ที่ทำให้ผู้คนต้องงงงันมากกว่านั้นก็คือ หลี่ชิเย่ถึงกับออกปากดูถูกตระกูลเฉี่ยน พลันที่คำพูดที่ออกจากปาก ทำให้บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างสะท้านขึ้นมา กระทั่งหลบออกห่างให้ไกลที่สุด
เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาว่า ตระกูลเฉี่ยนเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเขาก็แค่ฝืนพูดเสียงแข็งได้บ้างเท่านั้นเอง ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างหลบกันพัลวันเหมือนหนึ่งหลบตัวซวยอย่างนั้น เวลานี้ผู้คนนำนวนไม่น้อยลุกจากที่นั่งเพื่อออกห่างจากหลี่ชิเย่ให้มากสักหน่อย
อย่าว่าแต่ในชิงโจวเลย แม้กระทั่งในสิบสามทวีปทั้งหมด ตระกูลเฉี่ยนก็ดำรงอยู่ในฐานะที่ทุกคนจะต้องหน้าถอดสีเมื่อมีการเอ่ยถึง เป็นหนึ่งในสำนักที่ได้รับการเคารพยำเกรงของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพสามเผ่า
แม้ว่าตระกูลเฉี่ยนจะตั้งอยู่ในซู่โจวที่ห่างไกล แต่ ขอเพียงผู้บำเพ็ญตนที่มีประสบการณ์มาบ้างก็ต้องเคยได้ยินชื่อของตระกูลเฉี่ยนมาก่อน
ตระกูลเฉี่ยนเปี่ยมไปด้วยตำนานมากมายเหลือเกิน ในสิบสามทวีป ตระกูลเฉี่ยนเสมือนดั่งเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด เป็นตัวแทนอำนาจของเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์สามเผ่า
ตระกูลเฉี่ยนหนึ่งสำนักเก้าจอมราชัน อีกทั้งจอมราชันองค์ที่ห้าของตระกูลเฉี่ยนหรือก็คือราชันซื่อตี้ ขณะเดียวกันเขายังเป็นจอมราชันองค์ที่ห้าที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายในประวัติศาสตร์ของสิบสามทวีป
ตระกูลขุนนางโบราณที่เคยให้กำเนิดจอมราชันถึงเก้าองค์ อีกทั้งหนึ่งในนั้นยังเป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าถึงสิบสองสาย ย่อมสามารถประเมินได้ว่า ตระกูลขุนนางโบราณเช่นนี้มีความน่ากลัวเพียงใด
แต่ว่า สิ่งนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดของตระกูลเฉี่ยนมีอยู่สองสิ่งคือ สิ่งแรกคือ เล่าลือกันว่าตระกูลเฉี่ยนมีหนึ่งในตำราสวรรค์นพเก้าอยู่ในความครอบครอง ส่วนจะเป็นตำราเล่มไหนนั้น คนที่รู้มีอยู่ไม่มาก สิ่งทีสองก็คือ ตระกูลเฉี่ยนมีชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงอยู่ชุดหนึ่ง
ลำพังแค่สองสิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลเฉี่ยนหมางเมินเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ปราศจากผู้ต่อกรไปตลอดกาล พูดได้อย่างไม่เป็นการอวดอ้างว่า ตระกูลเฉี่ยนคือผู้นำของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพทั้งหมดในสิบสามทวีป
จอมราชันเซียนหวังจำนวนมากมายเท่าไรที่ต้องการได้ตำราสวรรค์นพเก้าอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันหากระทั่งในฝันของสายสำนักราชันเซียนจำนวนเท่าไร ต้องการได้สักบทหนึ่งยังหายาก แต่ตระกูลเฉี่ยนกลับมีตำราสวรรค์เป็นเล่มที่สมบูรณ์ เป็นธาตุแท้ภายในที่น่ากลัวยิ่ง
ราชันซื่อตี้แห่งตระกูลเฉี่ยนนอกจากจะได้ครอบครองตำราสวรรค์นพเก้าเล่มหนึ่งแล้ว ยังได้ครอบครองชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงอีกหนึ่งชุด เป็นที่ทราบกันดีว่า ชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงตั้งแต่อดีตกาลเป็นต้นมาเคยปรากฏเพียงแค่ห้าชุดเท่านั้นเอง
ในจำนวนชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงห้าชุดนั้น มีอยู่สองชุดที่หายสาบสูญไปโดยไม่ทราบแน่ชัด หนึ่งชุดอยู่ในมือราชันเซียนหมิงเหริน มันได้ติดตามราชันเซียนหมิงเหรินก้าวสู้การเดินทางไกลเพื่อปราบปรามครั้งสุดท้าย แล้วก็ไม่เคยปรากฏตัวออกมาอีกเลย ขณะที่อีกชุดหนึ่งเคยอยู่ในมือของราชามนุษย์ลิ่วเต้า แต่ว่า หลังจากที่ราชามนุษย์ลิ่วเต้าตายด้วยสวรรคลงทัณฑ์ ชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงชุดนี้ก็หายสาบสูญโดยไม่ชัดเจน และไม่ได้ปรากฏตัวออกมาอีกเลย
นอกเหนือจากชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงสามชุดที่เหลือแล้ว อยู่ในมือของราชันซื่อตี้ชุดหนึ่ง ย่อมจินตนาการได้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
ตัวของราชันซื่อตี้คือหนึ่งในจอมราชันเซียนหวังที่มีพรสวรรค์โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งนับแต่อดีตกาลที่ผ่านมา เขาก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด สืบทอดชะตาฟ้าสิบสองสาย ฝึกเคล็ดวิชาที่หาได้ยากยิ่งในหล้า แล้วยังได้ครอบครองชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงอีก!
ลองนึกภาพดูว่าราชันซื่อตี้จะมีความแข็งแกร่งเพียงใด เรียกได้ว่าราชันซื่อตี้คือผู้นำสูงสุดของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพ ขณะที่ภายใต้การปกครองของราชันซื่อตี้ ทำให้ตระกูลเฉี่ยนเองก็มีฐานะที่สูงสุดในสิบสามทวีป ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถสั่นคลอนเขาได้
แต่ว่า เวลานี้หลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงคนหนุ่มคนหนึ่ง ดูแคลนต่อตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังก็ช่างเถอะ แต่นี่ดูถูกกระทั่งตระกูลเฉี่ยน สมควรจะทราบว่า เมื่อตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่เป็นหนึ่งสำนักห้าราชันเทียบกับตระกูลเฉี่ยนแล้ว เป็นได้แค่เด็กน้อยเท่านั้นเอง
ดังนั้น เมื่อหลี่ชิเย่พูดจากดูถูกตระกูลเฉี่ยนออกมา แม้แต่เผิงยวี่และเผิงเย่ทั้งสองถึงกับร่างสั่นเทิ้ม และมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป พวกเขาต่างทำหน้าเจื่อนๆ ภายในใจของเผิงยวี่ถึงกับอย่างจะขอร้องให้บรรพบุรุษน้อยผู้นี้พูดให้มันน้อยคำกว่านี้ การล่วงเกินตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังก็ช่างมันเถอะ แต่การล่วงเกินตระกูลเฉี่ยน เป็นเรื่องที่สามารถทำให้คนต้องช็อกตายได้
อย่างน้อยที่สุด การที่ตระกูลเผิงล่วงเกินต่อตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง พวกเขากล้าที่จะไปเผชิญผลที่จะตามมาภายหลัง แต่หากไปล่วงเกินตระกูลเฉี่ยนเข้าล่ะก็ ทั้งเผิงเย่และเผิงยวี่ถึงกับรู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทั้งสองข้าง
ในสิบสามทวีป ใครก็ตามที่มีประสบการณ์สักนิดก็จะรู้ว่า กล้าเป็นศัตรูกับตระกูลเฉี่ยน ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า หรือหากจะพูดคำที่ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไรก็คือ ขอเพียงตระกูลเฉี่ยนพูดคำเดียว ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนนับล้านๆ คน ทุกคนถ่มน้ำลายออกมาคำหนึ่งก็สามารถทำให้บุคคลนั้นสำนักน้ำตายได้
เนื่องเพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้บรรดาแขกที่อยู่ในงานต่างพาตัวออกห่างให้ไกลจากหลี่ชิเย่ ออกห่างจากตัวซวยที่อยู่ตรงหน้าให้ไกล เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องเดือดร้อนไปด้วย
“แหะ แหะ แหะ เจ้าคนที่ไม่รู้จักคำว่าตาย พูดจาสามหาว เจ้าไหนเลยมีคุณสมบัติไปวิจารณ์ตระกูลเฉี่ยนได้ แค่ตระกูลเฉี่ยนทำขนร่วงหล่นลงมาเส้นหนึ่งก็สามารถทับเจ้าจนตายได้” ครั้นตงกงเจิ้งเห็นหลี่ชิเย่พูดจาดูถูกตระกูลเฉี่ยน จึงหัวเราะน่าครั่นคร้ามขึ้นมา
“งั้นหรือ?” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ขณะกำลังเคี้ยวกินเนื้ออยู่ กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า “อย่าว่าแต่วิจารณ์เลย คนที่ถูกข้าสังหารมีมากมาย ข้าก็ยังอยู่ดีนี่”
“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้าอยู่ไม่พ้นวันนี้!” กษัตริย์เทียนหวงกล่าวเสียงดังว่า “วันนี้ข้านี่แหละจะตัดหัวควักหัวใจของเจ้าเป็นๆ มาเซ่นไหว้ลูกหวงของข้าที่ตายไป!”
“ตึง” พลันที่กษัตริย์เทียนหวงพูดขาดคำ ปรากฏแส้เก้าท่อนสองเส้นในมือ แส้สองเส้นในมือปรากฏประกายราชันวูบวาบ ยามที่แส้เก้าท่อนสองเส้นอยู่ในมือ เสมือนดั่งเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์สองตัวอยู่ในมืออย่างนั้น แส้เก้าท่อนสองเส้นเคลื่อนไหวไปมา ที่ทำให้ผู้คนต้องสะท้านในใจก็คือ ประกายราชันที่เปล่งออกมานั้นดูใสเป็นประกาย ประกายราชันทุกๆ สายเหมือนหนึ่งสามารถทิ่มแทงทะลุหัวใจของผู้คนได้อย่างง่ายดายอย่างนั้น
“แส้เก้ามังกร!” มีผู้ร้องออกมาคำหนึ่ง เมื่อมองเห็นแส้เก้าท่อนในมือของกษัตริย์เทียนหวง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...