หอกยาวดั่งหยก แผ่กลิ่นอายสังหารออกมา เหล่าสวรรค์และเทพล้วนแล้วแต่ถูกสังหารภายใต้หอกยาวเล่มนี้ นี่คือกระบวนท่าที่เด็ดขาด ไม่ว่าผู้นั้นจะดำรงอยู่ในฐานะเช่นใดก็ต้องถูกตรึงสังหารอยู่ตรงนั้น ไม่เหลือช่องทางที่จะพลิกสถานการณ์ได้อีกต่อไป
การถูกตรึงสังหารด้วยหอกยาวเช่นนี้ ทำให้ผู้คนต้องสั่นเทา อย่าว่าแต่ยอดฝีมือเช่นธิดาราชันฉีหลินเลย แม้แต่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะจอมเทพอย่างซึหุนหลินยังต้องหวาดกลัวจนเข่าอ่อนทั้งสองข้าง เมื่อได้เห็นการตรึงสังหารโดยหอกยาวเช่นนี้
หลังจากที่ได้เห็นหอกยาวนี้แล้ว จึงทำให้รู้ว่ากลิ่นอายสังหารของสมรภูมิรบแห่งนี้กำเนิดจากที่ใด เป็นกลิ่นอายสังหารขั้นเด็ดขาดที่แผ่ออกมาจากหอกยาวนั่นเอง ไม่ว่าใครก็ยากจะเข้าไปใกล้สมรภูมิรบจอมราชันนั้นได้
พวกของธิดาราชันฉีหลินที่ได้เห็นภาพนี้แล้ว ต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ แม้จะไม่ทราบว่ากระดูกขาวนี้ได้เสียชีวิตไปนานมากน้อยเท่าไร แต่ยังคงทำให้ผู้คนต้องเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นโครงกระดูกที่สูงใหญ่ดั่งขุนเขา ความเลื่อมใสศรัทธาบังเกิดขึ้นภายในใจ ทำให้มีปฏิกิริยาอยากจะกราบไหว้กับพื้น
“ราชันมารอู่หลุนนะเนี่ย…” ซึหุนหลินรู้สึกหวั่นไหว แสดงคารวะอย่างสุดซึ้งด้วยความเคารพเลื่อมใสยิ่งนักเมื่อได้เห็นโครงกระดูกโครงนี้ และกล่าวว่า “ราชันมารปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุค ท้ายที่สุดยังคงเสียชีวิตในต่างแดน”
พวกของธิดาราชันฉีหลินก็แสดงคารวะต่อโครงกระดูกขาวขนาดยักษ์โครงนี้ตามซึหุนหลิน บังเกิดอารมณ์ภายในใจที่บอกไม่ถูก ราชันมารที่ปราศจากผู้ต่อกรองค์หนึ่งต้องมาเสียชีวิตในลักษณะเช่นนี้ตรงนี้ ช่างเป็นเรื่องที่สะเทือนต่อจิตใจผู้คนยิ่ง ที่สะเทือนหวั่นไหวมากกว่านั้นก็คือ กระทั่งตัวตาย ราชันมารอู๋หลุนยังคงอยู่ในท่วงท่าของการต่อสู้
ด้วยท่วงท่าลักษณะเช่นนี้เหมือนเป็นการบอกกล่าวต่อผู้คนบนโลกว่า ชั่วชีวิตของจอมราชันเซียนหวังอยู่กับการต่อสู้โดยตลอด กระทั่งก้าวเดินไปถึงนาทีสุดท้ายของชีวิตยังคงต่อสู้อยู่เช่นเดิม!
นับว่าเป็นเรื่องที่สะเทือนต่อจิตใจของผู้คนยิ่ง เมื่อได้มองเห็นภาพการเสียชีวิตจากการสู้รบของจอมราชันด้วยตาของตนเอง นี่คือจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็อสายอยู่ในครอบครอง ทอดสายตามองออกไปในสิบสามทวีปก็มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เรียกได้ว่าจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครองถือว่าปราศจากผู้ต่อกรแล้ว บนโลกใบนี้ยากจะผู้ใดต่อกรเว้นแต่จอมราชันเซียนหวังที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครองเท่านั้น
แต่ว่า ต่อให้จอมราชันที่ได้ครอบครองชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย ท้ายที่สุดยังคงต้องจบชีวิตลงที่ตรงนี้
กรณีเช่นนี้ทำให้ธิดาราชันฉีหลินรู้สึกสะเทือนใจยิ่งนัก เนื่องจากเซียนหวังเย่หลินซึ่งเป็นเซียนหวังที่แข็งแกร่งมากที่สุดของตระกูลราชันฉีหลินก็คือเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครอง และเป็นผู้อยู่ในอุดมคติเป็นที่ภาคภูมิใจของลูกหลานตระกูลราชันฉีหลินมาทุกยุคทุกสมัย
ธิดาราชันฉีหลินไม่เคยพบเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเซียนหวังเย่หลินมาก่อน แต่มาวันนี้สามารถมองเห็นซากศพของจอมราชันที่มีชาตะฟ้าสิบเอ็ดสายอีกผู้หนึ่งก็เป็นการเพียงพอแล้ว และได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อธิดาราชันฉีหลิน!
“มันคืออะไรกันแน่ที่สามารถสังหารราชันมารอู๋หลุนได้?” อู่ชีถูกทำให้หวั่นไหวอยู่นานกว่าจะได้สติกลับมา เขาถึงกับรู้สึกเสียวสันหลังวาบ และกล่าวขึ้นขณะจ้องมองโครงกระดูกขาวโครงนี้อยู่
ยกเว้นจอมราชันที่มีชาตะฟ้าสิบสองสายแล้ว พวกของอู่ชียากจะจินตนาการได้ว่ายังจะมีสิ่งใดสามารถสังหารจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายได้อีก
“ผู้ยิ่งใหญ่ สุดยอดผู้ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่ง ผู้ที่หลงเหลือมาจากยุคก่อน” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “จะเรียกว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของเลือดกันดารก็ได้ การศึกในครั้งนี้เรียกได้ว่าสะเทือนฟ้าดิน เขย่าหมื่นอาณาจักร สุดท้ายแล้ว ราชันมารอู๋หลันกับผู้ยิ่งใหญ่เลือดกันดารได้ตายไปด้วยกัน ราชันมารอู๋หลุนอาศัยการกลั่นชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายให้กลายเป็นหอกเล่มยาวเพื่อใช้ในการโจมตีครั้งสุดท้าย สังหารและทำลายสิ้นผู้ยิ่งใหญ่เลือดกันดารผู้นี้ในฉับพลัน ทำให้มันกลายเป็นเถ้าธุลีไปอย่างแท้จริง ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดได้อีก!”
พวกของธิดาราชันฉีหลินต่างรู้สึกหวั่นไหวเมื่อได้ฟังคำจากหลี่ชิเย่ แม้ว่าไม่สามารถเห็นการศึกครั้งนี้ด้วยตาของตนเอง แต่ พวกเขาสามารถจินตนาการได้ว่าศึกครั้งนี้น่ากลัวและโหดร้ายทารุณเช่นใด ขณะเดียวกัน พวกเขาก็สามารถจินตนาการได้ว่า การโจมตีครั้งสุดท้ายของราชันมารอู๋หลุนนั้นมีความเด็ดขาดเช่นใด และปราศจากผู้ต่อกรอย่างไร!
เวลานี้ พวกของธิดาราชันฉีหลินต่างมองเหม่อไปยังหอกยาวที่ดูละมุนละไมดั่งหยกเล่มนั้น ก่อนหน้านั้น พวกเขายังเข้าใจว่าเป็นศาสตราวุธเต๋าจอมราชันปราศจากผู้ต่อกรเล่มหนึ่ง ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ามันจะเกิดจากการกลั่นเอาจากชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย ชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายช่างเป็นพลังที่น่ากลัวเพียงใด
สามารถทำให้ราชันมารอู๋หลุนทุ่มเททุกอย่างด้วยการนำเอาชะตาฟ้าทั้งสิบเอ็ดสายของตนกลั่นเป็นหอกยาวกับการโจมตีครั้งสุดท้าย เพื่อเป็นการโจมตีขั้นเด็ดขาดต่อศัตรูเป็นครั้งสุดท้ายนั้น เมื่อมองอีกด้านหนึ่ง สามารถจินตนาการได้ว่า ครั้งนั้นผู้ยิ่งใหญ่เลือดกันดารตนนี้ที่เป็นศัตรูกับราชันมารอู๋หลุนนั้นมีความน่ากลัว และปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด!
“เลือดกันดารถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้นะเนี่ย” อู่ฟ่งหยิ่งที่ชอบเอาชนะคนอื่นถึงกับตกใจ กล่าวสำหรับผู้ใดก็ตาม จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายล้วนแล้วแต่คู่ควรไปให้ถึงจุดนั้น จะมีใครสักกี่คนบนโลกที่สามารถกลายเป็นจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายได้
“ผู้ยิ่งใหญ่ตนนี้ยังไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยขึ้นมา
“อะไรนะ…” อู่ชีตกใจจนกระโดดตัวลอย เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ กล่าวว่า “ยัง ยังมีเลือดกันดารที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ มัน มันแข็งแกร่งแค่ไหน?”
“ขึ้นอยู่กับเจ้าพูดถึงผู้ยิ่งใหญ่เลือดกันดารตนไหน” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบๆ ว่า “หากเป็นผู้ยิ่งใหญ่เลือดกันดารที่แข็งแกร่งที่สุดล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายก็ไม่ต้องการไปมีเรื่องกับเขา!”
คำพูดเช่นนี้พลันทำให้พวกของอู่ชีใจหายใจคว่ำ ไม่เว้นแม้แต่ซึหุนหลิน ในความคิดของพวกเขา จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตะฟ้าสิบสองสายนับว่าปราศจากผู้ต่อกรแล้ว แม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายยังไม่ต้องการไปหาเรื่องด้วย มันช่างเป็นอะไรที่น่ากลัวเพียงใด และดำรงอยู่ในฐานะที่สุดยอดเพียงใด!
“ผู้ยิ่งใหญ่แบบ แบบ แบบนี้เป็นอะไรกันแน่?” ไม่ง่ายนักกว่าอู่ชีจะได้สติกลับมา กล่าวด้วยความหวาดกลัวในใจว่า “บนโลกนี้ยังมีสิ่งที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งกว่าจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายอีกรึ?” หลี่ชิเย่ไม่ได้ตอบคำถามของอู่ชี เพียงแต่มองไปยังที่ที่ห่างไกลมาก สายตาดูลึกล้ำมาก เหมือนว่าได้ก้าวข้ามกาลเวลาไป เหมือนก้าวทะลุผ่านอดีตกาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...