ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2190

กษัตริย์ซุนหยาง ในฐานะกษัตริย์นอกตระกูล แม้ว่าจะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่ว่าเขากลับถูกขัดขวางต่างๆ นานา เขาซึ่งไม่ยินยอมกับสิ่งนี้จึงได้ฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ที่ป้าซั่งถ่ายทอดให้ แน่นอนที่สุด การที่ป้าซั่งถ่ายทอดวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ให้ก็ไม่ได้หวังดีอะไรนัก เพียงแต่ต้องการลากเอากษัตริย์ลงมาแปดเปื้อนเท่านั้น หวังจะทำให้มีผู้คนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงจำนวนมากกว่านี้ไปฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ทำให้กระแสแห่งความชั่วร้ายในครั้งนั้นกลับมาปกคลุมระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงอีกครั้งหนึ่ง

หวังหานในฐานะราชินี ร่วมเรียงเคียงหมอนกับสามี กล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของซุนหยางเป็นคนแรก ดังนั้น หวังหานจึงพบความจริงเรื่องการแอบฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ อย่างลับๆ ของซุนหยาง

หวังหานนั้นมองสถานการณ์ในอนาคตข้างหน้าได้ไกลยิ่งกว่าซุนหยางที่เป็นกษัตริย์ นางไม่ได้กระหายในความสำเร็จและผลประโยชน์เฉพาะหน้าเพียงเพราะถูกขัดขวาง และกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจากกองกำลังซั่ง ค่ายฉู่ และหอศักดิสิทธิ์ แล้วตกลงไปในลัทธิมาร

ดังนั้น หวังหานจึงได้พยายามอย่างยิ่งครั้งแล้วครั้งเล่าในการเตือนสติและเกลี้ยกล่อมให้สามีของตนละทิ้งการฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ เสีย เพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในลัทธิมาร และป้องกันไม่ให้ดึงเอาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมดลงไปในหุบเหวลึกจนไม่ได้ผุดได้เกิดอีก

แต่ทว่า ซุนหยางที่ได้ลิ้มลองวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ มาแล้วไหนเลยจะยอมละทิ้งเพียงเท่านี้ได้เล่า? กล่าวสำหรับตัวเขาแล้ว การฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ สามารถทำให้พลังวัตรของเขารุดหน้าไปอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น มันช่างเต็มไปด้วยความเย้ายวนใจเหลือเกิน

หลังจากที่หวังหานได้พยายามเตือนสติและเกลี้ยกล่อมอย่างหนักมาหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล นางจึงรู้ว่าบนเส้นทางการฝึก ‘มารคลั่งดูดเลือด’ สายนี้ของซุนหยางได้ก้าวเดินไปไกลมากจนไม่อาจหันหลังกลับมาได้อีกแล้ว เขาได้ตกลงไปยังหุบเหวลึกแห่งความเย้ายวนใจของ ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง หวังหานจึงได้นำเรื่องสามีของตนแอบฝึก ‘มารคลั่งดูดเลือด’ แจ้งต่อเหล่าบรรพบุรุษของจวนหวัง เพื่อร่วมปรึกษาหาทางรับมือ

กล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงแล้ว การฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ คือสิ่งต้องห้าม ซึ่งจะลากเอาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมดตกลงไปในหุบเหวลึกที่ไม่ได้ผึดได้เกิดอีกเลย ขณะเดียวกันก็จะเป็นการทำลายจวนหวังด้วยเช่นกัน ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ย่อมสามารถประเมินได้ว่าผลจะเป็นเช่นใด

ผลที่ปรากฏหลังจากนั้นทุกคนรับรู้กันหมดแล้ว กษัตริย์สวรรคต พร้อมกับต้อนรับการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง

แม้ว่าท่าทีของหวังหานจะดูเฉยเมยขณะพูดออกมาเช่นนี้ แต่ว่า ภายในจิตใจของนางไหนเลยจะรู้สึกดีได้ ไหนเลยจะไม่ใช่เปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่เต็มอก การที่พวกเขาสองสามีภรรยาสามารถก้าวเดินมาจนถึงวันนี้ใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามีของนางมีชาติกำเนิดมาจากศิษย์ของสำนักขนาดเล็ก ท้ายที่สุดสามารถก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง สิ่งนี้นอกเหนือจากความพยายามที่ไม่หยุดหย่อนของตัวเขาแล้ว นางที่อยู่ในฐานะภรรยาได้ทุ่มเทความพยายามและค่าตอบแทนไปมากมายเท่าไร

ในครั้งนั้น เพื่อให้สามีสามารถก้าวขึ้นสู่บัลลังก์กษัตริย์ นางได้ทุ่มเทพลังกายใจนับไม่ถ้วนจึงสามารถรวบรวมทุกระดับชั้นภายในจวนหวังเอาไว้ได้ ทำให้เหล่าบรรพบุรุษทั้งหมดของจวนหวังล้วนแล้วแต่ให้การสนับสนุนซุนหยางในการแย่งยิงบัลลังกษัตริย์

การที่ซุนหยางสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกษัตริย์ ไม่เพียงเป็นความพยายามของตัวเขา และยังเป็นพลังกายใจของหวังหานด้วย

แม้จะกล่าวว่า หลังจากก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกษัตริย์แล้วยังคงได้รับการขัดขวางต่างๆ นานาจากขั้วอำนาจใหญ่แต่ละฝ่าย แต่ทว่าสำหรับหวังหานแล้วนางยังคงเปี่ยมด้วยความหวัง จะอย่างไรเสียพวกเขายังคงมีอายุน้อย ในอนาคตพวกเขายังสามารถใช้ความพยายามได้อีกเป็นยุคสมัย

กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่ง การได้เป็นกษัตริย์แล้วเป็นผู้บงการราชวงศ์หนึ่งเป็นเวลาหลายพันปีนับเป็นเรื่องปรกติมาก กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ระยะเวลาหลายพันปีเพียงพอให้พวกเขาได้ใช้ความพยายาม เพียงพอให้พวกเขาได้พยายามช่วงชิงเพื่อให้ได้มา

น่าเสียดาย ท้ายที่สุดแล้วยังคงเป็นเพราะซุนหยางที่กระหายในความสำเร็จและผลประโยชน์เฉพาะหน้า จึงทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามี ทำลายความสำเร็จที่พวกเขาได้เพียรพยายามบริหารมาด้วยความยากลำบาก

การสวรรคตของซุนหยาง นั่นบ่งบอกถึงความพยายามและกำลังกายใจทั้งหมดของนางไหลไปตามสายน้ำ จวนหวังของพวกเขาก็ได้จ่ายค่าตอบแทนที่สูงมาก เนื่องจากการสวรรคตของกษัตริย์ย่อมบ่งบอกว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงจะมีการคัดเลือกกษัตริย์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเป็นการชิงชัยร่วมกันของขั้วอำนาจใหญ่ไม่กี่แห่งของพวกเขา

แต่ว่า แม้จวนหวังจะรู้อยู่แล้วว่า ตำแหน่งกษัตริย์อาจจะต้องประเคนด้วยมือทั้งสองส่งมอบให้กับคนอื่นแต่ก็ไม่มีทางเลือก ไม่ก็คือปล่อยให้ซุนหยางได้ฝึก ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ต่อไป ปล่อยให้จวนหวัง และระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงก้าวสู่ระดับไม่ได้ผุดได้เกิด ไม่ก็ต้องยอมตัดแขนตัวเองแบบผู้กล้า ไม่ว่าจะเป็นหวังหานหรือจวนหวัง ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องตัดสินใจเลือก

กษัตริย์ฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ได้กลายเป็นความจริงแล้ว แต่ทว่า ขณะราชินียอมรับกับปากของนางยิ่งเป็นที่หวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คน ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ ในใจรู้สึกหวั่นไหวจนไม่สามารถพูดอะไรออกมา

ในฐานะกษัตริย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง เป็นตัวแทนสายตรงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ยังทำลายกฎเหล็กของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงเอง แอบฝึก ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ช่างเป็นเรื่องที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คน มันคือความไม่ซื่อต่อตนเองชัดๆ !

“เหอะ พูดได้แต่เพียงตัวเขาออกศึกยังไม่ทันได้ชัยชนะกลับต้องเสียชีวิตไปก่อน ขอเพียงเขาสามารถรับรู้ในปรโลกได้ ต้องได้เห็นวันนั้น วันที่ ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ที่แผ่ขยายไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง เขาต้องได้เห็นวันที่ ‘มารคลั่งดูดเลือด’ กลืนกินไปทั่วแดนลัทธิพรรษ แดนลัทธิราชัน และแดนลัทธิเซียน” ป้าซั่งหัวเราะน่าครั่นคร้ามและกล่าวว่า “เขาก็คล้ายดั่งเทพแท้จริงเทียนเต๋ออย่างนั้น เป็นผู้ก้าวเดินไปก่อนที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง”

“ปล่อยข่าวให้คนอื่นหลงเชื่อ!” เวลานี้ดวงตาทั้งสองของหลี่เชียนดูเข้ม ก้าวเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง กล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “วันนี้ต้องสังหารเจ้าให้ได้!”

“หลี่เชียน วันนี้ดูว่าใครจะได้อำนาจไป!” แม้ป้าซั่งต้องเผชิญกับหลี่เชียนก็ไม่หวั่น คำรามเสียงดังออกมา ตูมเสียงดังสนั่น นาทีนี้เองมังกรขาสั้นปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง มาคราวนี้เป็นมังกรยักษ์ที่ออกเป็นสีแดงเลือด โดยที่มังกรยักษ์ตัวนี้มีเลือดที่ไหลหยดลงมา เสมือนดั่งเพิ่งจะขึ้นมาจากทะเลเลือดอย่างนั้น บนตัวยังคงมีเลือดที่หยดลงมา

กรรรในชั่วพริบตาเดียวนี้เอง มังกรยักษ์ได้อ้าปากกว้างของมันและได้ยินเสียงดังจี๊ดดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง มันได้ดูดไปยังหลี่เชียน ในเสี้ยววินาทีนี้เอง มังกรยักษ์ได้ดูดกลืนฟ้าดิน

ยามที่ปากมังกรเลือดตัวนี้อ้าปากดูดกลืนนั้น ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้า หรือพพื้นดินแม่น้ำลำธารในบริเวณที่หลี่เชียนยืนอยู่ ต้นไม่ใบหญ้าทั้งหมดแห้งเหี่ยวเฉาตายทันที ผืนแผ่นดินแห้งจนแตกระแหงโดยพลัน

การอ้าปากของมังกรเลือดพลันดูดกลืนเอาพลังแก่นฟ้าดินไปทั้งหมด เหล่าศิษย์ผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ใกล้กับหลี่เชียนท่ามกลางเสียงดังจี๊ดก็กลายเป็นหมอกเลือดไปทันที ถูกมังกรเลือดตัวนี้ดูดกลืนไปสิ้นโดยพลัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล