ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2194

ยามที่บริเวณกลางหน้าผากของหลี่ชิเย่เปิดออกมานั้น สุดยอดกฎเกณฑ์สูงสุดปรากฎ เสมือนดั่งก้าวข้ามอดีต แซงล้ำหน้ากาลเวลา พริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนหนึ่งตัวเขานั่นแหละคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด

เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง นาทีนี้เองราชสำนักที่อยู่ห่างไกล ปรากฏลำแสงขนาดใหญ่โตปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งขึ้นท้องฟ้าส่องสว่างไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ตามติดด้วยประกายเซียนที่ตลบอบอวล เสมือนดั่งอนุภาคของแสงจำนวนนับไม่ถ้วนที่โปรยปรายไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงอย่างนั้น

ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาไม่ขาดสาย นาทีนี้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงเกิดการสั่นไหวโคลงเคลงขึ้นมา บริเวณราชสำนักที่พวยพุ่งลำแสงขึ้นมานั้น ปรากฏต้นกำเนิดสัจธรรมที่ใหญ่โตมโหฬารขึ้นมา!

“ต้นกำเนิดสัจธรรม…” หลี่เชียนรีบมองไปตรงนั้นด้วยความหวั่นไหวอย่างยิ่ง เมื่อภาพนี้ปรากฏขึ้นมา นี่คือต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงนั่นเอง พันล้านปีที่ผ่านมาไม่เคยได้ปลุกต้นกำเนิดสัจธรรมให้ตื่นขึ้นมาในลักษณะเช่นนี้ได้ ต่อให้ราชันแท้จริงในภายหลัง เช่น ราชันแท้จริงฉู่ขวาง ราชันแท้จริงขวางเสว่ยล้วนแล้วแต่ไม่เคยได้ปลุกให้ต้นกำเนิดสัจธรรมตื่นขึ้นมาเช่นนี้ได้

พริบตาเดียวนี้เอง หลี่ชิเย่ได้ควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงได้แล้ว ซึ่งสร้างความมหัศจรรย์ยิ่งให้กับหลี่เชียน เนื่องจากพวกเขาที่เป็นสายผู้พิทักษ์ได้ทำการปกป้องต้นกำเนิดสัจธรรมมานานนับไม่ถ้วน พวกเขาพิจารณาครุ่นคิดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วนแล้ว แต่ทว่า สุดท้ายแล้วยังคงไม่สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมได้ อย่างดีที่สุดพวกเขาก็ทำได้เพียงหยิบยืมพลังของต้นกำเนิดสัจธรรมมาใช้เท่านั้น

แต่ว่าหลี่ชิเย่ในเวลานี้หาใช่เป็นการหยิบยืมพลังของต้นกำเนิดสัจธรรม แต่เป็นการควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรม ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวอะไรปานนั้น

เสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น ขณะที่อนุภาคของแสงที่โปรยปรายปลิวไปตกยังทุกซอกทุกมุมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงแล้วนั้น ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงล้วนแล้วแต่สว่างไสวขึ้นมา ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น กฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง นาทีนี้เสมือนหนึ่งผู้เฒ่ากำแหงได้ตื่นขึ้น ผู้เฒ่ากำแหงได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างนั้น

พริบตาเดียวนี้เอง ตูมเสียงที่ดังสนั่นได้ดังทะลุไปทั่วฟ้าดิน ทะลุไปอดีตกาลหมื่นอาณาจักร นาทีนี้หลี่ชิเย่ที่ควบคุมพลังต้นกำเนิดสัจธรรมปรากฎร่างเงาที่เป็นภาพลวงขึ้นมา ภาพลวงนี้มีขนาดที่ใหญ่โตอย่างยิ่ง แม้แต่จักรวาลก็ต้องถูกมันดันจนแตก ร่างเงาที่เป็นภาพลวงนี้กำแหงและอันธพาลยิ่งปราศจากผู้เทียบเทียม สูงส่งสุดยอดปราศจากผู้ต่อกรนิรันดร์กาล ยามที่ดวงตาคู่นั้นของเขาส่งประกายออกมา ส่องสว่างไปพันล้านชาติ ทะลุผ่านอดีต จ้องมองไปยังอนาคต

ผู้เฒ่ากำแหง…ชั่วพริบตาเดียวนี้เอง ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมดล้วนแล้วแต่รับรู้ถึงกลิ่นอายของปฐมบรรพบุรุษของพวกเขา นี่เป็นพลังที่เป็นของผู้เฒ่ากำแหง ซึ่งเสมือนหนึ่งผู้เฒ่ากำแหงฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างนั้น เสมือนดั่งผู้เฒ่ากำแหงได้ตื่นขึ้นมาอย่างนั้น

ชั่วพริบตาเดียวนี้เอง ทุกคนต่างคุกเข่าลงกราบกับพื้น ไม่เพียงแต่ผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเขาฟันหลอเท่านั้น แม้แต่ศิษย์ในสังกัดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมด สิ่งมีชีวิตนาทีนี้ต่างคุกเข่ากราบกับพื้นด้วยความเคารพเลื่อมใสยิ่ง ก้มศีรษะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา

“พวกชั่วร้ายโง่เขลาที่ยังหลงเหลืออยู่!” เวลานี้หลี่ชิเย่เปิดปากพูดแล้ว เสียงของเขาคือสิ่งที่สุดยอดสูงสุด ปราศจากผู้ต่อกรนิรันดร์กาล

“ฮือ…” ในขณะนี้วิญญาณพยาบาทของเทพแท้จริงเทียนเต๋อคำรามออกมา เสียงตูมดังสนั่น ทวนราชันขวางตี้ที่อยู่ในมือพลันแทงทะลุอดีตพุ่งตรงเข้าหาหลี่ชิเย่ทันที หนึ่งทวนทำลายดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน ภายใต้หนึ่งทวนท้องฟ้าพังทลายลงทันที ดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนเกิดระเบิดขึ้น พลังทำลายฟ้าดินทำให้สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนต้องสั่นเทา ทำให้สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนวิญญาณแทบออกจากร่าง!

ตึง…เสียงกระบี่คำราม นาทีนี้กระบี่เซียนพิโรธในมือของหลี่ชิเย่ได้ฟาดฟันลงมา หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาทำให้ฟ้าดินอับแสง กาลเวลาถูกทำลาย เหล่าเทพมอดม้วย ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ ต่อให้เป็นราชันแท้จริงก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลี ผู้ยิ่งใหญ่ก็ต้องมอบศีรษะออกมา!

ตึง…เสียงดังสนั่น กระบี่เซียนพิโรธปะทะซึ่งหน้ากับทวนราชันขวางตี้ สะเก็ดไฟแตกกระจาย ด้วยอานุภาพที่ทำลายฟ้าดิน วิญญาณพยาบาทของเทพแท้จริงเทียนเต๋อกำทวนราชันขวางตี้ไม่อยู่ ถูกกระแทกจนหลุดมือไปทันที

ฉึก…จังหวะที่ทวนราชันขวางตี้ถูกพลังกระแทกจนหลุดจากมือไปนั้น กระบี่เซียนพิโรธได้ทำการผ่าเทพแท้จริงเทียนเต๋อออกเป็นสองซีก

“ฮือ…” ก่อนตาย วิญาณพยาบาทของเทพแท้จริงเทียนเต๋อยังร้องคำรามออกมาอย่างไม่เต็มใจ แต่ทว่า ภายใต้พลังสังหารที่เด็ดขาด ต่อให้พลังอาฆาตพยาบาทของเทพแท้จริงเทียนเต๋อจะกล้าแข็งเพียงใดก็ตาม ก็ไร้ประโยชน์

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่เทพแท้จริงเทียนเต๋อถูกฟันผ่าออกเป็นสองซีกนั้น พลังปราศจากผู้ต่อกรนับแต่อดีตกาลพลันจัดการบดขยี้สามเทพเลือดกำแหงที่เป็นผู้เรียกวิญญาณของเทพแท้จริงเทียนเต๋อออกมาให้กลายเป็นหมอกเลือดไป

“จมดิ่งสู่ลัทธิมาร ทำขายหน้าบรรพบุรุษจนสิ้น” มือใหญ่ของหลี่ชิเย่คว่ำลง ปรากฏเสียงตูมดังสนั่น เปลวไฟเซียนวูบวาบไม่มีสิ้นสุด ภายใต้เปลวไฟเซียนไม่มีสิ้นสุดนี้ พลันเผาผลาญความอาฆาตพยาบาททั้งหมดของเทพแท้จริงเทียนเต๋อไปจนสิ้น เผาผลาญน้ำเลือดที่อยู่ภายในหลุมยักษ์จนกลายเป็นเถ้าธุลีไป ไม่เหลือทิ้งเลือดเสียเอาไว้แม้แต่น้อย ทำการกลั่นเขาฟันหลอทั้งลูกจนบริสุทธิ์

เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง สุดท้าย มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ยื่นออกไป ดูดเอาทวนราชันขวางตี้ที่ปลิวกระเด็นไปเข้ามา เปลวไฟเซียนได้ทำการเผาไหม้จนความอาฆาตพยาบาทหมดสิ้น ทำให้ทวนราชันขวางตี้ถูกทำให้บริสุทธิ์ ทวนราชันขวางตี้ที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ขณะนี้เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ดูเหมือนดีใจเป็นอย่างยิ่ง ท่าทางเหมือนได้มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้งอย่างนั้น

“หนีเร็วเข้า…” ไม่ง่ายนักกว่าป้าซั่งจะได้สติคืนกลับมา หันหลังหนีจากไปทันที สี่ปราชญ์กองกำลังซั่งก็ดี ตรีเทพแห่งหอศักดิ์สิทธิ์ก็ช่าง ทั้งหมดลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบากและหันหลังวิ่งหนีตามกันไป นาทีนี้พวกเขารู้แล้วว่าสถานการณ์ได้จบสิ้นแล้ว

“พวกสวะกลุ่มหนึ่งเท่านั้น” หลี่ชิเย่เพียงมองดูพวกเขาตามอารมณ์ทีหนึ่ง ทวนราชันขวางตี้ในมือแทงฉึกออกไป ประกายทวนที่แหวกอากาศออกไปมีความแวววาวอย่างยิ่ง เสมือนดั่งเป็นดาวหางที่วิ่งผ่านท้องฟ้าไปอย่างนั้น ทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่างในอดีต

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น หนึ่งทวนที่แหวกอากาศไป ไม่มีความกังวลใดๆ ป้าซั่ง ตรีเทพแห่งหอศักดิ์สิทธิ์ สี่ปราชญ์กองกำลังซั่งทั้งหมดถูกพลังของทวนแทงทะลุผ่านและสังหารจนกลายเป็นหมอกเลือด ไม่มีแม้กระทั่งเสียงร้องที่น่าเวทนา

เพียงแค่พลิกฝ่ามือ ทำลายวิญญาณอาฆาตพยาบาทเทพแท้จริงเทียนเต๋อ สังหารป้าซั่ง ตรีเทพแห่งหอศักดิ์สิทธิ์ สี่ปราชญ์กองกำลังซั่ง ทั้งหมดเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเอง ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นเก้า ภายใต้พลังที่สุดสุดเช่นนี้ล้วนแล้วแต่ดุจดั่งมดปลวกไม่คู่ควรจะกล่าวถึง

ภาพลักษณะเช่นนี้ช่างสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเพียงใด ช่างมีอานุภาพที่สยบฟ้าดินเช่นใด เวลานี้ทุกคนต่างจ้องมองจนเซ่อไปเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล