เมื่อหลี่ชิเย่เดินทางมาถึงด้านนอกของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ระยะเวลาการรายงานตัวของนักศึกษาในภาคการศึกษาใหม่ก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว บริเวณด้านนอกประตูดูเงียบเหงาลงไปมากทีเดียว
หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจออกมา ขณะมองไปที่สถาบันศึกษาเทพเจ้าจากระยะห่างไกล ผู้คนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผู้ที่ยอดเยี่ยมแต่ละรุ่นจากไป ปรากฏใบหน้าที่อ่อนเยาว์แปลกหน้าแต่ละดวงหน้าเข้ามาแทนที่ ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นใดก็ตาม สถาบันศึกษาเทพเจ้ายังคงยืนหยัดไม่มีล้มลง
ถ้าหากสักวันสถาบันศึกษาเทพเจ้าเกิดล้มลงจริงๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นร้อยชาติพันธุ์ก็จะมีอันตราย ในอนาคตร้อยชาติพันธุ์อาจโคลงเคลงไปมาและมีความเป็นไปได้ที่จะล้มลง
ใช่ว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้าคือฐานรากของร้อยชาติพันธุ์ แต่ว่า หากร้อยชาติพันธุ์ต้องสูญเสียสถาบันศึกษาเทพเจ้าไป เกรงว่าจะเป็นการสูญเสียพลังที่เปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา ขาดความยอมรับนั่นไป
สถาบันศึกษาเทพเจ้ามีความแตกต่างจากทุกๆ สำนัก ทุกๆ สำนักใต้หล้าล้วนแล้วแต่มีด้านที่คับแคบของตน ขณะที่สถาบันศึกษาเทพเจ้ากลับตรงกันข้าม มันยอมรับทั่วทุกสารทิศ รับสมัครปราชญ์จากร้อยชาติพันธุ์
กล่าวได้ว่า นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าสักคนหนึ่ง ไม่เห็นว่าทักษะยุทธของพวกเขาจะก้าวหน้าไปได้มากมายสักเท่าไร แต่ประสบการณ์ของพวกเขา และการทำงานร่วมกันระหว่างร้อยเผ่าพันธุ์ที่แน่นเฟ้นซึ่งกันและกัน มีการขยายตัวได้มากทีเดียว
สถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่เพียงบ่มเพาะอัจฉริยะบุคคลขึ้นมาทุกยุคทุกสมัยเท่านั้น ยังได้เป็นตัวเชื่อมโยงให้กับร้อยเผ่าพันธุ์ในแต่ละยุคสมัย ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ของร้อยชาติพันธุ์ได้มีพื้นที่ที่กว้างไกลมากยิ่งขึ้น มอบความน่าจะเป็นด้านการไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน และความเป็นมิตรภาพให้ร้อยชาติพันธุ์ได้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้น กล่าวได้ว่าในทวีปเจียวเหิงโจวไม่มีสำนักอย่างจวนกู่ได้ ไม่มีสำนักอย่างเขาไผ่ประหลาดได้ แต่ปราศจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่ได้
ไม่มีสำนักจวนกู่ที่เป็นหนึ่งสำนักเจ็ดราชันได้ ยังมีสายสำนักราชันเซียนอื่นๆ ขึ้นทดแทนได้ในภายหลัง แต่ว่าหากปราศจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าไปแล้ว จะไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ใหม่อีกต่อไป
เนื่องจากโลกนี้ไม่มีราชันเซียนเฟยคนที่สอง และไม่มีราชันเทพจงหนานคนที่สอง หากจะว่ากันไปในระดับหนึ่ง สถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่เพียงเป็นกำลังกายใจของราชันเซียนเฟยเท่านั้น ยังเป็นผลงานยอดเยี่ยมของราชันเทพจงหนานอีกด้วย
มองดูภูมิประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งของที่นี่แล้ว หลี่ชิเย่อดที่จะทอดถอนใจออกมา สถาบันศึกษาเทพเจ้าเคยรองรับอัจฉริยะบุคคลจำนวนนับไม่ถ้วน ราชันเซียนของเก้าแดนจำนวนไม่น้อยล้วนแล้วแต่เคยสอนอยู่ที่ตรงนี้ ในอดีตที่ผ่านมาตัวเขาเองก็เคยสอนอยู่ที่นี่มาก่อน
เพียงแต่เขาไม่เหมือนเช่นราชันเซียนเฟยหยาง ราชันเซียนเฮ่าไห่ที่สร้างชื่อเสียงทิ้งเอาไว้ เขายังคงเป็นอีกาตัวนั้น ยังคงดำรงอยู่ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลัง ดังนั้น แม้เคยมีระดับปราศจากผู้ต่อกรแต่ละคนที่สอนโดยเขา แต่ไม่เคยมีคำพูดหรือจารึกใดๆ และไม่ได้ทิ้งชื่อของเขาเอาไว้
เวลาผ่านไปรวดเร็ว ที่ต้องจากไปอย่างไรเสียก็ต้องจากไป ดั่งราชันเซียนหมิงเหริน หรือหลิ่วเต้าเหรินหวัง ไม่ว่าเจ้าจะดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด คงมีวันเวลาที่ต้องจากไปสักวัน แต่สถาบันศึกษาเทพเจ้ายังคงอยู่ ยังคงเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา
หลี่ชิเย่ ยังไม่ทันถึงประตู มองดูความโอ่อ่าของพื้นที่ที่ตั้งสถาบันศึกษาเทพเจ้าจากระยะห่างไกล และทำการเก็บภาพพื้นที่แห่งนี้ทั้งหมดเอาไว้ อดที่จะรำลึกถึงคนบางคนและเรื่องราวบางเรื่อง
ภายในสถาบันศึกษาเทพเจ้าเคยมีใบหน้าที่อ่อนวัยแต่ละวงหน้าที่แวะเวียนเข้ามา สุดท้ายกลับออกไปกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงทั่วหล้าปราศจากผู้ต่อกร มาวันนี้ยามที่เขาได้กลับมา สถาบันศึกษาเทพเจ้ายังคงอยู่ แต่คนเหล่านี้ไม่อยู่เสียแล้ว
จังหวะที่หลี่ชิเย่มาถึงนั้น ได้มีนักศึกษาบางคนที่มีท่าทีเร่งรีบ นักศึกษาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่รีบเร่งกลับเข้าสถานศึกษา บรรดานักศึกษาที่กลับมายามนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีชาติกำเนิดค่อนข้างธรรมดา
เนื่องจากนักศึกษาที่มีชาติกำเนิดจากสำนักราชันเซียน หรือแค้วนเจ้าลัทธิล้วนแล้วแต่สามารถกลับเข้าสถานศึกษาได้ทัน เนื่องจากพวกเขามีทรัพย์สินเงินทองมากมาย สามารถผ่านประตูมิติส่งตัวพวกเขามา ก้าวข้ามฟ้าดินที่ห่างไกล ทำให้พวกเขามีเวลากลับถึงสถานศึกษาได้อย่างเหลือเฟือ และสามารถเข้ากับเพื่อนนักเรียนได้เป็นอย่างดี
สำหรับผู้บำเพ็ญตนผู้ที่มีชาติกำเนิดมาจากสำนักขนาดเล็ก หรือมาจากชนชั้นรากหญ้าจะไม่ง่ายขนาดนี้ ในช่วงที่สถานศึกษาปิดภาคเรียน หากพวกเขาไม่ไปฝึกหาประสบการณ์ก็จะกลับบ้านไปเยี่ยมญาติ มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องอาศัยการเดินหรือการเหิน และหรือบางทีอาจจะสะสมเงินทุนได้ในระดับหนึ่งก็จะอาศัยประตูมิติก้าวข้ามพื้นที่ไปยังจุดหมาย ดังนั้น ยามที่นักศึกษาเหล่านี้กลับมาหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นระหว่างทางเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้กลับมาถึงหลังจากที่สิ้นสุดพิธีการเปิดภาคเรียนไปแล้ว
ดังนั้น ขณะที่หลี่ชิเย่จ้องมองไปที่สถาบันศึกษาเทพเจ้าจากระยะห่างไกล บรรดานักศึกษาที่เดินทางด้วยความเร่งรีบก็ไม่ได้ไปจ้องมองดูหลี่ชิเย่มากนัก จะอย่างไรเสีย หน้าตาของหลี่ชิเย่ก็ไม่ได้มีความโดดเด่น ออกจะดูธรรมดาอย่างยิ่ง อีกอย่าง นักศึกษาเหล่านี้รีบเร่งกลับเข้าไปยังสถานศึกษา ไม่มีเวลาไปให้ความสนใจต่อหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงคนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้น
สุดท้าย หลี่ชิเย่ได้ละสายตากลับมา ก้าวเดินตรงไปยังสถาบันศึกษาเทพเจ้าช้าๆ
พี่หลี่…จังหวะที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินไปยังสถาบันศึกษาเทพเจ้าช้าๆ นั้น ปรากฏเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง ในขณะนี้ ผู้หญิงคนหนึ่งก้าวตามเข้ามาอย่างเร่งรีบ
เป็นผู้หญิงที่มีความงดงามน่าประทับใจ นางคือเถาถิงแห่งหมู่บ้านเถานั่นเอง ขณะที่นางไล่ตามหลี่ชิเย่จนทันนั้น ใบหน้าทรงกลมรีรูปไข่ของนางแดงระเรื่อ ดูเหมือนเหนื่อยหอบเล็กน้อย หน้าอกที่ชูชันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุดนิ่ง
หลี่ชิเย่หยุดอยู่กับทีมองดูนางและยิ้มจางๆ นิดหนึ่ง
“พี่หลี่ พวกเราได้พบกันอีกแล้ว” เถาถิงเองรู้สึกเหนือความคาดคิดอย่างยิ่งกับการพบกับหลี่ชิเย่ ถึงกับมีความตกใจระคนกับยินดีอยู่สามส่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...