“หรือว่าวัตถุเช่นนี้แม้แต่จอมราชันเซียนหวังก็เอาไปไม่ได้รึ?” ธิดาราชันฉีหลินถึงกับพูดขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่จ้องมองไปที่แหลมฮ่าวว่าง ยิ้มนิดหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เรื่องอย่างนี้จำเป็นต้องอาศัยวาสนาอยู่แล้ว ถ้าหากจอมราชันเซียนหวังคิดจะอาศัยกำลังแย่งชิงดื้อๆ ล่ะก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นเรื่องดี บางทีอาจนำมาซึ่งผลกรรมระดับหนึ่งได้ อีกอย่าง สถานที่แห่งนี้คือแดนแห่งการสืบค้น ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็ไม่แน่เสมอไปว่าสามารถทำได้ถึงขั้นกวาดทุกอย่างได้…”
“…สมควรจะรู้ว่า แดนแห่งการสืบค้นเป็นกากเดนมาจากยุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า เป็นเศษชิ้นส่วนของสายน้ำแห่งกาลเวลา เจ้าลองนึกภาพดูสักนิดหนึ่ง หลังจากผ่านยุคสมัยแล้วสมัยเล่ามา เศษชิ้นส่วนยังคงอยู่ในสภาพของมันได้ หลังจากผ่านยุคสมัยแล้วสมัยเล่ายังคงไม่สามารถทำลายมันได้ ตัวของพวกมันเองก็น่ากลัวมากอยู่แล้ว ดังนั้น ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็ไม่แน่เสมอไปว่าสามารถอาศัยการแย่งชิงเอามาดื้อๆ ต่อให้มีจอมราชันเซียนหวังที่สามารถกวาดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะได้ประโยชน์จากการสัมผัสข้องเกี่ยวกับผลกรรมเช่นนี้
เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ได้มองหน้าธิดาราชันฉีหลินทีหนึ่ง และกล่าวว่า “กล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวังแล้ว สวรรค์ลงทัณฑ์ลอยอยู่เหนือศีรษะของพวกเขาตลอดเวลา ยิ่งจอมราชันเซียนหวังมีความแข็งแกร่งมากเท่าไร สวรรค์ลงทัณฑ์ของพวกเขาก็ขมวดปมเข้ามามากยิ่งขึ้นเท่านั้น กระทั่งเรียกได้ว่า สวรรค์ลงทัณฑ์อยู่ใกล้พวกเขาแค่เอื้อมเท่านั้นเอง การสัมผัสเกี่ยวข้องกับผลกรรมก็จะยิ่งมากขึ้น และอันตรายก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย”
“สวรรค์ลงทัณฑ์…” ภายในใจของธิดาราชันฉีหลินถึงกับเย็นวาบเมื่อได้ยินคำนี้ ขอเพียงได้เป็นจอมราชันเซียนหวัง พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากสวรรค์ลงทัณฑ์ไปได้ กระทั่งแม้แต่จอมเทพก็มีสวรรค์ลงทัณฑ์เช่นกัน เป็นหัวข้อสนทนาที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวั่นเกรงยิ่งนัก
“ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า ยามที่จอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนองค์หนึ่ง ยิ่งพวกเขาได้สืบทอดชะตาฟ้ามากเท่าไร ตัวของเขามีความแข็งแกร่งมากเท่าไร พวกเขาก็จะมีความพะว้าพะวงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเมื่อไหร่ที่สวรรค์ลงทัณฑ์ปรากฏคิดจะหลบหลีกก็ยากเสียแล้ว และเมื่อไหร่ก็ตามสวรรค์ลงทัณฑ์ฟาดฟันลงมาจริงๆ ต่อให้บุคคลผู้นั้นมีชะตาฟ้าสิบสองสายก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป” หลี่ชิเย่กล่าวอย่างช้าๆว่า “นี่ก็เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าน้อยจึงมีความพะว่าพะวงน้อย ขณะที่จอมราชันเซียนหวังระดับสูง โดยเฉพาะจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายโดยพื้นฐานแล้วจะไม่ปรากฎตัว เนื่องจากพวกเขามีความกังวลมากเกินไป”
เมื่อธิดาราชันฉีหลินได้ฟังคำบอกเล่านี้แล้วก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผล เหมือนดั่งเช่นจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย เช่นราชันซื่อตี้ ราชันเสวียนตี้ เซียนหวังอิเย่ พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่เคยปรากฏตัวออกมา อย่าว่าแต่ชนรุ่นหลังหรือยอดฝีมือทั่วไป เล่าลือกันว่า ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังทั่วไปก็ยากที่จะได้พบเห็นจอมราชันเซียนหวังระดับสูงสุดเฉกเช่นพวกราชันซื่อตี้เหล่านี้
“สวรรค์ลงทัณฑ์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “อย่างน้อยให้พวกจอมราชันเซียนหวังหลบอยู่ภายในแดนแห่งการสืบค้น พวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น ถ้าหากปล่อยให้พวกเขาเดินท่องอยู่บนโลกมนุษย์ปุถุชน พวกเขาไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของกาลเวลาที่ยาวนาน
“ฟังว่าบางครั้งจอมราชันเซียนหวังก็จะขุดหาวัตถุที่แดนแห่งการสืบค้นเหมือนกัน” ธิดาราชันฉีหลินเอ้ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่บางครั้ง ความจริงแล้ว จอมราชันเซียนหวังไม่เคยหยุดที่จะขุดหาในแดนแห่งการสืบค้น” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “พื้นที่ของแดนแห่งการสืบค้นกว้างใหญ่ไพศาล ยังมีพื้นที่อีกมากที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยเข้าไปถึง ขณะจอมราชันเซียนหวังกำลังสืบค้นอยู่นั้นผู้คนจำนวนมากมองไม่เห็นเท่านั้นเอง แต่ว่า เมื่อจอมราชันเซียนหวังแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ความถี่ในการสืบค้นก็จะน้อยลงกว่ากันมาก เว้นแต่เป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจมากเป็นพิเศษ มิฉะนั้นแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวง่ายดาย”
ในแดนแห่งการสืบค้นมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถสังหารราชันได้จริงๆ หรือ?” หลังจากที่ธิดาราชันฉีหลินนิ่งเงียบนิดหนึ่งแล้วได้พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “โดยเฉพาะจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้ามากกว่าสิบสาย”
ความจริงแล้ว ตำนานเช่นนี้นางเคยได้ยินมาก่อน แต่ไม่มั่นใจนัก เนื่องจากในความคิดของผู้คนจำนวนมากมองว่าจอมราชันเซียนหวังคือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกร โดยเฉพาะจอมราชันเซียนหวังที่สืบทอดชะตาฟ้ามากกว่าสิบสายขึ้นไป เว้นแต่ตัวของเขาเองแล้ว เกรงว่าคงปราศจากผู้ต่อกรในหล้า แต่ก็มีตำนานเล่าว่า แม้แต่จอมราชันเซียนหวังระดับเช่นนี้ยังคงมีผู้ที่ถูกสังหาร
สำหรับตำนานเช่นนี้ ในใจของธิดาราชันฉีหลินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง นางยากจะจินตนาการได้ว่า สิ่งมีชีวิตลักษณะเช่นนี้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นใดกันแน่
“มี อีกทั้งมีอยู่ไม่น้อยเสียด้วย” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “นี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่เพราะเหตุใดเมื่อจอมราชันเซียนหวังแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ความถี่ในการขุดหาวัตถุก็จะลดน้อยลง จะไม่ลงมือโดยง่ายดาย เจ้าคิดอยากได้ของล้ำค่าของคนอื่น ขณะที่ในสายตาของคนอื่นไหนเลยเจ้าจะไม่ใช่ของบำรุงชั้นเลิศ เจ้าไปรบกวนการหลับใหลของผู้อื่น ขอเพียงพวกเขาปรากฏตัวออกมาก็ต้องมีค่าตอบแทน นั่นหมายถึงต้องมีการบำรุงขนานใหญ่ แล้วมีอะไรที่เป็นสิ่งบำรุงได้เหนือกว่าจอมราชันเซียนหวัง!”
เมื่อธิดาราชันฉีหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้ถึงกับร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อมองดูจากสายตาแบบนั้นของหลี่ชิเย่แล้ว ทำให้นางยิ่งต้องรู้สึกหวาดกลัวถึงขนลุกซู่!
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยจอมราชันเซียนหวังเป็นของบำรุงชั้นเลิศมันมีความสยดสยองเพียงใดกันนะ มีความหวาดหวั่นพรั่นพรึงเพียงใดกัน!
“ไป พวกเราไปดูกัน” หลี่ชิเย่มองดูแหลมฮ่าวว่าง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ควรจะสงบลงแล้ว” กล่าวพลางเหินฟ้าขึ้นไปช้าๆ มุ่งหน้าไปยังแหลมฮ่าวว่าง
ธิดาราชันฉีหลิน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เมื่อได้สติกลับมาจึงรีบตามขึ้นไป ติดตามอยู่ด้านหลังหลี่ชิเย่ นางเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ว่า “เกิดเหตุใหญ่ขนาดนี้ จะมีจอมราชันเซียนหวังมาแย่งชิงขงวิเศษหรือเปล่านะ?”
สถานที่แห่งนี้แตกต่างจากโลกมนุษย์ปุถุชนด้านนอก บรรดาจอมราชันเซียนหวังไม่ยอมปรากฏตัวออกมา และไม่ต้องการเดินเนื่องจากสวรรค์ลงทัณฑ์อยู่บนหัว แต่ว่าในแดนแห่งการสืบค้นแตกต่างกัน มักจะมีจอมราชันเซียนหวังบางส่วนที่เดินสำรวจอยู่ในแดนแห่งการสืบค้นเสมอๆ
“จอมราชันเซียนหวังแล้วไง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ถ้าหากเป็นสิ่งที่ข้ามองเอาไว้แล้วต่อให้ใครมาก็ไร้ประโยชน์ นั้นจะต้องเป็นของๆ ข้าอยู่แล้ว ใครก็ขวาง ฆ่าไม่มีละเว้น”
คำพูดที่เรียบเฉยของหลี่ชิเย่กลับทำให้ผู้ที่ได้ยินต้องสั่นเทิ้ม หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นอาจมองว่าหลี่ชิเย่นั้นโง่เขลาและอวดดี พูดจาสามหาว แต่ ธิดาราชันฉีหลินกลับนึกถึงขั้นที่ลึกซึ้งมากไปกว่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...