ลองนึกภาพดู เมื่อถึงคราวฟ้าสาง บรรดาผู้บำเพ็ญตนและมนุษย์ปุถุชนจำนวนมากมาเห็นรัชทายาทซีถัวและพวกในสภาพเปลือยเปล่าถูกแขวนเอาไว้บนต้นไม้ใหญ่ มันเป็นเรื่องที่คึกโครมเช่นใด เรียกได้ว่าเป็นเรื่องตลกที่สุดของเมืองฉีหลินก็ว่าได้ ทำให้รัชทายาทซีถัวต้องเสียหน้าจนสิ้น แม้แต่แคว้นซีถัวของพวกเขาก็พลอยเสียหน้าไปด้วย
สำหรับเรื่องนี้ รัชทายาทซีถัวไม่เพียงโกรธแค้นจนเข้ากระดูกดำ และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันต่อพวกของตาเฒ่าเซิ่นเหล่าลิ่ว แค้นจนอยากจะสับพวกเขาให้เป็นหมื่นๆ ชิ้นเท่านั้น ขณะเดียวกันแค้นแม้กระทั่งหลี่ชิเย่ และบรรดาคนทั้งหมดของสำนักต้นไม้เหล็กด้วย
หากเปลี่ยนเป็นอดีต รัชทายาทซีถัวคงนำทัพทำลายล้างสำนักต้นไม้เหล็กนานแล้ว กล่าวสำหรับแคว้นซีถัวพวกเขาแล้ว แค่สำนักต้นไม้เหล็กเท่านั้นนับเป็นตัวอะไร การที่จะทำลายล้างสำนักต้นไม้เหล็กเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก
แต่ทว่า หลายวันที่ผ่านมา แคว้นซีถัวไม่มีกำลังพอที่จะไปจัดการกับสำนักต้นไม้เหล็ก เนื่องจากจู่ๆ แคว้นซีถัวก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งมาทวงหนี้อย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ โดยบอกว่าจวิ้นหวังของแคว้นซีถัวทำขวดหยกของร้านพวกเขาแตก ติดหนี้ก้อนโตเอาไว้
ว่ากันตามเหตุผลแล้ว เหลียงหานที่เป็นจวิ่นหวังของแคว้นซีถัวไปก่อหนี้เอาไว้มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแคว้นซีถัว และไม่ใช่เรื่องที่สำนักพระราชวังของแคว้นซีถัวต้องมาชดใช้ให้
แต่ทว่า กลุ่มบุคคลที่มาทวงหนี้กับแคว้นซีถัวของพวกเขาไม่พูดเหตุผลกับพวกเขา ไม่มนใจอะไรทั้งสิ้น จัดการกวาดทุกสิ่งทุกอย่างของแคว้นซีถัวจนเรียบ กระทั่งเรียกได้ว่าขุดลึกลงไปใต้ดินเลยทีเดียว ของมีค่ามากมายต่างๆ ล้วนแล้วแต่ถูกกลุ่มคนทวงหนี้แย่งชิงเอาไป กระทั่งเสด็จพ่อของเขาก็ถูกคนกลุ่มนี้ลากตัวลงมาจากบัลลังก์ แล้วคนกลุ่มนี้ก็จัดการยกเอาราชบัลลังก์ที่สืบทอดต่อกันมาไปดื้อๆ
หลังจากที่แคว้นซีถัวถูกกลุ่มผู้ทวงหนี้กลุ่มนี้ค้นไปทั่วทำให้แคว้นซีถัวตกที่นั่งลำบากทันที จึงไม่มีกระจิตกระใจจะไปสนใจเรื่องของสำนักต้นไม้เหล็กที่เป็นเรื่องเล็กๆ เท่านั้น แต่ยังดีตรงที่ว่าหวังเซี่ยวเทียนรัชทายาทซีถัวที่อยู่เมืองฉีหลินสามารถคบหากับหลี่เทียนเหานายน้อยของตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางได้ ซึ่งเท่ากับว่าได้เกาะผู้มีอำนาจเอาไว้ได้ ด้วยเหตุนี้เอง แม้ว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นในแคว้นซีถัวก็ตาม กษัตริย์ของแคว้นซีถัวยังคงให้รัชทายาทซีถัวรั้งอยู่ที่เมืองฉีหลิน หวังว่าเขาจะคบหากับผู้มีอำนาจได้มากรายกว่านี้
เรื่องที่พวกของรัชทายาทซีถัวถูกจับเปลือยกายล่อนจ้อนแขวนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ เป็นที่หัวเราะเยาะของผู้บำเพ็ญตน และมนุษย์ปุถุชนจำนวนมากนั้น ต้นสายปลายเหตุล้วนมาจากหลี่ชิเย่ และพวกของเสิ่นเสี่ยวซันที่อยู่ตรงหน้า เวลานี้เมื่อศัตรูมาพบกัน ย่อมมีอารมณ์โกรธแค้นมากเป็นพิเศษ
“นายน้อยหลี่ เป็นเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้นี่แหละ” เวลานี้หวังเซี่ยวเทียน รัชทายาทซีถัวชี้ไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “เป็นเขานี่แหละที่ร่วมกับพวกเสเพลของสำนักต้นไม้เหล็ก ประกาศว่าจะกวาดล้างดินแดนของฉีหลิน ควงหมัดใส่หนานหยาง ยกเท้ากระทืบเจอยื่อ!”
รัชทายาทซีถัวหวังเซี่ยวเทียนนับว่ามีความสามารถ เขารั้งอยู่ในเมืองฉีหลินได้คบหาสหายเอาไว้ได้ไม่น้อย หนึ่งในนั้นรวมทั้งนายน้อยของตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางหลี่เทียนเหาที่มีอำนาจและอิทธิพล!
รัชทายาทซีถัวหวังเซี่ยวเทียนจุดชนวนโหมไฟให้ลุกโชน โดยที่เป็นการปั้นน้ำเป็นตัว
เหตุการณ์นี้พลันทำให้พวกเถี่ยซู่องศิษย์อาจารย์มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป เนื่องจากพวกเขาไม่เคยพูดคำๆ นี้ออกมาเลย
“นายน้อยหลี่อย่าได้เข้าใจผิด พวกเราไม่เคยพูดคำๆ นี้ออกมาเลย” การที่รัชทายาทซีถัวเล่าสาดโคลนใส่หัวของตน ทำให้เถี่ยซู่องต้องตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่าง จึงรีบแสดงคารวะและวางท่าทีของตนให้นอบน้อมที่สุด ขาดเพียงแค่ไม่ได้ก้มหน้ายอมรับผิดเท่านั้น
ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยาง สำนักเจอยื่อ ต่างก็เป็นสองสำนักขนาดใหญ่ภายใต้การปกครองของตระกูลราชันฉีหลิน นับเป็นหนึ่งในสำนักที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดภายใต้การปกครองของตระกูลราชันฉีหลิน
ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางมีจอมเทพที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ส่วนสำนักเจอยื่อไม่ต้องพูดถึง พวกเขาเป็นสายสำนักราชันเซียน ก่อตั้งขึ้นโดยราชันเทพเจอยื่อ
เวลานี้ รัชทายาทซีถัวผลักสำนักต้นไม้เหล็กให้เป็นศัตรูกับสองผู้ยิ่งใหญ่อย่างตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางและสำนักเจอยื่อ เรียกว่าโหดเหี้ยมมาก เป็นการเริ่มต้นทำให้สำนักต้นไม้เหล็กต้องก้าวเดินไปสู่เส้นทางการถูกทำลายล้าง
“เจ้าจะตื่นเต้นทำไม…” หลี่เทียนเหาเพียงจ้องมองดูเถี่ยซู่องด้วยท่าทีน่าเกรงขาม สำหรับเขาที่อยู่ในฐานะนายน้อยที่สูงเด่นแล้ว สำนักต้นไม้เหล็กเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น เขากล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ถ้าหากเจ้าไม่ได้พูด หรือนายน้อยอย่างข้าจะให้ร้ายเจ้าอย่างนั้นรึ?”
สีหน้าของเถี่ยซู่องเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อหลี่เทียนเหาพูดคำๆ นี้ออกมา เขาเข้าใจได้ทันทีว่า เฉกเช่นผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นหลี่เทียนเหาและตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางของพวกเขาแล้ว ข้อเท็จจริงไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่ใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู
กล่าวสำหรับหลี่เทียนเหา และตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางแล้ว ต่อให้เป็นการปั้นน้ำเป็นตัวของรัชทายาทซีถัวแล้วไง ทำลายล้างสำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขาก็แค่บี้มดปลวกให้ตายไปตัวหนึ่งเท่านั้นเอง
ระหว่างมดปลวกตัวหนึ่งกับสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งจะเลือกใคร? คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางย่อมต้องเข้าข้างฝ่ายของรัชทายาทซีถัวแน่นอน
พริบตาเดียวนี้เอง เถี่ยซู่องก็เข้าใจจุดนี้ได้ พลันเหงื่อเย็นไหลโทรมกาย สำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขาที่เป็นเพียงสำนักขนาดเล็ก ในสายตาของแคว้นซีถัวก็ไม่นับเป็นอะไรแล้ว เมื่อต้องอยู่ในสายตาของตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า มันก็เป็นได้แค่มดปลวกเท่านั้นเอง
“ถ้าหากเจ้าไม่ได้พูด แล้วใครเป็นคนพูดคำๆ นี้หละ?” สายตาของหลี่เทียนเหามองข้ามเถี่ยซู่อง และตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ที่ดูมีท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กล่าวเย็นชาว่า “เป็นเจ้าใช่มั้ยที่พูด?”
แม้ว่าหลี่เทียนเหากับหลี่ชิเย่จะไม่เคยมีความแค้นต่อกัน แต่อารมณ์ของเขายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับหลี่ชิเย่มาตั้งแต่เริ่มแรกอยู่แล้ว เหตุผลนั้นง่ายมาก หลี่เทียนเหาเคยคบหากับรัชทายาทเทียนหวงจากการพบกันครั้งเดียว ขณะที่หลี่ชิเย่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเท่านั้น
ข่าวเรื่องรัชทายาทเทียนหวงถูกฆ่าเขาก็ได้ยินมาเช่นกัน ดังนั้น หลี่เทียนเหามีอคติตั้งแต่แรกพบเห็นหลี่ชิเย่ และมีความไม่พอใจในตัวของหลี่ชิเย่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...