แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้แท่นบูชาเปิดออก ปรากฏเป็นประตูมิติขึ้นมา และหลี่ชิเย่พลันถูกส่งออกไป
นาทีต่อมา หลี่ชิเย่ได้ปรากฏตัว ณ สถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ที่ตรงนี้ยังคงเป็นแท่นบูชา จากนั้น แวงค์ดังขึ้นมา ถูกส่งตัวไปอีกครั้ง และถูกส่งตัวไปยังสถานที่อื่นอีกครั้ง
เป็นเช่นนี้สลับสับเปลี่ยนไป โดยหลี่ชิเย่ถูกส่งออกไปรวดเดียวเช่นนี้หลายครั้งหลายครา สุดท้าย จึงถูกส่งตัวไปยังภายในจวนแห่งหนึ่ง จวนแห่งนี้มีระบบการรักษาที่เข้มงวดยิ่งนัก ค่ายกลขนาดใหญ่แต่ละค่ายกลที่เฝ้ารักษาจวนทั้งหลังนี้เอาไว้ หากมีคนนอกย่างกรายเข้าไปแม้เพียงก้าวเดียว ก็จะถูกสังหารโดยง่ายดาย
แต่ว่าหลี่ชิเย่กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น เดินเข้าไปได้อย่างสะดวกโยธิน เพียงชั่วพริบตาเดียวก็เข้าไปถึงส่วนลึกของจวนหลังนี้ ที่ตรงนี้เป็นบ้านหลังเล็กที่หล่อขึ้นมาจากผลึกเซียน สามารถมองเห็นคนผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นเลือนลาง เหมือนกำลังฝึกวิชาผ่อนลมปราณอยู่ตรงนั้น
หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยมองดูคนที่นั่งขัดสมาธิภายในบ้านหลังเล็กนั่น แล้วนั่งลงข้าง ตามอารมณ์
ท่านปรมาจารย์..ขณะที่หลี่ชิเย่นั่งลงนั้น ผู้ที่นั่งขัดสมาธิอยู่พลันลืมตาทั้งสองขึ้น ยามที่ดวงตาทั้งสองลืมตาขึ้นมา พลันกลืนและคายเป็นตะวันจันทราออกมา หลักสัจธรรมทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ภายในนั้น เป็นที่น่าตระหนกยิ่งนัก
“ช่างเถอะ เจ้ายังคงอยู่แต่ในนั้นเถอะ” ขณะที่คนผู้นั้นที่นั่งขัดสมาธิอยู่ภายในบ้านหลังเล็กกำลังจะลุกขึ้นเพื่อให้การต้อนรับนั้น หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ และกล่าวว่า “การที่สถาบันศึกษาเทพเจ้าทำการก่อสร้างบ้านเซียนหลังนี้ให้กับเจ้านับว่าไม่ง่ายเลย ชนรุ่นหลังจำนวนไม่น้อยล้วนแล้วแต่เอาเอาทรัพยากรมาทุ่มเทอยู่ที่ตรงนี้”
“ศิษย์ไม่สามารถลุกขึ้นให้การต้อนรับ น่าละอายเหลือเกิน” ผู้ที่อยู่ในบ้านถึงกับทอดถอนใจออกมาและกล่าวว่า “ศิษย์กลับกระหายต้องการพบหน้าอาจารย์สักครั้ง”
“มีโอกาส วันหลังมีโอกาสอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะส่ายหน้าและกล่าวว่า “เจ้าคืออสุราที่มีชื่อเสียงโด่งดัง กลายเป็นเหมือนอิสตรีเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ผู้ที่อยู่ภายในบ้านถูกหลี่ชิเย่หัวเราะเยาะเช่นนี้ถึงกับหัวเราะแห้งๆ และกล่าวว่า “บางทีอาจเป็นเพราะศิษย์ไม่ได้พบเจออาจารย์นานมากเกินไปแล้ว และหรือบางทีอาจเป็นเพราะศิษย์แก่แล้ว ร่างกายแย่ลงทุกวัน”
ผู้ที่อยู่ในบ้านมีชื่อว่าอสุรา เป็นระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของสถาบันศึกษาเทพเจ้า มีความลึกล้ำยากจะหยั่งถึง เคยช่วยให้สถาบันศึกษาเทพเจ้าผ่านพ้นวิกฤตมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขามีฐานะที่สูงส่งมากในสถาบันศึกษาเทพเจ้า
กล่าวได้ว่า ต่อให้ผู้ที่อยู่ในสถาบันศึกษาเทพเจ้า และสามารถพบกับอสุราด้วยตนเองก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น คิดจะพบกับผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นนี้ จะต้องผ่านการพิจารณาและอนุมัติจากผู้ฒ่าของสถาบันศึกษาเทพเจ้าเสียก่อน ใช่ว่าผู่เฒ่าคนไหนก็สามารถเข้าพบอสุราได้
“วางใจเถอะ ร่างกายเจ้ายังแข็งแรงมากไม่ตายง่ายๆ หรอกนะ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว
อสุราที่อยู่ภายในบ้านก็หัวเราะทีหนึ่ง เขายิ้มกล่าวว่า “หลายวันมานี้ฟังจากผู้เยาว์ว่า เกิดความเคลื่อนไหวสะเทือนฟ้าขึ้นที่ชิงโจว มีพลังที่สามารถทำลายล้างโลกได้ คนแรกที่ข้านึกถึงก็คืออาจารย์ ไม่นึกเลยว่าอาจารย์ได้มาแล้วจริงๆ ลองนับเวลาดู จากกันในครั้งนั้นก็มีหลายยุคหลายสมัยไม่ได้พบกับอาจารย์แล้วหละ” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้เขาถึงกับทอดถอนใจออกมา
“มีเรื่องบางเรื่องยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นจึงตั้งใจกลับมาสักครั้งหนึ่ง” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉย
“เมื่ออาจารย์มาแล้วก็เป็นการดีมาก ช่วงเวลาที่ผ่านมาข้ายังเป็นกังวลเรื่องของสถาบันศึกษาเทพเจ้า เวลานี้มีอาจารย์อยู่ตรงนี้แล้ว สถาบันศึกษาเทพเจ้าจะต้องผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้แน่นอน” อสุราถึงกับยิ้มกล่าว
“ในครั้งนั้น ราชันเซียนเฟยและราชันเทพจงหนานเลือกสถานที่แห่งนี้ พวกเขาได้คาดการณ์เอาไว้แต่แรกแล้ว เพียงแต่การมาถึงของวันนั้นออกจะเร็วไปนิดหนึ่ง” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมย
“นั่นสิ สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลง บางทีความมืดจะมาถึงร็วกว่าที่พวกเราคาดคิด” อสุราก็กล่าวทอดถอนใจออกมา
“แม้ว่าจะมีวิกฤต แต่ใช่ว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้าจะไม่เคยผ่านคลื่นลมมาก่อน คราวนี้สถาบันศึกษาเทพเจ้าก็ยังคงก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปได้อยู่แล้ว” หลี่ชิเย่สงบ และกล่าวด้วยท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ถ้าหากสู้อย่างสุดความสามารถ และต่อต้านกับวิกฤตอย่างเดียว สถาบันศึกษาเทพเจ้ามีศักยภาพเช่นนี้แน่นอน” อสุราทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “เกรงว่ามีผู้คนจำนวนมากไม่ยอมให้สถาบันศึกษาเทพเจ้าสมหวัง ชิ้นเนื้อหวานมันเช่นสถาบันศึกษาเทพเจ้านี้หากล้มลงเมื่อใด ผู้คนจำนวนมากเท่าไรที่ต้องการกัดกินสักคำ ไม่เพียงแค่เผ่าสวรรค์ เผ่ามาร เผ่าเทพเท่านั้น กระทั่งตัวของร้อยชาติพันธุ์เองเกรงว่าก็อยากได้รับส่วนแบ่งเหมือนกัน”
“เจ้ากลัวเซียนหวัง และจอมเทพบางส่วนที่มีชาติกำเนิดมาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าน่ะสิ” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นเรียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...