ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2110

ร่างเงานังหนูน้อยที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองค่อยๆ จางลง ไอหมอกเป็นสายเหมือนดั่งต้องการมุดเข้าไปในสระน้ำอย่างนั้น มันค่อยๆ หลอมรวมเข้ากันกับน้ำในสระ ทันใดนั้น มันได้หลอมรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำในสระแล้ว หรือบางทีอาจเป็นการหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับดวงดาวดวงนี้อย่างช้าๆ

“ข้าจะสร้างกายขึ้นมาใหม่ ต้องอาศัยเวลาที่ยาวนานมากอยู่ช่วงหนึ่ง” เวลานี้เสียงของนังหนูน้อยดังก้องอยู่ในสระหน้ำ จากการที่ร่างเงาที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองยิ่งจืดจางลง เสียงนั้นก็อ่อนลงเรื่อยๆ เหมือนว่ากำลังค่อยๆ หายไป ไอลีนโนเวล

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ถึงเวลาทีข้าสมควรจะจากไปได้แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “คำสัญญาของข้าสัมฤทธิ์ผลแล้ว ในอนาคตเป็นเวลาที่เจ้าต้องทำตามสัญญาแล้วหละ”

“ฮึ ข้ารู้แล้วหน่า ข้าพูดแล้วย่อมทำได้” นังหนูน้อยส่งเสียงฮึออกมา เสียงของเขาก้องกังวานไปมาอยู่ในสระน้ำ เหมือนว่านางไม่พอใจอย่างยิ่งที่หลี่ชิเย่เน้นย้ำกับนางเป็นการเฉพาะ

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” หลี่ชิเย่พยักหน้า จากนั้นหันหลังจากไปทันที

“ข้าชื่อหลงเซียว” จังหวะที่หลี่ชิเย่จากไปนั้น ปรากฏเสียงของนังหนูน้อยดังขึ้นมาจากด้านหลัง กล่าวว่า “จากนี้ไปให้เรียกข้าว่าหลงเซียว ไม่ใช่นังหนูน้อย เจ้าจงจำเอาไว้!”

“ข้าชื่อหลี่ชิเย่ เชื่อว่าเจ้าก็คงไม่ลืมอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา จากนั้นลอยล่องจากไป

หลังจากที่หลี่ชิเย่ลอยล่องจากไปแล้ว ผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองก็ค่อยๆ จมลงสู่ก้นสระ ร่างเงาบนผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองค่อยๆ จางลง สุดท้ายหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนว่านังหนูน้อยก็หายตัวตามไปด้วย ส่วนที่ว่าเมื่อไหร่จะได้ต้อนรับชีวิตใหม่นั้น เกรงว่าคงไม่มีใครทราบ

หลังจากที่หลี่ชิเย่ไปจากดดวงดาวดวงใหญ่นี้แล้ว ก็ไม่ได้รอพวกหวงหลงและป้าหู่ เดินทางกลับไปยังสถาบันศึกษาเทพเจ้าโดยตรง พวกหวงหลงและป้าหู่ก็ไม่จำเป็นต้องให้หลี่ชิเย่อยู่รอพวกเขา เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันกับต้นกำเนิดของทั้งสองเผ่าของพวกเขา เรื่องเช่นนี้หลี่ชิเย่ไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้ สุดท้ายแล้วยังคงต้องอาศัยตัวของพวกเขาเอง ดังนั้น การที่หลี่ชิเย่สามารถชี้นำทางสว่างให้กับพวกเขา ก็ถือว่าได้ทำตามสัญญาของเขาแล้ว

หลังจากที่หลี่ชิเย่กลับไปถึงสถาบันศึกษาเทพเจ้าแล้ว ได้เจาะจงตามเถาถิงมาเป็นการเฉพาะ เนื่องจากเขากำลังจะไปจากแล้ว เขายังไม่อาจวางใจนางอยู่บ้าง นังหนูผู้นี้กับเขามีวาสนาต่อกัน

หลังจากที่เถาถิงได้พบกับหลี่ชิเย่แล้ว นางรู้สึกเก้ๆ กังๆ อย่างยิ่ง มือคู่นั้นไม่รู้ว่าวางเอาไว้ตรงไหนดี กระทั่งไม่กล้าจ้องหน้าหลี่ชิเย่ตรงๆ

ความจริงแล้วจะโทษเถาถิงก็ไม่ถูก ในเวลานี้ทั่วทั้งสถาบันเทพเจ้าจะมีสักกี่คนที่เห็นหลี่ชิเย่แล้วไม่รู้สึกเก้ๆ กังๆ ? เถาถิงในเวลานี้ก็เข้าใจ หลี่ชิเย่นั้นคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่จอมราชันเซียนหวังยังต้องให้ความเคารพนอบน้อมอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าของเขา แล้วนับประสาอะไรกับนางเล่า

กล่าวสำหรับเถาถิงแล้ว ฉับพลันนั้นเหมือนอยู่ในความฝันอย่างนั้น เนื่องจากกล่าวสำหรับบุคคลตัวน้อยๆ อย่างนางแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเข้าใกล้จอมราชันเซียนหวัง แม้แต่เข้าพบกับผู้เฒ่าของสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดยอดเช่นนี้

ลองนึกดู ในอดีตนางยังเรียกหลี่ชิเย่ว่าพี่ท่านอยู่เลย เวลานี้มานึกอีกที เถาถึงถึงกับเหงื่อตกกับความโง่เขลาของตนในขณะนั้น ยังดีที่หลี่ชิเย่เป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจกว้างขวาง ไม่ได้ถือสาหาความกับนาง

หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มจางๆ เมื่อเห็นท่าทางที่เก้ๆ กังๆ ของเถาถิง มองเห็นใบหน้าของเถาถิงแล้วทำให้เขาหวนนึกถึงบุคคลบางคนในอดีต บุคคลที่ได้จากไปแล้ว

“นั่งลงสิ” หลี่ชิเย่ โบกมือเบาๆ สั่งการกับเถาถิงที่ดูเก้ๆ กังๆ นั่น

เถาถิงไม่กล้าพูดอะไรมาก นั่งลงเงียบๆ ข้างๆ เขาอยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ที่เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด ได้รับพระราชทานที่นั่งให้นับเป็นเกียรติยศสูงสุดแล้ว

“หลังสำเร็จการศึกษาแล้ว เจ้าคิดจะเดินไปทางไหนดีหละ?” หลี่ชิเย่ได้เอ่ยถามาขึ้นขณะที่เถาถิงก้มหน้าก้มตาอยู่

เถาถิงตะลึงนิดหนึ่ง นางนึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่จะถามคำถามลักษณะเช่นนี้ ในใจของนางได้มีการคิดมาร้อยพันตลบและเตรียมคำพูดเอาไว้มากมายก่อนมา แต่เวลานี้ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่ได้นำมาใช้

“ข้า ข้า…” เถาถิงจ้องมองหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง เวลานี้ไม่สามารถตอบอะไรได้ แม้ว่ากว่านางจะสำเร็จการศึกษายังอีกหลายปี แต่หากจะถามนางว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วควรจะเดินไปทางไหนดีนั้น นางเองก็รู้สึกงุนงงอยู่

“ข้า ข้าคงกลับไปที่หมู่บ้าน” หลังจากที่เถาถิงตะลึงอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายได้แต่ตอบออกมาเช่นนี้

ความจริงกล่าวสำหรับเถาถิงแล้ว นอกเหนือจากกลับไปที่หมู่บ้านแล้ว นางเองก็ไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหนดี กล่าวสำหรับเถาถิงแล้ว นางไม่ได้เหมือนดั่งบรรดานักศึกษาที่มีชาติกำเนิดมาจากแคว้นเจ้าลัทธิเหล่านั้น ซึ่งนักศึกษาที่มายังสถาบันศึกษาเทพเจ้าเหล่านี้จะมีเป้าหมายที่ชัดเจนมาก อีกทั้งหลังจากที่นักศึกษาเหล่านี้ได้สำเร็จการศึกษาแล้ว โดยพื้นฐานก็จะกลับไปยังสำนักหรือราชวงศ์ของตน

กล่าวได้ว่า การที่เถาถิงก้าวสู่เส้นทางการบำเพ็ญตนนั้นเต็มไปด้วยความบังเอิญ สำหรับเรื่องของอนาคตนั้น นางไม่ได้มีความมุ่งมาดปรารถนาที่ชัดเจนนัก ดังนั้น คิดไปคิดมานางก็ได้แต่กลับไปยังหมู่บ้านเถา

แม้จะกล่าวว่า นักศึกษาที่สำเร็จมาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าเป็นที่ต้องการมาก โดยเฉพาะเฉกเช่นเถาถิงที่มีผลการเรียนไม่เลวนัก เรียกได้ว่าแคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากล้วนแล้วแต่ยินดีรับเอาไว้เป็นศิษย์ เนื่องจากนักศึกษาที่เป็นชนชั้นรากหญ้าประเภทนี้มักจะมีพลังแฝงที่แข็งแกร่งมาก สามารถทำอะไรได้มากในอนาคต และด้วยเหตุผลข้อนี้ แคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากจึงแย่งกันรับนักศึกษาชนชั้นรากหญ้าและมีผลการเรียนเยี่ยมที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้า แม้แต่สายสำนักราชันเซียนก็ยินดีรับนักศึกษาลักษณะเช่นนี้

แต่ว่า เถาถิงนั้นกลับไม่ได้มีความทะเยอทะยานมากนัก ไม่ค่อยได้นึกถึงว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วจะเข้าไปยังแคว้นเจ้าลัทธิแห่งไหนบ้าง เพื่อโบยบินไปยังฟ้าดินที่มันไกลกว่านี้

ดังนั้น เถาถิงคิดทบทวนไปมาแล้ว จึงยังคงกลับไปที่หมู่บ้านเถา เนื่องจากที่นั่นจึงจะเป็นบ้านของนาง แม้ว่าจะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้นเทียบไม่ได้กับสำนักใดๆ แต่ว่า หมู่บ้านเถาก็ยังคงเป็นบ้านของนาง เมื่อกลับไปยังหมู่บ้านเถาแล้วทำให้นางรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น รู้สึกได้ว่าได้กลับไปยังบ้าน

“กลับบ้านก็ดี โลกนี้ยังจะมีที่ใดที่ดีไปกว่าบ้านอีกหละ” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “กลับบ้านย่อมดีกว่าทุกอย่าง คุ้มค่าต่อการอาลัยอาวรณ์”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล