ถ้าหากไม่เป็นเพราะต้องการรอเข้าเฝ้าธิดาราชันฉีหลินล่ะก็ ทำไมพวกเขาจะต้องลดตัวลงมาเช่นนี้ เป็นไงล่ะตอนนี้ ธิดาราชันฉีหลินยังไม่ทันได้พบ กลับต้องพบกับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งมาวางมาดต่อหน้าตนเอง ทั้งยังเป็นการวางมาดเกินกว่าที่ควรจะเป็น ไม่เห็นหัวของทุกคนที่อยู่ตรงนี้ แล้วจะให้พวกเขารู้สึกสบายใจได้อย่างไรกันเล่า
สำหรับพวกของเสิ่นเสี่ยวซันที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ถึงกับตัวสั่นงันงก ปรกติแล้วพวกเขาเป็นเพียงผู้น้อยที่ไม่มีความสำคัญอะไรเท่านั้น ไหนเลยจะเคยพบกับสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แล้วเป็นไงล่ะวันนี้ ถึงกับเผยโฉมออกมาอย่างเต็มที่ต่อหน้าบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลาย อีกทั้งยังทำเหมือนพวกเจ้าสำนักและกษัตริย์เหล่านั้นไม่มีตัวตนอีกด้วย
สิ่งนี้ส่งผลให้พวกของเสิ่นเสี่ยวซันที่อยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ถึงกับเข่าอ่อนทั้งสองข้าง โดยเฉพาะคนหนุ่มอย่างเฮ่อเฉินแล้วเขารู้สึกทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ
เฉกเช่นพวกเขาที่เป็นเพียงผู้น้อยที่ไม่มีความสำคัญอะไร ไหนเลยจะมีโอกาสแสดงอำนาจต่อหน้าบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายได้ ปรกติแล้ว อย่าว่าแต่แสดงอำนาจต่อหน้าบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายเลย บุคคลตัวน้อยที่ไม่มีความสำคัญเช่นพวกเขาหากพบเจอกับบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายเหล่านี้แล้วมีแต่ก้มโค้งคำนับอย่างเดียว กระทั่งไม่มีสิทธิ์ได้พบเจอหน้าพวกเขาเหล่านี้ด้วยซ้ำ
เป็นไงหละเวลานี้ หลังจากที่พวกเขาติดตามหลี่ชิเย่แล้ว บรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ แต่โดยดี ทำให้พวกเขาไม่เพียงรู้สึกได้หน้า ยังรู้สึกมีอำนาจขึ้นมาสามส่วน
กล่าวสำหรับคนหนุ่มอย่างเฮ่อเฉิน ความรู้สึกเช่นนี้ สถานการณ์เช่นนี้ มันทั้งตื่นเต้น ทั้งเร้าใจ แต่กล่าวสำหรับเขามันคุ้มค่าแล้วหละ วันหนึ่งหากแก่ตัวแล้วเขาสามารถนำเอาเรื่องนี้มาคุยโม้ต่อหน้าผู้เยาว์ได้ว่า เคยมีครั้งหนึ่ง เขาได้ยืนหมางเมินต่อหน้ากษัตริย์เป็นร้อย สำนักนับหมื่น ช่างเป็นสิ่งที่สามารถนำไปคุยโวได้อย่างน่าภาคภูมิใจในตนเองเช่นใด
จากการที่บรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกหลี่ชิเย่แย่งความโดดเด่นไปจนสิ้น ถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งลบหลู่ถึงเพียงนี้ ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกไม่สบายในใจ
“ฮึ ไม่รู้สินะว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนไหนคอยหนุนหลังอยู่!” มีกษัตริย์ที่จ้องเขม็งหลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่คนเดียวด้วยท่าทีไม่พอใจอย่างยิ่ง ถึงกับส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา
“ไม่ว่าจะมีผู้ยิ่งใหญ่คนไหนหนุนหลังอยู่ก็ตาม ไม่ช้าก็เร็วเจ้าหนูคนนี้ก็ต้องจบสิ้น” มีเจ้าสำนักที่กล่าวเยาะเย้ยออกมาช้าๆ ว่า “การสังหารรัชทายาทเทียนหวงย่อมไม่มีจุดจบที่ดีอยู่แล้ว คอยดูต่อไปก็แล้วกัน”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าสำนักผู้นี้ ตัวแคว้นหงส์ฟ้าเองคือสายสำนักราชันเซียนอยู่แล้ว เวลานี้ ผู้สืบทอดของพวกเขาถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งสังหาร พวกเขาย่อมไม่เลิกราอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น รัชทายาทเทียนหวงยังเป็นน้องของจินเก๋อ ไหนเลยจินเก๋อจะยอมปล่อยให้มนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้ลอยนวล! หาญกล้าเป็นศัตรูกับผู้ชายที่กำลังจะกลายเป็นจอมราชันต้องตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
หลี่เทียนเหาเองก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจ เมื่อเห็นท่าทีของหลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ริมหน้าผาลำพังคนเดียว ถึงกับเอ่ยเสียงแผ่วเบากับเสิ่นจินหลงที่อยู่ข้างๆ ว่า “พี่เสิ่นมีความอดกลั้นที่สูงมาก หากเป็นตัวข้าไหนเลยจะยินยอมให้คนถ่อยเช่นนี้ทำกำเริบเสิบสาน! ต่อให้เขามีผู้ยิ่งใหญ่หนุนหลังแล้วไง ข้าหลี่เทียนเหาหาใช่คนที่กลัวมีเรื่อง พี่เสิ่นเองก็ไม่เคยเกรงกลัวต่อผู้ใดอยู่แล้ว!”
คำพูดของหลี่เทียนเหาก็ใช่ว่าจะเป็นการคุยโตโอ้อวด เขาเป็นถึงหลานของจอมเทพเชียวนะ ฐานะของเขาสูงส่งจนกระทั่งกษัตริย์เจ้าสำนักจำนวนมากเมื่อพบกับเขาแล้วยังต้องโค้งคำนับและทักทาย ยิ่งไปกว่านั้น เขามีคุณปู่ที่เป็นจอมเทพคอยให้การคุ้มครอง เคยกลัวใครที่ไหนกัน
ขณะที่เสิ่นจินหลงก็มีฐานะที่สูงส่งเช่นเดียวกัน สำนักเจอเยื่อของพวกเขาแข็งแกร่งมากอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เบื้องหลังสำนักเจอเยื่อของพวกเขายังมีตระกูลราชันฉีหลินคอยหนุนหลังอยู่ ลองคิดดู สำนักเจอเยื่อของพวกเขาเคยกลัวใครมาก่อน
“ใยต้องรีบร้อน” เสิ่นจินหลงเพียงยิ้มเฉยเมย และกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ต่อให้พี่หลี่สังหารเขาในตอนนี้ แล้วยังไงหล่ะ? มันก็แค่ได้ระบายความแค้นส่วนตัวเท่านั้นเอง ไม่ว่าใครก็ตามย่อมจะมีประโยชน์ที่จะใช้สอยได้ทั้งนั้น ลำพังแค่ฆ่าคนอย่างเดียวไม่เห็นจะเป็นการได้รับประโยชน์ที่ดีที่สุด”
“ความหมายของพี่เสิ่นคือ?”หลี่เทียนเหาถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง แรกทีเดียวเขายังเข้าใจว่าเสิ่นจินหลงต้องการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อให้เหตุการณ์ในครั้งนี้สงบลง เวลานี้ฟังจากคำพูดของเสิ่นจินหลงแล้ว เหมือนว่าจะมีจุดประสงค์อื่น
“ฝ่าบาทกำลังจะเสด็จมาถึง ไหนเลยจะปล่อยให้ผู้เยาว์ทำกำเริบเสิบสานที่นี่ได้ ไม่ว่าเขาจะมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ไม่ว่าเขาจะมีอภินิหารเช่นใด แต่เมื่อเทียบกับธิดาราชัน เทียบกับตระกูลราชันฉีหลินแล้วก็ไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง! หากว่าใครหน้าไหนกล้าท้าทายต่อตระกูลราชันฉีหลิน ใครกล้าท้าท้ายอำนาจของธิดาราชัน ฆ่าไม่มีละเว้น! หากว่าเมื่อถึงเวลานั้น พี่หลี่สามารถรักษาอำนาจของตระกูลราชันฉีหลิน รักษาอำนาจของธิดาราชันล่ะก็ มันคือผลงานที่ยิ่งใหญ่” เสิ่นจินหลงกล่าวขึ้นช้าๆ
แน่นอน คำพูดดังกล่าวมีเพียงเสิ่นจินหลงและหลี่เทียนเหาพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
“เรื่องนี้…”แววตาทั้งสองของหลี่เทียนเหาพลันเป็นประกายขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นจินหลง
ลองคิดดู ธิดาราชันฉีหลินคือบุตรีของตระกูลราชันฉีหลิน ฐานะสูงส่ง มีความล้ำเลิศที่ยากจะหาผู้ใดเทียม ครั้นเมื่อธิดาราชันฉีหลินมาถึงแล้ว ไหนเลยจะยอมให้ผู้เยาว์คนหนึ่งทำกำเริบเสิบสานได้ หากธิดาราชันฉีหลินมาถึงแล้ว หลี่ชิเย่ยังคงไม่รู้จักคำว่าตายแล้วไปล่วงเกินธิดาราชันฉีหลิน
หากว่าหลี่เทียนเหาสามารถลงมือสังหารหลี่ชิเย่ที่เป็นคนอวดดีเช่นนี้ได้ ไม่เพียงทำให้ธิดาราชันฉีหลินรู้สึกดี ยังสามารถส่งเสริมฐานะของเขาให้สูงขึ้นในดินแดนของฉีหลินได้อีกด้วย
“ผลงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ควรจะเป็นของพี่เสิ่น” หลี่เทียนเหารู้สึกสั่นเทาทีหนึ่ง เข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดเสิ่นจินหลงจึงต้องการละเว้นหลี่ชิเย่เอาไว้ ทีแท้ต้องการอาศัยตัวหลี่ชิเย่มาสร้างผลงาน
“ไม่ ควรจะเป็นของพี่หลี่” เสิ่นจินหลงยิ้มกล่าวว่า “วันข้างหน้าสำนักเจอเยื่อเกี่ยวดองสมรสกับตระกูลราชันฉีหลิน ไหนเลยต้องมาอาศัยผลงานเช่นนี้กันเล่า แต่ว่า หลังจากพี่หลี่สร้างผลงานยิ่งใหญ่นี้แล้ว อย่าลืมเรื่องราวในวันนี้หละ”
หลี่เทียนเหาไม่นึกเลยว่าเสิ่นจินหลงจะใจกว้างขนาดนี้ได้ รีบแสดงคารวะแบบจีนและกล่าวว่า “พี่เสิ่นวางใจเถอะ วันหน้าหากพี่เสิ่นมีอะไรจะให้ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางรับใช้ล่ะก็ ขอให้สั่งการมาได้เลย ขอเพียงเป็นเรื่องที่อยู่ในความสามารถของข้าหลี่เทียนเหา จะไม่ปฏิเสธเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...