ปัง ปัง ปัง…เสียงโล่กระทบกันดังขึ้นมาเป็นระลอก ในขณะนี้ยอดฝีมือในขบวนทัพสองสายที่อยู่ด้านหลังเฉินซูเหว่ยทยอยกันนำเอาโล่ขนาดยักษ์ออกมาคนละโล่ โดยที่โล่ขนาดยักษ์ดังกล่าวมีสีดำมันวาว สร้างขึ้นโดยอาศัยโลหะสีเทาผ่านการหลอมกลั่นครั้งแล้วครั้งเล่าจนสำเร็จออกมา
ยามที่โล่ยักษ์แต่ละโล่ปรากฏและส่งประกายออกมาแล้ว โล่ยักษ์ของขบวนทัพทั้งสองก็คล้ายดั่งเป็นเกล็ดที่อยู่บนตัวมังกรยักษ์อย่างนั้น โดยที่เกล็ดมังกรแต่ละเกล็ดได้ส่งประกายแวบวับที่ดำดั่งหมึกออกมา
“เจ้าคนแซ่หลี่ พวกเราขอรับการชี้แนะจากกระบวนท่าอันสูงส่งของเจ้า” เวลานี้เฉินซูเหว่ยร้องกล่าวด้วยเสียงอันดัง แส้หนวดมังกรในมือถูกเขาตวัดม้วนตัวเสมือนดั่งมังกรยักษ์ที่เรียงตัวซ้อนเป็นค่ายกลขนาดใหญ่อย่างนั้น
ตูม…เสียงดังสนั่น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง โล่ยักษ์ที่อยูในมือยอดฝีมือทุกคนของขบวนทัพด้านหลังเฉินซูเหว่ยล้วนแล้วแต่เปล่งประกายออกมา พร้อมกับลวดลายเต๋าที่ปรากฏขึ้นมา นาทีนี้ลวดลายเต๋าทั้งหมดต่างถักทอเข้าด้วยกัน พลันกลับกลายเป็นค่ายกลรบที่ใหญ่โตมโหฬาร ส่งประกายแสงพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรงจนผู้คนจำนวนมากลืมตาไม่ขึ้น
กรรร…เสียงมังกรยักษ์คำรามด้วยความโกรธ ภายใต้เสียงคำรามที่โกรธจัดเช่นนี้ไม่ทราบว่ามีสิงห์สาราสัตว์และนกนานาชนิดจำนวนเท่าไรที่ต้องตัวสั่นเทากับสิ่งนี้ ทันใดนั้นกลิ่นอายมังกรที่ครอบคลุมฟ้าดินไปทั่ว ภายใต้กลิ่นอายมังกรที่น่ากลัว ทำให้สิงห์สาราสัตว์และนกนานาชนิดต่างหมอบอยู่กับพื้นและสั่นเทาไปทั่วทั้งร่าง
ในเวลานี้เอง มังกรขนาดยักษ์ตัวหนึ่งได้ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าคนทุกคน เป็นมังกรดำตัวหนึ่ง เกล็ดมังกรบนตัวส่งประกายเยือกเย็นแวบวับออกมา ภายใต้การห่อหุ้มด้วยเกล็ดมังกรทำให้ร่างของมังกรยักษ์ที่เยือกเย็นเสมือนดั่งหลอมสร้างขึ้นมาจากเหล็กกล้าอย่างนั้น
มังกรยักษ์ตัวนี้มีหนวดมังกรที่ทั้งยาวและมีขนาดใหญ่ ยามที่หนวดของมันม้วนตัว เหมือนว่ามันมีพลังจากตัวของมังกรทั้งตัวอย่างนั้น เพียงหนวดมังกรตวัดกวาดผ่านไปก็สามารถทำลายทุกอย่างจนแหลกละเอียด
มังกรยักษ์ยึดครองพื้นที่บริเวณหน้าค่ายตระกูลเฉินเอาไว้ เสมือนดั่งเป็นภูผาขนาดยักษ์ลูกหนึ่งอย่างนั้น ยามที่มันกางเล็บที่แหลมและคมกริบยิ่งออกมานั้น ได้ยินเสียงดังแค่วกกขึ้นมา พื้นดินถูกมันตะปบข่วนเข้าให้จนปรากฏเป็นรอยลึกห้ารอย ดุจดั่งทำจากกระดาษอย่างนั้น
ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่เมื่อมองเห็นมังกรยักษ์ตัวนี้ที่อยู่ตรงหน้า พลังที่ปะทุออกมาจากมังกรตัวนี้เพียงพอที่จะตบระดับกษัตราแท้จริงขั้นต้นได้อย่างง่ายดายแน่นอน
สมควรทราบว่า ตัวของเฉินซูเหว่ยเองก็อยู่ในระดับกษัตราแท้จริงขั้นต้นเท่านั้นเอง แม้แต่ยอดฝีมือที่มีอยู่ในขบวนทัพทั้งสองของเขาเกรงว่าคงไม่มีใครสักคนที่มีความสามารถมากไปกว่าระดับกษัตราแท้จริงขั้นต้นอยู่แล้ว
แต่ทว่า พลังที่มังกรยักษ์ตรงหน้าตัวนี้มีอยู่ในครอบครองไม่สามารถนำเอาระดับกษัตราแท้จริงขั้นต้นมาประเมินได้อีกต่อไป พวกของเฉินซูเหว่ยอาศัยแส้หนวดมังกรในการสร้างเป็นค่ายกลต่อสู้ และกลายเป็นมังกรยักษ์ตัวหนึ่ง โดยการเพิ่มพลังขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งนับร้อยเท่ากระทั่งถึงพันเท่าภายในระยะเวลาสั้นที่สุด
“นับว่าแข็งแกร่งโดยแท้จริง นำเอาพลังของยอดฝีมือหลายร้อยคนหลอมรวมเข้าไปในอาวุธราชันชิ้นหนึ่ง ด้วยพลังลักษณะเช่นนี้นับว่ามีความน่ากลัวยิ่งนัก หนึ่งกระบวนท่าที่โจมตีออกมา อย่าว่าแต่ระดับกษัตราแท้จริงเลย เกรงว่าระดับปราชญ์แท้จริงก็รับมือไม่ไหว พลังในลักษณะเช่นนี้เกรงว่าสามารถสู้กับเทพแท้จริงได้แล้ว” ศิษย์ตระกูลขุนนางโบราณที่ได้เห็นมังกรยักษ์ตัวนี้แล้ว มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปพร้อมกับพึมพำออกมา
“เจ้าหนูตระกูลหลี่ รับข้าหนึ่งกระบวนท่า” เวลานี้เสียงคำรามของเฉินซูเหว่ยดังขึ้น จากนั้น เป็นเสียงมังกรยักษ์ที่คำรามกรรรด้วยเสียงอันดัง มองเห็นมังกรยักษ์ตัวนี้ทยานขึ้นฟ้าดังเฟี้ยวว ฉับพลันก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
ตูม…เสียงดังสนั่น ทันใดนั้นเอง มังกรยักษ์ได้พุ่งจิกหัวลงมาจากเก้าชั้นฟ้า ได้ยินเสียงดังปังมังกรยักษ์ได้กางเล็บทั้งห้าออกมา เล็บมังกรพุ่งลงมาจากท้องฟ้าหวังตะปบใส่หลี่ชิเย่
จังหวะที่กรงเล็บมังกรตะปบลงมาแต่ยังไม่ทันถึงตัวก็ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ปรากฎช่องว่างแตกละเอียดเหมือนเป็นเศษคริสตัลเป็นริ้วๆ กรงเล็บมังกรเสมือนดังภูเขาเป็นหมื่นลูกที่ทุ่มเข้าใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง
กรงเล็บมังกรที่ตะปบลงมาโดยตรงสามารถตะปบจนพื้นดินแหลกละเอียด สามารถทำลายทุกสารทิศ ด้วยท่วงท่าที่ดุดันและพาลยิ่งนี้ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว แม้แต่ระดับปราชญ์แท้จริงขั้นสูงก็ไม่มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยจากการโจมตีของกรงเล็บลักษณะเช่นนี้
“น่าสนใจ” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มตามอารมณ์เท่านั้นเมื่อต้องเผชิญกับกรงเล็บมังกรยักษ์ที่ตะปบลงมา ไม่ได้เลิกหนังตาเสียด้วยซ้ำ และไม่ได้มองไปตรงๆ
กรรรเสียงมังกรคำรามดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ทันใดนั้นบนตัวของหลี่ชิเย่ปรากฎกลิ่นอายมังกรพวยพุ่งออกมาทั่วร่าง เสมือนดังมังกรกำแหงที่คำรามด้วยความพาลอย่างนั้น ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง บนตัวของหลี่ชิเย่ ดุจดั่งมีสายน้ำที่เชี่ยวกรากปะทุออกมา ท่ามกลางพลังที่บ้าคลั่งยิ่งเสมือนดั่งเป็นมังกรกำแหงที่โกรธแค้นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
มังกรที่บ้าคลั่งเช่นนี้พุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วในทันที การพุ่งตรงขึ้นไปของมันเหมือนว่าสามารถพุ่งชนท้องฟ้าจนแหลกละเอียดได้อย่างนั้น
“มังกรกำแหงอาละวาด…” ระดับบรรพบุรุษและยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยต่างจดจำได้ว่านี่คือเคล็ดวิชาอะไรกันแน่ การได้เห็นหลี่ชิเย่สำแดง ‘มังกรกำแหงอาละวาด’ อีกครั้ง ทุกคนยังคงรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับกษัตราแท้จริงก็ดี ระดับปราชญ์แท้จริงก็ช่าง พวกเขาสามารถคาดคะเนในใจตนเองว่า ถ้าหากพวกเขาเป็นผู้สำแดง ‘มังกรกำแหงอาละวาด’ เกรงว่าคงไม่มีอานุภาพที่น่ากลัวมากถึงเพียงนี้
ตูม…เสียงดังสนั่นขึ้นมา มังกรกำแหงอาละวาดรับมือซึ่งหน้ากับกรงเล็บมังกรยักษ์ ทำให้ฟ้าดินสั่นไหวโคลงเคลงไปทั่ว มังกรกำแหงอาละวาดได้รับมือกับกรงเล็บมังกรยักษ์เอาไว้ ขณะเดียวกันกรงเล็บมังกรยักษ์ก็ทำลายพลังที่อันธพาลยิ่งนี้ไปได้ นาทีนี้พลังที่พาลยิ่งคล้ายดั่งเป็นพายุร้ายที่พุ่งไปโดยรอบทุกทิศทุกทาง ต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วนถูกโค่นทำลายไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...