ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1866

“ตูม…ตูม…ตูม…” ในเวลานี้เอง แหลมฮ่าวว่างพลันเกิดการสั่นไหวขึ้นมา จากนั้นได้ยินเสียง “ตูม” ดังสนั่น ลึกเข้าไปในแหลมฮ่าวว่างพลันปรากฏคลื่นยักษ์พุ่งขึ้นมา

มันคือคลื่นยักษ์ที่มีสีแดงดั่งสีเลือด คลื่นดั่งสีเลือดมีความสูงถึงหมื่นจ้าง สีแดงกลิ่นคาวเลือดละลานตา เสมือนหนึ่งเป็นเทพมารที่ร้องคำรามเสียงดัง เมื่อคลื่นยักษ์ลักษณะเช่นนี้ได้ปะทุขึ้นมากะทันหัน

“รีบหนีเร็ว…” ในขณะนี้ ภายในส่วนที่ลึกเข้าไปในแหลมฮ่าวว่างมียอดฝีมือที่พุ่งลอยตัวขึ้นมา หวังหนีจากคลื่นยักษ์ที่พุ่งขึ้นมา

แต่ทว่า เมื่อคลื่นยักษ์ได้เคลื่อนตัวเข้ามาท่ามกลางเสียงดังตูมตามนั้น เหมือนว่ามันมีพลังดูดที่สยดสยองปราศจากผู้เทียบเทียมอย่างนั้น ได้ยินเสียงดัง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” เห็นร่างของยอดฝีมือที่เพิ่งพาตัวเองพุ่งขึ้นมาเพื่อหลบหนีนั้นถึงกับมีเลือดพุ่งออกมาทั่วร่าง และถูกคลื่นยักษ์ดูดเอาไป

พริบตาเดียวนั้นเอง ยอดฝีมือตัวเป็นๆ คนหนึ่งได้ถูกดูดเอาลมปราณออกไปทั้งหมด ร่างกายของเขาปรากฏเป็นรูพรุนดั่งรวงผึ้งไปทั่วร่าง หลังจากที่ลมปราณถูกดูดจนแห้ง เหลือไว้เพียงหนังและกระดูกเสียชีวิตในทันที ร่างที่แห้งเหี่ยวร่วงลงสู่พื้นดิน

“ตูม ตูม ตูม…” ท่ามกลางเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอก คลื่นยักษ์สีแดงดั่งคาวเลือดได้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่สูงมากพุ่งเข้าโจมตี ด้วยการขยายพื้นที่ออกมาด้านนอก

“อ๊ากก…” ในเวลานี้ เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องไปทั่วแหลมฮ่าวว่าง ขณะที่คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดเคลื่อนตัวโจมตีเข้ามา ผู้บำเพ็ญตนแต่ละคนล้วนแล้วแต่ถูกดูดลมปราณจนแห้ง เหลือไว้เพียงหนังหุ้มกระดูกโดยพลัน เสียชีวิตไปในทันที

นี่มันคือคลื่นยักษ์แดงคาวเลือดอะไรที่ไหนกัน มันคือลิ้นของสิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยองชัดๆ เหมือนว่าลิ้นแบบนี้แค่เลียผ่านไป ก็สามารถดูดเอาลมปราณของสิ่งมีชีวิตไปได้ทั้งหมด ทำให้กลายเป็นศพแห้งกรัง เหลือไว้เพียงหนังหุ้มกระดูก ไม่หลงเหลือพลังลมปราณเอาไว้แม้แต่น้อยนิด

“หนีเร็ว…” ในเวลานี้ ผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่บนแหลมฮ่าวว่างล้วนแล้วแต่ถูกทำให้ตกใจจนตะลึงงัน เมื่อได้สติกลับมาจึงหันหลังออกวิ่งไปทันที จากการที่คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดไล่หลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดต่างวิ่งหนีกันสุดแรงเกิด เวลานี้พวกเขาอยากจะให้มีขางอกขึ้นมาอีกสักหลายขาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป และหนีจากแหลมฮ่าวว่างให้เร็วที่สุด

“อ๊ากก…อ๊ากก…อ๊ากก…” ในเวลานี้เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นไม่ขาดสาย ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหนีไปจากเคราะห์กรรมคราวนี้ไปได้ แม้ว่าพวกเขาจะมีความเร็วที่สูงมาก แต่ ความเร็วของคลื่นยักษ์แดงคาวเลือดสูงยิ่งกว่า เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้นก็ไล่ตามทันยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเป็นจำนวนมาก ทันทีที่คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดที่น่าสยดสยองเข้าไปใกล้ตัว ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดถูกดูดเอาลมปราณออกจากร่างจนหมดสิ้น เสียชีวิตไปท่ามกลางเสียงร้องอันน่าเวทนา เหลือไว้เพียงร่างที่เป็นหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น

“ตึง ตึง ตึง…” ในขณะนี้เสียงเตือนภัยของเรือนิรันดรทั้งดังและถี่ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางส่วนที่มีปฏิกิริยาไวสามารถถอนตัวจนขึ้นไปบนเรือนิรันดรได้ในที่สุด ก่อนที่คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดจะตามมาทัน

“หนีเร็ว…” เรือที่ลอยลำอยู่บริเวณแหลมฮ่าวว่างจำนวนมากที่มองเห็นคลื่นยักษ์แดงคาวเลือดกวาดไปทั่วแหลมฮ่าวว่าง และอาศัยความรวดเร็วที่ยากจะหาใดเทียมพุ่งโจมตีเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นท่าทีไม่สู้ดีจึงได้ออกเรือไปทันทีเพื่อหนีไปให้ไกล โดยไม่สนใจว่าผู้โดยสารของตนยังคงอยู่บนแหลมฮ่าวว่าง

มีเพียงเรือส่วนน้อยเฉกเช่นเรือนิรันดรที่ยังคงยึดมั่นปักหลักรอให้ผู้โดยสารของตนหนีกลับเข้ามา

“ตูม…ตูม…ตูม…” ท่ามกลางเสียงดังตูมตาม เรือนิรันดรได้อาศัยความเร็วที่ยากจะหาใดเทียมพุ่งตัวไปด้านนอกแหลมฮ่าวว่าง

“เตรียมตัวให้พร้อม…” กัปตันเรือนิรันดรร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นคลื่นยักษ์แดงคาวเลือดได้เคลื่อนตัวพุ่งออกมาจากแหลมฮ่าวว่างแล้วในเวลานี้

ได้ยินเสียง “แว้งค์…” ดังขึ้น ในเวลานี้เรือนิรันดรพลันสว่างไสวขึ้นทั่วทั้งลำเรือ ดูแวววาวละลานตายิ่ง ค่ายกลจอมราชันเซียนหวังขนาดยักษ์แต่ละค่ายกลลอยขึ้นมาช้าๆ

“ตูม…” เสียงดังสนั่น คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดพุ่งโจมตีเข้ามา เสมือนหนึ่งเป็นวันสิ้นโลกมาถึงแล้วอย่างนั้น มันได้เข้าท่วมปกคลุมช่องว่างแถบแหลมฮ่าวว่างทั้งหมด

“อ๊ากก…” ท่ามกลางคลื่นยักษ์ปรากฏเสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น บรรดาเรือที่ยืนหยัดรอผู้โดยสารอยู่กับที่ไม่สามารถรองรับอานุภาพของคลื่นยักษ์เอาไว้ได้ รวมทั้งเรือบางส่วนที่หนีไปได้ไม่ไกลพอก็ไม่สามารถรองรับอานุภาพของคลื่นยักษ์นี้ เรือจำนวนไม่น้อยทยอยกันพังทลายลงภายใต้คลื่นยักษ์ดังกล่าว ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่บนเรือเหล่านั้นถูกดูดพลังลมปราณจนแห้ง เหลือไว้เพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น

“ตูม…” จังหวะที่คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดพุ่งโจมตีเข้ามาโดยพลัน อานุภาพจอมราชันเซียนหวังของเรือนิรันดรพลันอาละวาดไปทั่วบริเวณ กวาดทำลายสิ้นทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน พริบตาเดียวกันนั่นเอง เรือนิรันดรปรากฏร่างเงาที่สูงใหญ่ขึ้นมาหกองค์ด้วยกัน ขณะที่ร่างเงาสูงใหญ่หกองค์ปรากฎขึ้นมานั้น อานุภาพจอมราชันได้สยบเหล่าชั้นฟ้า อานุภาพเซียนควบคุมสถานการณ์เอาไว้!

ขณะที่ร่างเงาที่สูงใหญ่ปรากฏตัวออกมาเฝ้าปกปักรักษาเรือนิรันดร จังหวะนั้น ผู้โดยสารจำนวนมากบนเรือนิรันดรพลันคุกเข่าลงกราบกับพื้น มันคือปณิธานสูงสุดของจอมราชันเซียนหวัง และเป็นปณิธานที่ยากจะต้านทานเอาไว้ได้!

“ตูม…ตูม…ตูม…” ในขณะนี้ เสียงดังตูมตามดังไม่ขาดสาย ขณะที่คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดพุ่งโจมตีเข้ามา มันได้ท่วมปกคลุมเรือนิรันดรจนจมมิด แต่ทว่า เรือนิรันดรได้เปล่งประกายของจอมราชันเซียนหวังสูงสิบล้านจ้าง ยามที่ประกายจอมราชันเซียนหวังลักษณะเช่นนี้พุ่งขึ้นมา มันได้ทำการผ่าเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินให้เปิดออก ไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายประกายจอมราชันเซียนหวังเช่นนี้ลงได้

สุดท้ายได้ยินเสียงดัง “ตูม” เรือนิรันดรเพียงแค่โคลงเคลงไปมาไม่กี่ทีเท่านั้น โดยที่คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดไม่สามารถทำลายเรือนิรันดรได้ ได้แต่ท่วมปกคลุมเอาไว้เท่านั้น

ขณะที่เรือนิรันดรถูกคลื่นยักษ์แดงคาวเลือดท่วมจนมิดนั้น ผู้โดยสารบนเรือนิรันดรจำนวนมากถึงกับอกสั่นขวัญแขวน แต่ว่าเมื่อทุกคนแหงนหน้ามองดูร่างเงาที่สูงตระหง่านทั้งหกองค์บนท้องฟ้าแล้ว พลันทำให้จิตใจสงบลงอีกครั้ง เมื่อได้รับการปกป้องคุ้มครองจากจอมราชันเซียนหวังแล้ว ย่อมปลอดภัยกว่าทุกสิ่ง

คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดมาไวไปไว ภายในระยะเวลาอันสั้น คลื่นยักษ์แดงคาวเลือดที่ท่วมฟ้าดินแถบนี้จนจมมิดก็ได้ถอยกลับออกไปเหมือนดั่งน้ำทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งแล้วก็ถอยกลับไป เพียงชั่วพริบตาเดียวก็หายไปยังบริเวณส่วนที่ลึกเข้าไปในแหลมฮ่าวว่าง ทำให้แหลมฮ่าวว่างกลับกลายเป็นเงียบสงัดในทันที เหมือนหนึ่งว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิด่ขึ้นมาก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล