หลี่ชิเย่ปิดรายชื่อฉบับนั้นแล้วส่งคืนให้กับกัปตันเรือนิรันดร กล่าวเฉยเมยขึ้นมาว่า “ที่ควรจะมาจะอย่างไรเสียก็ต้องมา เรื่องบางเรื่อง สิ่งของบางสิ่ง ไม่สมควรดำรงอยู่บนโลกใบนี้ สิ่งนี้หาใช่ภูตผีปีศาจเพียงแค่คนหรือสองคนสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้อยู่แล้ว”
กัปตันเรือนิรันดรรับรายชื่อฉบับนั้นด้วยความเคารพยิ่ง ไม่กล้าจะพูดอะไรมากมาย
หลี่ชิเย่มองดูกัปตันเรือนิรันดรทีหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ ว่า “ยังมีอะไรจะบอกรึ?” กัปตันเรือนิรันดรทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่ง และพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “ฝ่าบาทให้ข้าน้อยเรียนถามว่า ท่านเซียนต้องการผู้ช่วยขณะอยู่ที่ไกลกันดารหรือไม่?” สมควรทราบว่า เรือนิรันดรประกอบด้วยจอมราชันเซียนหวังแต่ละองค์อยู่เบื้องหลัง หากเหล่าจอมราชันเซียนหวังเหล่านี้ลงมือ ต้องสร้างความสะเทือนหวั่นไหวไปทั่วทุกสารทิศ กวาดล้างสิ้นสิบแดนไร้เทียมทาน
แต่ว่า ในเวลานี้แม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขายังต้องเอ่ยถามว่าต้องการผู้ช่วยหรือไม่ ในโลกนี้คนอื่นคิดจะเชิญให้จอมราชันเซียนหวังลงมือก็ต้องอาศัยการวิงวอนหรือขอร้องด้วยความจริงใจ แต่ เวลานี้กลับตรงกันข้าม เป็นจอมราชันเซียนหวังที่อ้อนวอนว่าต้องการมีผู้ช่วยหรือไม่ การกลับตาลปัตรเช่นนี้ยากจะมีผู้ใดเชื่อ
“นี่ถือเป็นการหยั่งเชิงรึ?” หลี่ชิเย่มองดูกัปตันเรือนิรันดรทีหนึ่ง และยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ถ้าหากข้าบอกว่าต้องการผู้ช่วย พวกเขายืนยันได้หรือไม่ว่าที่มาไกลกันดารเพื่อต้องการสิ่งใด”
“ไม่ ไม่ ไม่” กัปตันเรือนิรันดรตกใจสุดขีด รีบโบกไม้โบกมือและกล่าวว่า “ท่านเซียนเข้าใจผิด ท่านเซียนเข้าใจผิดแล้ว มันไม่ได้หมายความอย่างนี้เด็ดขาด นายของพวกเราแค่ต้องการรับใช้ท่านเซียนบ้างเท่านั้น ขอท่านเซียนโปรดระงับโทสะ”
เรื่องนี้จะโทษกัปตันเรือนิรันดรทำตื่นเต้นเช่นนี้ก็ไม่ถูก แม้แต่บรรดาจอมราชันเซียนหวังผู้อยู่เบื้องหลังเรือนิรันดรของพวกเขาก็ระมัดระวังเป็นพิเศษ นับประสาอะไรกับตัวละครตัวน้อยๆ เช่นเขาเล่า การมาอยู่ต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่ระดับเช่นนี้ ตัวละครเล็กๆ อย่างเขาไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึงอยู่แล้ว
“ช่างเถอะ ไม่ต้องทำตื่นเต้นขนาดนี้” หลี่ชิเย่โบกมือด้วยท่าทีเรียบเฉย และกล่าวว่า “ถ้าหากข้าคิดเล็กคิดน้อยกับพวกของฉวี่กงล่ะก็ เจ้าคงไม่ได้มายืนอยู่ต่อหน้าข้าหรอกนะ”
กัปตันเรือนิรันดรถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ เขาไม่ค่อยเคยรู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อน ต่อให้จอมเทพมาด้วยตนเองเขาก็สามารถต้อนรับด้วยความสงบ แต่ว่า เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้วเขากลับต้องอกสั่นขวัญแขวน แม้ว่าจะไม่รู้ถึงประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของหลี่ชิเย่ก็ตาม ยังคงบังเกิดความกลัวขึ้นภายในใจ แม้แต่ระดับจอมราชันเซียนหวังที่อยู่เบื้องหลังของเขายังไม่กล้าล้ำเส้นแม้เพียงน้อยนิด นับประสาอะไรกับตัวเขา
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่มองออกไปยังที่ที่ห่างไกล เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ในสิบสามทวีป ผู้ที่สามารถคาดเดาได้ว่าข้ามาถึงแล้วก็คงมีเพียงพวกฉวี่กงเท่านั้น ส่วนพวกของตาเฒ่าเฉี่ยน ต่อให้พวกเขารู้ก็จะไม่บอกเรื่องนี้กับใครง่ายดาย ขบวนการเทียนฉวนมีฐานะสูงส่งตลอดมา ยิ่งตาเฒ่าเฉี่ยนแล้วลึกล้ำสุดจะกล่าวถึง”
กัปตันเรือนิรันดรพยักหน้าเบาๆ กับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ว่าเป็นไปตามที่กล่าวมา ขบวนการเทียนฉวนได้รับการยกย่องว่าเป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสิบสามทวีป ก่อตั้งขึ้นโดยจอมราชันที่แข็งแกร่งมากที่สุดจำนวนหลายองค์ แม้แต่จอมราชันของเผ่าสวรรค์หลายต่อหลายองค์ก็ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมในขบวนการเทียนฉวนได้
กระทั่งมีผู้กล่าวว่า แม้แต่จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสายอยู่ในครอบครอง การเข้าร่วมในขบวนการเทียนฉวนของพวกเขาก็ไม่สามารถสัมผัสกับสิ่งที่เป็นแกนกลางได้อย่างแท้จริง มีเพียงพวกของระดับราชันซื่อตี้เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสัมผัสกับสิ่งที่เป็นแกนกลาง
เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้ละสายตากลับมา มองดูกัปตันเรือนิรันดร กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ในเมื่อมีเพียงพวกของฉวี่กงเท่านั้นที่สามารถเดาออกถึงฐานะของข้าได้ เช่นนั้นแล้วภายในใจของพวกเขาย่อมต้องรู้อยู่บ้าง รู้ว่าข้าหมายปองสิ่งใดในไกลกันดาร พวกเขาสมควรเข้าใจได้ว่า สิ่งที่สามารถเข้าตาข้าได้มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น”
“เรื่องนี้ข้าน้อยไม่มีความชัดเจน” กัปตันเรือนิรันดรยิ้มเจื่อนๆ และกล่าวว่า “พวกของฝ่าบาทแค่กังวลว่าจะมีจอมราชันเซียนหวัง คนอื่นๆ ก่อความไม่สงบขึ้น ดังนั้นจึงให้ข้าน้อยเรียนถามสักคำ”
“จอมราชันเซียนหวัง อื่นๆ” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมาและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สิ่งของภายในไกลกันดารย่อมทำให้ใจของผู้คนต้องหวั่นไหว ต่อให้จอมราชันเซียนหวังก็ไม่เว้น ที่สมควรมาอย่างไรเสียก็ต้องมา สิ่งของบางสิ่งคิดจะปกปิดก็ปกปิดไม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้น จอมราชันเซียนหวังสามารถแอบมองเห็นความลับสวรรค์ได้!”
กัปตันเรือนิรันดรพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่พูดมา ถ้าหากจะกล่าวว่าในแดนแห่งการสืบค้นไม่สถานที่ใดควรคู่แก่จอมราชันเซียนหวังไปตามล่าไปเฝ้ารอล่ะก็ ต้องที่ไกลกันดารอย่างแน่นอน สิ่งของบางสิ่งในไกลกันดารกระทั่งจอมราชันเซียนหวังก็อยากได้มาครอบครองยิ่งนักตลอดมา
หลี่ชิเย่เพียงหัวเราะทีหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าตาเฒ่าเฉี่ยนรู้ว่าเขาได้มาถึงแดนที่สิบแล้ว แต่คนอย่างตาเฒ่าเฉี่ยนจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครโดยง่าย เขาไม่ใช่เป็นคนปากโป้ง ยิ่งไปกว่านั้น ขบวนการเทียนฉวนก็จะไม่แบ่งปันข่าวคราวให้กับใครง่ายดาย
จอมราชันเซียนหวังที่สามารถคาดเดาถึงการมาของเขาได้นั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นจอมราชันเซียนหวังที่มีความสัมพันธ์กับเขามากบ้างน้อยบ้างตั้งแต่ครั้งอดีต จอมราชันเซียนหวังบางองค์อาจมีความเป็นไปได้ว่าเคยสืบหาข่าวคราวจากหอราชันมาก่อน
จอมราชันเซียนหวังผู้อยู่เบื้องหลังเรือนิรันดรสามารถเดาฐานะของหลี่ชิเย่ได้ พวกเขากำลังคาดเดาจุดประสงค์ในการไปที่ไกลกันดารของหลี่ชิเย่ แม้ว่าพวกเขาเคยไปมาหาสู่กับหลี่ชิเย่มาก่อน แต่ยังไม่ถือเป็นคนสนิทของหลี่ชิเย่ ไม่เหมือนดั่งพวกของราชันเซียนหมิงเหรินอย่างนั้น คู่ควรแก่การให้ความไว้วางใจของอีกาทมิฬ ดังนั้น บรรดาจอมราชันเซียนหวังผู้อยู่เบื้องหลังเรือนิรันดรก็ไม่กล้าทำอะไรโดยพละการ
“เจ้าสามารถไปบอกกล่าวต่อนายที่อยู่เบื้องหลังเจ้า” หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่จึงพูดขึ้นมาช้าๆ ว่า “หากข้าต้องการแล้ว จะบอกพวกเขาอีกที แต่ พวกเขาย่อมรู้จักนิสัยของข้าดี ข้าไม่ต้องการให้มีใครมาคอยสอดแนม พวกเขาคงเข้าใจ”
“คำพูดของท่านเซียน ข้าจะต้องถ่ายทอด ต้องถ่ายทอดให้แน่นอน” กัปตันเรือนิรันดรรีบพูดตอบโดยไม่กล้าประมาท
“สำหรับจอมราชันเซียนหวังบางคนหน่ะหรือ ไม่จำเป็นต้องไปสนใจ ถ้าหากมีใครอยากจะมา หรืออยากจะเข้ามาสอดเพื่อขอแบ่งผลประโยชน์ล่ะก็ ปล่อยพวกเขามาก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “ไกลกันดารเป็นสถานที่ดีแห่งหนึ่ง บางทีสถานที่แห่งนี้อาจต้องการนำเอาจอมราชันเซียนหวังมาเซ่นไหว้บูชา มีเพียงจอมราชันเซียนหวังเท่านั้นที่มีค่าเช่นนี้ได้ แม้แต่จอมเทพก็ไม่ได้มีค่าเช่นนี้”
เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้ เผยให้เห็นรอยยิ้มเต็มใบหน้า ลึกลับยากจะหยั่งถึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...