ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2175

เฉินซูเหว่ยที่เนื้อตัวโชกไปด้วยเลือดวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานไปยังค่ายของตน เฉินเหอไท่บิดาของเขาได้ช่วยเหลือเขาเข้าไปภายในค่ายทันที

เวลานี้ ฟ้าดินเงียบสงัด ไม่เพียงทุกคนถูกภาพเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้หวั่นไหวเท่านั้น พวกเขาส่วนใหญ่สะเทือนหวั่นไหวด้วย ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’

ในเวลานี้ทุกคนต่างจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความงุนงง ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่สามารถเรียกสติคืนกลับมาภายในระยะเวลาอันสั้น

‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ในขณะนี้ได้มีระดับผู้อาวุโสของสำนักถึงกับพึมพำออกมาด้วยจิตใจที่เหม่อลอย

“เขา เขารู้จักเคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหงได้อย่างไร!” กระทั่งมีระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณต้องเสียวสันหลังวาบ รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเหม่อลอย

เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหงเป็นตัวแทนวิชากระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ซึ่งผู้เฒ่ากำแหงเป็นผู้ทิ้งสุดยอดเคล็ดวิชากระบี่ปราศจากผู้ต่อกรนี้เอาไว้ เคล็ดวิชากระบี่นี่มีเพียงหนึ่งเดียวในหล้า มีความยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ต่อให้บุคคลผู้นั้นมีพรสวรรค์ล้ำเลิศในหล้า ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะฝึกเคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหงได้สำเร็จ

เรียกได้ว่า ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงไม่เคยมีกลุ่มคนรุ่นใหม่คนใดได้ฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ มา แม้แต่ฉู่ชิงหลินที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่งก็ไม่ได้ฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ เนื่องจากนางยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ได้

เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหงคือเคล็ดวิชาสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง และเป็นหนึ่งในความลับสุดยอดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ระดับบรรพบุรุษผู้ที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสัมผัสถึง ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีอยู่หร็อมแหร็มเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

เฉกเช่นกองกำลังซั่ง หนึ่งในบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นถึงระดับเทพแท้จริงแล้ว แต่ยังคงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้ฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ได้

เวลานี้ ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ กลับปรากฏอยู่บนตัวของผู้เยาว์ที่ปราศจากชื่อเสียงใดๆ ตรงหน้า จึงสร้างความงงงันให้กับผู้คนในเวลานี้ ไม่มีใครรู้ว่าหลี่ชิเย่ไปฝึกเคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหงมาจากที่ไหนกัน

แน่นอนที่สุด ทุกคนก็ไม่คิดว่าหลี่ชิเย่ไปแอบฝึกมา โดยที่ยังไม่ต้องพูดถึงว่า ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยและลึกลับมากที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ต่อให้หลี่ชิเย่สามารถได้ตำราลับ ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ มาจริงๆ แต่ด้วยความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่มีเพียงหนึ่งเดียวของ ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ลำพังหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้เยาว์คนหนึ่งหากไม่ได้รับการชี้แนะ ก็ไม่สามารถฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ได้สำเร็จ เนื่องจาก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ มีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ ต่อให้เป็นอัจฉริยะบุคคลก็ไม่กล้าบอกว่าตนเองนั้นเข้าใจได้เองโดยไม่ต้องมีอาจารย์ชี้แนะ

ขณะเดียวกัน ทุกคนก็ไม่คิดว่า ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ของหลี่ชิเย่จะได้รับการถ่ายทอดจากระดับบรรพบุรุษคนใดคนหนึ่งอย่างลับๆ จะอย่างไรเสียเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ต่อให้บรรพบุรุษที่ได้ฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ มาก็ไม่กล้านำเอาเคล็ดวิชานี้มาถ่ายทอดให้กับศิษย์ของตนโดยพละการ จะอย่างไรเสียมันเป็นเรื่องที่ทรยศต่ออาจารย์และสำนัก หากถูกจับได้ผลนั้นจะรุนแรงอย่างยิ่ง

เวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกว่าตัวเองนั้นเซ่อไปเลยไม่รู้ว่าเจ้าหนูที่ดูธรรมดาไม่สะดุดตาตรงหน้าคนนี้คือใครกันแน่ มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่ เวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่เดาไม่ถูก ได้แต่จ้องมองหลี่ชิเย่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความงงงัน

“เจ้า เจ้า เจ้าเป็นใครกันแน่?” เวลานี้แม้แต่เฉินเหอไท่ในฐานะเจ้าบ้านตระกูลเฉินก็รู้สึกเซ่อไปเลยเช่นกัน เขาถึงกับไม่เคยรู้มาก่อนว่าในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีศิษย์เช่นนี้คนหนึ่งได้ฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ มา ซึ่งตามหลักแล้วหากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีศิษย์ที่ได้ฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ เช่นนี้มา จะต้องมีการรายงานแจ้งต่อบรรดาเหล่าบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงให้ทราบ

“คนที่จะฆ่าเจ้า…” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย

สีหน้าของเฉินเหอไท่ในเวลานี้ดูไม่จืดยิ่งนัก ในขณะนี้เขาเหมือนขี่หลังเสือ จะให้ตระกูลเฉินแห่งกองกำลังซั่งยอมอ่อนข้อให้ก็ไม่ใช่ ไม่ยอมก็ไม่ได้

ถ้าหากพวกเขายอมอ่อนข้อให้กับหลี่ชิเย่ในเวลานี้ มันจะส่งผลกระทบต่ออำนาจบารมีของตระกูลเฉินเป็นอันมาก เกรงว่าสำนักและตระกูลขุนนางโบราณจำนวนมากในกองกำลังซั่งเองก็จะไม่ต้องการพึ่งพาอาศัยตระกูลเฉินของพวกเขาอีกต่อไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะไปแย่งชิงตำแหน่งกษัตริย์ ถึงเวลานั้น ศักดิ์ศรีและความได้เปรียบของตระกูลเฉินพวกเขาก็จะไม่เหลืออะไรอีกเลย

ถ้าหากไม่ยอมอ่อนข้อให้ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วตระกูลเฉินพวกเขาจะต้องแลกด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พวกเขายังคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลี่ชิเย่เลยสักนิด ยังคงไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่มีประวัติความเป็นมาเช่นใด

“ท่าน ตระกูลเฉินของพวกเราก็ไม่ใช่ลูกพลับที่ให้ใครมาบีบเล่นได้ง่ายๆ แม้ว่าเจ้าจะมีมีจวนหวังคอยหนุนหลังก็ตาม แต่ว่า ตระกูลเฉินพวกเราก็ยังคงมีพื้นที่ยืนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงอยู่” เวลานี้เฉินเหอไท่กล่าวน่าเกรงขามขึ้นมา

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของเฉินเหอไท่ถือเป็นการกล่าวเตือนหลี่ชิเย่ แต่ทว่าเมื่อคำพูดลักษณะเช่นนี้ออกจากปากของเฉินเหอไท่เองนั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่สู้จะเชื่อมั่นในตนเองนัก และไม่ได้มีความมั่นใจสักเท่าไรนัก แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่อาจไม่ทำเช่นนี้เพื่อกอบกู้สถานการณ์ และจำเป็นต้องทิ้งคำพูดนักเลงเช่นนี้เอาไว้

“แล้วอย่างไรล่ะ?” หลี่ชิเย่หัวเราะตามอารมณ์ และกล่าวว่า “จะเป็นตระกูลเฉิน หรือกองกำลังซั่งอะไรนั่น ในสายตาของข้ามันก็คือพวกชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้นเอง ไม่ได้ต่างอะไรกับลูกพลับสักเท่าไร”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ไม่เพียงแต่เฉินเหอไท่ที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปเท่านั้น แม้แต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน เนื่องจากกองกำลังซั่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงใช่จะมีเพียงตระกูลเฉินตระกูลเดียวเท่านั้น ยังคงมีสำนักและตระกูลขุนนางโบราณอยู่เป็นจำนวนมาก คำพูดที่หลี่ชิเย่พูดออกมาไม่เพียงด่าตระกูลเฉินเท่านั้น ยังได้ด่ากราดไปถึงทุกๆ สำนักและตระกูลขุนนางโบราณในสังกัดของกองกำลังซั่งทั้งหมด เป็นการมองกองกำลังซั่งทั้งหมดเหมือนไม่มีตัวตน การดูแคลนแบบโจ๋งครึ่มเช่นนี้ทำให้ทุกคนบันดาลโทสะในใจ

แต่ทว่า ในเวลานี้แม้ว่าผู้คนจำนวนมากจะโกรธจนลุกเป็นไฟในใจ แต่ก็ได้แต่จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธเท่านั้น โกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา นาทีนี้มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ยินดีเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่

เวลานี้ หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ แล้วก็ก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าวๆ มุ่งหน้าตรงไปยังที่ตั้งค่ายของตระกูลเฉิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล