ในเวลานี้ ทุกคนถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้และจ้องมองดูหลี่ชิเย่เอาไว้ ทุกคนต่างต้องการดูว่าเจ้าบุรุษที่ชั่วร้ายผิดปรกติคนนี้จะมีวิธีการที่สะเทือนฟ้าอย่างไร
ความจริงแล้วนาทีนี้แม้แต่อู่ฟ่งหยิ่งเองก็รอคอยอยู่เหมือนกัน นางเองก็ต้องการดูว่าหลี่ชิเย่มีวิธีการที่สะเทือนฟ้าอย่างไรบ้าง
“ช่าาา ช่าาา ช่าาา…” เสียงกระดูกดังขึ้นเป็นระลอก นาทีนี้เรื่องที่แปลกประหลาดยิ่งได้เกิดขึ้นมาแล้ว
เดิมทีสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว ทอดสายตามองออกไปเห็นแต่กองกระดูกเต็มพื้นที่สุดลูกหูลูกตา แต่ว่า นาทีนี้ หลี่ชิเย่พลันบังเกิดความคิดขึ้นมา กระดูกแต่ละชิ้นได้บินออกมาจากโครงกระดูกแต่ละโครง
อีกทั้งได้หยิบเอากระดูกเพียงชิ้นเดียวจากโครงกระดูกแต่ละโครงเท่านั้น ท่ามกลางทะเลกระดูกแห่งนี้ มีทั้งโครงกระดูกของมังกรเจียวหลงที่ยาวนับร้อยลี้ มีโครงกระดูกที่ขนาดใหญ่โตเท่าภูเขาของวานรที่โหดร้าย และมีโครงกระดูกของวิหคที่แปลกประหลาดหาได้ยากยิ่ง แต่ว่า หลี่ชิเย่จะเลือกหยิบกระดูกเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นจากโครงกระดูกแต่ละโครง
เป็นต้นว่า หยิบเอาเฉพาะกระดูกสันหลังจากมังกรเจียวหลง หยิบกระดูกหน้าผากจากโครงกระดูกวานรยักษ์ หยิบเอากระดูกส่วนที่เป็นกระดูกกรงเล็บที่คมกริบจากโครงกระดูกวิหคประหลาดหายาก…
ภูเขาและทะเลกระดูกที่อยู่ตรงหน้ามีจำนวนนับไม่ถ้วน อีกทั้งซากกระดูกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งปราศจากผู้ต่อกรขณะมีชีวิตอยู่ แต่หลังจากผ่านกาลเวลาอันเนิ่นนานมา โครงกระดูกทั้งหมดล้วนแล้วแต่สูญสิ้นจิตวิญญาณไปแล้ว
ผู้คนจำนวนมากต่างไม่รู้ว่า กระดูกขาวแต่ละชิ้นที่หลี่ชิเย่หยิบเอามานั้นล้วนแล้วแต่เป็นแก่นของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ เป็นต้นว่ากระดูกสันหลังจากมังกรเจียวหลง กระดูกหน้าผากจากวานรยักษ์ กระดูกกรงเล็บที่คมกริบจากวิหคหายาก…สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแก่นที่เป็นหนึ่งไม่มีสองของพวกมันในขณะที่ยังคงมีชีวิตอยู่ อีกทั้งพวกมันล้วนแล้วแต่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในยุคสมัยนี้ มันคือแก่นของพวกมันที่มีอยู่หนึ่งไม่มีสองในยุคสมัยพวกมัน!
เพียงแต่กระดูกส่วนที่เป็นแก่นของพวกมันได้ฝังอยู่ท่ามกลางกาลเวลาที่ยาวนานเกินไป ทำให้พวกมันทั้งหมดได้สูญสิ้นจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันไป เวลานี้เป็นเพียงกระดูกที่ไร้ค่าเท่านั้นเอง
“คร๊ากก คร๊ากก คร๊ากก…” เสียงกระดูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันดังขึ้นเป็นระลอก ในขณะนี้กระดูกขาวแต่ละชิ้นที่เลือกเอามาจากโครงกระดูกถึงกับเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ทั้งยังเชื่อมต่อด้วยความเร็วที่สูงมาก
ผู้คนจำนวนมากต่างมองดูด้วยความงุนงง ภาพของท่อนกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันด้วยความเร็วที่ยากจะหาใดเทียม มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดมากซึ่งเกิดขึ้นตรงหน้า และช่างน่ากลัวเหลือเกิน กระทั่งมีผู้ที่ถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกซู่กับภาพเช่นนี้
ทุกคนต่างมองดูภาพนี้ด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่ต้องการทำอะไร
ในที่สุด กระดูกขาวแต่ละชิ้นก็ประกอบเป็นรูปเป็นร่างได้สำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้น ในขณะนี้ บนท้องฟ้าปรากฏเป็นกระบี่กระดูกขาวที่ใหญ่โตยากจะหาใดเทียมเล่มหนึ่ง เกรงว่ามันคงเป็นกระบี่กระดูกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ทุกคนได้เคยเห็นในชีวิตนี้ เป็นกระบี่ที่เกิดจากการประกบเข้าด้วยกันจากกระดูกขาวทั้งหมด
“ตูม…” เวลานี้ จากการที่หลี่ชิเย่บังเกิดแนวความคิดขึ้น กระบี่กระดูกเกิดไหม้ไฟขึ้นมาทั้งเล่ม ไฟที่เผาไหม้กระบี่กระดูกขาวคือไฟโลกันตร์ที่ดึกดำบรรพ์มาก ไฟโลกันตร์ต้องการหลอมกลั่นกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้
“แกร๊งค์…” หลังจากผ่านการเผาไหม้จากไฟโลกันตร์แล้ว กระบี่กระดูกขาวได้ปรากฎต่อสายตาของทุกคนอีกครั้ง นาทีนี้กระบี่กระดูกขาวมีขนาดเล็กลงมาก อย่างน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกระบี่ยักษ์เล่นนั้น มันคือฉบับย่อส่วน
แต่ทว่า กระบี่กระดูกขาวในเวลานี้คือกระบี่ยาวที่สมบูรณ์แบบแล้ว ไม่สามารถดูรู้ได้ว่ามันคือกระบี่กระดูกขาวที่เกิดจากกระดูกขาวแต่ละชิ้นเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอีกต่อไป
กระบี่กระดูกขาวเล่มนี้ไม่ได้สำแดงท่าทีที่สะเทือนฟ้าออกมาในเวลานี้ เพียงเปล่งประกายอ่อนๆ ออกมาเท่านั้นเอง
“ปุ…” ขณะที่กระบี่กระดูกขาวเล่มนี้เปล่งประกายอ่อนๆ ออกมานั้น คนที่มีทักษะยุทธอ่อนเมื่อได้เห็นประกายนี้แล้ว พลันกระอักเลือดออกมาอย่างแรง เหมือนหนึ่งหัวใจของตนถูกทิ่มแทงจนทะลุอย่างนั้น
“แย่แล้ว นี่เป็นอาวุธอาถรรพ์…” ในเวลานี้ ทุกคนต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป ทยอยกันถอยหลังออกไป ดึงตัวเองให้ออกห่างจากรัศมีที่ห่างไกลเพียงพอ
หลังจากที่ถอยออกห่างจนได้ระยะเพียงพอแล้ว ทุกคนที่มองเห็นกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้แล้ว ต่างรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่ ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจได้ว่ากระบี่กระดูกขาวเล่มนี้ยังไม่ได้อาละวาดขึ้นมา เพียงแค่เปล่งประกายอ่อนๆ ออกมาเท่านั้นเอง
แต่ว่า ด้วยประกายอ่อนๆ เช่นนี้แหละ ก็สามารถแทงทะลุหัวใจของผู้คนได้ ผู้มีทักษะยุทธอ่อนพลันได้รับบาดเจ็บสาหัส ยอดฝีมือต่างได้รับบาดเจ็บเบาๆ
ลองนึกภาพดู หากกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้ปะทุพลังออกมาล่ะก็ มันช่างสยองอะไรเช่นใด
“นี่มันอาวุธอะไรกันแน่ หรือว่าจะเป็นตำราและอาวุธสวรรค์รึ?” มีผู้ที่มองดูกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้แล้วขนลุกขนพอง แม้ว่าทุกคนจะได้ถอยออกห่างจนได้ระยะที่ห่างไกลเพียงพอแล้ว ขณะมองเห็นประกายอ่อนๆ ของกระบี่กระดูกขาวแล้ว ยังคงอดที่จะสั่นเทิ้มไม่ได้
แต่ว่า คนที่พูดคำๆ นี้ออกมาแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เห็นๆ กันอยู่ว่ากระบี่กระดูกขาวเล่มนี้เกิดจากการประกอบเข้าด้วยกันของกระดูกขาวแต่ละชิ้น มันจะเป็นตำราและอาวุธสวรรค์ได้อย่างไรกัน!
ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรกระบี่กระดูกขาวที่เกิดจากการปะติดปะต่อกันขึ้นมาจากกระดูกขาวที่ไร้ค่าถึงได้น่ากลัวได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้!
อู่ฟ่งหยิ่งก็เป็นคนตาถึง นางเคยเห็นศาสตราวุธเต๋าจอมราชันมาก่อน กระทั่งเคยเห็นอาวุธปราบสวรรค์มา เวลาที่นางมองเห็นกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้แล้ว นางเองก็รู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่เช่นกัน
อู่ฟ่งหยิ่งมองไม่ออกว่ากระบี่กระดูกขาวเล่มนี้เป็นอาวุธประเภทใด แต่ลางสังหรณ์บอกนางว่า กระบี่เล่มนี้น่ากลัวยิ่งกว่าอาวุธใดๆ ที่นางเคยเห็นมาในชีวิตนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...