ทุกคนต่างเปิดเนตรฟ้าขึ้นมา เมื่อมองเห็นหงส์ตัวนี้ปะทุไฟขึ้นมาท่วมตัว ทุกคนต่างต้องการดูว่ามันคือหงส์แท้จริงหรือไม่ เมื่อทุกคนมองดูอย่างละเอียดแล้ว ต่างรู้สึกว่าไฟโลกันต์ที่ปะทุออกมาจากตัวของหงส์นั้นช่างเหมือนจริงอะไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ไม่เหมือนเป็นภาพมายา
“อิ้วว” เสียงของหงส์ร้องดังก้องไปทั่ว ในขณะนี้หงส์ได้พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า บินร่อนอยู่เหนือท้องฟ้า ยามที่หงส์บินร่อนผ่านไปได้ทิ้งร่องรอยที่เป็นหางยาวบนท้องฟ้า ไฟโลกันต์เผาผลาญกระทั่งท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ย่อมสามารถประเมินถึงความน่ากลัวของมันได้ เหมือนว่าไม่มีสิ่งใดสามารถขวางอานุภาพของมันเอาไว้ได้
“เป็นหงส์จริงๆ รึ?” ในเวลานี้ทั้งจอมเทพหนานหยาง และจอมเทพเชียนจวินต่างก็ไม่สามารถยืนยันได้ ในใจของพวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจมาก
เริ่มจากน้ำพุทองคำกลับกลายเป็นมังกรทอง เวลานี้ก็เป็นรูปแกะสลักหินกลายเป็นหงส์ อภินิหารแบบนี้ชั่วร้ายผิดปรกติมากกว่าเสกหินให้กลายเป็นทองเสียอีก กระทั่งชั่วร้ายผิดปรกติยิ่งกว่าการที่สามารถเรียกหงส์หรือมังกรออกมาทันทีเสียอีก
ถ้าหากจะกล่าวว่า เมื่อผู้บำเพ็ญตนฝึกจนกระทั่งถึงระดับหนึ่งแล้ว การเสกหินให้กลายเป็นทองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับการเรียกหงส์หรือมังกรทองนั้น แม้ว่าจะมีความยากยิ่ง และโดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ แต่ว่า อย่างน้อยที่สุดก็เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้
ถ้าหากว่าจอมราชันหรือเซียนหวังสักองค์คิดจากทำให้หงส์ หรือมังกรทองให้เชื่องหรือเลี้ยงเอาไว้ แน่นอนที่สุด เขาย่อมสามารเรียกหงส์เรียกมังกรทองออกมาได้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม การเรียกหาลักษณะเช่นนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีอยู่ในครอบครอง จะอย่างไรเสียเมื่อมีหงส์สักตัว หรือมังกรทองสักตัวไว้ในครองครองแล้ว จึงสามารถเรียกหาหงส์หรือมังกรทองออกมาสักตัว หากไม่มีหงส์หรือมังกรทองแต่แรก แล้วจะไปเรียกออกมาได้อย่างไร?
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นการตั้งอยู่บนพื้นฐานที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่ เวลานี้หลี่ชิเย่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีอยู่ ถ้าหากจะกล่าวว่ามังกรทองที่ปรากฎออกมาจากพื้นดินที่พวยพุ่งน้ำพุทองคำออกมานั้นอาจเป็นไปได้ที่หลี่ชิเย่มีมังกรทองตัวหนึ่งมาก่อนหน้าแล้ว
แต่ว่า หงส์ที่เห็นอยู่ในเวลานี้ทุกคนต่างเห็นกับตาตนเองว่า เขาแค่เอามือสัมผัสลูบคลำรูปแกะสลักหงส์ตัวนี้ทีหนึ่ง ขณะที่รูปแกะสลักหงส์ตัวนี้พลันมีชีวิตขึ้นมาทันที กลายเป็นหงส์จริงๆ ขึ้นมา
ซึ่งนี่แหละคือจุดที่ประหลาดมากที่สุด หรือว่าหลี่ชิเย่สามารถปั้นน้ำเป็นตัวได้ ขอเพียงเขาลงมือพลันสามารถประทานชีวิตให้กับหงส์ที่เป็นรูปแกะสลักหินได้ทันที
การประทานชีวิตให้กับรูปแกะสลักหินที่เป็นหงส์มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากขอบเขตอำนาจของสรรพชีวิต มันเป็นขอบเขตอำนาจของฟ้าดิน มีเพียงฟ้าดินเท่านั้นที่สามารถประทานชีวิตได้!
บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่ในสถานะใด จะเป็นจอมราชันเซียนหวังก็ดี ราชันเซียนเก้าแดนก็ช่าง ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถปั้นน้ำเป็นตัว ไม่สามารถประทานชีวิตได้ เนื่องจากทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่สามารถสร้างชีวิตได้
เวลานี้หลี่ชิเย่เพียงแค่ลูบสัมผัสรูปแกะสลักทีหนึ่ง รูปแกะสลักหงส์ก็มีชีวิตขึ้นมาทันที หงส์ตัวเป็นๆ ตัวหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!” ไม่ว่าจะเป็นจอมเทพหนานหยาง หรือจอมเทพเชียนจวินต่างปฏิเสธแนวคิดเช่นนี้ ถ้าหากหลี่ชิเย่สร้างชีวิตได้จริง เขาไม่ใช่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้ว แต่เขาคือสวรรค์!
ในโลกนี้สวรรค์มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเจ้าหนูที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้
ถ้าหากไม่ใช่สวรรค์ ถ้าเช่นนั้นอธิบายได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือเป็นภาพมายา หรือบางทีเจ้าหนูตรงหน้าผู้นี้อาจมีอภินิหารที่หาผู้ใดเปรียบไม่ได้ สามารถทำให้ภาพมายาเป็นจริงได้ แน่นอน หงส์ตัวที่ปะทุเป็นไฟโลกันต์ออกมาท่วมตัวก็คงไม่ใช่หงส์ที่แท้จริง
ความคิดแวบหนึ่งสร้างสรรค์สรรพสิ่ง หลี่ชิเย่อาศัยปณิธานที่ยอดเยี่ยมยากจะหาผู้ใดเทียม ทำการเปลี่ยนรูปแกะสลักหินให้กลายเป็นหงส์แท้จริงขึ้นมา มันมีพลังที่ควรมีของหงส์อยู่ในความครอบครอง แน่นอน ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งยากจะหาผู้ใดเทียมดวงนั้นของหลี่ชิเย่
ถ้าหากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนั้นของเขาไม่แกร่งพอล่ะก็ จะไม่สามารถรองรับกับพลังของหงส์ตัวหนึ่งได้ และตัวเขาเองนั่นแหละจะถูกไฟโลกันต์เผาผลาญจนเสียชีวิตไปก่อน
“อิ้วว” เสียงหงส์ร้องขึ้นมา ในขณะนี้ หงส์ได้พุ่งเข้าหาเวทีต่อสู้โบราณ มันบินขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงแล้วจิกหัวลงมา พร้อมกับหอบเอาไฟโลกันต์พุ่งเข้าโจมตีต่อจอมทิพย์งูหลามทอง
“ตูม ตูม ตูม” เวทีต่อสู้โบราณเกิดการสั่นไหวขึ้น จากการที่หงส์ได้หอบเอาไฟโลกันต์พุ่งจิกหัวลงมา ทำให้ท้องฟ้ากลับกลายเป็นเหมือนดั่งทะเลเพลิง ลองนึกภาพดู การที่ไฟโลกันต์เต็มท้องฟ้าเสมือนหนึ่งน้ำหลากที่ออกมาจากเขื่อนที่พังแล้วเทลงมาด้านล่าง มันช่างเป็นภาพที่น่ากลัวเหลือเกิน เมื่อไรที่ถูกไฟโลกันต์นี้ไหลมาท่วมตัว ต้องถูกเผาผลาญจนกลายเป็นจุนในพริบตา
บรรดาระดับบรรพบุรุษที่นั่งกันอยู่สองฟากฝั่งซ้ายขวาของบันไดหินต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปมากทีเดียว เมื่อได้เห็นไฟโลกันต์ลักษณะเช่นนี้
“มาได้จังหวะ” จอมทิพย์งูหลามทองไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใดเมื่อได้เห็นหงส์ที่จิกหัวลงมานั่น ร้องคำรามเสียงยาวออกมา “แว้งค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น พลังขมุกขมัวหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบล้านลิตรของเขาพลันถูกถ่ายทอดเข้าไปยังเกาทัณฑ์ยิงตะวัน ทำให้เกาทัณฑ์ยิงตะวันในมือของเขาส่งประกายเจิดจ้ายิ่งนัก จากนั้น เกิดการสั่นเทิ้มขึ้น ปรากฎลูกเกาทัณฑ์คมกริบที่ส่งประกายเจิดจ้ายิ่งออกมาดอกหนึ่งลอยขึ้นมา
เกี่ยวลูกเกาทัณฑ์กับสายเกาทัณฑ์ น้าวสายเต็มที่ ฉับพลันนั้น จอมทิพย์งูหลามทองได้ยิงลูกเกาทัณฑ์นั้นออกไป “ตูม” เสียงดังสนั่น ภายใต้เกาทัณฑ์ดอกนี้ทำเอาฟ้าสั่นสะเทือนหวั่นไหว อานุภาพราชันเซียนที่น่ากลัวล้วนแล้วแต่ถูกรวมอยู่ในลูกเกาทัณฑ์ดอกนี้
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นระดับบรรพบุรุษที่นั่งอยู่บริเวณสองฟากฝั่งของบันไดหิน หรือว่าจอมเทพหนานหยางและจอมเทพเชียนจวิน พวกเขาต่างจ้องเขม็งภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ลดละ ถ้าหากเกาทัณฑ์จอมราชันที่ระดมยิงออกไปอย่างบ้าคลั่งยังไม่สามารถยิงทะลุไฟโลกันต์ของหงส์ได้ล่ะก็ มันจะเป็นการสั่นคลอนต่อแนวความคิดแรกเริ่มของเขาไป
จอมทิพย์งูหลามทองเองก็ตั้งใจเปิดทางให้กับอาจารย์ของตน และเป็นผู้ไขความกระจ่างเกี่ยวกับอภินิหารของหลี่ชิเย่ให้กับอาจารย์ของตน ดังนั้น เขาจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่เป็นพิเศษ ไม่เสียดายที่จะต้องสูญเสียงพลังขมุกขมัวปริมาณมหาศาล อดกลั้นเต็มที่แล้วปล่อยลูกเกาทัณฑ์ออกไปดอกแล้วดอกเล่ายิงถล่มเข้าใส่แนวป้องกันจากไฟโลกันต์ของหงส์นั่น เขาเองก็คาดหวังว่าสามารถยิงทะลุแนวป้องกันนี้ไปได้ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
ท่ามกลางเสียงร้องยาว “อิ้วว” ของหงส์ที่ดังขึ้นมา จากนั้น “ตูม” เสียงดังสนั่น นาทีนี้ตัวหงส์ได้ปลดปล่อยไฟโลกันต์ให้พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ฉับพลันนั้น ไฟโลกันต์ได้โหมลุกไหม้เพิ่มทวีขึ้นอย่างเต็มที่ ไฟโลกันต์ที่โหมลุกไหม้สูงขึ้นไปหนึ่งล้านล้านจ้าง สามารถเผาผลาญท้องฟ้าแถบหนึ่งจนสิ้นไปได้
“ตูม” จากนั้น ตามติดด้วยหงส์ที่หอบเอาไฟโลกันต์ที่สามารถเผาผลาญทำลายท้องฟ้าพุ่งจิกหัวลงมาอีกครั้ง คราวนี้ ต่อให้จอมทิพย์งูหลามทองยิงเกาทัณฑ์เข้าใส่อย่างบ้าคลั่งอย่างไรมันก็ไม่สนใจอีกต่อไป ได้ยินแต่เสียง “ปุ ปุ ปุ” ที่ดังขึ้น เกาทัณฑ์จอมราชันแต่ละดอกที่ยิงเข้าใส่ไม่สามารถทะลุผ่านหรือทำลายแนวป้องกันของหงส์ตัวนี้ได้อยู่แล้ว
ครั้นหงส์พุ่งโจมตีถึงตัว จอมทิพย์งูหลามทองมีท่าทีหวาดผวา ก่อนหน้านี้เขามุ่งโจมตีอย่างเดียว เมื่อหงส์พุ่งโจมตีเข้าถึงตัวแล้วเขาคิดจะหนีก็ไม่ทันการเสียแล้ว
“อ๊ากก” เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น ร่างของจอมทิพย์งูหลามทองท่วมไปด้วยไฟโลกันต์ ภายใต้ไฟโลกันต์ที่พาลและปราศจากสิ่งใดเทียบเทียมเช่นนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ร่างของจอมทิพย์งูหลามทองก็ถูกเผาผลาญจนสิ้นไม่เหลือแม้แต่ซาก
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องสั่นเทาขึ้นในใจเมื่อได้เห็นภาพนี้ นี่มันคือยอดฝีมือระดับสวรรค์สัจธรรมเลยนะ มีพลังขมุกขมัวอยู่ในความครอบครองถึงหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบล้านลิตรทีเดียว บทจะตายก็ตายเอาง่ายๆ เช่นนี้ กลายเป็นเถ้าธุลีไปในพริบตาเดียว มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน
นาทีนี้ทุกคนจึงไม่สงสัยเลยว่า หลี่ชิเย่มีความสามารถที่จะบดขยี้ปณิธานของจอมเทพหนานหยางได้
สีหน้าของเสิ่นเชียนจวินเย็นดั่งน้ำแข็งเมื่อได้เห็นภาพนี้ เขาทำได้เพียงจ้องมองตาปริบๆ เห็นศิษย์ของตนถูกเผาจนตายไปต่อหน้าต่อตา ศิษย์ของเขาท้าสู้กับหลี่ชิเย่ตัวต่อตัว เขาในฐานะที่เป็นอาจารย์ก็ไม่สามารถกลับคำได้ด้วยการยื่นมือเข้าไป เพราะจะเท่ากับเป็นคนไม่รักษาคำพูด
“ช่าาา” เวลานี้ หงส์ตัวนั้นได้บินกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม หุบปีกสองข้างลงและนั่งลงอยู่ตรงนั้น ไฟโลกันต์ได้จางหายไป เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หงส์ที่มีอานุภาพข่มผู้คนตัวนั้นเมื่อครู่นี้ได้กลับกลายเป็นรูปแกะสลักตามเดิม
ทุกคนจ้องมองดูอย่างละเอียด รูปแกะสลักยังคงเป็นรูปแกะสลัก มันยังคงเป็นรูปที่แกะสลักขึ้นมาจากหินให้เป็นรูปหงส์เท่านั้น มันไม่ได้แตกต่างไปจากรูปแกะสลักทั่วๆ ไปใดๆ ทั้งสิ้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...