ความจริงแล้ว คิดจะเดินทางไปยังไกลกันดารใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย มันต้องผ่านสถานที่ที่อันตรายจำนวนมากของแดนแห่งการสืบค้น อีกทั้งระยะทางไกลมาก หากเกิดข้อผิดพลาดระหว่างทางขึ้นมาเพียงน้อยนิด ก็ต้องตายอย่างไร้ที่ฝัง
แม้ว่าในเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรจะมีเรือที่วิ่งผ่านเข้าออกระหว่างแดนแห่งการสืบค้นจำนวนมาก แต่ว่า เรือที่สามารถวิ่งไปจนถึงไกลกันดารได้อย่างแท้จริงนั้นมีอยู่ไม่กี่ลำเท่านั้น
แดนแห่งการสืบค้นคือสถานที่ที่บรรดาจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน กระทั่งเทพโบราณและจอมเทพใช้เป็นสถานที่ที่หลบซ่อนตัวเสมอมา แต่ว่า แดนแห่งการสืบค้นมีขนาดพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตมาก บุคคลภายนอกคิดจะเข้าไปก็เป็นเรื่องยาก
โดยทั่วไปแล้ว หากคิดจะเข้าไปยังแดนแห่งการสืบค้นจำเป็นต้องอาศัยเรือพิเศษที่สามารถผ่านเข้าออกในแดนแห่งการสืบค้นเท่านั้น เรือพิเศษเหล่านี้จำเป็นต้องแข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียม มันไม่เพียงต้องมีความเร็วที่สูงมาก และไม่เพียงต้องสามารถบินร่อนอยู่เหนือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเท่านั้น ที่สำคัญมากไปกว่านั้นมันยังต้องมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
โดยปรกติแล้วเรือลักษณะเช่นนี้จะสร้างขึ้นโดยโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่ายิ่ง ผ่านการหลอมสร้างโดยจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนและปลุกเสก มีเพียงเรือลักษณะเช่นนี้จึงสามารถผ่านเข้าออกแดนแห่งการสืบค้นได้อย่างแท้จริง หาไม่แล้ว เรือทั่วไปยังไม่ทันได้เข้าเขตแดนแห่งการสืบค้นก็แหลกละเอียดไปก่อนแล้ว
กล่าวโดยทั่วไป ผู้ที่สามารถผ่านเข้าไปยังแดนแห่งการสืบค้นโดยลำพังได้นั้น มีเพียงจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน และหรือจอมเทพ และเทพโบราณเท่านั้น เฉกเช่นผู้ได้รับการเคารพสูงสุดระดับสวรรค์สัจธรรมหากคิดจะเข้าได้โดยลำพังล่ะก็ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เว้นแต่จะเที่ยวชมอยู่ด้านนอกสักรอบหนึ่ง
สำหรับเรื่องที่จะไปยังไกลกันดารนั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบากยิ่งกว่า จอมเทพทั่วไปหากคิดจะไปยังไกลกันดารโดยลำพังก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พวกเขาจำเป็นต้องอาศัยสิ่งอื่นช่วยจึงไปถึงไกลกันดารได้
ต่อให้เป็นจอมเทพระดับสูงเช่นจอมเทพท่าซิง หากว่าเข้าต้องการไปที่ไกลกันดารล่ะก็ เขาเองก็ต้องได้รับการบำรุงสนับสนุน ระหว่างทางต้องมีที่ที่ให้ได้หยุดพัก มิฉะนั้นล่ะก็ หากจะต้องไปให้ถึงไกลกันดารในรวดเดียว เป็นการสูญเสียพลังลมปราณของตนมากมายทีเดียว
หลังจากที่ธิดาราชันฉีหลินสามารถหาลำเรือที่จะไปยังไกลกันดารได้แล้ว หลี่ชิเย่ก็ได้อำลาจอมเทพท่าซิง และพาธิดาราชันฉีหลินออกเดินทาง
เมืองสวรรค์นอกอาณาจักรคือสถานที่ตั้งของท่าเรือที่จะไปยังแดนแห่งการสืบค้น บนท้องฟ้าด้านนอกอันเป็นที่ตั้งของเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรมีท่าเรือและสนามบินขนาดยักษ์ยากจะหาใดเทียมตั้งอยู่ สถานที่แห่งนี้มีความคึกครื้นยิ่งนัก ผู้คนเดินกันขวักไขว่ เรือแล่นผ่านไปมานับพัน ขณะเดียวกัน มีเรือจอดอยู่บริเวณท่าเรือและสนามบินขนาดยักษ์เป็นจำนวนมาก
ในจำนวนเรือที่จอดอยู่นับไม่ถ้วนนั้น มีทั้งลำขนาดเล็กและใหญ่ บ้างเป็นเรือที่มาจากที่อื่นแล้วแวะจอดพักอยู่ที่ตรงนี้เป็นการชั่วคราวเพื่อบินต่อไปยังเมืองสวรรค์นอกอาณาจักร แต่ก็มีเรือรบโบราณขนาดยักษ์ที่มาที่นี่เพื่อต้องการเดินทางไปยังแดนแห่งการสืบค้นเป็นการเฉพาะ
เรือที่วิ่งไปยังแดนแห่งการสืบค้นนั้นง่ายต่อการแยกแยะเป็นอันมาก อาจกล่าวได้ว่าขอเพียงเห็นเรือรบโบราณที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารยากจะหาใดเทียมล่ะก็ แทบจะคือเรือที่วิ่งไปมาระหว่างแดนแห่งการสืบค้นแล้วหละ
“วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ยังมีท่านผู้ใดที่ต้องการไปยังแหลมเฮ่าว่างกับเรือเฟยหลงรีบซื้อตั๋วเร็วไว เรือเฟยหลงคุ้มค่าสำหรับท่าน ขับเคลื่อนโดยศิลาขมุกขมัวที่ดีที่สุด ตลอดเส้นทางแล่นไปด้วยความเร็วสูงท่ามกลางแดนแห่งการสืบค้นที่กว้างใหญ่ไพศาล” บริเวณท่าเรือและสนามบินมีคนของเรือจำนวนมากกำลังร้องขายตั๋วเรืออยู่บริเวณนั้น
“เมืองตี้ฮว่า ไปเมืองตี้ฮว่ากันแล้ว แวะพักที่แหลมเฮ่าว่างห้าวัน เรือตี้ซังเหมาะสำหรับท่านได้โดยสาร ผ่านการหลอมสร้างขึ้นโดยจอมเทพแปดสิบหกท่าน อาศัยพลังขมุกขมัวหนึ่งหมื่นล้านลิตรเป็นตัวขับเคลื่อน ด้วยความเร็วระดับจอมเทพตลอดการเดินทาง ท่านที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่าได้พลาด…”
บริเวณท่าเรือและสนามบินขนาดยักษ์มีเรือที่วิ่งไปยังแดนแห่งการสืบค้นจอดอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย และลูกจ้างของเรือแต่ละลำล้วนแล้วแต่ดึงลูกค้ากันด้วยท่าทีอบอุ่นเป็นกันเอง
แน่นอน หากคิดจะไปแดนแห่งการสืบค้นสักเที่ยวหนึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งหาใช่ผู้บำเพ็ญตนทั่วไปสามารถจ่ายได้ อีกทั้งหากต้องลึกเข้าไปในแดนแห่งการสืบค้นมากขึ้นเท่าใด ราคาค่าโดยสารก็จะแพงขึ้น สำหรับการไปยังสถานที่ที่มีชื่อว่าไกลกันดารนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย แม้แต่ยอดฝีมือทั่วไปก็จ่ายไม่ไหว
ธิดาราชันฉีหลินได้พาหลี่ชิเย่มาถึงเรือที่พวกเขาได้จองเอาไว้ ขณะที่ยังเดินไปไม่ทันถึง ก็มีลูกจ้างของเรือลำกล่าวมาให้การต้อนรับแต่ไกล ด้วยท่าทีที่อบอุ่นยิ่งนัก
ขณะเดียวกัน ในบริเวณท่าเรือและสนามบินก็มีลูกจ้างคอยจำหน่ายตั๋วของเรือลำดังกล่าว ทั้งยังร้องเรียกลูกค้าด้วยเสียงที่ดังมากเป็นพิเศษ “เรือนิรันดร เจ้าถิ่นแดนแห่งการสืบค้น มีขนาดลำเรือยาวเป็นล้านลี้ สามารถจุผู้บำเพ็ญตนที่ต้องการไปยังแดนแห่งการสืบค้นได้นับล้านคน เรือลำนี้ถูกสร้างขึ้นโดยจอมราชันเซียนหวัง และเทพโบราณที่ปราศจากผู้ต่อกร ขับเคลื่อนโดยศิลาขมุกขมัวที่มีไว้สำหรับระดับจอมราชันเซียนหวังเท่านั้น แล่นด้วยความเร็วของราชันเซียนตลอดทาง…”
“…ลำเรือลำนี้สามารถรองรับการโจมตีระดับจอมราชันเซียนหวังได้ เป็นเรือรบโบราณขนาดยักษ์เพียงลำเดียวของท่าเรือและสนามบินแห่งนี้ที่แล่นไปถึงไกลกันดารได้ และเป็นเรือยักษ์ที่แล่นไปยังแดนแห่งการสืบค้นมานานนับล้านปีที่มีอุบัติเหตุเป็นศูนย์ ได้รับการบริการระดับราชัน เรือนิรันดรเหมาะสำหรับท่าน” ลูกจ้างของเรือลำนี้ร้องกล่าวด้วยความทุ่มเทมากเป็นพิเศษ สามารถได้ยินเสียงของเขาแม้ในระยะห่างไกล
เรือที่พวกหลี่ชิเย่นั่งโดยสารไปด้วยมีชื่อว่า ‘นิรันดร’ เป็นเรือที่มีขนาดยักษ์ลำหนึ่ง
ยามที่ยืนอยู่ตรงหน้าเรือนิรันดรนั้น บางทีการใช้คำว่า ‘ขนาดยักษ์’ ยังไม่เพียงพอที่จะมาเปรียบเปรยขนาดของมันได้ มันเป็นเรือที่จอดทอดสมออยู่ด้านนอกสุดของท่าเรือและสนามบิน ขณะที่มันจอดอยู่ตรงนั้น ทำให้เรือทั้งหมดที่อยู่บริเวณท่าเรือและสนามบินเมื่อเทียบกับมันแล้วล้วนแล้วแต่แลดูเล็กจิ๋วมาก
แทนที่จะบอกว่าเรือนิรันดรเป็นเรือลำหนึ่ง มิสู้บอกว่ามันคือผืนแผ่นดินใหญ่ที่บินได้จะเหมาะสมกว่า มันมีขนาดใหญ่อย่างเหลือเชื่อ ที่ลูกจ้างของเรือลำนี้บอกว่าสามารถจุผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับล้านนั้นไม่ถือเป็นการพูดที่เกินเลยไปแม้แต่น้อย กระทั่งสามารถพูดได้ว่าเรือยักษ์ลำนี้จุผู้คนได้สิบล้านก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
ขณะที่เรือนิรันดรจอดทอดสมออยู่ที่ท่าเรือและสนามบินนั้น ขนาดของมันเกือบจะเทียบเคียงได้กับเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรทั้งเมืองได้อยู่แล้ว บางทีอาจเปรียบว่ามันคือโลกใบเล็กที่บินได้ก็ไม่นับว่าเกินเลยนัก
ยามที่ยืนดูอยู่ด้านนอกของเรือนิรันดรก็จะพบว่า ความจริงแล้วเรือนิรันดรเกิดจากการนำเอาดวงดาวขนาดยักษ์มาผ่าออก คงไว้แต่เพียงชีพจรสายแร่ของดวงดาวดวงนี้เอาไว้ ผนวกกับโลหะศักดิ์สิทธิ์ และอาศัยสุดยอดความสามารถสร้างขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...