ในขณะนี้ อู่ฟ่งหยิ่งที่ถือทวนมังกรอยู่ในมือ ด้วยท่าทางทรงพลังดั่งคลื่นยักษ์ในทะเล เสมือนหนึ่งเป็นเทพสงครามสตรีอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองของนางพวยพุ่งประกายที่แหลมคมยิ่งออกมา และพลังที่ข่มขวัญผู้คนถูกเปล่งออกมาทั่วร่าง ทำให้นางดูไม่โกรธแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ
เมื่ออู่ฟ่งหยิ่งมีทวนมังกรอยู่ในมือ ทำให้นางมีความมุทะลุดุดันที่สามารถแทงทะลุฟ้าดินได้ มีความปราศจากผู้ต่อกรที่สามารถบดขยี้ศัตรู ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ เวลานี้อู่ฟ่งหยิ่งก็เหมือนดั่งมังกรโหดตัวหนึ่ง มีท่าทีที่ข้านี่แหละคือผู้ปราศจากผู้ต่อกร มุทะลุดุดันและบ้าระห่ำอันธพาล
เมื่อท่าทีลักษณะเช่นนี้ไปปรากฏตัวอยู่บนผู้หญิงคนหนึ่ง เดิมทีมันเป็นสิ่งที่เข้ากันไม่ได้เลย แต่ทว่า เมื่อความมุทะลุดุดันและบ้าระห่ำอันธพาลเช่นนี้ไปปรากฎอยู่บนตัวของอู่ฟ่งหยิ่งแล้วกลับลงตัวพอดี เหมือนว่าไม่รู้สึกว่าโดดเด่นแม้แต่น้อย
ตัวของอู่ฟ่งหยิ่งเองนับเป็นโฉมตรูที่สุดยอดในหล้าคนหนึ่ง แต่ว่า เวลานี้ไม่มีใครไปสนใจถึงรูปโฉมของอู่ฟ่งหยิ่ง เหมือนว่านางได้หลุดออกจากขอบเขตที่สาวงามคนหนึ่งควรจะมีไปแล้ว สิ่งที่ทุกคนนึกถึงคือการต่อสู้!
“สารเลว…” ในเวลานี้อู่ฟ่งหยิ่งร้องเสียงแหลมออกมา “รับทวนข้า…”
“แว้งค์…” ทวนยาวของอู่ฟ่งหยิ่งพลันแหวกอากาศมาทันที ได้ยินเสียง “ปัง” ทวนยาวของอู่ฟ่งหยิ่งพลันแทงทะลุช่องว่างและพุ่งตรงเข้าหาลำคอของหลี่ชิเย่ทันที เพลงทวนนี้รวดเร็วจนปราศจากผู้เทียบเทียม กระทั่งเนตรฟ้ายังตามไม่ทัน
อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว จากนั้นได้ยินเสียงดัง “ปัง ปัง ปัง” เสียงวัตถุแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอก
เดิมทีทวนมังกรของอู่ฟ่งหยิ่งได้แทงเข้าที่ลำคอของหลี่ชิเย่ได้แล้ว แต่ เพียงชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ช่วงห่างระหว่างหลี่ชิเย่กับส่วนปลายแหลมของทวนเหมือนว่ามีระยะห่างที่ไกลมากสุดจะเอื้อมถึง หรือบางทีคำว่าระยะห่างไม่สามารถนำมาเปรียบเปรยได้อีกแล้ว
เพียงชั่วพริบตาเดียวนี้เอง ช่วงห่างระหว่างหลี่ชิเย่กับส่วนปลายแหลมของทวนไม่สามารถนำเอาคำว่าใกล้ไกลมาวัดกันอีกแล้ว แต่มันเป็นการห่างกันช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า ในพริบตาเดียวนี้เอง ระหว่างหลี่ชิเย่กับอู่ฟ่งหยิ่งเหมือนได้มีการสับหลีกกันช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า
สับหลีกช่องว่าง เป็นหนึ่งในวิชาการควบคุมช่องว่าง เพียงชั่วพริบตาเดียว ระยะห่างระหว่างหลี่ชิเย่กับอู่ฟ่งหยิ่งถูกถ่างออกจนไม่สามารถเอื้อมถึงได้
“ทำลาย…” อู่ฟ่งหยิ่งคำรามเสียงดังออกมา ทวนยาวในมือส่งเสียงคำราม ฉับพลันนั้นเอง ปรากฏเสียงวัตถุแตกละเอียดดัง “ปัง ปัง ปัง” ขึ้นมาเป็นชุด ทวนมังกรที่อยู่ในมือของอู่ฟ่งหยิ่งได้แทงทะลุผ่านช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า พุ่งตรงเข้าหาลำคอของหลี่ชิเย่โดยพลัน
แต่ว่า เมื่ออู่ฟ่งหยิ่งได้แทงทะลุช่องว่างแล้วช่องว่างเล่าไปแล้ว หลี่ชิเย่ก็ไปปรากฎอยู่ในช่องว่างที่ห่างไกลมากอีกแห่งหนึ่ง ทำให้ส่วนปลายแหลมของทวนมังกรกับหลี่ชิเย่ห่างไกลกันมากเหลือเกิน
“นี่มัน…” ผู้คนจำนวนมากต่างมองดูด้วยความงงงัน เมื่อเห็นอู่ฟ่งหยิ่งอาศัยทวนมังกรที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้แทงทะลุช่องว่างไปตั้งมากมายก็ทำอันตรายหลี่ชิเย่ไม่ได้
“ควบคุมช่องว่าง…” ผู้ที่เป็นรุ่นอาวุโส ซึ่งอยู่ในระดับผู้ได้รับการเคารพสูงสุดของสวรรค์สัจธรรมถึงกับพึมพำออกมาเมื่อมองเห็นภาพเช่นนี้ “เขาเชี่ยวชาญด้านเคล็ดวิชาช่องว่าง พลันทำให้ทั้งสองฝ่ายถูกกั้นขวางออกจากกัน แม้ว่ามองดูคือยืนอยู่ตรงหน้า แต่ห่างกันลิบลับ กระทั่งห่างกันหนึ่งช่องถึงหลายช่อง ถ้าหากทำลายช่องว่างไม่ได้ก็ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้ตลอดกาล”
“มังกรร่อนหมื่นแดน…” อู่ฟ่งหยิ่งคำรามเสียงดัง ทวนยาวที่อยู่ในมือพลันกลับกลายเป็นมังกรแท้จริงตัวหนึ่ง ได้ยินเสียงมังกรแท้จริงคำรามเสียงยาว “กรรร” มังกรแท้จริงได้เหินฟ้าขึ้นไป พลันหลุดพ้นไปจากโลกใบนี้ และก้าวข้ามช่องว่างแล้วช่องว่างเล่าในพริบตาเดียว หลังจากที่ก้าวข้ามช่องว่างลักษณะเช่นนี้แล้ว สามารถไล่ตามทันหลี่ชิเย่ในพริบตาเดียว แยกเขี้ยวกางเล็บเข้าสังหารต่อหลี่ชิเย่ในทันที
แต่ทว่า จังหวะที่มังกรแท้จริงกำลังจะไล่ตามทันหลี่ชิเย่แล้วนั้น ทั้งคู่ได้กลับกลายเป็นห่างไกลกันลิบลับอีก ทั้งคู่ได้ทิ้งระยะห่างช่วงแล้วช่วงเล่าอีก
“มังกรร่อนหมื่นแดน…” อู่ฟ่งหยิ่งคำรามออกมาด้วยความโกรธ นางไม่เชื่อว่าจะชั่วร้ายผิดปรกติเช่นนี้ได้ ปะทุพลังลมปราณออกมาอย่างบ้าคลั่ง ฉับพลันได้ก้าวข้ามช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า นางควบคุมทวนยาวมุ่งหน้าไป ไม่เชื่อว่าจะตามหลี่ชิเย่ไม่ทัน
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าดูประหลาดยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นหลี่ชิเย่ก็ดี หรืออู่ฟ่งหยิ่งก็ช่าง พวกเขาทั้งสองดูไปแล้วเหมือนยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่มีการขยับตัว ที่เห็นได้ก็คือตัวของอู่ฟ่งหยิ่งที่ร้องคำรามอยู่ตรงนั้น
ถ้าหากคนที่ไม่รู้ความเมื่อเห็นภาพเช่นนี้แล้ว จะต้องเข้าใจว่าระหว่างพวกเขาต้องมีคนๆ หนึ่งเสียสติแน่นอนเลย มีเพียงยอดฝีมือเท่านั้นที่สามารถดูออกถึงความลึกซึ้งพิสดารได้อย่างแท้จริง แม้ว่าพวกเขาสองคนดูแล้วไม่ได้ก้าวขาแม้แต่ก้าวเดียว แต่ความจริงแล้ว ในเสี้ยววินาทีเท่านั้น พวกเขาได้ก้าวข้ามมิติแห่งช่องว่างแล้ว่ช่องว่างเล่า ซึ่งความลึกซึ้งพิสดารในนั้นหาใช่ผู้อ่อนด้อยสามารถดูออก
อู่ฟ่งหยิ่งได้ก้าวข้ามช่องว่างอีกครั้ง แต่ว่า ยังคงห่างจากหลี่ชิเย่ ต่อให้ความเร็วของนางมากไปกว่านี้ก็ยังคงไล่ไม่ทันหลี่ชิเย่อยู่ดี
“ต่อให้เจ้าออกแรงมากกว่านี้ก็แตะต้องข้าไม่ได้แม้แต่รูขุมขน ถ้าหากเจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้ จงกลับไปดื่มนมเสียแต่โดยดีเถอะ อาศัยความสามารถเพียงเท่านี้อย่าได้ออกมาอวดเก่งอีกเลย” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่นอกมิติแห่งช่องว่างกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว การเข้าในและสามารถพลิกเอามาใช้กับการควบคุมช่องว่างเรียกได้ว่าสามารถทำได้เป็นไปตามแต่ใจปรารถนาอยู่แล้ว กล่าวสำหรับเขาแล้ว การก้าวข้ามมิติช่องว่างแล้วช่องว่างเล่าเป็นเพียงเรื่องจิ๊บๆ เท่านั้นเอง
“ไร้สาระ…” เวลานี้อู่ฟ่งหยิ่งไม่เหลือความเป็นกุลสตรีแม้แต่น้อย แน่นอนที่สุดนางไม่เคยมีอยู่แล้ว ร้องตะโกนเสียงดังออกมาว่า “เจ้าสารเลว ได้แต่หนีอย่างเดียวนับว่ามีความสามารถอย่างนั้นรึ แน่จริงอย่าหนีสิ! มาเล่นกับข้าซึ่งหน้าสักตั้งสิ!”
คำพูดของอู่ฟ่งหยิ่งฟังดูแล้วรู้สึกคลุมเครือยิ่งนัก กระทั่งมีคนที่เขาถึงกับคิดไกลไปโน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...