบเฉยว่า “ถ้วยหยกใบนี้ข้าซื้อเอาไว้แน่นอนแล้ว”
ท่าทีเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้พนักงานทั้งสองคนถึงกับพูดอะไรไม่ออก โดยปรกติแล้ว มนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่ไหนกล้าไปยุ่งกับผู้บำเพ็ญตน ยิ่งไปกว่านั้น ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามีประวัติความเป็นมาที่น่าทึ่งมาก
ชายหนุ่มผู้นี้ที่มาวันนี้คือต้องการพาสาวงามมาซื้อหาสิ่งของ บังเอิญไปเห็นถ้วยหยกใบนี้เข้าพอดี รู้สึกว่าเหมาะกับพี่สาวของเขามาก ดังนั้น จึงตั้งใจซื้อให้กับพี่สาวของเขา
เวลานี้ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับหาญกล้าแย่งชิงของกับเขา ไม่เพียงทำให้เขาหาทางลงไม่ได้ขณะอยู่ต่อหน้าสาวงาม และทำให้เขาต้องเสียหน้าต่อหน้าธารกำนัลมากมาย
“เจ้าหนู เจ้ามีปัญญาซื้อรึ?” ชายหนุ่มเหลือบมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง กล่าวเยาะเย้ยออกมา สายตาเปี่ยมด้วยความดูแคลน ในสายตาของเขามองว่า หลี่ชิเย่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ต่อให้มีเงินแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถซื้อของล้ำค่าเช่นนี้ได้อยู่แล้ว
“เสี่ยวเอ้อร์ ห่อให้ข้า รอจ่ายพร้อมกันทีเดียว” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจไปสนใจชายหนุ่มผู้นี้อยู่แล้ว สั่งการกับพนักงานขายที่อยู่ข้างๆ
พลันทีหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกไป ได้ทำให้เสิ่นเสี่ยวซันที่ยืนอยู่ด้านหลังตกใจเป็นยิ่งนัก เนื่องจากนางรู้ว่าในกระเป๋าของหลี่ชิเย่ไม่ได้มีศิลาขมุกขมัวเลยแม้แต่เม็ดเดียว เวลานี้กลับออกปากให้พนักงานจัดการห่อของล้ำค่าชิ้นนี้ให้เรียบร้อย ถึงเวลาต้องจ่ายเงินจริงๆ แล้วควักออกมาไม่ได้คงอึดอัดวางตัวไม่ถูก ผะอืดผะอมเหลือเกิน
ชายหนุ่มผู้นี้สุดจะทนเหลือเกิน แค่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับเป็นปฏิปักษ์กับตนซึ่งหน้าถึงเพียงนี้ สองตาของเขาถึงกับส่งประกายเยือกเย็น จ้องมองหลี่ชิเย่อย่างน่าเกรงขาม เผยปณิธานการฆ่าออกมา
ถ้าหากที่ตรงนี้ไม่ใช่ถิ่นของตระกูลราชันฉีหลินล่ะก็ เขาจะลงมือสังหารเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้ทันที ด้วยฐานะของเขา การสังหารมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งง่ายดายเหมือนบี้มดให้ตายตัวหนึ่งเท่านั้น
“ฮึ แค่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น หาญกล้ากล่าววาจาสามหาว เจ้ารู้หรือไม่ว่าองค์รัชทายาทเป็นผู้ใดหรือไม่?” สาวงามที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มก็ไม่พอใจหลี่ชิเย่เช่นกัน ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา กล่าวท่าทียโสว่า “รัชทายาทคือองค์รัชทายาทของแคว้นหงส์ฟ้า คือพระอนุชาแท้ๆ ขององค์หญิงเทียนหวง (หงส์ฟ้า)!”
“องค์หญิงเทียนหวง” ใบหน้าของสือโส่วพลันซีดเผือดเมื่อได้ยินชื่อนี้ แม้แต่เฮ่อเฉินและเสิ่นเสี่ยวซันก็ตกใจยิ่งเช่นกัน
เนื่องจากพวกเขาก็เคยได้ยินชื่อขององค์หญิงเทียนหวงมาก่อน แม้ว่าชื่อเสียงขององค์รัชทายาทเทียนหวงไม่ได้โด่งดังอะไรขนาดนั้น แต่เมื่อชื่อของ “องค์หญิงเทียนหวง” ปรากฏออกมา เกรงว่าผู้คนจำนวนมากในชิงโจวก็ต้องให้เกียรติอยู่สามส่วน
องค์รัชทายาทเทียนหวงคือองค์รัชทายาทของแคว้นเทียนหวง โดยที่แคว้นเทียนหวงเป็นสายสำนักของเซียนหวัง ก่อตั้งโดยเซียนหวังเทียนหวง
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้ราชสำนักเทียนหวงภาคภูมิใจหาใช่ความเป็นสายสำนักเซียนหวังของพวกเขา แต่เป็นองค์หญิงเทียนหวงที่เป็นที่ภาคภูมิใจของพวกเขา
องค์หญิงเทียนหวงมีสายเลือดที่สูงส่งยิ่งนัก ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ องค์หญิงเทียนหวงเป็นคู่หมั้นของจินเก๋อ ขณะที่จินเก๋อคือผู้สืบทอดของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง กระทั่งเคยดำรงตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง จินเก๋อเคยเป็นผู้ที่จะได้เป็นราชันสวรรค์ เขาจึงมีอิทธิพลสามารถคุกคามทั่วทั้งสิบสามทวีป
ดังนั้น เมื่อได้ยินชื่อของ “องค์หญิงเทียนหวง” แล้ว จึงส่งผลให้สือโสว่ตกใจจนเข่าอ่อนทั้งสองข้าง ภายใต้สำนักเช่นนี้ อยู่เบื้องหน้าบุคคลเช่นนี้ พวกเขาเป็นไม่ได้กระทั่งมดปลวก
เสิ่นเสี่ยวซันที่ตกใจยิ่งก็กระตุกแขนเสื้อของหลี่ชิเย่เบาๆ เตือนไม่ให้หลี่ชิเย่แย่งชิงกับองค์รัชทายาทเทียนหวง จะอย่างไรเสียมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าไปยุ่งกับองค์รัชทายาทเทียนหวง
สาวงามที่อยู่ข้างกายขององค์รัชทายาทเทียนหวงอดที่จะรู้สึกกระหยิ่มใจ และยโสไม่ได้ เมื่อเห็นพวกของสือโส่วถูกทำให้ตกใจจนใบหน้าขาวซีด กล่าวเยาะเย้ยว่า “อำนาจน่าเกรงขามขององค์รัชทายาทเทียนหวงไหนเลยที่พวกเจ้าสามารถเทียบเคียงได้ หากรู้จักกาลเทศะรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
จังหวะที่เสียงพิณดังขึ้นในทันใด ถึงกับปรากฏเสียงของหงส์ดังขึ้น และตัวพิณเรียกหงส์ก็เปล่งเป็นประกายขึ้นมา และจางหายไป เหมือนว่าเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้พนักงานสองคนยืนเซ่ออยู่ตรงนั้น รับไม่ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ขณะที่เถ้าแก่ร้านเฒ่าที่นั่งอยู่หลังร้านพลันมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป ลุกขึ้นยืนโดยพลันและก้าวเดินเข้ามาหา เมื่อเดินไปถึงหน้าหลี่ชิเย่ได้โค้งคำนับและกล่าวว่า “ท่านคือผู้สูงส่ง การมาที่ร้านของท่านเป็นการนำแสงสว่างมาสู่ร้านอันต่ำต้อยของข้า”
“ท่านผู้นี้คือเถ้าแก่ร้านของพวกเรา” ขณะที่เถ้าแก่ร้านเฒ่ากำลังคำนับต่อหลี่ชิเย่ พนักงานขายข้างกายหลี่ชิเย่ได้แนะนำต่อหลี่ชิเย่ด้วยเสียงแผ่วเบา
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” หลี่ชิเย่กล่าวตามอารมณ์ออกมา “ข้าต้องการมาซื้อหาของเล่นเล็กน้อยที่นี่”
เมื่อพนักงานเห็นท่าทีของหลี่ชิเย่แล้วถึงกับอ้าปากค้าง เถ้าแก่ร้านของพวกเขาไม่ให้การต้อนรับกระทั่งกษัตริย์แห่งแคว้น หรือหัวหน้าพรรค กระทั่งเรียกได้ว่ากษัตริย์แห่งแคว้น หรือหัวหน้าพรรคยังต้องโค้งคำนับทักทายเถ้าแก่ร้านของพวกเขา เวลานี้หลี่ชิเย่กลับไม่ใยดีแม้แต่น้อย ช่างอหังการและยโสเหลือเกิน
เถ้าแก่ร้านเฒ่าดึงถ้วยหยกใบนั้นจากมือของพนักงานผู้นั้น แล้วกล่าวกับองค์รัชทายาทเทียนหวงว่า “ฝ่าบาท กฎกติกาของทางร้านคือ ใครพบก่อนได้สิทธิ์ซื้อก่อน หวังว่าฝ่าบาทจะให้อภัย”
“เถ้าแก่ หาใช่ข้าบังคับซื้อขาย แต่ข้ามีบัตรทองลูกค้าผู้มีเกียรตินะ” องค์รัชทายาทเทียนหวงกล่าวด้วยท่าทีไม่ยอมรับทันที
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นเถ้าแก่ร้านเฒ่าเขาไม่กล้าแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด แต่ว่า ก็ยากจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้
“ท่านผู้นี้คือแขกผู้มีเกียรติสูงสุดของพวกเรา” เถ้าแก่ร้านเฒ่ากล่าวท่าทีจริงจังว่า “เขามีสิทธิ์ก่อนทุกกรณี หวังว่าฝ่าบาทจะให้อภัย”
ในเวลานี้ เถ้าแก่ร้านเฒ่าได้สั่งให้พนักงานขายไปหยิบเอากริชเล่มนั้นมามอบให้กับแม่นางที่อยู่ข้างกายองค์รัชทายาทเทียนหวง กริชเล่มนี้มีมูลค่าไม่เบาทีเดียว และแม่นางผู้นั้นดูจะชื่นชอบยิ่งนัก
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม องค์รัชทายาทเทียนหวงยังคงไม่หายโกรธ จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ หากที่ตรงนี้ไม่ใช่ร้านตระกูลฉี เขาจะต้องสังหารเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้อย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...