ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1927

สรุปบท ตอนที่ 1927 สูญเสีย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1927 สูญเสีย – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 1927 สูญเสีย ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลังจากที่สัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ดูดเลือดสดๆ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเหล่านั้นจนแห้งแล้ว ได้ยินเสียงดัง “ตึง ตึง ตึง” ดังขึ้น เกล็ดทั่วตัวถึงกับตั้งชูชันขึ้นและแผ่ประกายสีเลือดออกมา เหมือนว่าเขาได้ฟื้นฟูพลังกลับมาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ในเวลานี้ สัตว์ประหลาดตัวนี้เหมือนยังไม่หายอยาก แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากเผลบๆ จากนั้น อ้าปากที่เปื้อนเลือด ลิ้นสีแดงเลือดถูกปล่อยออกมาและฉกไปข้างหน้า

“ปุ ปุ ปุ” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ลิ้นที่ฉกออกมาได้แยกออกเป็นแฉกๆ หลายสิบอัน พุ่งเป้าไปยังยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ห่างไกลออกไป

ลิ้นของสัตว์ประหลาดตัวนี้นับว่ามีความยาวมากเหลือเกิน สามารถก้าวข้ามพันล้านลี้ในฉับพลันทันที คล้ายดั่งเป็นหอกศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มที่พุ่งเสียบทะลุอกของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน

“แม่เจ้า รีบหนีกันเร็ว” ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดได้สติกลับมาแล้ว ทุกคนเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรราชันสวรรค์ขวางเส้าจึงได้ถอนร่างแหที่คลุมพื้นที่ออกไป เป็นเพราะเขาได้ถือเอาบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ยืนดูความคึกครื้นเป็นอาหารของสัตว์ประหลาด

ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ขวัญหนีดีฝ่อ หันหลังจากไปทันที

“อ๊ากก” พลันปรากฏยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนหลายสิบคนต้องตายอนาถภายใต้ลิ้นของสัตว์ประหลาดตัวนั้น สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็รู้ดีว่าใครแข็งแกร่งใครอ่อนด้อย แม้ว่าราชันสวรรค์ขวางเส้าจะใกล้กับมันมาก แต่มันก็รู้ว่าไม่สามารถไปหาเรื่องกับราชันสวรรค์ขวางเส้าได้ ดังนั้น มันจึงไม่ลงมือกับราชันสวรรค์ขวางเส้า แต่เลือกที่จะลงมือกับผู้ที่อ่อนแอกว่าแทน

“ในเมื่อมาแล้ว ก็รั้งอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน” ทุกคนต่างตกใจกับสัตว์ประหลาดตัวนี้และหันหลังวิ่งหนีเต็มกำลัง เพียงชั่วพริบตาเดียวก็หนีไปถึงขอบฟ้าเพื่อหลบออกจากที่ตรงนี้ไป

แต่ทว่า ราชันสวรรค์ขวางเส้าไหนเลยจะยอมปล่อยให้อาหารหนีไปได้ตามอำเภอใจ หัวเราะเสียงดัง กางนิ้วทั้งห้าออก “ตูม” เสมือนหนึ่งเป็นภูเขาห้าลูกปิดกั้นฟ้าดินจนสนิท ขวางทางบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่กำลังหลบหนีเอาไว้

“อ๊ากก” เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ด้านหลังซึ่งถูกขวางทางเอาไว้จำนวนมากพลันถูกลิ้นของสัตว์ประหลาดแทงทะลุอก และถูกดูดเลือดจนแห้ง

“ทำลาย” มีผู้ที่มองเห็นนิ้วมือทั้งห้าของราชันสวรรค์ขวางเส้าที่คล้ายดั่งขุนเขาขวางทางเอาไว้ จึงเสกเอาอาวุธวิเศษของตนออกมา หมายตีฝ่าออกไป

“ไม่เจียมตัว!” ราชันสวรรค์ขวางเส้าส่งเสียงฮึออกมา “ตูม” อานุภาพราชันสยบเหล่าชั้นฟ้า “ปัง” อาวุธที่ซัดออกมาถูกทำลายไปโดยพลัน ราชันสวรรค์ขวางเส้าตวัดแขนเสื้อทีหนึ่ง พลันส่งพวกยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่คิดจะหลบหนีกลับไปยังหุบเขาในทันที

“อ๊ากก” เสียงร้องน่าเวทนาดังไม่ขาดสาย บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ถูกแขนเสื้อสลัดให้กลับไปบริเวณหุบเขาพลันถูกสัตว์ประหลาดดูดเลือดจนแห้งทันที

“ไหนๆ ก็มาแล้วก็รั้งอยู่ต่อไปเถอะ” บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนต่างแตกฮือหนีไปคนละทิศคนละทาง แต่ว่า ราชันสวรรค์ขวางเส้าในเวลานี้หัวเราะเสียงดัง พลันหงายมือออกปรากฎประกายที่ละลานตา หลักกฎเกณฑ์ราชันแต่ละสายลงมาจากฟากฟ้า เสมือนหนึ่งน้ำตกส่งเสียงดังตูมตาม เข้าขวางทางบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่กำลังหนีไปคนละทิศคนละทาง

เสียง “ปัง” ดังขึ้นเป็นระยะ ผู้ที่มีทักษะอ่อนถูกราชันสวรรค์ขวางเส้าจับโยนกลับไปยังหุบเขาเลี้ยงเป็นอาหารสัตว์ประหลาด ทั้งสองฝ่ายห่างชั้นกันมากเหลือเกิน ไม่สามารถรับมือได้อยู่แล้ว

“ตูม ตูม ตูม” เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ในกลุ่มที่ยืนดูความคึกคักก็มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนที่เป็นระดับจอมเทพที่มีหนึ่งถึงสองดวงตราสัญลักษณ์ในครอบครอง เดิมทีบรรดาจอมเทพเหล่านี้เพียงต้องการพาผู้เยาว์ของตนออกมาเพิ่มพูนประสบการณ์ ไม่นึกเลยว่าจะพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ เวลานี้บรรดาจอมเทพเหล่านี้ต่างคุ้มครองผู้เยาว์ของตนหลบหนี

ดังนั้น จอมเทพเหล่านี้จึงได้ลงมือทำลายกฎเกณฑ์ของจอมราชันเพื่อคุ้มครองให้ผู้เยาว์ของตนหนีไปให้ไกล

“คิดจะหนี ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ” ในขณะนี้ราชันสวรรค์ขวางเส้าได้ไล่ตามไปด้วยตนเอง ฉับพลันก็ไปปรากฏอยู่ด้านบนท้องฟ้าของบรรดายอดฝีมือที่กำลังหลบหนี

“ราชันสวรรค์ขวางเส้า อย่าลืมฐานะของตนสิ” จอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวงอดที่จะร้องกล่าวด้วยเสียงอันดังออกมา

ราชันสวรรค์ขวางเส้าหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “ฐานะ ฐานะอะไร? ”

“ท่านคือจอมราชันของเผ่าสวรรค์ มีชาติกำเนิดจากเผ่าสวรรค์เช่นกัน ท่านสมควรเป็นจอมราชันที่ได้รับการเคารพรักยิ่งจากเผ่าเดียวกัน ไม่ใช่จอมปีศาจที่นำผู้ด้อยกว่ามาเป็นอาหาร!” จอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวงกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จอมราชันที่ได้รับการเคารพรักยิ่ง?” ราชันสวรรค์ขวางเส้าหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นจอมราชัน จำเป็นต้องอาศัยพวกเจ้ามาเคารพรักด้วยรึ? ในสายตาของข้า พวกเจ้าเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้นเอง มีคนยักษ์คนไหนบ้างที่ต้องให้ความสนใจต่อความเห็นของมดปลวก!”

“อย่าลืมไปสิ ท่านเป็นจอมราชัน จอมราชันจะพุ่งเป้าไปยังผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า คุ้มครองผู้อ่อนแอกว่า!” จอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวงร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำ

“ใครบอกว่าจอมราชันต้องให้ความคุ้มครองผู้ที่อ่อนแอกว่า?” ราชันสวรรค์ขวางเส้าหัวเราะน่าครั่นคร้ามออกมา และกล่าวว่า “ในสายตาของจอมราชัน พวกเจ้าเป็นเพียงแกะที่อ้วนพีเท่านั้น อยากจะเชือดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ!”

“ท่าน” คำพูดของราชันสวรรค์ขวางเส้าพลันทำให้จอมเทพผู้นี้ต้องอึ้ง เนื่องจากพวกเขาไม่เคยพบเจอจอมราชันลักษณะเช่นนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นจอมราชันเซียนหวังที่มีชาติกำเนินจากเผ่าใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู อย่างน้อยที่สุดพวกเขามีความสง่าผ่าเผย

แต่ ราชันสวรรค์ขวางเส้ากลับแตกต่าง เขาเหมือนไอ้ระยำที่ทำอะไรตามอำเภอใจมากว่า!

“แหะ แค่คนที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งในวันนั้นเท่านั้นเอง มาวันนี้ถึงกับกล้าทำกำแหงต่อหน้าข้า เกรงว่าครั้งนั้นที่เมืองถู่เฉิน ข้าแค่พูดคำเดียวก็สามารถทำให้เจ้าขวัญหนีดีฝ่อได้แล้ว” ดวงตาทั้งสองของราชันสวรรค์ขวางเส้าพลันดูน่ากลัว เผยปณิธานการฆ่าออกมา

เรื่องเช่นนี้สำหรับราชันสวรรค์ขวางเส้าแล้วคือเสี้ยนหนามอันหนึ่ง ราชันสวรรค์ขวางเส้าในครั้งนั้นคือสุดยอดดาวรุ่งในหล้า หมางเมินเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ในรุ่นเดียวกันราชันสวรรค์ขวางเส้าคือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรเสียแล้วในขณะนั้น

ขณะที่ในเวลาเดียวกัน ซึหุนหลินเป็นเพียงคนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรเท่านั้น พยายามขอเข้าสำนักเป็นผู้บำเพ็ญตนด้วยความยากลำบาก

ลองนึกภาพดู ราชันสวรรค์ขวางเส้าในเวลานั้นมีฐานะสูงเด่น มีหน้ามีตาไร้ขีดจำกัด ขณะที่ซึหุนหลินยังอยู่ในฐานะดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยความยากลำบาก

แต่ทว่า เวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ราชันสวรรค์ขวางเส้ายังคงเป็นเพียงจอมราชันที่มีเพียงชะตาฟ้าเดียวเท่านั้น ขณะที่ซึหุนหลินคือจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สามดวงแล้ว

ความแตกต่างตรงจุดนี้ทำให้ภายในใจของราชันสวรรค์ขวางเส้ารู้สึกไม่สบายใจ ถ้าหากเขาคือจอมราชันที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครอง เขาย่อมสามารถเป็นเหมือนดั่งเช่นครั้งครานั้นที่หมางเมินต่อซึหุนหลินโดยสิ้นเชิงได้

เสียดาย ซึหุนหลินในเวลานี้ได้มีฐานะที่เท่าเทียมกับเขาแล้ว

“ถูกต้อง” ซึหุนหลินเองไม่ได้รู้สึกโกรธ และไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย เขายิ้มกล่าวว่า “ข้ายังจำได้ ครั้งนั้นขณะเจ้ามาที่เป่ยเจียง มีหน้ามีตาอย่างเต็มที่ ได้รับการต้อนรับจากองค์หญิงของเป่ยเจียงด้วยตนเอง ครั้งนั้น พลันที่เจ้าลงมือก็เอาชนะแปดผู้กล้าแห่งเป่ยเจียงได้ ขณะที่ข้าต้องการเข้าเป็นศิษย์สำนักเมืองถู่เฉินแต่ไม่ได้รับการตอบรับ ความมีหน้ามีตาของราชันสวรรค์ขวางเส้าในครั้งนั้น นับว่าเป็นที่อิจฉาของผู้ที่อยู่ในรุ่นเดียวกันโดยแท้จริง”

พวกของอู่ชีต่างรู้สึกถึงความสับสนของกาลเวลา เมื่อได้ฟังคำจากซึหุนหลินแล้ว

ราชันสวรรค์ขวางเส้าในครั้งนั้นนับว่าเป็นหนึ่งเดียวในหล้า มีหน้ามีตา เรียกว่าเป็นเอกในกลุ่มคนรุ่นเดียวกัน ในยุคสมัยนั้นซึหุนหลินนับเป็นอะไรได้ ในสายตาของราชันสวรรค์ขวางเส้าเป็นเพียงมดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น

แต่ทว่า ซึหุนหลินในเวลานี้นับว่ามีกำลังความสามารถแข็งแกร่งมากทีเดียว เพียงพอที่จะเทียบเคียงกับราชันสวรรค์ขวางเส้าได้ กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชันสวรรค์ขวางเส้าด้วยซ้ำ

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ผู้คนถึงกับทอดถอนใจออกมาว่า กาลเวลาสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้จริงๆ

ขณะเดียวกัน ยังสร้างความหวั่นไหวในใจให้กับพวกของอู่ชีว่า พรสวรรค์ไม่ได้แทนทุกสิ่งทุกอย่าง ราชันสวรรค์ขวางเส้ายอดเยี่ยมมากน่ะสิ พรสวรรค์ที่สูงเด่นยากจะหาผู้ใดเทียม แต่ท้ายที่สุดแล้วยังคงต้องตกที่นั่งในฐานะจอมราชันที่มีชะตาฟ้าเพียงหนึ่งสายเท่านั้น!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล