ผู้คนจำนวนไม่น้อยหัวใจเต้นตูมตามขณะจ้องมองของวิเศษสามชิ้นที่วางอยู่บนพื้น ทุกคนต่างอยากได้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่รู้ว่าควรจะไปทำให้ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าซาบซึ้งใจได้อย่างไร
“ท่านผู้เฒ่า ข้ามีสุราชุนหน่วนอยู่กาหนึ่ง ซึ่งบ่มหมักไว้นานคุณภาพชั้นเลิศของแคว้นเย่หลิวพวกเรา ท่านต้องการลองจิบสักคำหรือไม่?” เวลานี้มีชายหนุ่มผู้หนึ่งหยิบเอากาสุราออกมา พลันที่เปิดฝาออก กลิ่นหอมของสุราตลบอบอวลฟุ้งไปทั่ว ทำให้ทุกคนถึงกับน้ำลายหกในเวลานี้
“หอมมาก สุราเยี่ยมมาก” ผู้คนจำนวนมาอดที่จะกลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อได้กลิ่นสุราที่โชยเข้ามา อดที่จะกล่าวชื่นชมออกมา
“นี่คือสุราชั้นเลิศของแคว้นเย่หลิวพวกเรา สามารถแก้ความอยากดื่มได้” ชายหนุ่มผู้นี้ดูจะมีความลำพองใจอยู่สามส่วน จะอย่างไรเสียสุรากานี้เขาได้มาไม่ง่ายนัก
“ท่านผู้เฒ่า ต้องการจิบสักคำหรือไม่?” เวลานี้ชายหนุ่มผู้นี้ได้ยื่นสุราให้กับผู้เฒ่าผู้นี้
แต่ว่า ผู้เฒ่าผู้นี้ยังคงหนังตาหย่อนตั้งแต่ต้นจนจบ เหมือนว่าได้นอนหลับไปแล้วอย่างนั้น ไม่มองชายหนุ่มผู้นี้สักแวบหนึ่ง ยิ่งไม่ได้มองดูสราเลิศรสที่อยู่ในกาด้วยซ้ำ
เมื่อชายหนุ่มผู้นี้เห็นว่าผู้เฒ่าไม่มีปฏิกิริยาตอบ จึงได้แต่เก็บสุรากานี้ขึ้นด้วยความโกรธแค้น ถอยไปอยู่ด้านข้างอย่างจนด้วยเกล้า เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปทำให้ผู้เฒ่าซาบซึ้งใจได้อย่างไร
“ท่านผู้เฒ่า ข้าบำเพ็ญเพียรมาสามพันปี ต้องเผชิญกับลมและฝนที่โหมสาดซัดใต้หน้าผา เพื่อสัจธรรมแล้วข้าต้องฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนาม มีสิงสาราสัตว์เคียงข้างทุกคืนวัน ต้องถูกสัตว์ร้ายลอบโจมตีเป็นประจำ หวังจะได้ของวิเศษสักชิ้นไว้ป้องกันตัว” มีผู้บำเพ็ญตนที่บรรยายเรื่องราวของตนเองให้ฟังดูน่าเวทนาบ้าง หวังอาศัยประสบการณ์ที่น่าเวทนาของตนมาทำให้ผู้เฒ่าตรงหน้าซาบซึ้งใจ
แต่ทว่า ผู้เฒ่าผู้นี้ยังคงมีหนังตาที่หย่อน ยังคงเหมือนนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น ไม่สนใจต่อผู้บำเพ็ญตนตรงหน้าแม้แต่น้อย
จากนั้นได้มีผู้บำเพ็ญตนหลายคนที่เปลี่ยนวิธีการต่างๆ หลายวิธี มีแทบทุกวิธี มีทั้งคนที่ให้คำมั่นสัญญาที่เป็นคำพูดที่ฮึกเหิม มีผู้ที่บรรยายตนเองได้อย่างน่าเวทนา และมีทั้งผู้ที่คิดจะนำเอาสิ่งของอื่นๆ มาแลกกับของวิเศษของผู้เฒ่า แต่ว่า ผู้เฒ่าไม่รู้สึกซาบซึ้งแต่อย่างไร
จังหวะที่ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกผิดหวัง และรู้สึกว่าอาจเป็นไปได้ว่ากำลังถูกผู้เฒ่าผู้นี้กลั่นแกล้งอยู่นั้น ปรากฏหญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของผู้เฒ่า
อายุอานามของหญิงสาวผู้นี้ราวสิบหกสิบเจ็ด สวมใส่ด้วยเสื้อผ้าหยาบทั้งชุด รูปโฉมของนางดงดงามสุภาพยิ่งนัก มีเชือกป่านมัดผมเอาไว้ ทำให้ผู้พบเห็นสามารถรู้ได้ทันทีว่านางมีชาติกำเนิดที่ต้อยต่ำ แม้ว่าจะผ่านการฝึกมา แต่ทักษะต่ำถึงขั้นต่ำมาก
หญิงสาวผู้นี้ดูจะมีความเขินอายอยู่หลายส่วนขณะยืนอยู่ตรงหน้าผู้เฒ่าผู้นี้ เหมือนว่าเป็นครั้งแรกที่นางได้ก้าวออกมาแสดงตนต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ จนรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว
แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วหญิงสาวผู้นี้ยังคงรวบรวมความกล้าอย่างมาก ก้มหน้าและเอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า “ท่านผู้อาวุโส ข้า ข้า ข้าอยากจะได้ของวิเศษสักชิ้นมาป้องกันอารามไม้ของพวก พวก พวกเรา เนื่องจากอารามไม้ของพวกเราไม่ปลอดภัย มี มีบางอย่างที่คอย คอยแอบดูพวกเรา ดูเหมือน เหมือนจะเป็นสิ่งอัปมงคล…”
เมื่อหญิงสาวพูดอกมาเช่นนี้ ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากต่างรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากก่อนหน้านางใช่ว่าจะไม่มีคนอื่นๆ ที่เคยนำเสนอเรื่องราวที่น่าเวทนาเช่นนี้มาก่อน
แต่ทว่า หญิงสาวผู้นี้พูดยังไม่ทันจบคำ ผู้เฒ่าที่ดูเหมือนนอนหลับไปแล้วนั้นพลันลืมตาทั้งสองขึ้น เขาได้หยิบเอาหนึ่งในของวิเศษสามชิ้นที่อยู่ตรงกลางยัดใส่มือของหญิงสาวผู้นี้ และกล่าวว่า “วางบูชาอยู่ด้านหน้าอารามก็แล้วกัน”
หญิงสาวถึงกับตะลึงงัน เมื่อของวิเศษชิ้นนี้ถูกยัดใส่มือของตนเองอย่างกะทันหัน ความจริงแล้วขณะที่นางก้าวออกมาพูดนั้นนางไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อนึกถึงสภาพของตนเองแล้ว นางจึงได้แต่ทุดลองดูสักครั้งเท่านั้นเอง โดยที่ภายในใจของนางไม่ได้ตั้งความหวังเอาไว้แม้แต่น้อย
แต่ทว่า เวลานี้ผู้เฒ่ากลับเอาของวิเศษชิ้นหนึ่งยัดใส่ในมือของนาง ความตระหนกระคนกับความดีใจที่เกิดขึ้นกะทันหันมันช่างสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจได้มากเหลือเกิน ทำให้หญิงสาวถึงกับไม่ได้สติกลับมาในเวลานี้
ไม่เพียงหญิงสาวที่หวั่นไหวจนไม่ได้สติกลับมา คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เช่นกัน เนื่องจากทุกคนต่างเข้าใจว่านี่เป็นการกลั่นแกล้งทุกคนของผู้เฒ่าผู้นี้ แต่ทว่าเวลานี้ผู้เฒ่ากลับเอาของวิเศษมอบให้กับหญิงสาวผู้หนึ่ง โดยอาศัยเพียงคำพูดที่ง่ายดายเช่นนี้เอง
หญิงสาวผู้นี้เมื่อได้สติคืนกลับมาแล้ว รีบคารวะต่อผู้เฒ่าและไปจากที่ตรงนี้อย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็หายตัวไปท่ามกลางฝูงชนจำนวนมาก
“นี่ นี่ นี่ถึงกับเป็นเรื่องจริง!” หลังจากที่ทุกคนได้สติกลัยมาแล้ว ต่างถูกทำให้หวั่นไหวจนพูดอะไรไม่ออก และถึงกับพูดติดอ่างไม่ลื่นไหล
สมควรทราบว่า ของวิเศษที่ถูกผู้เฒ่าจัดวางเอาไว้บนพื้นนั้นเป็นของล้ำค่าอย่างแน่นอน หญิงสาวอาศัยคำพูดเช่นนี้ก็สามารถได้ของวิเศษเช่นนี้ไป มันช่างเป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจผู้คนเหลือเกิน
“นี่เป็นเรื่องจริง ไม่ได้กลั่นแกล้งพวกเรา!” เมื่อทุกคนได้สติกลับมาแล้ว ต่างทยอยกันพูดคุยสนทนาถึงเรื่องนี้ ผู้ชมที่เดิมคิดจะไปจากก็ได้กลับเข้ามาล้อมวงกันใหม่อีกครั้ง พวกเขาล้วนแล้วแต่ คิดอยากได้ของวิเศษเช่นนี้ทั้งสิ้น
“นี่ นี่ นี่ออกจากเกินเลยไปแล้วกระมัง” จูซือจิ้งถูกทำให้หวั่นไหวเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ของวิเศษของผู้เฒ่าหากตกไปอยู่กับสำนักกระบี่ยักษ์ล่ะก็ มันจะกลายเป็นของวิเศษประจำสำนักไปทุกชาติเลยทีเดียว กล่าวสำหรับนางแล้วมันคือของวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่ว่า ผู้เฒ่าผู้นี้บทจะให้ก็ให้เลย เป็นการทำลายความรู้ของนาง ก้าวล้ำเกินกว่าจินตนาการของนาง
ถามโลกหล้า จะมีใครที่ไหนมอบของวิเศษชิ้นหนึ่งให้กับผู้ที่ไม่เคยรู้จักตามอารมณ์เช่นนี้? นี่มันเสียสติแล้วชัดๆ
“เรื่องราวแปลกประหลาดบนโลกนี้ไหนเลยอาศัยความรู้ไปทำความเข้าใจได้ สิ่งนี้หาใช่สิ่งที่เจ้าสามารถจินตนาการได้อยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ที่มองดูผู้เฒ่าผู้นี้แล้ว เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา
“ท่านผู้อาวุโส ข้ามีชาติกำเนิดมาจากเขาไป่จ้างซาน ตระกูลของพวกเราถือเอาการปกป้องมนุษย์ปุถุชนเป็นภารกิจของตน ระยะหลังมีคนเลวจากต่างแดนเข้ารุกรานหมู่บ้านของพวกเรา บรรดาท่านอาและท่านลุงบาดเจ็บล้มตายแสนสาหัส หวังว่าท่านผู้อาวุโสจะมอบของวิเศษให้ข้าสักชิ้นเพื่อปกป้องหมู่บ้านของพวกเรา” หลังจากที่หญิงสาวจากไปแล้ว มีชายหนุ่มผู้หนึ่งที่มีปฏิภาณไหวพริบดี คุกเข่าลงทันทีเสียงดังปุตรงหน้าผู้เฒ่า ทั้งน้ำเสียงและน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...